"คุณย่าขา ลูกปลาจะเอาพี่คนนี้!!"ลูกปลากอดแขนน่านเอาไว้แน่น ทำเอาน่านไปต่อไม่ถูก
ตอนแรกอาจารย์ยุพินบอกเค้าว่ามาติวหนังสือ เค้าก็คิดว่าเป็นเด็ก ม.ต้น หรือไม่ก็อ่อนกว่าเค้านั้นไม่เท่าไหร่ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเด็กขนาดนี้ แล้วแบบนี้เค้านั้นจะไหวมั้ยล่ะเนี่ย ติวหนังสือ กับสอนหนังสือเด็กเล็กแบบนี้ มันคนละเรื่องกันเลยนะ เรื่องนี้ทำเอาน่านเริ่มนั้นคิดหนักแล้วจริงๆ
"แน่ใจแล้วเหรอ รอคุณพ่อของหนูมาก่อนดีมั้ย"คุณรุจีทำหน้าไม่ถูกที่หลานสาวของตัวเอง อยู่ๆก็กระโดดไปกอดคนอื่นแบบนี้
ถึงแม้ว่าลูกปลานั้นจะมีอายุแค่ 6 ขวบก็เถอะ แต่การกอดเด็กหนุ่มคนอื่นที่เพิ่งเจอหน้ากันแบบนี้ มันก็เกินไปหน่อยหรือเปล่านะ...
"ไม่รอแล้วค่ะ คุณพ่อไม่มีทางกลับมาเร็วอยู่แล้ว ลูกปลาจะเอา ลูกปลาอยากได้พี่คนนี้จริงๆนะคะ"ลูกปลากอดแขนน่านแน่น
"น้องรอพ่อน้องตัดสินใจก่อนดีมั้ยเอ่ย"น่านถามออกมาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะหากว่ารอให้พ่อของเด็กน้อยนี่มา เค้านั้นก็จะได้มีเวลาคิดในส่วนของตัวเองด้วย
"ไม่ต้องรอหรอกค่ะ พ่อของลูกปลาไม่มีทางกลับมาเร็วแน่นอน หากพี่จะรอ...ก็คงต้องรอทั้งคืน"ลูกปลาจับมือของน่านเอาไว้ ทั้งยังยิ้มออกมาอย่างเศร้า ทำเอาน่านรู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย
"เฮ้อ"ย่าของลูกปลาได้แต่ถอนหายใจ เพราะว่าพ่อของลูกปลานั้นกลับมาดึกจริงๆนั่นแหละ
"งั้น...ให้คุณอาซันตัดสินใจก็ได้นี่คะ เหมือนๆกันนั่นแหละ"
"ก็ได้ๆ"คุณรุจียอมพยักหน้าในที่สุด ทั้งยังโทรเรียกลูกชายอีกคนของตัวเองมาจากบ้านอีกหลังอย่างมีทางเลือก
"ไม่สัมภาษณ์อะไรผมหน่อยเหรอครับ"น่านรู้สึกไม่เป็นตัวเองอย่างมาก เค้ามาสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมไม่เห็นถามอะไรเค้าเลย กลับรอให้ลูกชายตัวเองมาดูว่าพอใจหรือไม่พอใจซะอย่างนั้น
นี่เค้านั้นเป็นสินค้าชิ้นนึงหรือยังไงนะ หากว่าลูกชายของผู้หญิงคนนี้โอเค ก็จ้างเอาไว้ ถ้าหากมาเจอแล้วไม่โอเค ก็ไม่จ้างสินะ
เฮ้อ...รู้สึกแย่ชะมัด
"ไม่ต้องหรอก วันนี้ป้าก็แค่อยากเห็นเราตัวจริงเฉยๆ ส่วนเรื่องนิสัยกับความเก่งอะไรนั่น ยุพินบอกหมดแล้ว"คุณรุจีเชื่อมั่นในเพื่อนของตัวเองเอามากๆ ว่าต้องไม่มีทางส่งเด็กไม่ดีมาที่นี่อย่างแน่นอน
"งั้นเหรอครับ"น่านได้แต่ยิ้มแหยๆ
มะลิเห็นหน้าน่าน ก็ยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปอีก เลยสะกิดน่านเบาๆ แล้วกระซิบว่า
"หากแกไม่โอเค เรากลับกันเถอะ"
น่านได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองมะลิ เค้านั้นก็อยากกลับเช่นกัน แต่ตอนนี้เค้านั้นต้องการเงินอย่างมาก เลยทำอย่างที่ตัวเองต้องการไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้คนไม่มีเงินอย่างเค้า ก็ทำได้เพียงแค่นั่งรอเท่านั้นแหละ
"พี่ตัวหอมจัง"ลูกปลาเอ่ยแทรก ในขณะที่น่านนั้นกำลังคิดอะไรไปไกล
"งั้นเหรอ"น่านเริ่มดมกลิ่นตัวของตัวเอง
"ใช่ กลิ่นหอม ไม่เห็นเหมือนอาซันเลย"ลูกปลาชอบน่านเอามากๆ น่านหน้าตาหล่อเหลาเหมือนพี่ๆที่เธอเคยเห็นในทีวี[พวกไอดอลนั่นเอง] แล้วยังมีกลิ่นตัวหอมสะอาด ไม่เหม็นเหงื่อเหมือนอาของเธอเลยซักนิด ลูกปลาเลยไม่รังเกียจซักนิดที่จะเข้าใกล้น่านแบบนี้
น่านได้ยินที่ลูกปลาพูด แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะยังไงเค้าก็ไม่ได้เหมือนผู้ชายโดยปกติทั่วไปอยู่แล้ว เค้าดูแลตัวเอง รักษาความสะอาดกว่าชายแท้พวกนั้น ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเหม็นเปรี้ยว เหม็นเหงื่อ ตากแดดหน้าดำอย่างผู้ชายปกติในห้องเรียนมาก่อน กลิ่นตัวของเค้าก็เลยหอมสะอาดแบบนี้อยู่เสมอ
"ไม่เหมือนอะไร นินทาอะไรอีก"เสียงแข็งๆของผู้ชายคนนึงดังขึ้น ทำให้น่านกับมะลิต้องหันหลังไปมองพร้อมๆกัน
"ไม่ได้นินทาซะหน่อย อาซันซกมกเป็นเรื่องจริง คุณพ่อบอก!"ลูกปลาเถียงคอแข็ง ดูไม่ยอมลงให้คนที่เข้ามาใหม่นี่เลยแม้แต่น้อย
"หึ ยัยเด็กสะอาด แต่กลับไม่ชอบแปรงฟัน อยู่ใกล้คนอื่นแบบนี้ ไม่กลัวว่าเค้าจะเหม็นเหรอไง"
คนหน้าหล่อที่เข้ามาใหม่ พูดกับลูกปลาอย่างยียวน ทำเอาลูกปลาโกรธจนหน้าแดงก่ำ
"ไม่จริงซะหน่อย! ลูกปลาแปรงฟันแล้ว พี่ดูสิ"ลูกปลารีบยิงฟันขาวๆของตัวเองให้น่านดู
น่านได้แต่ยิ้มแหยเหมือนเดิม เพราะตั้งใจแต่แรกว่าจะไม่เข้าไปแทรกการต่อปากต่อคำแบบนี้ของคนที่เข้ามาใหม่กับเด็กคนนี้เลยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยซักคำ
ซันที่เพิ่งเข้ามาเพิ่งสังเกตุเห็นน่านอย่างชัดๆ ก็ชะงักไปนิดนึง ใบหน้าของเค้าเปลี่ยนเป็นเรียบตึงทันที ไม่เหลือร่องรอยขี้เล่นกวนโอ้ยเมื่อกี้เลยซักนิด
"อย่าเพิ่งหาเรื่องทะเลาะกันเลย วันนี้มีแขกด้วย"คุณรุจีรีบดึงลูกชายคนเล็กของตัวเองไปนั่งใกล้ๆ
"นี่น้องน่าน เค้าจะมาคอยสอนหนังสือลูกปลา ลูกว่าน้องเป็นยังไง"คุณรุจีถามทันที ไม่ปล่อยให้เสียเวลา
"น่าน?"ซันเลิกคิ้ว ก่อนจะมองสำรวจน่านอีกครั้ง
น่านแทบยิ้มไม่ออก คนๆนี้มองเค้าเหมือนเป็นสินค้าอย่างแท้จริง ทำเอาเค้านั้นอึดอัดไปหมดแล้ว
"จะมาสอนหนังสือลูกปลางั้นเหรอ.."ซันพึมพำเบาๆคนเดียว
"ตกลงว่าไง จ้างเลยดีมั้ย"คุณรุจีถามลูกชายย้ำอีกครั้ง
"เอาสิ ยังไงก็ได้อยู่แล้ว ก็แค่สอนเด็กหกขวบ ไม่ต้องจริงจังอะไรนักหรอก"ซันยักไหล่ แต่ก็ยังไม่เลิกจ้องน่าน
น่านไม่เคยโดนคนจ้องอย่างเปิดเผยแบบนี้มาก่อน เลยยิ่งทำหน้าไม่ถูก จนต้องจับมือของมะลิเอาไว้แน่น และอาการนี้ของน่านนั้นก็ไม่พลาดจากสายตาของซันเช่นกัน ทำเอาซันที่เห็นแบบนั้นถึงกับแสยะยิ้มออกมา
"จะไม่จริงจังได้ยังไง ลูกก็รู้ว่าน้องเค้าต้องอยู่กับลูกปลาอีกนาน ทั้งยังต้องคอยดูแลลูกปลาในช่วงที่แซนกับเมียไม่อยู่แบบนั้น จะไม่ให้แม่จริงจังได้ยังไงเล่า"
"อยู่ดูแล?"มะลิรีบถามแทรก เพราะรู้สึกว่าคำนี้ดูผิดปกติเหลือเกิน
"ใช่จ๊ะ ยุพินไม่ได้บอกเหรอ ว่าน่านนั้นจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ อยู่ดูแลลูกปลาด้วย เพราะเดี๋ยวลูกชายกับลูกสะใภ้ของป้านั้นจะเดินทางไปเมืองนอกกันแล้ว"
"ไม่ได้บอกครับ"น่านถึงกับอึ้ง
นี่มันเรื่องอะไรกัน ไหนบอกว่างานติวไง นี่มันกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กชัดๆ แล้วอีกอย่างนึง...เค้าก็ไม่ค่อยชอบผู้ชายตรงหน้าเท่าไหร่ด้วย ท่าทางการมองแบบนี้มันอะไรกัน เค้านั้นไม่เข้าใจสายตาของผู้ชายตรงหน้าเลยจริงๆ
ทั้งๆที่ดูเหมือนจะไม่ชอบเค้าเท่าไหร่ แต่กลับไม่ขัดเรื่องที่เค้านั้นจะเข้ามาดูแลเด็ก
แบบนี้มันแปลกเกินไปแล้ว...
"ไม่ได้บอกจริงเหรอ ยัยยุพินนี่จริงๆ ยังสะเพร่าเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด ไม่รู้ว่าเป็นครูมาได้ไงตั้งนาน"คุณรุจีบ่นตามเรื่องตามราวไปเรื่อย
"ตอนนี้ก็รู้แล้วไง ตกลงว่าจะทำหรือเปล่าล่ะ"ซันถามขึ้น ไม่สนใจอาการบ่นงึมงำของแม่ตัวเองเท่าไหร่นัก
"ผมไม่เคยดูแลเด็กมาก่อนเลยครับ เกรงว่าจะไม่ไหว"น่านปฏิเสธอย่างอ้อมๆ
"ไม่ไหวจริงเหรอ"คุณรุจีหยุดบ่นงึมงำ หันกลับมาสนใจน่านที่กำลังจะปฏิเสธทันที
"ใช่ครับ ผมคงไม่ไหวหรอก"น่านได้ยิ้ม
"อยากได้งาน...แต่พอมีงานกลับทำไม่ไหวเนี่ยนะ เหลือเชื่อเลยจริงๆ"ซันยกยิ้มมุมปากนิดๆ มองน่านอย่างดูถูก
"ไม่ใช่ว่าไม่ไหว แต่ผมไม่เคยเลี้ยงเด็กหรือดูแลเด็กมาก่อน เพราะงั้นผมเลยไม่มั่นใจเท่าไหร่ ว่าจะทำได้จริงๆหรือเปล่า เพราะแค่มาติวหนังสือ กับการเลี้ยงเด็กซักคน มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ"น่านพยายามชี้แจงเหตุผลในส่วนของตัวเอง
แต่เหมือนว่าซันนั้นดูไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่นัก เพราะเค้านั้นพูดออกมาแค่เพียงว่า
"ก็ลองทำดูก่อนสิ จะได้รู้ว่าไหวหรือไม่ไหวกันแน่ ไม่ใช่อะไรก็ปฏิเสธไปก่อนแบบนี้"
คำพูดของซันทำเอาน่านพูดไม่ออก ลองทำดูก่อน...จะได้รู้ว่าไหวหรือไม่ไหวงั้นเหรอ
ทำไมคนที่ดูเหมือนไม่ชอบขี้หน้าของเรา ถึงพยายามให้เรานั้นได้ทำงานที่นี่ต่อนะ นี่เป็นเรื่องที่น่านนั้นคิดไม่ตก และไม่เข้าใจมากกว่า
"นั่นสิ ลองทำดูก่อนดีมั้ย"คุณรุจีเองก็เริ่มหว่านล้อมน่าน เพราะก็อย่างที่บอก เพื่อนของเธอไม่มีทางส่งเด็กไม่ดีมาให้ เธอเลยไม่อยากจะพลาดเด็กดีๆคนนี้ไปเหมือนกัน
"แต่ว่า..."น่านรู้สึกกดดันเอามากๆ
เค้าไม่เคยมาสัมภาษณ์งานในลักษณะแปลกๆนี่มาก่อน ไม่มีถามความถนัด หรือวิชาถนัดของตัวเองอย่างที่คิดเอาไว้ แต่เลือกให้เค้ามาเลี้ยงเด็ก
ตอนแรกก็ทำเหมือนจะไม่รับเค้าเอาไว้ มีการรอลูกชายให้มาดูก่อน พอเค้าจะไม่เอางานนี้ กลับช่วยกันหว่านล้อมแบบนี้ ทำเอาน่านพูดไม่ออกแล้วจริงๆ
"เอาเป็นว่าลองทำดูก่อนก็แล้วกัน"ซันตัดบท ก่อนจะหันไปพูดกับแม่ของตัวเองว่า
"ผมยังต้องไปหาเพื่อนอีก ที่นี่แม่ก็จัดการเอาก็แล้วกัน"ซันพูดจบก็เดินออกไปทันที
"งั้นเรามาคุยเรื่องเงินเดือนกันเถอะ"คุณรุจีไม่สนใจลูกชายคนเล็กที่เดินออกไปเลยซักนิด เพราะเปลี่ยนเรื่องไปพูดคุยเรื่องเงินเดือนกับน่านแทน
"แต่ว่า..."น่านรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้บอกว่าจะทำเลยไม่ใช่เหรอ แล้วมาคุยเรื่องเงินเดือนอะไรกัน นี่มันมัดมือชกกันแล้วไม่ใช่เหรอไง
"เท่านี้พอหรือเปล่าจ๊ะ"คุณรุจีรีบเขียนตัวเลขลงในกระดาษแล้วยื่นให้น่านดู
"เอ่อ"น่านเห็นตัวเลข ก็ทำให้อึ้งหนักไปใหญ่
งานพี่เลี้ยงเด็กสมัยนี้ มันได้เงินดีขนาดนี้เลยเหรอ?
"พอมั้ยจ๊ะ"คุณรุจีถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ เมื่อเห็นว่าน่านนั้นเอาแต่เงียบ
"พอ...พอครับ"
ยอดเงินที่เขียนอยู่บนกระดาษ ทำให้น่านนั้นรับงานนี้อย่างไม่ลังเลอีก...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
ปริชญา ปุ่นปาน
่าา
2022-01-14
0