สวัสดีครับผมชื่ออินหลายๆคนอาจจะรู้ว่าผมแอบชอบพี่เหนือเเต่เขามีแฟนแล้วทำไงได้อะเขามีเเฟนเเล้วเราเลยจะต้องออกห่างถ้าไปกั้นขวางความรักของทั้งสองมันจะถือว่าผมเป็นตัวขัดขวางความรักคนอื่นเลยทำให้ผมต้องยอมตัดใจ เเต่ทำไงได้อะผมก็ชอบเขาไปเเล้วจะให้ตัดใจมันก็คงจะยางมากเเต่ผมจะพยายาม “พี่เบล!” เสียงของผมหยุดลงเพราะดีใจที่ได้เจอพี่สาวซึ่งก็คือพี่เบล พี่เบลตอนนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวดูสวยงามเพราะวันนี้เป็นวันเเต่งานของพี่เหนือเเละพี่เบล ผมที่มาร่วมงานเเต่งของทั้งสองด้วยความยินดีเเละเเบบเศร้าอยู่บ้าง “อ้าวอินมาด้วยเหรอคิดถึงจังเลย~” เสียงหญิงสาวพูดขึ้นด้วยความดีใจที่ได้เจอน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ได้โกรธที่ผมเห็นเค้าสองคนเเต่งงานกันนะเพราะเขาคือคู่ชีวิตกันอยู่เเล้ว “ครับ” เสียงของผมพูดขึ้นตอบพี่เบลด้วยความสุขและยินดี
“แล้วตอนนี้นะครับขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีเลยครัยผม” เสียงพิธีกรดังขึ้นเพื้อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาทำพิธีงานเเต่งนี้
“ขอเสียงปรบมือครับผม”
เเปะๆ~
เสียงปรบมือของคนที่เข้ามาในงานดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองเดินขึ้นมาบนเวที
“วันนี้รู้สึกยังไงครับ”
เสียงพิธีกรถามเจ้าสาวว่ารู้สึกยังไงในวันนี้
“ก็รู้สึกดีใจค่ะ เเล้วก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานด้วยค่ะ”
เสียงพี่เบลพูดไปยิ้มไปด้วยความสุขเเละรู้สึกมีความสุขมาในวันนี้ผมที่เห็นพี่เบลมีความสุขก็รู้สึกได้เช่นกันผมรู้สึกว่ายังไงวันนึงพี่เบลก็ต้องมีครอบครัว
“เเล้วเจ้าบ่าวรู้สึกยังไงบ้างครับ”
เสียงพิธีกรถามเจ้าบ่าวว่ารู้สึกยังไงกับวันนี้บ้างเเละมากน้อยเเค่ไหน
“ก็รู้สึกดีใจมากครับที่ได้มาถึงตรงจุดนี้ได้ครับ”
เสียงเจ้าบ่าวบอกกับพิธีกรด้วยสีหน้าที่ดูเเล้วน่าจะมีความสุขมาก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้จูบกันตอนนั้นที่ผมได้ยินผมก็รู้สึกตกใจเเละดูเสียใจมากในตอนที่ทั้งสองใกล้จะจูบกัน อยู่ไปน้ำใสๆก็ได้มาทับนัยตาของผมจนผมมองไม่ค่อยชัดเเต่สิ่งที่ผมร้องออกมาไม่ใข่เพราะดีใจจนร้องไห้เเต่เสียใจจนร้องไห้ออกมาต่างหาก “ทำไมๆ” ผมพึมพำกับตัวเองเเต่ยิ้งเห็นน้ำตาก็ยิ่งไหลมากเท่านั้นตอนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงเเล้วค่อยๆเช็ดน้ำตาออกแต่มันก็ไม่หยุดไหลซักทีทำไมกันทั้งสองเขาจูบกันมันก็เป็นเรื่องที่ดีเเล้วทำไมผมถึงเสียใจล่ะทำไมๆ
“อินๆ อิน!”
เสียงปันเพื่อนของผมเรียกผมจนทำให้ผมสะดุ้งขึ้นเเล้วรีบเช็ดน้ำตาออก
“มึงเป็นไรมากมั้ย?”
ไอปันมันถามผมด้วยความเป็นห่วงว่าผมจะเป็นอะไรเเต่ผมก็บอกมันไปว่าไม่เป็นไร
“กูไม่เป็นไรหรอก”
ผมปฏิเสธว่าผมไม่ได้เป็นอะไรเเต่ด้วยความที่ไอฉันมันเป็นเพื่อนผมมานานมันเลยรู้ว่าผมเป็นอะไร
“มึงกูเข้าใจว่ามึงตัดใจจากเขาไม่ได้”
ไอปันพูดปลอบใจผมเเล้วใช้มือมาเช็ดน้ำตาให้ผม
“ไปเถอะเดี๋ยวมึงจะเป็นไปมากกว่านี้”
ผมพยักหน้าเพื้อเป็นคำตอบเเล้วเดินตามมันไปที่โรงจอดรถ
“มึงกูว่ากูยังไม่กลับดีกว่าเดี๋ยวกูจะรอเจอพี่เบล”
ผมพูดขึ้นส่วนไอปันมันพยักหน้าเข้าใจแล้วจูงมือผมไปนั่งข้างในจนงานจบอะไรเรียบร้อยเเล้วผมจึงเดินไปหาพี่เบลที่ห้องเเต่งตัว
“พี่เบลครับ....”
ผมเปิดประตูเเล้วพูดขึ้นเเล้วค่อยๆเดินไปหาพี่เบลเเต่อยู่ๆน้ำใสๆก็ไหลออกมาอีกครั้ง
“อิน! เป็นอะไร”
เสียงพี่เบลพูดขึ้นผมจึงรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นเเล้ววิ่งตรงไปที่ห้องน้ำทันที
“แฮกๆ..”
ผมหอบหายใจเเล้วค่อยๆเปิดก็อกน้ำแล้วใช้มือรวบน้ำเเล้วนำมากระทบที่หน้าของผมที่มีน้ำตาไหลออกมาเพื้อจะเป็นการเช็ดน้ำตาออก เเต่ถึงยังไงผมก็ไม่หยุดร้องเลยต้องหลับตาค่อยๆสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้น 10 นาทีผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสายตาเย็นชาดูจะไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึก
“มึง!”
เสียงไอปันเรียกชื่อผมดังลั่นที่ตรงนั้นเลยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นหันมามอง
“...”
ผมไม่ได้ตอบอะไรมันเเละเดินตัดหน้ามันไปด้วยจิตใจที่รู้สึกเศร้า
“มึงเป็นไรบอกกูดิ”
“กูอยากตาย!”
ผมหันไปพูดกับไอปันด้วยเสียงตวาดโดยที่ผมไม่รู้ตัวเเล้วค่อยๆหันกลับมาเหมือนเดิม คนเเถวนั้นที่ได้ยินก็ต่างพากันมองด้วยสายตาที่ผไม่เข้าใจ
“ทำไมมึงถึงอยากตายวะ”
“ถ้ากูอยู่ก็ต้องตายอยู่ดีป่ะ!”
ผมพูดเสียงตวาดดังลั่นเเละผมเหลือบไปเห็นพี่เหนือที่มองดูเหตุการณ์อยู่เเล้วมองผมด้วยสายตาเยาะๆผมส่วนผมก็ได้เเต่กำมือเเน่น
“มึงลองคิดตามกูนะถึงมึงจะไม่ได้เป็นนายเอกเเต่มึงก็เป็นพระรองได้ป่ะ อนาคตอาจจะมีคนที่รู้สึกดีกับมึงด้วยก็ได้!”
ไอปันมันพูดขึ้นส่วนผมที่ตอนนี้เป็นโรคซึมเศร้ากำเริบไอปันมันดูออกเเล้วค่อยๆเดินมาหาผมเเล้วเข้ามากอดผมเอาไว้ผมที่ทำอะไรไม่ได้ก็สลบไป
“มึง!”
ตอนนี้ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ทุกอย่างมืดมิดผมก็ไม่สามารถขยับเเขนหรือขยับอะไรได้เลย ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือไอปันมันพยุงผมเอาไว้...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments