หลังจากดูหนังไปสักพักฝนก็เบาลง ธันมองเนตรเดินออกมาจากห้องครัว เธอกำลังจะเตรียมโต๊ะอาหาร เห็นแบบนี้ใครจะไม่ไปทำคะแนนกันละ ธันบอกแก้วตาให้นั่งรออยู่ตรงนี้ไปก่อน เพราะเขาจะไปช่วยอาจารย์คนสวยจัดโต๊ะอาหาร
“ธันช่วยนะคะ” เนตรพยักหน้ารับเมื่อเห็นธันยืนมองอยู่ ธันเดินไปหยิบจานอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะตักข้าวใส่จาน ไม่นานนักโต๊ะอาหารก็พร้อมสำหรับมื้อเย็น ธันเดินไปอุ้มเด็กน้อยที่กำลังดูทีวีอยู่ มาที่โต๊ะทานข้าว
“อู้ววว คุณแม่ทำเยอะจังเลยค่ะ” แก้วตายิ้มชอบใจ ทำให้คนเป็นแม่ต้องยิ้มตามความสดใสนั้น เนตรยื่นจานข้าวให้ลูกสาวกับธัน กิริยาท่าทางของเนตรทั้งตอนตักข้าวตอนคุยกับลูกมันทำให้คนมองอดชื่นชมความน่ารักไม่ได้ อีกอย่างรอยยิ้มที่เธอส่งให้กับแก้วตานั้นคงไม่ได้เห็นง่ายๆ
“ถึงมั้ยคะ เดี๋ยวอาจารย์ตักให้” เนตรหันมาถามธันเพราะผัดผักที่เขาเกลียดอยู่อีกฝั่งที่ไกลจากเขา เนตรคงสังเกตเห็นธันมองไปที่จานนั้นบ่อยๆ จริงๆ เขาไม่ได้อยากกิน แต่เขาเกลียดมันต่างหาก!
“เอ่อ...” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มือสวยของเนตรก็ตักผัดผักช้อนโตมาให้ธัน ถ้าทุกคนอยู่ด้วยคงจะเห็นสีหน้าที่ออกอาการยี้ๆ ของธัน แต่พอเป็นเนตรตักให้เขาก็คงทำได้แค่ยิ้มและบอกขอบคุณเธอ จะทำไงดีวะเนี่ย ถ้าไม่กินคนตักจะเสียใจมั้ยวะ
“คุณแม่ผัดผักอร่อยที่สุดเลยค่ะ”
“ทานเยอะๆ นะคะคนเก่งจะได้โตไวๆ” เนตรลูบหัวงแก้วตาเบาๆ เธอหันมองคนตัวสูงที่เงียบไป และสังเกตได้ว่าธันไม่แตะผักในจานเลย เธอมองหน้าคนตัวสูงก่อนจะขมวดคิ้ว เอาแล้วไงกูทั้งอายเด็ก ทั้งอายอาจารย์
“ไม่อร่อยหรอคะ” เนตรหันมาถามคนตัวสูงเสียงเรียบ
“ป..เปล่าค่ะ อร่อยมากเลยค่ะ”
“อร่อยทำไมไม่ทานผักล่ะคะ”
“คือธัน...” ธันเกาท้ายทอยเพื่อแก้เขิน ก็เธอไม่ชอบมันนี่น่าขมก็ขม เธอจะว่าอะไรมั้ยนะ เนตรส่งสายตาพิฆาตให้ธัน จนคนที่โดนมองกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะกลัวเธอ
“ไม่ชอบผักหรอคะ”
“ช...ใช่ค่ะ” ธันยิ้มแห้งๆ ให้เนตร เด็กน้อยกลั้นขำที่รู้ว่าธันจะโดนดุ
“ผักมีประโยชน์นะคะ ถ้าไม่ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ภูมิคุ้มกันเราจะไม่ดีค่ะ เฉพาะนั้นต้อง ทาน ค่ะ แล้วยิ่งธันเป็นนักกีฬาแล้วด้วย ยิ่งสำคัญไปใหญ่เลย” เนตรเน้นตรงคำว่าทาน นั้นทำให้คนฟังรู้เลยว่า เขาต้องกินไอ้ผักนี่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ให้ตายสิวะแต่เพื่ออาจารย์ ไอ้ธันมึงต้องสู้!
“ก็ได้ค่ะ” ธันตักผักที่อยู่ในจานเข้าปากก่อนจะก้มหน้าก้มตาฝืนเคี้ยวผักขมๆ นั้น เนตรที่มองท่าทีสุดยี้ของธันอยู่ถึงกับส่ายหน้า
“พี่ธัน ต้องทานผักนะคะ คุณแม่บอกว่าถ้าทานผักเราจะแข็งแรง อีกอย่างถ้าไม่มานคุณแม่จะดุมากๆ” ประโยคสุดท้ายเด็กน้อยพูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน ธันพยักหน้าให้เด็กน้อยก่อนจะพยายามกลืนผักลงคอ
บนโต๊ะอาหารวันนี้มีทั้งสุขทั้งทุกข์ ถ้าไม่มีผักตัวปัญหาธันคงเก็บไปเพ้อได้เป็นเดือนๆ แน่แต่เพราะมีเหตุการณ์สุดยี้ที่เขาไม่อยากจะจำมันสักเท่าไหร่เลยต้องเลือกเก็บความจำที่ดีก็แล้วกัน หลังงจากทานข้าวเสร็จธันก็ขอช่วยเนตรล้างจาน ซึ่งเธอก็โอเค และแล้วฝนก็หยุดตกเรียบร้อย ธันถอนหายใจอย่างเสียดายเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วไม่มีเม็ดฝน
เมื่อเสื้อผ้าของธันแห้งสนิทแล้ว ก็คงถึงเวลากลับคอนโด คนตัวสูงขอตัวกลับคอนโด แต่ก่อนจะก้าวขาออกจากประตูบ้านธันก็นึกขึ้นได้ว่าเขาต้องขอไลน์เธอ ธันหันกลับมายิ้มเขินๆ ให้เนตรที่ยืนรอส่งเขา เนตรเอียงคอนิดๆ เพื่อรอฟังเขาพูด
“อาจารย์คะ”
“คะ ลืมอะไรรึเปล่า”
“ไม่ได้ลืมอะไรค่ะ เอ่อ..ธันขอไลน์อาจารย์ได้มั้ยคะ” คนฟังเลิกคิ้วสูง
“ไลน์อาจารย์เอาไว้คุยเรื่องงานเท่านั้นนะคะนักศึกษา ถ้านักศึกษาทักมาคุยเรื่องเรียนเรื่องงาน อาจารย์ก็จะให้ค่ะ” เนตรขีดเส้นไว้ชัดเจน จริงๆ เธอก็รู้มาสักพักแล้วว่าธันน่าจะสนใจเธอเพราะอะไรหลายๆ อย่างมันบอกแบบนั้น
“ค่ะ” ธันตอบรับไปแบบนั้น แต่ใจก็แอบเจ็บเหมือนกันนี่ยังไม่ทันได้จีบเลย เนตรยังขีดเส้นเธอกับเขาขนาดนี้ แต่ยังไงก็ค่อยคิดอีกทีแล้วกัน ว่าจะเดินหน้าจีบต่อหรือถอยออกมาดี
ระหว่างทางธันเผลอใจลอยคิดเรื่องที่เนตรพูดจนไม่ทันสังเกตว่ามีหมาตัวเล็กวิ่งตัดหน้ารถ ด้วยความตกใจเขาเลยหักหลบตามสัญชาตญาณ โครม!! ...คนตัวสูงกระเด็นออกจากรถมาไกลมาก อาจจะเป็นเพราะฝนพึ่งตกไปใหม่ๆ ด้วยเลยทำให้ไถลไปไกล
“จ..เจ็บ มะ...ไม่เป็นอะไรค่ะ ไม่ต้องเรียกรถพยาบาลนะคะ” ธันบอกคนที่วิ่งเข้ามาช่วยว่าไม่เป็นไร ทุกคนเลยช่วยพยุงเขาให้มานั่งข้างทาง ก่อนจะรีบไปช่วยกันเข็นรถคันโปรดที่ตอนนี้สภาพไม่ค่อยจะดีนักให้ออกมาจากกลางถนน ธันต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างอันเพื่อจะให้เขามารับส่วนรถก็โทรเรียกอู่มารับ ซึ่งเขาจะไม่โทรหาอู่พ่อเขาเด็ดขาดไม่อย่างนั้น แม่ของเธอมีหวังสั่งห้ามไม่ให้ขี่อีกแน่นอน
ไม่นานนักอันก็มาถึงเขาจอดรถเทียบข้างก่อนจะรีบวิ่งลงจากรถมาดูอาการของเพื่อนสนิท “เห้ย..ธัน มึงล้มได้ไงเนี่ย”
“กลับก่อนเหอะ อยากนอน” อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มไม่ใช่เพราะเจ็บหรอก อาจจะเป็นเพราะในหัวคิดถึงแต่เรื่องของเนตร เพราะคำพูดที่เนตรบอกกับธันมันวนอยู่ในหัวซ้ำๆ เหมือนกับอกหักเลยล่ะ แต่เป็นอกหักตั้งแต่ที่ยังไม่ได้จีบนะ
“เห้ยธัน! มึงเจ็บมากหรอวะ เดี๋ยวกูพาไปโรงพยาบาล ขึ้นรถๆ” ธันส่ายหัวให้เพื่อนก่อนจะลุกเดินไปนั่งในรถ ส่วนอันก็รีบเดินอ้อมไปฝั่งคนขับและเปิดประตูเข้ามานั่งในรถฝั่งคนขับ “หาหมอเหอะ โรงพยาบาลใกล้ๆ เนี่ย”
“กูไม่ได้เป็นอะไร พากูกลับห้องเถอะ” อันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ธันรู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ตอนนี้ธันแค่อยากนอนมองเพดานอยู่ห้องมากกว่า มันหน่วงๆ ยังไงไม่รู้ ความรู้สึกที่...โดนปฏิเสธน่ะ หลังจากมาถึงห้องอันจะขออยู่เฝ้าแต่ธันห้ามเขาเอาไว้เพราะอารมณ์ตอนนี้ธันรู้สึกว่าอยากอยู่คนเดียวมากกว่า
เช้านี้ธันตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดตัวมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดันทุรังที่จะไปซ้อมบาสอยู่ดีเพราะนี่ก็ใกล้วันแข่งแล้วด้วย แต่จะไปยังไงล่ะรถเข้าอู่นี่ ก็คงต้องพึ่งอันอีกตามเคย ธันต่อสายหาอันอีกครั้งเพราะจะให้เขาไปส่งที่มหาวิทยาลัย ตอนแรกอันก็ทำท่าจะไม่มารับเพราะเขากลัวว่าธันจะซ้อมไม่ไหว แต่ธันก็ยืนยันว่าจะไปเขาเลยจำใจมารับ
“ธัน! วันนี้เป็นอะไรไปพอๆ ไม่ต้องซ้อมมาหาผมหน่อย” วันนี้ธันเล่นไม่ดีเท่าไหร่จนอาจารย์เซนต้องดุเขาบ่อยๆ และแน่นอนว่าอาจารย์เซนต้องถามถึงสาเหตุ ซึ่งธันก็บอกไปตามความจริงเพราะไม่อยากโกหก อาจารย์เซนเลยสั่งให้ธันพักไปก่อน รอให้อาการดีขึ้นค่อยกลับมาซ้อม แต่ถ้ายังฝืนแบบนี้เขาจะจัดธันไว้เป็นตัวสำรอง ซึ่งธันก็รับทราบแต่โดยดี เพราะเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเล่นได้แย่มากๆ ถ้าเป็นแบบนี้ก็เป็นตัวถ่วงของทีมเปล่าๆ
คนตัวสูงออกมานั่งเหม่อๆ อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหลังโรงยิมรออันซ้อมร้องเพลง พอบรรยากาศรอบข้างเงียบคำพูดที่เนตรพูดเมื่อวานก็วนกลับมาอีกครั้ง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่เขาอยากมาซ้อมบาส เผื่อจะได้ลืมเรื่องนี้ไปบ้าง ธันนั่งเหม่ออยู่อย่างนั้นโดยไม่ทันรู้ตัวว่าใครคนหนึ่งได้เดินมานั่งข้างๆ เขาแล้ว
“ทำไมไม่บอกอาจารย์คะ ว่ารถล้ม” เสียงเรียบเย็นของเนตรเอ่ยขึ้น คนตัวสูงรีบหันไปหาต้นเสียง ถึงแม้ว่าจะอยากให้เสียงนั้นเป็นคนอื่นแต่ก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ เนตรมองหน้าธันด้วยสีหน้าเรียบตึง
“...” ธันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ก้มหน้าลงเท่านั้น
“อาจารย์เป็นคนผิดที่ให้นักศึกษาไปส่งงานนอกเวลา อาจารย์ต้องรับผิดชอบค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ธันผิดเองที่ลืมรายงาน ถ้าอาจารย์ไม่ให้ธันไปส่งคะแนนธันต้องหายแน่ๆ เพราะงั้นมันคือความผิดธันเอง อีกอย่างธันขับรถไม่ระวังเองด้วย อาจารย์ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ” ธันพูดก่อนจะทำท่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะ
“นั่งค่ะ” ธันชะงัก เมื่อเนตรพูดเสียงเรียบเย็นที่ธันไม่เคยได้ยิน เสียงแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกกลัวไม่น้อยเลย
“อาจารย์มีอะไรรึเปล่าคะ ธันจะกลับห้องแล้ว” ธันพูดออกไปโดยไม่หันไปสบสายตาเธอเพราะตอนนี้สายตาของเนตรน่ากลัวเหลือเกิน
“เดี๋ยวอาจารย์จะไปส่งเองค่ะ”
“ธันมากับเพื่อนค่ะ”
“อันซ้อมดนตรีอยู่ค่ะ อาจารย์ดนตรีบอกมา”
“งั้นธันขอรออันอยู่นี่แหละค่ะ”
“รถอยู่นั้นค่ะ ขึ้นรถ” เธอพูดด้วยเสียงที่คนฟังต้องสยบ มันน่ากลัวมากๆ พอจะหันไปเถียงก็ต้องเจอกับสายตาแบบนั้นอีก เขาทำอะไรไม่ได้เลยทำได้แค่ตามเธอขึ้นรถไปอย่างว่าง่าย
ธันเฝ้าบอกกับตัวเองทั้งคืนว่า ควรพอดีกว่า ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มจีบอะไรเลยก็ตามเพราะดูเหมือนอาจารย์จะไม่ชอบเขาอย่างแรง อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นผู้หญิงหรืออีกอย่างอายุที่ห่างกันขนาดนั้นอีกด้วย มันทำให้ธันคิดว่าต้องพยายามออกห่างและไม่หาทางไปเจอเธอ แต่ทำไมคนที่หากลับเป็นเนตร ทำไมเนตรต้องมาตอนที่เขากำลังจะตัดใจกัน คำถามมันตีกันไปหมด มันเศร้ารู้มั้ยอาจารย์ ชอบเขาแต่ทำอะไรไม่ได้อ่ะ แล้วจะโผล่มาทำไมตอนนี้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 9
Comments