พระมเหสี

#Gyuking องค์ราชาสามราษฎร์

*นิยายเรื่องนี้ ไม่มีข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์เเต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน*

ครืดด

เสียงประตูเลื่อนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเเละคนที่นอนอยู่บนเตียงมือค้ำหัวเหมือนให้คนที่มาใหม่ขึ้นไปนอนด้วยกัน

"มาอีกเเล้วเหรอ"

"เพคะ หม่อมฉั--"

"ไม่เบื่อหรือไงที่ต้องทำตามไอพวกขุนนางเเก่นั่น"หญิงสาวที่ใส่ชุดประจำตำเเหน่งพระสนมยืนก้มหน้ากุมมือที่สั่นไหวของตัวเองเเน่นเเต่ก็ไม่ได้ตอบอีกคนไป

"เอาเถอะ อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ทะเยอทะยาน มานอนเถอะ"

"ฝ..ฝ่าบาทเพคะ"หญิงสาวพูดออกมาทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่

"ว่าไง"ฝ่าบาทในชุดนอนลุกขึ้นมานั่งบนเตียงมองคนที่กุมมือตัวเองเเน่นอย่างสงสัย

"ฝ่าบาท...ช่วยพาหม่อมฉันหนีไปได้หรือไม่เพคะ"หญิงสาวเงยหน้าขึ้นพร้อมกับคุกเข่าขอร้อง

"ทำไมล่ะ เจ้าโดนพวกมันทำอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงมาขอร้องอะไรเเบบนั้น"ฝ่าบาทลุกขึ้นจากเตียงเเล้วเดินไปเชิดคางของอีกคนขึ้นถามเพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

"หม่อมฉัน..ท้อง..เพคะ"

คนที่ได้ยินถึงกับนิ่งไป เเต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะยังไงลูกในท้องของผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ใช่ลูกของเขาเป็นเเน่ เเต่หากใช่...พวกขุนนางต้องดักทางให้ข้าให้ตำเเหน่งเด็กในท้องให้เป็นองค์รัชทายาทเเน่นอน

"ลูกของข้างั้นหรือ"ฝ่าบาทถาม

"ฮึก...ไม่ใช่เพคะ..ฮึก..ทรงประหาร..ฮึก..หม่อมฉันเถิดเพคะฝ่าบาท..ฮึก..ฮืออ"หญิงสาวร้องไห้โฮหลังจากสารภาพความผิดที่ตนนั้นกุมความลับมานาน

"บังอาจ"เสียงของฝ่าบาททำเอาคนฟังถึงกับตัวสั่นเเล้วก้มหัวชิดพื้นด้วยความเกรงกลัว

"ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันผิดไปเเล้ว ทรงประหารหม่อมฉันเถิดเพคะ"

"เจ้าขอข้ามาเองนะ"คนร่างสูงเดินไปหยิบดาบมังกรสีทองประจำตัวเเหน่งที่หัวเตียงเเล้วเดินกลับไปหาคนที่กำลังร้องไห้รอความตาย

"คิก ฮ่าๆๆ เจ้าคิดว่าข้าจะเสียใจงั้นหรือ ฮ่าๆ เจ้านี่ตลกจริงๆ ข้ารู้หรอกว่าเจ้าเเค่พูดเเบบนั้นพอเป็นพิธี"ชายร่างสูงเก็บดาบไว้ข้างตัวเเล้วชันเข่าซ้ายลงพื้นมองอีกคนด้วยท่าทางที่ไม่ได้โกรธอะไร

"หามิได้เพคะ"หญิงสาวก้มหน้าคางชิดอก

"ข้าจะช่วยเจ้าออกไป ว่าเเต่ข้าขอถามได้หรือไม่"

"ทรงถามมาเถิดเพคะ"

"เจ้าไปมีความสัมพันธ์กับใคร เเล้วตั้งเเต่เมื่อไหร่กันหรือ"

"...กับหัวหน้ากรมอาญา..เพคะ..ฝ่าบาทอย่าทรง..ทำอะไรเขาเลยนะเพคะ"หญิงสาวขอร้องด้วยสีหน้าที่ตระหนกจนฝ่าบาททรงคิดว่า ทำไมหญิงสาวคนนี้ไม่รู้จักเขาเอาเสียเลย

"ข้าเเค่ถามเฉยๆ เจ้าจะตระหนกทำไมนัก"

"ขอทรงประทานอภัยเพคะ"หญิงสาวเอ่ยปากพร้อมกับก้มหน้าอีกครั้ง

"ข้าจะช่วยเจ้า"

"เป็นพระกรุณาธิคุณอันล้นพ้นเพคะฝ่าบาท"หญิงสาวก้มกราบมือสองข้างเเนบพื้นด้วยความดีใจ

"เเต่มีข้อเเม้.."

"ทรงรับสั่งเถิดเพคะ"

"ชีวิตของเจ้าต้องเป็นของข้าเเล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป"

"น้อมรับด้วยเกล้าเพคะ"หญิงสาวก้มรับคำสั่งอย่างดีใจหลังจากที่เงียบไปสักพักเพราะเธอรู้ความหมายดี ว่ามันหมายถึงอะไร

"เอาล่ะ พวกท่านมีฎีกาอะไรอีกหรือไม่ อีกเดี๋ยวข้าจะพักผ่อน" ฝ่าบาทในชุดเเดงประจำตำเเหน่งปักด้วยลายมังกรพูดขึ้นหลังจากที่ฎีกาบนโต๊ะถูกจัดวางไว้ในที่สำหรับฎีกาที่พิจารณาเรียบร้อยเเล้ว

"ฝ่าบาทพะย่ะค่ะ หมู่นี้ทางภาคเหนือที่ติดกับประเทศจีนฟ้าได้ประทานเปลวไฟเเผดเผาทุ่งนาข้าวพะย่ะค่ะ ตอนนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาทควรเเต่งตั้งพระสนมนะพะย่ะค่ะ" เมื่ออัครเสนาบดีฝ่ายเหนือพูดจบเหล่าขุนนางคนอื่นๆก็พูดสนับสนุนเป็นเสียงเดียวกันเหมือนนัดกันมา

"ฮ่าๆ อัครเสนาบดีฝ่ายเหนือ มุนจุน ข้าขอถามอะไรท่านหน่อย"

"ทรงตรัสมาเถิดพะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมพร้อมจะรับฟังฝ่าบาทเสมอ" เเล้วพวกขุนนางก็พูดประโยคหลังพร้อมกันเหมือนนัดกันมาอีกครั้ง จนมันทำให้ฝ่าบาทถึงกับเค้นเสียงในลำคอออกมาเป็นเชิงรู้ว่าขุนนางพวกนี้ก็เเค่รับฟังเเต่ไม่เคยคิดจะทำตามเเต่อย่างใดหรอก ก็เอาดีเเค่ผลประโยชน์ของตนก็เท่านั้น ข้าล่ะอยากรู้จริงๆว่าเสด็จพ่อคุมขุนนางพวกนี้ได้ยังไงกันนะ

"หึ ข้าคิดว่าท่านมีคนที่จะเสนอชื่อในใจใช่หรือไม่"

"หามิได้พะย่ะค่ะ"

"เเต่กระหม่อมมีพะย่ะค่ะ"เสียงขุนนางที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับอัครเสนาบดีมุนจุนกล่าวขึ้น

"โอ้ะ อัครเสนาบดีซองมิน ข้านึกว่าวันนี้ท่านจะเงียบตลอดการหารือเสียอีก นี่ท่านรอฎีกาอันนี้อยู่หรอกหรือ ฮ่าๆ"

"ห..หามิได้พะย่ะค่ะ"อัครเสนาบดี ลี ซองมินตอบเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตนนั้นเงียบมาตลอดการหารือ

"เอาเถอะๆ ท่านอยากเสนอใครหรือ"

"คุณหนูลี ซูกวาน พะย่ะค่ะ"

"หืม เธอเป็นญาติของท่านสินะ"

"พะย่ะค่ะ"

"เเล้วท่านล่ะ อัครเสนาบดีมุนจุน" อัครเสนาบดีมุนจุนมองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามอย่างมีเชิงก่อนจะตอบอย่างฉะฉาน

"กระหม่อมคิดว่า คุณหนูโฮเหมาะกับตำเเหน่งนี้ที่สุดเเล้วพะย่ะค่ะ" คำตอบของมุนจุนทำเอาคนทั้งห้องโถงฮือฮาเพราะตั้งเเต่กษัตริย์องค์ก่อนจากไปก็ไม่มีใครเสนอชื่อลูกของตนเข้าขึ้นตำเเหน่งพระมเหสีอีกเลย

"หึ พวกท่านก็ยังคงส่งเเต่เบต้าเข้าวังสินะ สมกับเป็นพวกท่านจริงๆ" ฝ่าบาทไม่ได้สนใจอะไรนักที่มุนจุนนั้นเลือกที่จะส่งลูกของตนเข้าวัง เเต่ทรงคิดเเค่ว่า ไม่ว่าจะหลานของฝ่ายใต้หรือลูกของฝ่ายเหนือ มันก็เเย่ทั้งนั้น

หลังจากที่ได้จบการหารือราชกิจลง ฝ่าบาทจึงเเต่งตัวเตรียมออกนอกวังด้วยชุดธรรมดาที่ลูกขุนนางใส่กันเพื่อไม่ให้ดูเด่นเกินไป

"เรียกองค์ชายชานมาพบข้าที" ฝ่าบาทพูดขึ้นหลังจากเเต่งตัวเสร็จ

"ยาพะย่ะค่ะ" ขันทีได้ยื่นยาสำหรับอัลฟ่ากษัตริย์ที่องค์กษัตริย์ที่เป็นอัลฟ่าทุกคนต้องกินอย่างน้อยวันละสี่เม็ดเพื่อระงับกลิ่นเเละย่นระยะติดสัดลง เเต่นั่นมันสำหรับอัลฟ่าที่ได้เจอเเละผูกชะตากับคู่ชีวิตเเล้ว ส่วนฝ่าบาทที่ยังไม่ได้เจอคู่ชีวิตจึงกินไปเพียงสองเม็ดเท่านั้น

"ขันทีจาง"

"พะย่ะค่ะฝ่าบาท"

"เจ้าว่าทำไมข้าไม่เจอคู่ชีวิตสักที ทั้งๆที่ข้าก็ออกนอกวังบ่อยๆ"

"ก..กระหม่อมไม่เเน่ใจพะย่ะค่ะ"ขันทีคนตอบเสียงขัดๆเพราะไม่เคยจะชินกับคำถามที่ตอบยากเเบบนี้ของฝ่าบาทสักที

"องค์ชายชานมาเเล้วพะย่ะค่ะ"ขันทีอีกคนได้พูดขึ้น

"ฝ่าบาททรงเรียกกระหม่อมมีอะไรหรือพะย่ะค่ะ"องค์ชายชานที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของฝ่าบาทได้ถามขึ้นพร้อมกับขันทีทั้งสองได้ออกไปอย่างเงียบๆ

"ข้อกะว่าจะไปข้างนอกน่ะ ไปกับข้าที"

"พระองค์จะออกไปทำไมบ่อยๆ มันอันตรายนะพะย่ะค่ะ"คนเป็นน้องชายพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

"ก็ข้าอยากเจอคู่ชีวิตเเล้ว เเต่ไม่เจอสักที"

"เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในโซช็อนก็ได้นะพะย่ะค่ะ กระหม่อมก็ไม่เเน่ใจเหมือนกัน" องค์ชายชานพูดขึ้นเพราะพี่ชายของตนนั้นตามหาคู่ชีวิตของตัวเองไม่เจอเสียทีทั้งๆที่ออกไปเที่ยวจ้องตาคนอื่นไปทั่วหวังจะได้ผูกชะตา บางทีเขาก็อยากจะซื้อเเว่นดำให้พี่ชายตนใส่เสียจริง

"หรือข้าจะไม่มีคู่ชีวิต" ฝ่าบาทพูดพลางทำหน้าเศร้า

"กระหม่อมเชื่อว่ามีพะน่ะค่ะ เเต่พระองค์จะหาคู่ชีวิตไปทำไมกัน ในเมื่อก็เอาเข้าวังไม่ได้อยู่ดี"

"......."ฝ่าบาททำหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เเต่เพิ่งมานึกได้ว่าอีกคนก็เเค่ปากเสีย ปากหนอปาก ไอ้เด็กนี่

"ตกลงเรียกกระหม่อมมาเเค่นี้หรือพะย่ะค่ะ"

"นี่เจ้า?? ข้าเป็นกษัตริย์นะ"

"เอ้า ก็ถ้าพระองค์ไม่ทรงมีอะไรเเล้ว กระหม่อมก็จะขอกลับไงพะย่ะค่ะ"

"ไป ไปข้างนอกกับข้า"ฝ่าบาทถอนหายใจก่อนที่จะเดินนำผู้เป็นน้องไป

"ท่านมุนจุน คุณหนูโฮอยากเข้าพบเจ้าค่ะ"

"โฮชิไม่ได้ไปเรียนดนตรีหรอกหรือ"มุน จุนอัครเสนาบดีฝ่ายเหนือได้ถามขึ้น

"ท่านพ่อขอรับ"เสียงนุ่มของเด็กผู้ชายพูดขึ้นเเล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน

"มีอะไรหรือเปล่า"

"ผมอยากไปเรียนที่จีนขอรับ"โฮชิพูดขึ้นด้วยเเววตาเป็นประกาย

"ไม่ได้"

"ท่านพ่อออออ"เเล้วเสียงงอเเงก็ดังขึ้นไม่เกินความคาดหมายของมุนจุน

"อย่างอเเงได้ไหม ที่นี่ก็มีอะไรให้เรียนตั้งเยอะ ภาษาราชวงศ์น่ะ จำได้หมดเเล้วหรือไง"มุนจุนพูดด้วยน้ำเสียงดุจนโฮชิไม่กล้าหืออือเเต่ก็ยังคงอ่านหนังสือต่อ

"ย..ยังขอรับ.."

"งั้นก็ไปเรียนซะ"

"เเล้วท่านพ่อจะให้ข้าเรียนไปเพื่ออะไรกัน เรียนไปก็ไม่ได้ใช้สักหน่อย ท่านพ่อให้ข้าไปเถอะนะะ ท่านพ่อมีญาติอยู่ที่นั่นนี่นาา นะขอรับ นะ นะ"โฮชิขอร้องพ่อบุญธรรมของตนอย่างวิงวอนจนเเขนของมุนจุนนั้นโดนเขย่าจนชาไปหมดเเล้ว

"ข้าจะให้เจ้าไปเป็นพระมเหสีของโชซ็อน"เมื่อโฮชิได้ยินเเบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่ชอบวังมากที่สุด เพราะในตำราที่เขาเรียนมา วังก็คือนรก

"ท่านพ่อ..." จากเสียงที่นุ่มเเละสดใสตอนนี้กลับเเผ่วลงเหมือนระลึกอะไรได้

"ทำไม เจ้ามีปัญหาอะไร ข้าเลี้ยงเจ้ามานะ จะเนรคุณข้าหรือไง"มุนจุนมองหน้าลูกชายบุญธรรมของตนอย่างเอาเรื่อง

"ท่าน..ท่านพ่อเลี้ยงข้า...เพียงเพราะข้าเป็นเบต้าใช่หรือไม่"โฮชิมองหน้าพ่อบุญธรรมของตนด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาเปื้อนเเก้มใสที่เเดงก่ำอย่างน่าสงสารเพราะเพิ่งได้รู้ความจริงว่าพ่อเลี้ยงนั้นไม่ได้คิดที่จะช่วยเหลือตนอย่างเเท้จริง เเค่มันเป็นเพียงเป็นการช่วยเหลือเพื่อหวังประโยชน์สนองความกระหายอำนาจที่ต้องการเป็นพระสัสสุระของเเผ่นดินนี้เท่านั้น

"ใช่"เพียงคำเดียวนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าพ่อบุญธรรมที่อุปการะเขานั้น ทำไปเพราะหวังผล อารมณ์ของโฮชิเริ่มประทุ

"ท่านกำลังจะเป็นเหมือนขุนนางที่ฆ่าท่านย่า! ท่านมันก็ไม่ต่างกับพวกขุนนางพวกนั้น! ท่านมัน..ท่านมัน..ฮึก..ฮือออ"

"ไปสงบสติอารมณ์เเล้วเตรียมตัวสำหรับงานคัดเลือกพระมเหสีซะ ถ้าไม่ทำตามที่ข้าบอก ข้าจะเผาหนังสือของเจ้าให้หมด"มุนจุนพูดด้วยน้ำเสียงคาดโทษเเล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งร้องไห้อยู่เลย

"ท..ท่านพ่อ..ท่านพ่อ! ฮึก...อึ้ก..ฮือออออ"เเล้วเสียงร้องไห้โฮของโฮชิก็ดังขึ้นเรื่อยๆจนคนใช้ต่างก็รีบไปตามตัวเพื่อนสนิทของคุณหนู หวังให้เสียงของคนหนูนั้นเงียบลง

"โฮชิ.."เสียวทุ้มต่ำพูดขึ้นท่านกลางห้องที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้เเต่ตอนนี้กลับเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ เเต่ก็มีคนบางคนกำลังนั่งหลบอยู่ในมุมมืดๆของห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้

"โดยองง"เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักของตนมาหา โฮชิก็ปล่อยลมที่อมออกมาอย่างดีใจเเล้วยิ้มจนตาเป็นขีดพร้อมกับเข้าไปกอดเพื่อนเเล้วก็อมลมเหมือนจะร้องไห้เหมือนเดิม

"มึงนี่นะ ร้องไห้จนคนเดินผ่านเรือนมึงหันมองทุกคนได้ยังไงกัน"โดยองพูดพลางกอดเเล้วลูบหัวเพื่อนของตนเหมือนที่เคยทำบ่อยๆ

"ก็ดูพ่อทำกับกูดิมึง มันไม่ได้ปะ"เสียงของโฮชิเริ่มสั่นเพราะคำว่า''ใช่''ที่พ่อของตนนั้นพูดขึ้นมามันกลับมาดังก้องในหัวอีกครั้ง

"โอ๋นะมึง เเต่ทำไงได้ เบต้าถ้าไม่อยู่ในวังก็ถูกขังอยู่ในเรือนรอวันเข้าวัง"

"ฮือออออออ มึงงง กูไม่อยากเข้าวังเลยย"

"ใครมันจะอยากอยู่ในนรก"โดยองพูดขึ้นพลางใจของตนก็เเอบดีใจที่พ่อของตนนั้นไม่เสนอชื่อเข้าลงตำเเหน่งนี้เเต่ก็ยังสงสารเพื่อนของตนอยู่ดี

"เนอะฮึก..ฮือออออ"โฮชิโอดครวญอีกครั้งเพราะเพื่อนสานต่ออารมณ์เศร้าของตน

"ใจเย็นๆ ฝ่าบาทอาจจะเป็นคนดีก็ได้ ฉายาว่าพระคงไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรอก"

"......พระ?"โฮชิทวนคำอีกครั้งด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน

"ไม่เเปลกหรอกที่มึงจะไม่รู้ ก็หมกตัวจนจะเป็นหนอนหนังสือดองเค็มอยู่เเล้วนี่เนอะ"

"ไอ้..."โฮชิคลืนคำด่าลงคอไปเเต่ปล่อยฝ่ามือฟาดไปที่บ่าของเพื่อนปากเสียเเทน

"โอ้ย มือหนักฉิบหาย ไอ้นี้"โดยองพูดพลางลูบบ่าตัวเองอย่างทุลักทุเล

"เเล้วยังไง พระอะไรนะ"

"ก็ฝ่าบาทน่ะ ไม่เเม้เเต่จะมองเบต้าหรือใครเลยน่ะสิ ลือกันว่าที่พระสนมคนก่อนที่หนีไป ก็ฝ่าบาทนี่เเหละที่ช่วยเพราะไม่ได้อะไรด้วยกันเลย พวกขุนนางนี่ส่งหลานเหลนเข้าไปเป็นนางในบ้างอะไรบ้างลักลอบเข้าวังเเล้วมอมเหล้าฝ่าบาทบ้าง ฝ่าบาทก็ไม่สนใจเลยสักนิด พระไหมล่ะ"

"ยิ่งกว่าพระ"สายตาของโฮชิหลุดออกมาด้วยเเววตาที่โล่งไปหนึ่งเรื่องเพราะฝ่าบาทคงไม่มายุ่งกับตนเป็นเเน่หากตนได้รับเลือกเข้าไปเป็นพระมเหสี

#Gyuking องค์ราชาสามราษฎร์

*นิยายเรื่องนี้ ไม่มีข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์เเต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน*

ไรท์ว่าไรท์งานงอกเป็นเห็ดอีกเเล้ว ฝากตัวด้วยนะคะเเอเเง

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!