ท่านอ๋องคนงาม ㅣ Gorgeous Duke
แนะนำตัวละคร
พระสนมหลิน หลินเผิง มารดาของหลินอ๋อง
หลินอ๋อง หลงเฟิงถาง แต่มารดาตั้งนามจริงๆ ให้ว่า เฟิงเยว่
อวิ๋นอ๋อง หลงชิงเล่อ เพื่อนตั้งแต่เด็กของหลินอ๋อง
ท่านอ๋องคนงาม 1 โศกนาฏกรรมฝังใจ
ยามค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่อง เด็กน้อยนอนซุกหน้าลงกับหมอนใบนุ่มหลบอยู่ในฝันอันแสนหวานพลันสะลึมสะลือขึ้นมาจากเสียงดังขึ้นเบาๆ ที่หน้าต่าง ดวงตากลมพยายามเพ่งมองไปรอบๆ ห้องด้วยตาปรือๆ พยายามปรับสภาพตาให้ชินกับความมืดในตอนนี้ แต่เหมือนจะไม่ทันการเสียแล้ว
“ท่านอ๋องน้อยโปรดอยู่นิ่งๆ อย่าได้ขยับสักพักนะพะยะค่ะ” เด็กน้อยที่ถูกแขนของผู้บุรุกยามวิกาลล็อกคอเอาไว้ได้แต่พยักหน้าสั่นๆ อย่างหวาดกลัวขณะที่มือก็พยายามปัดป่ายแขนที่กดคอเอาไว้จนหายใจไม่สะดวกก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวจะมือไป
“หากท่านขยับตัวมากหรือเอามือมายุ่งกับผ้าที่คลุมหัวท่านอยู่ เชือกจะยิ่งรัดคอและกระหม่อมก็ไม่คิดช่วยแน่นอนพะยะค่ะ” เสียงทุ้มแปร่งเอ่ยออกมาข้างหู แม้จะเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ แต่ไม่ได้ปิดความน่ากลัวในเนื้อความนั้นได้เลย ชายคนนั้นอุ้มร่างของท่านอ๋องน้อยที่ตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับออกไปทางหน้าต่างแต่กลับพบเจอกับคนมากมาดักอยู่ด้านหน้า
“ถ้าคิดว่าเข้ามาในตำหนักได้ง่ายๆ แล้วจะออกไปง่ายๆ หล่ะก็ เรียกได้ว่าคิดผิดไม่น้อยเลย” เสียงเหี้ยมเกรียมดังมาจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มทหารเหล่านั้น
“เสด็จแม่!”
“โอ๊ ที่แท้เป็นพระสนมมาเองเชียวหรือ”
“มิใช่ว่ารู้จักข้าอยู่แล้วหรือ ปล่อยอ๋องน้อยมาหรือจะทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เจ้าเลือกเองเถอะ” หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามและสูงศักดิ์จ้องไปยังผู้บุกรุกด้วยสายตาเฉียบคมอย่างข่มขู่ แต่คำกล่าวต่อมาของผู้บุรุกตรงหน้าก็ทำให้เธอเบิกตากว้าง
“แล้วพระสนมคิดว่า จะมาพาตัวท่านอ๋องน้อยไปทั้งทีกระหม่อมจะมาเพียงคนเดียวหรือพะยะค่ะ”
จบคำกล่าวก็มีคนกระโดดลงมาจากหลังคามากมายราวห้าสิบคน พระสนมที่ตอนนี้มีคนเพียงสิบคนถือว่าเสียเปรียบเต็มประตู ในใจคนเป็นแม่หนักอึ้งเพราะคิดว่าจะยื้อเวลาได้อีกสักนิดเพื่อให้กองกำลังที่ให้คนไปตามมาทัน แต่ตอนนี้คงต้องยื้อไปก่อนเท่าไหนเท่านั้น
คนรอบกายพระสนมก็คิดไม่ต่างจากผู้เป็นนาย ต่างยกดาบและกระบี่ขึ้นปกป้องเธอจากเหล่าชายชุดดำเหล่านั้น
ชายชุดดำเหล่านั้นๆ ค่อยเยื้องเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมๆ กันสร้างความรู้สึกกดดันแก่ฝั่งคนที่น้อยกว่าอย่างมาก แต่ถึงจะคนน้อยก็หาได้ใจฝ่อเริ่มวาดกระบี่เข้าปะทะทันที
ในระหว่างที่กำลังชุนละมุนนั้นเอง พระสนมสบโอกาสที่หนุ่มชุดดำเผลอวาดกระบี่ลงที่ขาข้างหนึ่งทำให้ขาข้างนั้นขาดออกจากกัน เพราะการบาดเจ็บโดยไม่ทันระวังจึงปล่อยท่านอ๋องน้อยที่กักตัวไว้ออกจากการจับกุม พระสนมตรงเข้าคว้าลูกน้อยเอาไว้ในอ้อมอกทันก่อนที่จะล่วงตกพื้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะพยายามแกะผ้าคลุมหัวนั้นออกจนสำเร็จ
“เสด็จแม่ระวัง!” เด็กน้อยตะโกนสุดเสียงเมื่อออกจากผ้าคลุมดำมืดก็พบเห็นเจ้าคนชุดดำที่ขาขาดไปข้างหนึ่งถือกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้างโดยหันปลายกระบี่ลงพื้นเล็งมาทางนี้ พระสนมกระชับดาบในมือเตรียมหันไปรับแรงดาบโดยไม่ได้รู้ว่าไม่ทันแล้ว
ฉึก!
“เสด็จแม่!!!”
ยังไม่ทันทีพระสนมจะได้หันหลังกลับไปกระบี่ก็แทงทะลุอก เด็กน้อยที่เห็นความวาวของพระบี่ที่ทะลุอกผู้เป็นมารดาก็ร้องเรียกอย่างเสียขวัญ ก่อนที่ดวงตาแดงก่ำจะมองไปทางคนร้ายด้วยไฟแค้นที่แผดเผาไปทั่วร่าง
เมื่อรู้สึกตัวอีกทีคนชุดดำรอบข้างทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้นจนหมด นางกำนันและทหารทั้งหมดที่มาสบทบชะงักอย่างตกใจแต่รู้สึกโล่งอกที่เรื่องราวจบแล้ว ก่อนจะพาเอาร่างสะบักสะบอมไปอารักขานายหญิงของตำหนักกุ้ยหยาด้วยใจภักดี
“เฟิงถาง.. แม่รักลูก รักมากที่สุด”
“เสด็จแม่ทำใจดีๆ ไว้นะพะยะค่ะ ใครก็ได้ตามหมอ ตามหมอมาเร็วเข้า!” เหล่านางกำนันรีบวิ่งจากไปทิ้งไว้แต่ทหารที่ยืนอารักษ์ขาอยู่ไม่ไกล
“ลูกรัก.. จำคำแม่ไว้”
“ฮึก เสด็จแม่”
“พลังในตัวเจ้านั้นอันตรายต่อชีวิตเจ้า อย่าได้ใช้ความโกรธทำให้มันตื่นขึ้นมาเด็ดขาด ห้ามให้ใครเห็นอีก” หากนางตายยังไงนางกำนันและทหารที่มาวันนี้ก็ต้องตายข้อหาที่รักษาชีวิตนางไม่ได้ คนเหล่านี้จะไม่ปริปากเรื่องพลังเมื่อครู่ขององค์ชายเพราะพวกเขาซื่อสัตย์ต่อข้า ตระกูลหลิน
“ลูกสัญญา ฮึก ลูกสัญญาแล้วท่านแม่อย่าทิ้งลูกไป ฮึก ท่านหมอกำลังมาท่านแม่อดทนอีกหน่อยนะพะยะค่ะ” เด็กน้อยสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นแม่แน่นราวกลับคนตรงหน้าจะสลายหายไปต่อหน้า
“มารดารักเจ้าที่สุด ชาตินี้ไม่อาจดูเจ้าเติบใหญ่ อึก หากชาติหน้ามีจริงขอให้ได้เป็นมารดาเจ้าอีกครั้ง ได้มองดูเจ้าเติบใหญ่มีความสุขร่มเย็น” พระสนมกระอักเลือกออกมาจนชายเสื้อเปรอะเปื้อนแต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อพูดกับลูกน้อยเป็นครั้งสุดท้าย
“ไร้ซึ่งมารดาแล้ว เจ้าต้องเข้มแข็ง แข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเองแต่อย่าเปิดเผยให้คนอื่นเห็น เขาจะฆ่าเจาเพราะเจ้าเกินหน้าเกินตาเขา”
“พะยะค่ะ ลูกจะไม่ลืม”
“ไม่ว่าเจ้าจะอยู่แห่งหนใด แม่ยังคงอยู่กับเจ้าเสมอ ในหัวใจของเจ้า” เด็กน้อยพยักหน้าทั้งที่ใบหน้ายังเปรอะน้ำตาไปทั่วทั้งใบหน้า ดวงตาเล็กหยีลงเพราะแสบตาจากน้ำตาที่เต็มหน่วยตาสองข้าง คนเป็นแม่เห็นก็ปวดใจ เรี่ยวแรงตอนนี้แค่โอบกอดลูกน้อยเอาไว้ก็แทบไม่ไหว อยากจะเช็ดน้ำตาก็ไร้แรงอีก
เวลาของนางเหลือไม่มากแล้ว
“อวิ๋นอ๋อง อึก พระองค์อยู่ตรงนั้นใช่หรือไม่”
เปิดมาด้วยน้องเฟิงเยว่ของเรา
ไอ้ต้าวตัวน้อยทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้
อยากเอาน้องมากอดปลอบ งื้ออออ
จะลงไว้เกริ่นไว้ก่อนสำหรับพาทโศกนาฏกรรมฝังใจ
ฝากคอมเม้นต์ติชมเป็นกำลังใจด้วยนะ
รักรีดทุกคนนะคะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments