"เฮ้อ! งานแต่งก็เริ่มจะเข้ามาแล้ว กูจะทำยังไงดีวะ"
ฉันนั่งเหมือนคนไม่มีวิญญาณปากก็พูดกับเพื่อนสนิทอย่างเครียดๆและปลงในโชคชะตา
" เอาน่าอิง....อยู่ๆกันไปอาจจะรักกันก็ได้นะมึง"
"รักกับผีสิคะ"
ฉันว่าพรางกระดกแก้วเหล้าเข้าปากรัวๆ รสขมของเรายังไม่ขมเท่ารสชาติชีวิตฉันเลยแม้แต่น้อย
"มึง....ครอบครัวกูก็ไม่ได้ร่ำรวยนะ จะให้กูแต่งงานกับคนรวยๆไปทำไม"
"เขาก็อยากให้มึงสบายนั่นแหละ มึงแต่งกับคนรวยๆไปจะได้มีกินมีใช้ไง"
ฉันยิ้มให้กับความคิดของเพื่อนที่เข้าข้างพ่อแม่ฉันอย่างสุดโต่ง
" งั้นมึงมาแต่งแทนกูแล้วกัน"
"ไม่อ่ะ กูจะหาผัวเอง"
"เห็นไหมล่ะ มันยังหาอยากผัวเองแล้วกูล่ะ กูก็อยากหาเองเหมือนกัน"
"แล้วมึงจะทำยังไงล่ะคะ เหลือเวลาแค่เดือนเดียวมึงจะหาผัวมาทันไหมล่ะ"
ฉันฟังคำพูดของลูกจีนก็ยิ่งเครียดหนักไปอีก ตอนเรียนมหาวิทยาลัยมีคนเข้ามาจีบเยอะแยะ ดันไม่เอา คิดว่าตัวเองสวยมากไง เป็นไงล่ะ...พ่อกับแม่ดันหาผัวมาประเคนให้ถึงทีเลย เป็นเครียดวุ้ย!!
"เฮ้อ...อีอิงมึงก็แต่งๆไปก่อน แล้วค่อยหาเรื่องหย่าก็ได้ไหมมึง ไม่ต้องเครียดหรอกมึง"
"แล้วคืนเข้าหอล่ะมึง.....กูจะทำยังไง"
ฉันพูดอย่างจริงจัง เรื่องหย่ามันไม่ยากหรอกแต่เรื่องคืนวันเข้าหอนี่สิ ฉันจะจัดการยังไงก่อน ยิ่งเป็นครั้งแรกฉันยิ่งไม่อยากให้มึงไปสุดกระชากจากคนที่ฉันไม่ได้เลือกเอง
"กูอ่ะ อยากเสียซิงให้กับคนที่กูอยากให้จริงๆ กูไม่อยากไปนอนกับไอ้หน้าไหนที่กูไม่ได้เต็มใจ"
"มึงก็เลือกสักคนในนี้สิ ผู้ชายเยอะแยะ เอาแบบที่มึงชอบ เดี๋ยวกูรอจนกว่ามึงจะเสร็จเอง"
ฉันมองมันแล้วก็ส่ายหัวไปมาเบาๆ ให้ตายสิ ฉันจะทำยังไงกับอนาคตอันมืดมนนี่ดี
" กูหนีไปต่างประเทศดีไหมวะ"
"ช่วงนี้โรคมันเยอะ มึงออกนอกประเทศไม่ได้หรอก"
"ไอ้นี่ก็ไม่ได้ ไอ้นั่นก็ไม่ได้ นี่กูต้องยอมแต่งจริงๆเหรอวะ"
โว๊ยยยยย นึกถึงงานแต่งทีไรแล้วจิตใจห่อเหี่ยวทุกที เหล้าคงเป็นยาย้อมใจชั้นเลิศในตอนนี้แล้วล่ะ
"หรือกูจะทำอย่างที่มึงว่าดีวะ"
ฉันที่เริ่มรู้สึกมึนๆ แล้วก็เริ่มหาทางออกไม่ได้หันไปหาเพื่อนที่กำลังกินเหล้าอยู่ข้างๆ มันมองหน้าฉันก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย
"มึงจะเอาจริงเหรอ ถ้ามึงเมาแล้วกูจะพากลับบ้าน"
ลูกจีนจับมาที่แขนฉันแล้วออกแรงดึงฉันขึ้นไป แต่ฉันขืนตัวเองเอาไว้แล้วแกะมึงมันออก สายตาสอดส่องไปทั่วแล้วก็หันมายิ้มให้มัน
"อย่างน้อยคนที่กูเสียซิงให้ก็เป็นคนที่กูเลือกเอง"
"ผู้ชายในผับนี่นะมึง เป็นใครก็ไม่รู้...ถ้าติดโรคขึ้นมามันไม่คุ้มกันนะมึง"
"ก็ช่างมันปะไร ดีซะอีก กูจะได้ไม่ต้องนอนกับมัน เผลออาจไม่ต้องแต่งงานเลยก็ได้"
ฉันที่เริ่มโวยวายอย่างไม่สนใจใครเพราะความเมา บอกกับลูกจีนแบบไม่สนใจอะไรแล้ว ลูกจีนขยี้หัวตัวเองอย่างเหลือดอด
"มึง....ถ้ามึงตายล่ะวะ"
"ไม่เป็นไรหรอก บ้านกูญาติพี่น้องเยอะ...พ่อแม่กูไม่อดตายหรอก"
"โถ่ อิดอก สมองคิดได้แค่นี้ มึงเรียนจบมาได้ไงวะ"
" ช่างกูเถอะ...กูจะไปหาผู้ชายมานอนด้วยคืนนี้ มึงไม่ต้องมายุ่ง"
"อีอิง ใจเย็นๆ อย่าวู่ว่าม คนในนี้มันไม่รับผิดชอบมึงหรอกนะ"
"กูไม่ได้จะให้มารับผิดชอบหนิ กูจะฟันแล้วก็ทิ้ง ใครๆก็ทำกัน....มึงไม่รู้เหรอ"
" เมาแล้วเลอะเทอะนะมึง ไป....กลับบ้าน กูจะไปส่ง"
"ไม่!! มึงกลับไปก่อนเลย วันนี้กูไม่กลับบ้าน"
"แล้วมึงจะไปไหน"
"คงจะม่านรูดสักที่แหละ บาย!"
"เฮ๊ย! มึงจะไปไหนอิง มึงกลับมาก่อน"
ฉันไม่ฟังคำทักท้วงของเพื่อนรีบเดินฝ่าเข้าฝูงชนที่เต้นแร้งเต้นกาอย่างสนุกสนาน แต่คนลำบากคือฉันนี่แหละที่ต้องมาฝ่าดงกลิ่งจั๊กแร้ที่ไม่พึ่งประสงค์ ให้ตายเถอะ! มีเงินซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาใส่ แต่ไม่มีเงินซื้อโรลออนมาใช้กันรึไง เหม็นเปรี้ยวชิบหายเลยค่ะ
ปึก!
"อ๊ะ!...."
"เป็นอะไรรึเปล่า"
ฉันเงยหน้ามองคนที่ถูกฉันชนเข้าเต็มๆ ฉันทำปากพะงาบๆแต่ไม่มีเสียงพูดออกมา จะว่าอึ้งในความหล่อก็ได้ คนอะไรหล่อควายตายวัวล้ม อิฉันอยากได้ ฉันซบลงไปที่อกของเขาแสร้งทำเป็นเมาไม่รู้เรื่องไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเดินผ่านฝูงชนมาได้ก้เถอะ
"คุณไหวรึเปล่า"
"โอ๊ย....ฉันรู้สึกเวียนหัวมากเลยค่ะ คุณช่วยไปส่งฉันที่รถได้ไหมคะ"
"หึ!"
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ ฉันยิ้มออกมาให้เขาบางๆเน้นยั่วยวนด้วยสายตา ไม่คิดเลยว่าวิชาที่เคยพับเก็บไปเมื่อหลายปีวันนี้จะได้ใช้มันอีก แต่ดูๆไปแล้วเขาก็คงจะไม่เบาสินะ ก็ดี! เวลารู้ว่านี่คือครั้งแรกของฉันจะได้ไม่ต้องมาสนใจอะไร
"ผมไม่หลงกลคุณหรอกนะ สาวสวย"
"แย่จังเลยนะคะ พอดีว่าอยากให้หลง"
เขายิ้มบางๆมากให้ฉันพรางก้มลงมาที่ข้างหูจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจเข้าออกที่มันร้อนวูมวาบ ฉันหายใจติดขัดเล็กน้อยเพราะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าใกล้ฉันได้ขนาดนี้ แต่วันนี้เป็นข้อยกเว้นก็แล้วกัน!
"แน่ใจเหรอ"
ฉันส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ รอยยิ้มร้ายกาจตามแบบฉบับผู้ชายแบดๆรักสนุกไปวันๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
"คุณเสนอ ผมสนอง ต้องการเท่าไหร่ล่ะ"
"ชู่ว์....."
ฉันใช้นิ้วชี้เรียวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีทาเล็บสีแดงสด แตะไปที่ริมฝีปากได้รูปของเขาเบาๆ สบตาคู่คมกริบ สายตาที่มีเสน่ห์เย้ายวนแล้วก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน นี่มันคือแววตาราชสิห์ที่หิวโหย!
30 นาทีต่อมา
ตอนนี้เราอยู่กันที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากผับที่เราออกมามากนัก ฉันกำลังอาบน้ำเตรียมตัวทำอะไรบางอย่างถ้าสำเร็จก็โชคดีไปแต่ถ้าไม่ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ไม่นานชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดก็มาอยู่บนตัวฉัน ฉันมองตัวเองในกระจกใบหน้าที่เคยถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางถูกลบออกจนหมดเกลี้ยง
"เอาวะ! เสี่ยงดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย"
มีแต่จะเสียใจเท่านั้นแหละ
แอ๊ดดด
เสียงเปิดประตู้ห้องน้ำดังขึ้น ฉันก้าวขาออกมาพยายามทำตัวให้มันปกติให้มากที่สุด พยายามที่จะไม่เผยพิรุธหรือความกลัวออกมาให้ผู้ชายตรงหน้าเห็น
"พร้อมรึยัง"
เขาบอกหน้าฉัน ยิ่งออกมาอยู่ข้างนอกด้วยแสงสีขาวยิ่งเห็นใบหน้าที่สมบรูณ์ที่หาที่ติไม่ได้ ยิ่งเห็นใบหน้าชัด ก็เห็นสีหน้าชัดเหมือนกัน ทั้งกิริยาท่าทางต่างๆที่ดูเย่อหยิ่ง แต่ก็ยังคงมีความร้ายกาจ
"ฉันต้องถามคุณมากกว่า พร้อมรึเปล่าสำหรับศึกครั้งนี้ที่ฉันจะมอบให้คุณ"
"พูดเหมือนจะไปออกรบอย่างนั้นแหละ ตอนแรกผมก็คิดว่าคุณจะมาอ่อยเล่นๆ ไม่คิดว่าจะเอาจริง"
"ฉันไม่เคยเล่นๆ"
เขาเริ่มปนกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างใจเย็นไม่รีบร้อน พร้อมกับขาที่ก้าวเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ ฉันยอมรับว่าจังหวะนี้ถึงแม้ว่าเมาอยู่ก็ยังต้องสร่างเมาทันที ฉันเผลอก้าวถอยหลังด้วยความตื่นกระดกไปหนึ่งก้าวแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะต้องทำอะไรอยู่ก็ต้องยับยั้งตัวเองทันที แล้วรวบรวมเอาความกล้าทั้งหมดที่ยังหลงเหลืออยู่เอาออกมาใช้
'นอนกับคนแปลกหน้าทั้งที่เจอไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง กูแม่งโคตรแอดวานซ์'
"กลัวเหรอ"
"เรื่องแค่นี้ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ"
ฉันก้าวเดินไปใกล้เขาให้มากขึ้นแสดงให้เห็นว่าฉันไม่ได้กลัวเขาอย่างที่คิด แต่เขากลับไวกว่าฉันมา ในขณะที่ฉันก้าวเข้าไปหาเขา เขาก็ถือโอกาสนี้คว้าตัวฉันเข้าไปแนบสนิทกับตัวเขา
'น้องอิงรับรู้ได้ถึงมัดกล้ามที่แน่น'
"กลัวไหม"
"คิดจะลองเชิงฉันเหรอคะ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ"
ฉันประคองใบหน้าของเขาแล้วจ้องเข้าไปในนัยน์ตานั้น ฉันต้องกล้าขนาดไหนที่ต้องมาสบสายตากับคนที่มีดวงตาที่อันตรายมากแบบนี้ได้ ฉันหายใจเข้าออกอย่างยากลำบาก น้ำลายก็เหนียวหนืดจนกลืนลงคอลำบาก ความกล้าเพียงสุดท้ายที่พอจะมีเหลืออยู่บ้างเพียงน้อยนิด ประคองใบหน้าเขาเข้ามาใกล้ ตัวฉันเองก็ยังต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นไป ริมฝีปากอวบอิ่มขอฉันประกบลงบนปากเขา มือที่ประคองหน้าเปลี่ยนมาเป็นโอบรอบคอแทน
มือหนาโอบรอบเอวบางที่จู่โจมเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว การประกอบจูบที่ดูกระทันหันและเก้ๆกังๆ การสอดประสานลิ้นที่ดูไร้ประสบการณ์ก็ทำให้เขาเริ่มงุนงงว่านี่คือการแสดงหรือว่าตัวตนของเธอกันแน่ เขาปลดสายรัดเอวของเธอออกปลดเปลื้องเสือคลุมเกะกะนี่ออกไป เขาค่อยๆพาเธอเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง พร้อมกับการจูบที่ดูไม่ได้เรื่องของเธอ แต่กลับทำให้หัวใจเขากระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที
หลังจากการเล้าโลมที่ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนนำและเธอเป็นคนตามได้ผ่านมาสักพัก และเขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าเธอน่าจะพร้อมแล้ว มือหนาคว้าหาถุงยางอนามัยที่พกติดตัวมา แต่แล้วมือบางก็จับมือเขาไว้ เขาก้มมองเธออย่างสงสัย
"ไม่ต้องใช้หรอก"
"คุณรู้รึเปล่าว่ากำลังพูดอะไรออกมา หรือคุณจะหวังให้ผมรับผิดชอบอะไร"
"ไม่"
ฉันส่ายหน้าน้อยๆ ในหัวเริ่มประมวลเหตุผลมา
"ฉันได้ยินมาว่าไม่ใส่มันรู้สึกดีกว่า ฉันเลยอยากจะลองสักครั้ง"
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมไม่รับผิดชอบนะ"
"ฉันไม่ได้จะให้คุณมารับผิดชอบฉัน และฉันก็ไม่มีโรคอะไรคุณวางใจเถอะ"
มีแต่ฉันนี่แหละที่กลัวว่าอาจจะติดโรคมาจากเขา
"คุณพูดเองนะ"
"อืม"
หลังจากที่พูดคุยกันอยู่สักครู่เขาก็ตัดสินใจทำแบบที่ฉันบอก และแน่นอนวาความเจ็บหน่วงมันแล่นไปทั่วบริเวณ ความเจ็บปวดครั้งแรกที่เกินจะบรรยายได้มันได้ก่อตัวขึ้นจนฉันเองก็เริ่มจะเก็บทรงไม่อยู่ หยาดน้ำตาร่วงลง
"อึก"
ฉันที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดไว้ ก็เตรียมใจมาแล้วบ้างแต่ไม่คิดว่ามันจะเจ็บกว่าที่คิดเอาไว้
"นี่คุณ....ทำไม"
เขามองหน้าฉันด้วยความสับสน ถึงตอนนี้เขาคงรู้แล้วล่ะว่าฉันไม่ได้เก่งกาจอย่างที่พูดและแสดงออกไว้
"อย่าสนใจ ฉันไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบอะไร ได้โปรดทำต่อเถอะ"
"คุณยังไม่เคยจริงๆสินะ"
ฉันหลับตาลงรับการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา จนไม่ได้รับรู้เลยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ใครบางคนได้พึงพอใจอย่างมากในตัวตนที่ฉันเก็บมันไว้
1 เดือนต่อมา
"เชิญคุณอิงเดือนที่ห้องตรวจค่ะ"
ฉันเดินเข้าไปในห้องตรวจที่มีหมอนั่งรออยู่ หมอมองหน้าฉันแล้วยิ้มให้อย่างใจดี
"ยินดีด้วยนะครับ คุณตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว"
"ฉันท้องจริงเหรอคะหมอ"
ฉันเอ่ยถามอย่างดีใจ ไม่เสียแรงจริงๆที่ฉันเสี่ยงที่จะมีอะไรกับพ่อของเด็กในคืนนั้น แค่นี้มันก็พอที่จะทำให้งานแต่งล้มเลิกไปได้
"จริงครับ ต่อไปก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ"
หลังจากฟังผลตรวจเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องหมอ มือบางลูบไปที่หน้าท้องน้อยๆของตัวเอง พร้อมกับความยินดีที่เกิดขึ้น
"แม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดนะคะเด็กดี ต่อให้หนูไม่มีพอก็ไม่เป็นไรแม่จะดูแลให้สุดความสามารถ"
ฉันกล่าวกับลูกน้อยของตัวเอง และทีนี้ก็คงถึงเวลาต้องสะสางเรื่องที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้วสินะ
-------------------------
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 13
Comments