ไล่ผีแบบเจอหน้าปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!
ตุบ ตุบ ตุบ
“ …...อะ ไรน่ะ? ”
สองมือมันกำลังเต้นเป็นจังหวะ
ความรู้สึกเสียวซี๊ดเหมือนใกล้จะพ่นน้ำเชื้อยิ่งรุนแรงขึ้น ราวกับว่าสองมือกลายเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ไปเลยยังไงยังงั้น
“ …...ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจซักเท่าไหร่หรอกนะ ”
“ ขุ่ก!? ”
กริ๊ดด!
พออันโดรมาเลียสกำมือข้างนึงแน่นดังกึ๊ดด เรี่ยวแรงที่เหนี่ยวรั้งตัวฉันเอาไว้ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นตามไปอีกระดับ ไอพิษที่แผ่กระจายเต็มเปี่ยมอยู่รอบตัวฉันและโซยะก็เพิ่มปริมาณความหนาแน่นขึ้นสุดขั้ว แค่จะหายใจเข้าก็ยังลำบาก
------ฟู่วว
แต่ในพริบตาให้หลังจากที่มีหมอกสีขาวไหลซึมออกมาจากสองมือฉัน ราวกับเป็นน้ำหล่อลื่นนั่นเอง
วู่มม------ไอพิษที่หุ้มอยู่รอบตัวพวกเราก็พลันสลายหายไปในคราเดียว
อากาศอันบริสุทธิ์ผุดผ่องดั่งกับอยู่ในศาลเจ้าพลันเปี่ยมล้นไปทั่วปอด สดชื่นมากขนาดที่ทำให้ร่างกายอันบอบช้ำรู้สึกสบายขึ้นมาหน่อยนึงเลยเชียว
และพลังของหมอกสีขาว มันก็ไม่ได้หมดอยู่แค่นั้น
“ ห้ะ!? ”
ผู้ที่แผดเสียงร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก ก็คืออันโดรมาเลียส
เพราะศาสตร์เหนี่ยวรั้งของนังนั่น มันแหลกกระจุยไปในทันทีที่แตะต้องสัมผัสโดนเข้ากับหมอกสีขาวเลยนั่นเอง
และนั่นก็ช่างเป็นปรากฎการณ์ ที่คลับคล้ายกับในตอนที่อันโดรมาเลียสใช้ไอพิษปัดศาสตร์เหนี่ยวรั้งของคาเอเดะผ่านร่างซากุระเหลือเกิน
“ อุ้ก! ”
ฉันกับโซยะถูกเหวี่ยงลงมากองกับพื้น ขนตาของโซยะที่รับแรงกระแทกเข้าไปพลันสั่นไหวดังหงึก
“ …...อูยย ฟุรุยะ คุง……? ”
“ โซยะ! ได้สติแล้วเรอะ!? ”
นอกจากจะถูกอันโดรมาเลียสเล่นงานจนน็อกแล้ว ยังร่วงลงมากระทบพื้นอีก….ฉันจึงรีบโอบร่างของโซยะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบดูสภาพบาดแผลในทันที แต่มันเป็นในตอนนั้นเอง
------คึ่กกกกก
“ …...ฮึก!? ”
ที่พลังงานปริมาณมากมายมหาศาลถูกดูดให้มาบรรจบก่อตัวอยู่เหนือฝ่ามือของอันโดรมาเลียส
“ …...ไม่เห็นจะรู้เลย ว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย ”
เป็นพลังงานระดับที่เป่าแถวบริเวณละแวกนี้ให้แหลกสิ้นซากได้เลย แต่กระนั้นอันโดรมาเลียสกลับไม่ปล่อยมันเข้ามา
คงเป็นเพราะว่าถ้าพวกเราตายแล้วจะเกิดปัญหาละมั้งนะ อันโดรมาเลียสจึงนิ่งสั่งสมพลังงานอยู่อย่างนั้นราวกับข่มขู่ พร้อมกับจ้องมองตรงเข้ามาใส่พวกเราอย่างต่อเนื่องเหมือนเฝ้าดูลาดเลา
“ เธอเป็น ตัวอะไรกันน่ะหือ? ”
และราวกับเป็นการขานรับต่อคำพูดที่ถูกยิงตรงเข้ามาใส่
“ ------อุ!? ”
ความรู้สึกตอนใกล้หลั่งน้ำเชื้อที่เกิดขึ้นมากับสองมือฉันยิ่งแผ่ขยายถึงขีดสุด------ก่อนที่จะระเบิดบึ้ม
หงึก! หงึกหงึก! หงัก!
นั่นมันคือการหลั่งน้ำเชื้อของแท้เลย
นิ้วของสองมือสั่นกระตุกและยืดหดซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกเสียวซี๊ดเหมือนมีบางอย่างกำลังแล่นผ่านท่อฉีดอสุจิทั้งสิบที่ไม่น่าจะมีอยู่ และในท้ายที่สุด ก็มีอะไรคล้ายๆหมอกสีขาวพุ่งกระฉูดอย่างรุนแรงออกมาจากปลายนิ้วทั้งสิบ
“ อุ กู้ววววววววววววววว!? ”
ปิ้ววววววววววว! ปิ้ววปิ้วว! โดะปิ้วววววววว!
““ …...ฮึก! ””
พอเห็นฉันดิ้นทรมานเนื่องจากความรู้สึกที่เหมือนโดนบีบให้พ่นน้ำกามออกมาพร้อมกันทีเดียวสิบน้ำแล้ว อันโดรมาเลียสกับโซยะก็ถึงกับเบิกตาโพลง รายแรกขมวดคิ้วแสดงความหวาดระแวงมากยิ่งขึ้น ส่วนรายหลังนี่คือกำลังหยึยสยองจับจิตเลยเชียว
ในระหว่างที่ไม่ว่าใครต่างก็งงงันไม่อาจเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนั่นเอง ที่หมอกสีขาวซึ่งพุ่งกระฉูดออกมาจากปลายนิ้วฉันลอยหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ แล้วจึงประสานสร้างร่างกายขึ้นมา แต่งแต้มมีสีสันขึ้นมาราวกับเป็นเอ็กโทพลาซึม (สารเชิงวิญญาณ)
และในท้ายที่สุด ผู้ที่ปรากฎกายออกมา ก็คือเด็กผู้หญิงคนนึงที่ฉันเคยเห็นหน้า
[------ก็อยากจะเลี่ยงการปรากฎตัวในสภาพที่ไม่สมบูรณ์หรอกนะคะ]
ผมสีเงิน ผิวสีน้ำตาล เรือนร่างอวบอิ่มที่ถูกห่อหุ้มอยู่โดยชุดแม่ชีสั้นจุ๊ดจู๋
หางที่มีปลายเป็นทรงหัวใจลอยคว้างสั่นไหว ดวงตาสีทองอร่ามปลดปล่อยประกายแสงของอมนุษย์ สีหน้าดูเฉื่อยชาชอบกล แต่สภาพที่เห็นนั่นแทนที่จะคิดว่าเป็นคนเกียจคร้านแต่แรกเริ่มแล้ว มันชวนให้รู้สึกเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน หรือไม่ก็มีพลังงานไม่พอไปหล่อเลี้ยงร่างกายมากกว่า เธอที่แม้จะมีเสน่ห์เย้ายวน แต่ก็พ่วงไว้ด้วยความน่ารักไร้เดียงสาราวกับหญิงสาวคนนั้น พลันเปล่งเสียงอันงดงามออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน
[ไม่รู้ว่าทำไมหรอก แต่ในเมื่อเจ้าของร่างถูกเผ่ามารจ้องเล่นงานแบบนี้ ก็คงต้องมีออกมาช่วยกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ]
“ เธอคือ…… ”
รูปโฉมนั่น คือหญิงสาวรูปงามที่หลังจากทำให้สาวนมหลีกน้ำแตกได้แล้ว ก็มักจะปรากฎตัวขึ้นมาในฝันอยู่เป็นครั้งคราว
เสียงนั่น คือเสียงที่ดังกังวานขึ้นมาในหัวเป็นพักๆเรื่อยมา ตั้งแต่ที่ถูกเข้าสิงโดยคำสาปซึ่งมีนามว่าเทคโนเบรคเกอร์ (ไล่ผีโดยทำให้ถึงจุดสุดยอด)
“ ฟุรุยะคุง…...เค้าคนนั้น เป็นใครเหรอ……? ”
“ ฉะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไร…… ”
[ฮิ เพิ่งจะเคยได้พบหน้าเจอกันตรงๆแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยสินะคะ คุณฟุรุยะ]
พอฉันกับโซยะอึ้งค้างพูดอะไรไม่ออกอยู่ หญิงสาวก็ลอยอ้อมเข้ามาข้างหลังฉัน
เธอผู้เชื่อมต่อตรงบริเวณท้องน้อยเข้ากับสายสีขาวที่ยืดยาวออกมาจากสองมือฉันนั่น พลันโอบกอดฉันจากข้างหลังทั้งๆอย่างนั้นเลย เท่านั้นแหละมีสัมผัสนุ่มนวบถูกดันชนเข้ากับแผ่นหลังเล่นทำเอาถึงกับไหล่สะดุ้ง
(อะ อะไรกันน่ะเธอคนนี้…...มีร่างกายเรอะ!?)
สัมผัสถึงความอบอุ่นของมนุษย์มีเลือดมีเนื้อไม่ได้
แต่สัมผัสของเนินเขาอันอวบอิ่มที่ดันชนเข้ากับหลังฉันจนเบี้ยวผิดรูป กับความรู้สึกในตอนที่ฝ่ามือเรียบเนียนสีน้ำตาลแล่นไหลไปตามแขนฉันราวกับลูบไล้โลมเล้านั่นมันก็ช่างชัดเจนมากเหลือเกิน
พอสับสนกับสัมผัสที่ราวเป็นกึ่งกลางระหว่างร่างวิญญาณและเอ็กโทพลาซึมอยู่
“ …...ฟุรุยะคุง? จะเขินม้วนหาพระแสงของ้าวอะไรน่ะ? ”
เดี๋ยวก่อนเฮ้ยโซยะ! ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาพูดอะไรพรรค์นั้นอยู่นะเฟ้ย!
แม้จะได้รับดาเมจเข้าไปจนถึงขั้นลุกขึ้นยืนไม่ได้ แต่โซยะก็ยังจะปลดปล่อยแรงกดดันอันสุดจะท่วมท้นออกมา
โดนถล่มถาโถมโดยคลื่นสึนามิข้อมูลจากทั่วแปดทิศจนมึนงงสับสนไปหมด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ก็มีเสียงที่มึนงงสับสนหนักมากยิ่งกว่าฉัน ลอยเข้ามาให้ได้ยินจากทางทิศเบื้องหน้า
“ เผ่า มาร……? ไม่สิ…...แต่ว่า…...ไอ้เค้าลางนั่นมันอะไรกัน……! ”
อันโดรมาเลียสกำลังเพ่งสายตาอย่างตื่นตระหนก ตรงไปยังหญิงสาวที่โอบกอดฉันอยู่จากข้างหลัง
ด้วยท่วงท่าที่งงงันเหมือนกับนางิสะในตอนที่ทำการเข้าสิงตรวจสอบเชิงวิญญาณใส่ฉัน…...ไม่สิ สับสนอลหม่านหนักมากยิ่งกว่านั่นซะอีก
ไม่ว่าใครต่างก็ไม่อาจเข้าใจว่าหญิงสาวผู้ปรากฎออกมาอย่างกะทันหันนี่เป็นตัวอะไร ฉันเองก็หันมองกลับไปยังหญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังเพื่อขอฟังคำตอบเช่นกัน และหญิงสาวก็พลันอ้าปากกล่าวขึ้นมา ราวกับว่าอ่านความคิดของฉันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
[ขอโทษนะคะ แต่ไม่มีพลังงานมากพอจะมามัวพูดอธิบายยาวยืดอยู่ได้หรอก ก่อนอื่นต้องทำอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ก่อน ฉะนั้นแล้ว------จะสอดใส่เข้าไปละนะคะ]
“ เอ๊ะ เอ้ย เหวย!? ”
ซึ่ดซึ่ดซึ่ด
สองมือของหญิงสาว พลันถูกสอดจมลึกเข้าไปในสองมือของฉัน ภาพนั่นมันราวกับว่ากำลังถูกเข้าสิงอยู่เพียงบางส่วนเลยยังไงยังงั้น แต่สัมผัสนั่นกลับไม่ได้ชวนสยองขนลุกเหมือนตอนที่โดนนางิสะเข้าสิงตรวจสอบเชิงวิญญาณแต่อย่างใด ออกจะเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกผ่อนคลายสบายเหมือนกำลังแช่อยู่ในอ่างน้ำร้อนเลยด้วยซ้ำ
สองมือมันร้อนรุ่ม พลังระดับที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เอ่อล้นพรั่งพรู ส่งให้ร่างกายที่สะบักสะบอมเปี่ยมล้นไปด้วยความมีชีวิตชีวาตามไปด้วย
[เอาล่ะ คุณอันโดรมาเลียสสินะคะ]
“ …...ขึก ”
หญิงสาวที่สอดสองมือให้กลายเป็นเนื้อเดียวกับฉัน และอยู่ในท่วงท่าประกบติดชิดอยู่ข้างหลังนั่น พลันส่งประกายแสงสีทองของดวงตาตรงเข้าไปหาอันโดรมาเลียส
[เห็นว่าเผ่าพันธุ์ของพวกคุณชื่นชอบสิ่งที่สนุกสนานและเสียวซ่านที่สุดเลยนี่นา …...ถือว่าโชคดีเลยนะคะเนี่ย]
ผิดกับอันโดรมาเลียสที่ทำหน้าเคร่งหวาดระแวง สีหน้าที่หญิงสาวปั้นขึ้นมานั่นคือรอยยิ้ม
รอยยิ้มของเด็กเล็กๆที่มีอาหารสุดโปรดปรานอยู่ตรงหน้า
[การขับไล่ของฉันและคุณฟุรุยะน่ะไม่เหมือนกับที่ผู้ปราบมารทั่วไปเค้าทำกันหรอกนะคะ เป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกดีเสียวซี๊ดสุดๆไปเลยละนะ?]
“ …...หา? เธอเองก็ดูจะเป็นพวกตัวพิเศษเหมือนกันหรอก แต่คิดเหรอว่าเค้าจะอยู่นิ่งเฉยให้โดนขับไล่ได้น่ะ ”
อันโดรมาเลียสถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะตั้งท่าเตรียมรับศึก------ทว่าเป็นในฉับพลันนั้นเลย
“ ขึก!? ”
ที่สองมือของฉัน ถูกเหวี่ยงฟาดกระแทกลงกับพื้นด้วยตัวเองโดยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความตั้งใจของฉันเลย
นิ้วทั้งสิบที่ทะลวงฝังลึกเข้าไปในผืนคอนกรีตได้อย่างง่ายดายนั่นเปี่ยมล้นไปด้วยกำลัง
ในตอนที่รู้สึกตัว สองแขนซึ่งสำแดงอิทธิฤทธิ์กล้ามเนื้อระดับมหาศาลเป็นดั่งสายธนูที่ถูกง้าง ก็พลันยิงปล่อยร่างฉันให้กระเด็นออกไป โดนบีบให้ต้องลอยพุ่งดิ่งเข้าไปยังทิศเบื้องหน้าด้วยความเร็วอันสุดจะบ้า
“ จ๊าาาาากกก!? ”
“ ห้ะ!? ”
เจอะกับฉันที่ลอยพุ่งเข้ามาใส่พร้อมกรีดร้องเสียงหลงแล้ว อันโดรมาเลียสก็ถึงกับเบิกตาโพลง
มีพลังงานด้านลบซึ่งถูกบีบอัดมาตั้งแต่เมื่อกี้กำลังหมุนวนอยู่บนสองมือนั่น และอันโดรมาเลียสก็ยิงปลดปล่อยพลังส่วนนึงเข้ามาใส่ฉัน----นั่นก็คือ การโจมตีแสนทรงอานุภาพที่ต่อให้ปัดเบี่ยงวิถีไปได้ แต่แค่โดนอัดด้วยคลื่นกระแทกอย่างเดียวก็เพียงพอจะทำให้น็อกหมดสภาพได้แล้ว
ก้อนพลังงานทะยานเข้ามาอยู่เบื้องหน้าฉันในพริบตา ทว่า------ซื้ดซื้ดซี๊ดด! ชู๊ววว!
““ ห๊าาา!? ””
เสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกของฉันและอันโดรมาเลียสกังวานขึ้นทับกัน
เพราะกระสุนก้อนพลังงานมันระเหิดหายไปในพริบตาเดียวเลยยังไงล่ะ
สองมือฉันที่น่าจะเคลื่อนไหวไปตามความตั้งใจของหญิงสาวผมเงิน มันจิ้มจึ๊กโดยพลการเข้าใส่กระสุนก้อนพลังงาน แล้วทำให้น้ำแตกไหลซ่านสูญสลายหายไปนั่นเอง ราวกับก่อพลังงานที่เป็นขั้วตรงข้ามกันขึ้นมาภายในกระสุนก้อนพลังงานแง่ลบ แล้วบีบให้พลังสองขุมหักล้างทำลายกันเองยังไงยังงั้น จัดการได้อย่างแสนง่ายดาย โดยที่ฝั่งเราไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย
[ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือคะ คุณฟุรุยะ]
หญิงสาวผมเงินผิวน้ำตาลเอาเรือนร่างอวบอิ่มแนบชิดติดเข้ามาจากข้างหลังไปพลาง กล่าวกระซิบเบาๆอยู่ข้างหู
[ว่าสองมือนี่ มีพลังที่จะทำให้ทุกสรรพสิ่งของโลกถึงจุดสุดยอดได้เลยน่ะ]
แต่มันก็น่าจะมีขอบเขตขีดจำกัดบ้างดิครับเอ้อ
“ อย่ามาพูดอะไรง่าวๆนะ……! ”
อันโดรมาเลียสกล่าวคำพูดอันโคตรจะจริงออกมา แล้วคราวนี้จึงปล่อยกระสุนก้อนพลังงานมากมายนับไม่ถ้วนที่แยกเผื่อไว้เข้ามาใส่
เป็นตรงนี้เองที่สองมือของฉันฟาดลงกับพื้นอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง เพิ่มความเร็วพุ่งพรวดขึ้นเรื่อยๆอีกครั้ง
การแล่นคลานไปข้างหน้าอันสุดจะประหลาดและโคตรเร็วหยั่งกับบ้า------ร่างกายฉันคลานตามพื้นด้วยการเคลื่อนไหวประดุจสัตว์ประหลาดที่ไม่อาจพรรณาเป็นอื่นใดได้นอกจากนั้น แหวกทะลวงผ่านห่ากระสุนก้อนพลังงาน และพอรู้สึกอีกที ฉันที่ปล่อยตัวไปตามกำลังแขนที่ถูกควบคุมโดยหญิงสาวผมเงิน ก็กระชั้นชิดประชิดใกล้เข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่ส่องมองใต้กระโปรงของอันโดรมาเลียสได้แล้ว
ถึงกับเผลอตัวแหงนหน้าขึ้นมาเลย และที่ฉายเข้ามาในดวงตาก็คือ กางเกงในสีขาวนวลซึ่งไม่เข้ากับเผ่ามารเลยซักนิด กับใบหน้าอันบิดเบี้ยวของอันโดรมาเลียสที่เหมือนราวกับว่ากำลังพบเจอแมลงมีพิษอันเป็นปริศนาอยู่เลยยังไงยังงั้น
“ ไอ้ เจ้า…...ผู้ใช้ความสามารถสุดโรคจิตนี่!! ”
ก็โต้แย้งอะไรไม่ได้เลยอะนะ
อันโดรมาเลียสที่เอามือกดชายกระโปรง พลันยกขาขึ้นมาราวกับจะกระทืบใส่พวกเรา
การเหยียบย่ำที่ห่อหุ้มเคลือบแข็งไปด้วยไอพิษนั่น มันเห็นได้ชัดเจนว่าแฝงเร้นไว้ซึ่งอานุภาพมากพอจะขยี้ร่างเราให้แหลกเละในเปรี้ยงเดียวได้เลยก็จริงหรอกนะ ทว่า
[ขึหึหึ จะดีหรือคะ? เข้ามาติดกับเราง่ายๆอย่างนั้นน่ะ]
คำพูดอันมีความหมายลึกซึ้งของหญิงสาวผมเงินดังกังวาน พร้อมกับที่นิ้วกลางและนิ้วชี้ของมือขวาฉันพลันตั้งเด่ชูชัน
เทคโนเบรคเกอร์แผดเสียงคำรามสะท้านใส่ขาของอันโดรมาเลียสที่ถูกเหวี่ยงตรงลงมา
“ ------ขึก!? ”
สีหน้าของอันโดรมาเลียสเปลี่ยนแปลงไปในทันใด จะว่าไปก็ใช่จริงด้วย
คนที่มองเห็นโพรงเสน่ห์กายิกสุขได้นั่น มีเพียงพวกเราเท่านั้น
สำหรับอันโดรมาเลียสแล้ว ไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีจุดจิ้มจึ๊กเดียวน้ำไหลหลากอยู่ตรงไหนของร่างกายตัวเอง
“ ขุ่ก! ”
อันโดรมาเลียสฝืนบิดร่างตัวเองเพื่อหลีกหนีจากมือขวาของฉัน
มือขวาวืดขาของอันโดรมาเลียสไป------แต่ก็คงกะเล็งแบบนั้นเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วละมั้ง มือขวาที่แล่นทะยานไปไม่ยอมหยุดจึงเปลี่ยนโฉมกลายเป็นกำปั้น ซัดการโจมตีที่อัดแน่นไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเข้าใส่ไอ้เผ่ามารบรรลัยที่เซ่อเสียสมดุล!
“ ห้ะ------ก๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!? ”
ตู้มมมมมมมมมมมมม!
เป็นอานุภาพที่ทรงพลังจนสุดจะเชื่อเลยทีเดียว
ร่างกายของอันโดรมาเลียสงอเป็นทรงตัว < ลอยปลิวขึ้นไปกระแทกชนกับเพดาน
แต่แค่นั้นก็ยังหยุดโมเมนตัมเอาไว้ไม่อยู่ ร่างอันโดรมาเลียสปลิวทะลุกำแพงลอยขึ้นไปยังท้องฟ้าภายนอกเลยทีเดียว
(อะ อานุภาพที่หยั่งกับบ้าสติแตกไปแล้วนี่มันอะไรกันน่ะ…...รุ่นพี่โคฮินาตะกับโซยะปลอดภัยดีรึเปล่าเนี่ย!?)
หันขวับไปหาทั้งสองคนอย่างลนลาน
เคราะห์ดีที่เหมือนจะไม่ถูกซากเพดานตกลงมาทับเข้า แต่คลื่นแรงกระแทกมันก็หนักหน่วงอย่างยิ่ง โซยะนี่ถึงกับขดตัวกลมพร้อมร้อง “ว้ายยย! ว้ายยย!” ใหญ่เลย
ต่างออกไปจากแรงช้างสารของนางุโมะ เป็นพลังที่สุดจะผ่าเหล่าของแท้เลย
“ …...ขอถามจริงเลย เธอมัน เป็นตัวอะไรกันแน่น่ะ ”
เพราะเมื่อกี้อยู่ต่อหน้าอันโดรมาเลียสก็เลยถูกปัดเฉไฉไป คราวนี้ฉันจึงยิงคำถามเดิมเข้าใส่ใหม่อีกรอบ
แต่หญิงสาวผมเงินที่ได้ยินคำถามของฉัน กลับทำสีหน้ากลุ้มใจพร้อมเอามือแตะแก้ม ก่อนจะ
[เรื่องนั้นคือ สงสัยเพราะหลับมาเป็นเวลานาน ความทรงจำมันก็เลยขาดหายเหมือนถูกแมลงแทะกินน่ะค่ะ…...จะให้อธิบายแบบสั้นๆได้ใจความนี่เห็นท่าจะยาก]
“ หาา? อะไรนั่น ”
คำพูดเหนือความคาดหมายที่ถูกกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเฉื่อยแฉะนั่นทำเอาฉันถึงกับขมวดคิ้ว …...ดูไม่เหมือนกับว่าโกหกก็จริงหรอก แต่...
หญิงสาวผมเงินผิวน้ำตาลที่เบือนหน้าหนีห่างไปจากฉันที่แสดงท่าทางสงสัย พลันกล่าวต่อว่า [แต่] ออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
[ถ้าเป็นชื่อละก็รู้อยู่ค่ะ ฉันคือมิโฮโตะ มีความหมายว่าอวัยวะเพศหญิงอันงดงาม ตามคำพูดเก่าแก่ของประเทศนี้น่ะนะ]
“ …...งี้นี่เอง เข้าใจดีเลยล่ะ ”
ว่าไอ้เจ้าตัวที่สิงอยู่ในร่างฉันมันปัญญานิ่มระดับที่คุยกันไม่รู้เรื่องหน่อยๆเลยอะนะ
พอล้มเลิกแล้วถอนหายใจอย่างเพลียๆออกมา สองมือที่ถูกควบคุมอยู่โดยหญิงสาว------มิโฮโตะก็พลันกลับมามีเรี่ยวแรงเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
คิดจะพุ่งทะยานขึ้นไปอยู่น่ะ สู่ท้องฟ้ายามค่ำที่อันโดรมาเลียสโดนซัดปลิวไปนั่น
[เอาล่ะ หยุดพูดนอกเรื่องไว้เท่านี้ แล้วรีบไปเผด็จศึกกันเลยดีกว่านะคะ]
ดวงตาของมิโฮโตะปลดปล่อยประกายแสงอมนุษย์ ก่อนจะมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมาจากริมฝีปากอันงดงามนั่น
[ฉันน่ะยัง หิวท้องกิ่วอยู่เลยค่ะ]
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 51
Comments