3
สุบารุฝืนยิ้มกลับไปทางกลุ่มผู้ชายเพื่อซื้อเวลาขณะขบคิด
สถานการณ์จนตรอก ทว่า แต่ไหนแต่ไรมนุษย์ผู้ถูกอัญเชิญมายังต่างโลกจะต้องแสดพลังพิเศษเหนือธรรมดาออกมา หากสุบารุได้รับการอัญเชิญมาด้วยเงื่อนไขเดียวกับทวีปต่างโลกมากมายเหล่านั้น ย่อมมีโอกาสสูงที่เขาจะได้พลังพิเศษอะไรบางอย่าง เมื่อคิดเช่นนั้นร่ากายจึงค่อยเบาลง
"รู้สึกขึ้นมาว่าแรงน้อมถ่วงจะมีแค่ยร้อยละสิบของโลกเก่า เราลุยได้ ลุยได้แน่ๆ! จะจัดการให้คว่ำ ทำให้กลายเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงอนาคตอันสดใสของชั้นให้ดูพวกตัวกระจอกสำหรับเก็บเลเวลเอ๊ย"
"เจ้านี่พูดอะไรพึมๆ พำๆ ก็ไม่รู้ฟ่ะ"
"ไม่เข้าใจหรอกว่าแกพูดอะไร แต่รู้ว่าทำเหมือนพวกข้าเป็นไอ้หน้าโง่อยู่ ชั้นจะฆ่าแกเอง"
"นั้นมันคำพูดของทางนี้ต่างหาก...แล้วแกจะต้องเสียใจเฟ้ย!"
สุบารุพูดทิ้งท้าย ก่อนจะส่งแรงจากทั้งร่างใส่หมัดขวาตรงอัดเข้าที่ชายร่างใหญ่ หมัดนั้นโจมตีเข้ากลางจมูกอย่างงดงาม ทว่า นั้นก็ปะทะกับฟันหน้าของอีกฝ่ายตรงข้ามจนมีเลือดออกมาด้วย
—ต่อยคงเป็นครั้งแรก! ฝ่ายเราก็เจ็บกว่าที่คิดซะอีก
เด็กหนุ่มเคยเล่นเกมจำลองการต่อสู่มาก แต่เพิ่งเคยทำจริงเป็นครั้งแรก ชายผู้ถูกต้อยล้มลงกองกับพื้น สุบารุอาศัยความรวดเร็วออกทระบวนท่าใส่คนอื่นที่กำลังตกใจ
เขาวาดเท้าเป็นเส้นโค้ง โจมตีเข้าใส่ด้านข้างศีษระของชายคนหนึ่ง ก่อนทำให้คนที่สองสลบโดยอดเข้ากับกำแพง
ขณะดอกลายได้ดีกว่าที่คิด สุบารุก็ค่อยๆ มันใจกับ 'ความไร้เทียมทานในต่างโลก' มากขึ้น
"ชั้นถูกกำหนดให้แข็งแกร่งตอนอยู่ในโลกนี้จริงๆ สินะ! ได้รับพลังนี้มาจากจะดรีนาลินที่หลั่งไหล—"
สุบารุตื่นเต้นพร้อมหันหน้ากลับไป ย่อตัวลงหวังโจมตีชายฉกรรจุคนสุดท้าย
ทว่า สิ่งที่เขามองเห็นอยู่ในมือชายคนสุดท้ายนั้นคือมีตซึ่งส่องประกายวาว
สุบารุทรุดเข่าลงกับพื้น งอตัวท่อนบนลงอย่างสวยงามและแนบหน้าผากลงกับพื้น
“ขอประทานโทษด้วยครับ ผมเป็นคนผิดเองทุกอย่างได้โปรดให้อภัยด้วย อย่างน้อยก็กรุณาละเว้นชีวิตด้วยเถอะคร้าบบบ!"
การหมอมกราบ การแสดงความยอมจำนนขั้นสูงสุดต่ออีกฝ่าย หัวใจของคนญี่ปุ่นขั้นพื้นฐานที่สุด
ความรู้สึกครึ้มใจที่มีอยู่เมื่อที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน ได้ยินเสียงเลือดหดหายไปจากทั่วทั้งร่าง สุบารุหดตัวลีบเอ่ยขอโทษซ้ำๆ พยายามร้องขอความเห็นใจอย่างสุดชีวิต
ก็ของมีคมน่ะไม่ไหวหรอก ถ้าถูกแทงจะฝึกฝนมาขนาดไหนก็จบเห่ ทุกสิ่งล้วนได้ความหมาย
รู้ตัวอีกที อีกสองคนที่ควรจะล้มลงไปกองแล้วกลับฟื้นขึ้นมา ชายคนหนึ่งกดใบหน้าซึ่งมีเลือดกำเดาเยิ้มเอาไว้ ส่วนอีกคนส่ายหัวไปมา แต่เมื่อมองโดยรวมแล้วมีท่าที่แข็งแรงกว่าที่คิด
“เอ๋!? โดนท่าไม้ตายเปรี้ยงเดียวจอดของชั้นแล้วยังทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไง!? สิ่งที่ควรจะได้จากการถูกอัญเชิญล่ะ!?”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่องอยู่ได้! กล้าทำกันได้นะแก!” สิ่งที่ควรจะได้จากการถูกอัญเชิญ สุบารุคิดผิดไปโดยสิ้นเชิงเขาไม่ได้แข็งแรงขึ้นเป็นพิเศษเลย
สุบารุที่หมอบกราบอยู่โดนเหยียบศีรษะจากด้านบนหน้าผากครูดกับพื้นจนเลือดไหล เขาถูกเตะอัดที่ใบหน้าตามมาด้วยความรุนแรงอื่นๆ ถาโถมเข้าใส่ร่างซึ่งพยายามขดตัวม้วน
ผู้เริ่มลงมือก่อนคือสุบารุ เพราะอย่างนั้นบรรดาชายฉกรรจ์พวกนี้จึงไม่ปรานี
—แย่แล้ว เจ็บสุดๆ อาจจะตายก็ได้ จริงๆ นะเนี่ย
มันไม่เหมือนกับโลกเดิม ไม่มีหลักประกันว่าพวกแก๊งอันธพาลจะไม่เอาชีวิต สู้เตรียมตัวเตรียมใจตายอย่างสมเกียรติตอบโต้ออกไปก่อนจะโดนทรมานจนตายดีกว่า—
“อย่าขยับนะ เจ้าโง่!”
“โอ๊ย! โอ๊ยยย เจ็บๆๆๆ!”
ชายคนหนึ่งเหยียบขยิ้มือของสุบารุซึ่งทำท่าจะลุกยืนขึ้นขณะเปลี่ยนท่าจับมีดเป็นแบบคว่ำลง
“เดี๋ยวพ่อทำให้ขยับไม่ได้แล้วจะปล้นไปไม่ให้เหลือเลยบังอาจทำเรื่องบ้าๆ ซะได้..."
"ถะ ถ้าทำไปเพราะหวังเงินทองล่ะก็พูดตามตรงว่าเปล่าประโยชน์ ยังไงชั้นก็ไม่มีเงินเลยสักแดง...!"
"งั้นจะเป็นเสื้อผ้าหายาก รองเท้าหรืออะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ จงกลายเป็นอาหารหนูในตรอกซะเถอะ"
อา โลกนี้เองก็มีหนูอยู่ด้วยแฮะ ถ้าตัวไม่ใหญ่ก็ดีสิเหมือนอย่างพวกภูตผี
สุบารุคิดแบบหนีจากความจริง พลางมองมีดที่กำลังจะล้วงลงมาราวกับเป็นเรื่องของคนอื่น
ภาพย้อนอดีตก่อนตายก็ไม่ได้เห็นปรากฏการณ์ที่ว่ากันว่ามองเห็นโลกนี้เคลื่อนไหวช้าลงก็ไม่มี
มันคงจะจบลงราวกับเส้นด้ายขาดผึ้งกระมัง
—ตอนนั้นเอง
“หลบหน่อยๆๆ! เจ้าพวกนั้นน่ะ เกะกะจริง!”
ใครสักคนส่งเสียงร้อนรน วิ่งเข้ามาในซอย
ชายกลุ่มนั้นตกตะลึงเงยหน้าขึ้นมองสุบารุเองก็เช่นกันเขาเหลือบตาขึ้นไปมองเพราะร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
เบื้องหน้าสายตามีเด็กผู้หญิงร่างเล็กผมสีทองยาวประบ่าวิ่งตัดเข้ามาปลายผมพลิ้วไหว
นัยน์ตาสีแดงฉายแววมุ่งมั่น ฟันเขี้ยวที่โผล่ออกมานิด ๆ ดูเป็นคนขี้แกล้ง
ความประทับใจเมื่อแรกเห็นคือท่าที่แก่แตดเล็กน้อยแต่ใบหน้านั้นก็ชวนให้รู้สึกว่า ถ้าเธอยิ้มจะดูทรงเสน่ห์กว่าคนทั่วไป
เธอโผล่มาตรงจังหวะราวกับจับเวลาไว้ เปลวเพลิงแห่งความหวังที่มอตดับไปแล้วทอแสงอยู่ในดวงตาของสุบารุ
รอเวลานี้อยู่เลย
เด็กสาวในชุดเก่าซอมซ่อเนื่อตัวมอมแมมโผล่ออกมาเจอกับสถานที่ซึ่งกำลังจะเกิดเหตุปล้นฆ่าขึ้น
ตามท้องเรื่องแล้วเด็กสาวผู้นี้คงมีนิสัยขี้สงสาร แล้วเรื่องราวก็จะพลิกผันเป็นว่าเธอเข้ามาช่วยชีวิตอันบอบบางที่ทำลังจะมลายหายไปของสุบารุ ทว่า—
“รู้สึกจะเกิดเหตุอะไรสุดยอดมากๆ เลยนะเนี่ย แต่โทษทีนะ! ฉันกำลังรีบ! ขอจงมีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งน้า!”
“เฮ้ย เฮ๋!? จริงเด่ะ!?”
ความหวังนั้นถูกทำลายลงง่ายดายในพริบตา
เด็กสาวยกมือขึ้นเป็นเชิงแสดงความรู้สึกผิดต่อสุบาวิ่งตัดทะลุซอยแคบไปด้วยความรวดเร็ว ผ่านด้านหลังของบรรดาชายฉกรรจ์ไป จนถึงด้านในของตรอกซึ่งดูท่าจะเป็นทางตัน—แต่แล้วเธอก็กระโดดเตะแผ่นกระดานปิดทางซอยขึ้นไปเกาะผนังเอาไว้ และตอนยังไม่มีใครได้ทันรู้ตัวก็กระโดดตัวลอยหายไปจากด้านบนของสิ่งปลูกสร้าง
เมื่อมองไม่เห็นร่างของเด็กสาวผู้นั้นแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่สถานที่เกิดเหตุจะจมดิ่งลงสู่ความเงียบ
เด็กสาวผู้ผ่านมาราวกับพายุใต้ฝุ่นทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตกตะลึง
ทว่า ที่สถานการณ์ของสุบารุไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยเป็นความจริงอีกข้อหนึ่ง
“จะไม่ตกใจกับเรื่องเมื่อจนเปลี่ยนใจหน่อยเหรอ!?"
“ยิ่งเสียอารมณ์เพราะถูกขัดขวางซะมากกว่า อย่าคิดว่าจะขอดไปสบายๆ นะเฟ้ย”
ขณะนี้ร่างกายของเขาโดนบรรดาชายเหล่านั้นรุมกระตื่นจนกระดิกกระเดี้ยตัวไม่ได้
ประกายแสงจากมีดในมือของผู้ชายกลุ่มนั้นทำให้สัมผัสแห่ง “ความตาย" ซึ่งรุกไล่เข้ามาลอยทะลักขึ้น
—ไม่นะ ไม่ โกหกใช่ไหม คงไม่ใช่หรอก จะจบกันง่ายๆอย่างนี้เนี่ยนะ
สุบารุยิ้มบิดเบี้ยว เฝ้าวิงวอนอย่างเอาเป็นเอาตายว่าใครก็ได้โปรดช่วยปฏิเสธสถานการณ์ตอนนี้ที่เถิด แต่จุดพลิกผันดีๆ เช่นนั้นไม่มาเยือนปลายแหลมของมีดใกล้มา
ความรู้สึกยอมแพ้ครอบงำในอก เด็กหนุ่มรู้ตัวว่าน้ำตาเกือบจะโหลทะลักออกมา
ไม่ใช่สิ ความหวาดกลัวต่างหาก เขาแค่รู้สึกทนไม่ได้หากต้องจบลงอย่างว่างเปล่าโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ท่ามกลางความรู้สึกสิ้นหวังกดดันรุนแรง ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถูกละทิ้งนั้นเอง—
“พอแค่นั้นแหละ เจ้าพวกวายร้าย”
เสียงนั้นสะกดข่มทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงโหวกเหวกของผู้คนคำก่นด่าหยาบคายของชายกลุ่มนั้นหรือลมหายใจไม่เป็นจังหวะของตัวสุบารุเองลงไปจนหมด ทำให้โลกสั่นไหว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments