03 ท่านประธานอยากเปลี่ยนเลขา!

ตอนนี้กลางประชุมครั้งใหญ่ได้จบลงแล้ว และเป็นไปตามคาดว่าต้องมาถึงสายแน่นอน และเราก็สายไป 30 นาที

"เลขาอิง ท่านประธานหล่อมากเลยเนอะ"

ผู้ช่วยเอิ่ม เป็นผู้ช่วยเลยขาให้กับฉัน พูดแสดงความชื่นชอบอย่างออกนอกหน้า

"ก็หล่อดี"

"แหม อะไรกันเลขาอิงไม่หวั่นไหวบ้างเลยเหรอ"

"ฉันมีลูกแล้วนะคะ จะหวั่นไหวอะไร"

"แต่สามีก็เสียไปแล้วหนิคะ"

ฉันชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มทันที ที่จริงแล้วฉันบอหทุกคนว่าสามีฉันเสียตั้งแต่ฉันท้องอ่อนๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะมายืนอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตาม ไม่ใช่สิ เขาไม่ได้มีฐานะอะไรเกี่ยวข้องกับฉันทั้งนั้น นอกจากอดีตคนนอกที่ลืมกันไปแล้ว?

ถ้าทุกคนรู้ว่าเด็กทั้งสองแท้จริงแล้วเป็นทายาทของที่นี้ แทบจะนึกภาพไม่ออกเลย และแน่นอนว่า พวกเขาต้องไม่มีวันรู้ว่าพ่อที่แท้จริง ก็คือประธาน JL กรุ๊ปแห่งนี้

ถ้าเกิดวันไหนเขารู้ขึ้นมา ฉันจะหนีไปให้ไกลที่สุด

"ผู้ช่วยเอิ่ม พูดอะไรแบบนั้น เห็นใจเลขาอิงบ้างสิ"

เลขามัสเอ่ยปรามผู้ช่วยเอิ่ม ซึ่งตอนนี้ก็ทำหน้าเศร้าหงอย ฉันยิ้มบางๆ

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เสียใจแล้ว"

"ขอโทษนะเลขาอิง ที่พลั้งปากพูดไปโดยไม่คิด"

"ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ผู้ช่วยเอิ่มรีบทำงานแล้วสรุปการประชุมวันนี้ ให้ฉันที ฉันจะส่งให้กับท่านรองประธาน"

"ได้ค่ะ"

"เลขาอิงคะ ท่านประธานเรียกพบค่ะ"

"ฉันเหรอคะ?"

ฉันทวนถามอีกรอบเมื่อเลขาของท่านประธานวิ่งหน้าตั้งมาหาฉัน

"ใช่ค่ะ ท่านไม่พอใจอย่างมาก"

"เรื่องอะไรคะ"

"คือทีมเลขาที่จัดสรรคให้ทำงานไม่ถูกใจท่าน..."

เสียงของเลขาเริ่มแผ่วลง ไม่พอใจทีมเลขาของตัวเองแล้วมาเรียกฉันทำไม

"ค่ะ ฉันจะไป เรียนท่านให้รอสักครู"

"เลขาอิงจะไปจริงเหรอคะ"

"มันไม่มีทางเลือกหนิคะ"

ฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เลขามัสที่นั่งอยู่ข้างๆส่งสายตาเอาใจช่วยมาให้ พร้อมทั้งผู้ช่วยเอิ่มที่มองฉันตาปริบๆ

"ฉันไม่ได้จะไปออกรบนะคะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว"

ฉันพูดแล้วอดอมยิ้มให้กับความเด๋อของทั้งสองคนไม่ได้

"เลขาอิงเชิญด้านในเลยค่ะ"

ทันทีที่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องประธาน เลขาคนที่วิ่งไปตามฉันกำลังเดินวนเวียนอยู่หน้าประตูทางเข้าอย่างร้อนรน

ไปทำเรื่องใหญ่อะไรไว้กันนะ

"พวกคุณทำงานพลาดในสถานที่ประชุมใหญ่ได้ยังไง ทำไมถึงไม่มีความรอบคอบกันเลย"

เสียงโวยวายจากคนข้างในดังออกมาถึงด้านนอก ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นคุณเลขาที่ยืนตัวสั่นอยู่

อย่าทำท่าทีแบบนั้นสิ ยิ่งกลัวๆอยู่

"เข้าไปกับฉันค่ะ"

ฉันดึงมือเลขามาและพาเดินเข้าไปด้านใน ฉันกวาดตาดูเลขาและผู้ช่วยเลขาที่กำลังยืนเรียงรายคอตกกันอยู่

'อย่างกับทำโทษเด็กนักเรียน'

ฉันเดินด้วยท่าทีสงบนิ่งเข้าไป คนร่างสูงมองมาที่ฉัน ฉันยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

จะเกิดอะไรก็ช่างเถอะ ยิ้มไว้ก่อน

"ท่านประธานเรียกดิฉันมามีอะไรให้ช่วยคะ"

เขาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานประจำตำแหน่ง เดินตรงดิ่งมาที่ฉันพร้อมกับในมือถือแฟ้มเอกสารยื่นมาให้ฉัน

ฉันมองมันอย่างงงๆ แต่ก็รับไว้และเปิดดูด้านใน

"คีย์ข้อมูลตกหล่นเหรอคะ"

"หุ้นในบริษัทหายไป 10 %"

เขาตอบฉันเสียงเรียบ ฉันมองหน้าเขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร สายตาตวัดไปเห็นเลขามาใหม่ที่ยืนตัวสั่น ตาแดงเหมือนจะร้องไห้ คงเป็นเธอสินะที่คีย์ผิด

"หุ้นจำนวนไม่น้อยเลยที่หายไป คุณจะรับผิดชอบไหวไหมกับเรื่องนี้"

"ขอ...ขอโทษค่ะ"

"แค่คำว่าขอโทษจะแก้ไขทุกอย่างเหรอ"

"งะ...งั้นฉันจะรีบไปแก้ข้อโทษมาให้นะคะ"

"ไม่ต้อง ให้เลขาอิงทำ"

ฉันและเหล่าทีมเลขาของเขามองหน้ากันอย่างตกใจ

"ท่านประธานคะ..."

"คุณทำให้ผมไม่ได้เหรอ"

ฉันยิ้มอย่างอึดอัดใจ

ทำน่ะมันทำให้ได้ แต่งานของฉันก็ล้นมือจะตายอยู่แล้ว

"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ตอนนี้ดิฉันกำลังสรุปการประชุมให้กับท่านรอง หากท่านประธานต้องการให้ดิฉันแก้ไขให้ ท่านต้องรอสักนานสักหน่อย"

เขามองหน้าฉันอย่างครุ่นคิด แล้วสายตาก็ย้ายไปที่เลขาคนที่เรียกฉันมา

"คุณเมย์ต่อไปนี้คุณย้ายไปทำงานกับรองประธานแล้วกัน"

"แล้วดิฉันล่ะคะท่าน"

ฉันเอ่ยถามอย่างรนลาน

"คุณก็ย้ายมาทำงานกับผม...แล้วก็ช่วยสอนงานเลขาดิวด้วย"

ง่ายขนาดนี้เลย

"คุณทำงานโต๊ะนั้นก่อนแล้วกัน เสร็จงานแล้วค่อยขนของมาแล้วกัน"

เขาชี้ไปที่โต๊ะข้างๆเขา ซึ่งเป็นโต๊ะของเลขาเมย์

"เดี๋ยวก่อนค่ะท่านประธาน...เอ่อ แล้วท่านรองล่ะคะ"

"ผมจะแจ้งให้ทีหลัง คุณสรุปประขุมวันนี้ให้ผมแล้วก็แก้ไขข้อมูลที่มันผิดด้วย ทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง"

"แต่ท่านประธานคะ...."

เขาหันมามองฉัน แล้วเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

"หรือคุณไม่อยากทำงานกับผม?"

ก็ใช่น่ะสิ ใครจะไปอยาก ฉันอยากหนีจากคุณจะตายไป

"เปล่าค่ะ "

"ดี คุณดิวต่อไปก็ให้เลขาอิงสอนงานก็แล้วกัน มีอะไรสงสัยก็ถามเลขาอิง"

"ค่ะ ท่านประธาน"

เลขาดิวขานรับหน้าเจื่อนก่อนที่จะพาทีมเดินคอตกออกไป เหลือเพียงฉันกับเขา ฉันเดินไปสำรวจดูโต๊ะของเลขาเมย์ที่ค่อนข้างเป็นระเบียบ

บรรยากาศอึดอัดเริ่มเข้ามาแทนที่ความเงียบ

'ทำไมต้องมาเจอกันด้วย!'

"คุณอยากให้ตั้งโต๊ะในห้องนี้หรือหน้าห้องดี"

"แล้วแต่ท่านประธานจะสะดวกค่ะ"

ฉันปั้นหน้ายิ้มตอบเสียงหวานไป เขาพยักหน้าหงึกๆ

"งั้นก็อยู่ในนี้แล้วกัน"

ฉันหุบยิ้มแทบจะทันที

"ดิฉันว่าตั้งข้างนอกดีกว่านะคะ ท่านประธานจะได้มีพื้นที่ส่วนตัว และดิฉันจะได้ประสานงานกับฝ่ายอื่นๆได้อย่างง่ายดาย"

"ตกลงคุณจะนั่งข้างนอก"

"ค่ะ"

ฉันสบตาของเขา แล้วความรู้สึกเมื่อสามปีก่อนก็แล่นผ่านเข้ามา แววตาตอนนี้กับวันนั้นมันช่างแตกต่างกันจริงๆ สายตาเล่ห์เหลี่ยมถูกแทนที่ตัวแววตาจริงจัง แข็งแกร่ง แววตาราชสีห์ยังคงอยู่

"คุณมองหน้าผมทำไม หน้าผมเหมือนใครเหรอ"

"คะ?"

"คุณจ้องผมเหมือนกับว่าหน้าผมเหมือนใครสักคนที่คุณรู้จัก"

"ฉันจะไปรู้จักคนหน้าตาเหมือนท่านประธานได้ยังไงกันล่ะคะ"

"บางทีคุณอาจจะลืมไปแล้วก็ได้"

?

คำพูดนี้มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ตกลงเค้าจำฉันได้หรือไม่ได้กันแน่ ฉันหวั่นใจกับคำพูดของเขาที่ดูเหมือนจะจำฉันได้

หรือจริงๆแล้วเขาแกล้งจำฉันไม่ได้กันแน่ ฉันยิเมกลบกลื่นความคิดที่กำลังจะตีกันจนยุ่งเหยิง

"คนหล่อเหลาอย่างท่านประธาน ดิฉันไม่มีทางลืมหรอกค่ะ "

"งั้นเหรอ"

"ค่ะ ต่อให้สบตากันแค่เสี้ยววินาที ดิฉันก็จำใบหน้าได้ค่ะ หรือแค่คุยกันเพียงสองสามประโยชน์ ดิฉันต้องจำน้ำเสียงของท่านได้แน่นอนค่ะ"

"เพราะอะไรล่ะ"

เขาวางปากการาคาแพงลงบนแผ่นกระดาษ จ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาแฝงความนัยน์อะไรสักอย่าง

"เพราะว่าท่านประธานดูดีมากๆในสายตาดิฉัน และน้ำเสียงของท่านมีเสน่ห์มากค่ะ"

ทันทีที่ฉันต้องมองนัยน์ตานั้น ฉันก็รู้สึกถึงความอันตรายขึ้นมาทันที เหมือนเมื่อสามปีก่อน

จริงๆแล้วเขาจำเธอได้รึเปล่า?

"แล้วก็อันตรายมาก"

"อะไรอันตราย"

"เอ่อ เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงตารางงานเดือนนี้เสร็จแล้วค่ะ"

ฉันยื่นแผ่นกระดาษที่เพิ่งปริ้นออกมาเมื่อกี้ให้เขา มือใหญ่เรียวสวยได้รูปยื่นมารับ เพียงเสี้ยววินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกัน ฉันก็รู้สึกไฟฟ้าสถิตเลยรีบชักมือออก

"ดิฉันจะไปชงกาแฟมาให้นะคะ"

"ไม่ต้องหรอก ผมดื่มกาแฟแค่ตอนเช้า"

"ค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวทำงานต่อ"

ฉันหันตัวมาทำงงานต่อ ในหัวก็ไม่วายที่จะคิดเรื่องคำพูดของเขาอย่างระแวด

16 : 30

ฉันเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ฉันรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันที

"คุณรีบร้อนจะไปไหน"

"คือดิฉันจะไปรับลู......"

ฉันชะงักทันทีที่กำลังจะพลั้งปากพูดคำว่าลูกออกไป สายตาใคร่รู้จับต้องมาที่ฉัน

"ดิฉันกำลังจะไปรับหลานน่ะค่ะ ดิฉันลืมบอกท่านไปว่าทุกบ่ายสามถึงสี่โมงฉันได้ขออนุญาตท่านรองเพื่อไปรับเด็กๆ "

"ที่บ้านไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ"

"ดิฉันอยู่กับหลานตามลำพังค่ะ"

"พ่อแม่ของเด็กล่ะ"

จะถามทำไมให้มันมากความกัน

"เสียชีวิตแล้วค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ"

ฉันไม่รอคำอนุมัติจากเขา ฉันรีบเดินออกจากห้องไปทันที

.

.

.

"มามี๊~~~~"

ลูกกวาดและอมยิ้มรีบวิ่งเข้ามาโผล่กอดฉันทันทีที่เจอหน้ากัน

"คนเก่งของมามี๊เรียนวันนี้เป็นไงบ้างคะ"

"ดีมากเลยค่ะ ลูกกวาดแบ่งขนมให้เพื่อนๆกินด้วย"

"เก่งมากค่ะคนเก่ง"

"วันนี้ลูกอมช่วยคุณครูลบกระดากดำครับ"

"เก่งจังเลย ลูกใครเนี่ยทำไมน่ารักแบบนี้ มาให้มามี๊จุ๊บแก้มคนละทีเลย"

ฉันก้มลงไปจุ๊บแห้มลูกสุดที่รักของฉัน พอมองใบหน้าที่น่ารักของทั้งสอง เด็กๆมีโครงหน้าที่เหมือนกับพ่อเขามาก มากซะจนเหมือนคนๆเดียวกัน

"วันนี้อยากทานอะไรกันคะ"

"วันนี้อมยิ้มอยากกินข้าวแกงกระหรี่ครับ"

"ลูกกวาดก็ด้วยค่ะ"

"โอเค งั้นไปอยู่กับน้าลูกจีนก่อนเนอะ"

ฉันขับรถพาเด็กน้อยไปส่งที่บ้านลูกจีน ลูกจีนทำงานอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ฉันมักจะมากลูกจีนดูเด็กๆ ฉันเองก็เกรงใจเพื่อนนะ แต่ก็โชคดีที่เด็กๆไม่ดื้อไม่ซนลูกจีนเลยชอบเด็กๆ

"อ้าว อิงมาช้านะวันนี้"

ลูกจีนเอ่ยทักฉันที่เดินเข้าไปในบ้าน ฉันถอดกระเป๋าเด็กๆวางไว้ที่โซฟา

"อืม งานเยอะนิดหน่อย"

ฉันเดินเข้าไปหาลูกจีนที่นั่งทำงานอยู่ สายตากวาดมองหาเด็กน้อยเมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองออกไปวิ่งเล่นที่สนามหน้าบ้าน ฉันก็หันมามองหน้าลูกจีนอย่างเครียดๆ

"อะไรวะ ทำไมมองกูแบบนี้"

"มึง กูเจอพ่อของลูกว่ะ"

"ห๊ะ!"

ลูกจีนดูตกใจมากถึงขนาดยอมทิ้งงานตรงหน้าเพื่อมามองหน้าฉัน

"มึงพูดจริงพูดเล่น"

"จริง"

"แล้วเขาจำมึงได้ป่ะ"

"เหมือนจะจำไม่ได้นะ แต่ก็ไม่รู้ว่าแกล้งรึเปล่า"

"ไปเจอกันได้ไงวะ"

ฉันเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้ลูกจีนฟัง รวมถึงเหตุการณ์ตอนเปลี่ยนตัวเลขาด้วย

"สุดยอดเลยว่ะ พ่อของลูกกลายมาเป็นเจ้านายเฉยเลย"

"มึงคะ กูกลุ้มจะตาย ถ้าเกิดว่าเขารู้ว่าเด็กๆเป็นลูกเขา กูกลัวว่าเขาจะเอาลูกกูไป"

ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ลูกจีนเอื้อมมือมาจับมือฉันเบาๆ

"ไม่ต้องเครียดมึง กูว่าถ้าเขาจำมึงไม่ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วไหนมึงจะบอกว่าเด็กๆเป็นหลานอีกเขาไม่รู้หรอก"

ฉันพยักหน้าเบาๆ แต่ก็ยังสลัดความกังวลออกไปไม่ได้

"เออ กูกลับไปทำงานล่ะ ฝากเด็กๆด้วย"

"อืม ไม่ต้องห่วงแล้วก็ไม่ต้องเครียด"

ฉันเดินออกจากบ้านลูกจีนพร้อมทั้งสตาร์ทรถกลับไปยังบริษัท

JL กรุ๊ป

"เลขาอิงคะ ท่านรองเรียกเข้าพบค่ะ"

ทันทีที่ฉันขึ้นลิฟต์มายังห้องท่านประธานก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ช่วยเอิ่มมาตามฉัน

'จะเรียกอะไรกันนักกันหนา'

"ค่ะ ฉันจะตามไป"

ฉันเดินตามผู้ช่วยเอิ่มไปอย่างว่าง่าย

ห้องรองประธาน

ฉันมองป้ายหน้าประตูอยู่สักครู่ ก่อนที่จะเก็บช่วยความเหนื่อยล้าทั้งหมดออกไป และใช้มือเรียวผลักประตูเข้าไป

"สวัสดีค่ะท่านรอง"

"มาแล้วเหรอเลขาอิง คุณช่วยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังที"

ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากกองเอกสารจ้องมาที่ฉันอย่างต้องการคำตอบ

"คุณไปเป็นเลขาให้ท่านประธานได้ยังไง คุณเป็นเลขาของผมไม่ใช่เหรอ?"

เขาเลิกคิ้วถามฉันอย่างใคร่รู้และเมือนบังคับตอบคำถามนี้ด้วย วินาทีนี้ฉันต้องใจเย็นให้มากที่สุด

เพราะคุณคนเดียวฉันถึงต้องมาเสียเวลา!

-------------------

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!