ลำนำเเห่งดารา โชคชะตาลิขิตฝัน
ณ ที่ที่เเสนไกล ห่างไกลออกไปจากเมืองมีเด็กชายคนหนึ่งเฝ้ามองดวงดาวนับล้านบนฟ้า เด็กชายเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีทั้งพ่อเเละเเม่ สิ่งที่เขาจำได้จากเเม่นั้นคือ อ้อมกอดอันอบอุ่นเเละคำพูดที่เต็มไปด้วยปริศนาคือ"ภายใต้แสงจันทรา เหล่าดวงดาราจะนำพาเจ้าไปที่…เมื่อยามตัวเเทนทั้งทิวาเเละราตรีมาบรรจบพบพาน”เด็กชายไม่รู้คำที่หายไปนั้นเเละเลิกที่จะค้นหาไปนานเเล้ว เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป ในวันหนึ่งเมื่อดวงตะวันเริ่มสาดเเสงอีกครั้ง เปรียบเสมือนวันใหม่ที่เปลี่ยนชีวิตเด็กชายไปตลอดกาล…
“อ่า…เช้าอีกเเล้วหรอเนี่ย” เด็กชายที่นอนอยู่บนเนินหญ้ากล่าวออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะได้ยินเสียงบางอย่างจึงรีบวิ่งลงมาจากที่ๆเขานอนอยู่
“เเซ่กๆ…เเกรกๆ..”
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!”เด็กชายตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจนัก
“เเหะๆ ขอโทษนะ”จู่ๆก็มีเด็กสาวคนหนึ่งโผล่ออกมาจากพุ่มไม้เเละแนะนำตัว
“เอ่อ..คือ เราชื่อ…”เด็กหญิงลังเลใจว่าจะบอกดีหรือไม่
“ชื่อ?”เด็กชายเอียงคอเเละยื่นหน้าเข้ามาถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“หวะ…หวา!!”เด็กสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ
(กะ..ใกล้.ใกล้เกินไปเเล้วววว!!!)เด็กสาวคิดในใจพร้อมเอามือมาปิดหน้าที่เเดงก่ำของเธอทันทีในทันที
เด็กชายที่เห็นดังนั้นคิดว่าเด็กสาวจะร้องไห้จึงยื่นหน้ามาใกล้เข้าไปอีก เมื่อเด็กสาวลืมตาขึ้นมาก็ได้สบตากับเด็กชายเเละผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว
เด็กชายที่เห็นดังนั้นก็นึกอยากจะเเกล้งเด็กสาวขึ้นมาจึงเเกล้งล้มเเล้วนอนลง “โอ๊ยยย!!! เจ็บอ่าาา”เด็กชายตะโกนร้องลั่นพร้อมนำมือมาปิดหน้าทำทีเหมือนจะร้องไห้
“ขะ..ขอโทษ”เด็กสาวรีบวิ่งมาเเล้วกล่าวคำขอโทษโดยหารู้ไม่ว่ามือที่เด็กชายปิดหน้าไว้นั้นกำลังบังรอยยิ้มที่เเสนสะใจของเด็กชายเอาไว้
เด็กชายที่คิดว่าเเกล้งพอเเล้วจึงกำลังจะลุกขึ้นเพื่อเฉลยเเต่นั่นก็สายไปเสียเเล้ว หยาดนำ้ตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าเเละความรู้สึกผิดได้ไหลออกมาพร้อมกับเสียงร่ำไห้ของเด็กสาว
“ฮึก..ฮึก..ฮืออ”เด็กสาวได้ถูกเด็กชายหลอกเข้าเต็มๆเเละดูเหมือนจะเกินกว่าที่เด็กชายคิดไว้
“เอ่อ..เอ่อออ..อ่าา”เด็กชายไม่ทันตั้งตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำลังหาวิธีปลอบใจเด็กสาว
(...อ่าใช่!! นั่นไง..ถ้าเป็นนั่นต้องได้ผลเเน่!)เด็กชายคิดในใจก่อนจะทำสิ่งที่เด็กสาวไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น
“..ฟึ่บ..”เด็กชายสวมกอดเด็กสาวอย่างนุ่มนวล เเละค่อยๆปลอบประโลมเด็กสาวอย่างช้าๆ
เด็กสาวได้หยุดร้องไห้ด้วยความอบอุ่นที่เด็กชายมอบให้เเต่ความเขินกลับเข้ามาเเทนที่อย่างรวดเร็ว
“นะ..นี่...มันรู้สึกเเปลกๆอะ”เด็กพูดออกมาอย่างเคอะเขิน-\\-
“ทำไมอ่ะ เป็นไข้หรอหน้าแดงเชียว”เด็กชายพูดออกมาพร้อมคลายอ้อมเเขนลงด้วยความเป็นห่วงและไม่เขินเลยสักนิด
“เปล่า”เด็กสาวตอบอย่างห้วนๆเเละรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยกับนิสัยเเละความซื่อของเด็กชาย
“เเล้วก็ทีหลังอย่าจู่ๆก็เข้ามากอดกันสิ เราตกใจนะ”เด็กสาวพูดออกมาเเละเเสดงสีหน้าโกรธอย่างเห็นได้ชัด
“นี่..โกรธหรอ..”เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะง้อ
“เปล่า”เด็กหญิงตอบอย่างห้วนๆอีกครั้งพร้อมทำหน้าบูดบึ้งใส่เด็กชาย
“ไปเล่า..ชั้นจะกลับบ้าน”เด็กสาวลุกขึ้นเเละกำลังจะวิ่งออกไป
“ดะ..เดี๋ยวก่อน!!”เด็กชายตะโดนพร้อมจับมือเด็กสาวเอาไว้
“ระ..เราเป็นเพื่อนกัน..ได้มั้ย”เด็กชายกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เขินอย่างเห็นได้ชัด
“อยู่ด้วยกันก่อนได้มั้ย ข้าไม่เคยมีเพื่อนมาก่อนเลย...”
“นะ..ข้าขอโทษ..ข้าขอโทษ...”เด็กชายพูดมันออกมาจากใจจริง
“เด็กสาวเเม้จะได้ยินดังนั้นเเต่ก็เลือกที่จะวิ่งออกไป”
เด็กชายนั่งกอดเข่าเเละกล่าวโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาที่เเม้เเต่เพื่อนคนเดียวก็ยังรักษาไม่ได้ ความเศร้าถาโถมเข้าใส่เด็กชาย น้ำตาที่ไม่เคยจะหลั่งออกมาเป็นเวลานานได้หลั่งออกมาเพื่อปลอบใจตัวเอง เด็กชายได้ร้องออกมาเพื่อระบายความในใจทั้งหมดออกมา “เพราะข้าเป็นอย่างนี้ เพราะข้าเป็นเด็กไม่ดี ท่านพ่อกับท่านเเม่ถึงทิ้งข้าไป เเม้เเต่ความรู้สึกของตัวเองข้ายังไม่เข้าใจ ข้าถึงไม่เคยมีเพื่อนสักที!! ข้าไม่เคยเข้าใจใครเลย เพราะเป็นเเบบนี้ข้าเลยไม่มีเพื่อนสักคน!! เพราะข้า..เพราะข้า.. มันถึงเป็นแบบนี้!!!..”เด็กชายกล่าวโทษตัวเองซำ้ไปซำ้มาโดยหารู้ไม่ว่า เบื้องหน้าของเขามีเด็กสาวคนนั้นจ้องมองเขาอยู่
“นี่..”เด็กสาวกล่าวทักเด็กชาย
“ข้าว่ามันได้เวลาอาหารเเล้วนะ”เด็กสาวเอ่ยออกมาด้วยนำ้เสียงเป็นห่วง
(“ข้า”อย่างนั้นหรอ ปกติไม่เเทนตัวเองว่า “ข้า”นี่นา เเถมนี่มันยังไม่เที่ยงเลยนะ ข้าว่ามันเริ่มเเปลกๆละนะ)เด็กชายคิดในใจ
“นะ..นี่มันยังไม่เที่ยงเลยนะ จ..จะกินข้าวเเล้วหรอ”เด็กชายกล่าวออกมาอย่างติดๆขัดๆ
“ก็คงงั้นเเหละนะ เพราะพวกมนุษย์น่ะ กินข้าวเป็นเวลานี่นา\~”เด็กสาวเริ่มทำตัวแปลกขึ้นเข้าไปทุกที
“อยากเจอมั้ยล่ะ เด็กสาวปริศนาคนนั้นน่ะ”ร่างกายของเธอค่อยๆเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้
“..ชะวิ้ง..ฟึ่บ..”ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของเด็กชายคือเเม่มดสาวที่มาแทนที่เด็กสาวคนนั้น
“ขะ..ใครน่ะ”เด็กชายรีบวิ่งไปหลังต้นไม้ใกล้ๆเเละยื่นหน้าออกมามองเเม่มดสาว
“นี่\~ ไม่คิดจะตอบคำถามเค้าหน่อยหรอ\~”เเม่มดสาวพูดออกมาด้วยนำ้เสียงที่มีเลศนัย
“ไม่อยากเจอนายหญิงของข้าหรือไงกันน\~”เเม่มดสาวยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอย่างต่อเนื่อง
“นะ..นายหญิงงั้นหรอ”เด็กชายกล่าวออกมาด้วยนำ้เสียงงุนงง
“ช่ายย นายหญิงของข้ายังไงล่าา อยากเจอรึเปล่า\~”
“กะ..ก็อยากอยู่หรอก..”เด็กชายพูดออกมาอย่างคะเขิน
“มันต้องอย่างนี้สิพ่อหนุ่มม\~”
“พึ่บ!!.. อะนี่ นายหญิงข้าฝากมาให้เจ้า”เเม่มดสาวยื่นมงกุฎดอกไม้ที่ร้อยเรียงอย่างสวยงามมาให้เด็กชาย เป็นมงกุฎที่สวยที่สุดที่เด็กชายเคยเจอมาเเละห้อยป้ายไว้ว่า “ไว้พบกันอีกนะ”
เข้าสู่ช่วงงงให้คนดูทายยย#1
ดอกไม้ที่เด็กสาวใช้ทำมงกุฎดอกไม้คือดอกอะไรกันนะ นี่คือคำใบ้”เป็นดอกไม้ขนาดเล็ก มีสีหลักๆคือสีฟ้า สีนำ้เงินไปจนถึงนำ้เงินอมม่วงนิยมให้เป็นช่อเพราะดอกมีขนาดเล็ก มีความหมายที่สอดคล้องกับข้อความที่เด็กสาวเขียนมาบนป้ายชื่อ และนี่ไม่ใช่ชื่อของเด็กสาว”นี่คือคำใบ้ค่าาา ถ้ารู้ก็จะทำให้เข้าใจสิ่งที่เด็กสาวจะสื่อได้ลึดซึ้งมากขึ้นนั่นเองงง
เข้าสู่ช่วงพูดคุยเเละชี้เเจงกับคนดูววว
เเละเเน่นอนว่าถึงจะบอกชื่อเเล้วเเต่วัณก็ยังจะเรียกทั้งสองคนว่าเด็กสาวและเด็กชายนะคะ ถ้าเรื่องนี้กระเเสตอบรับดีวัณจะมาเขียนต่อ เเละบอกชื่อเล่นตัวเองด้วย555 เเล้วชื่อนักเขียนน่ะอ่านว่า บ า บิ โ ล น นะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเเอดเอง มันก็จะตื่นเต้นหน่อย เเรงบันดาลใจก็มาจากที่ในเเอปเเอดหานิยายเเบบปกติไม่เจอเลย เจอเเต่เเบบเเชทเลยมาเเต่งเองซะเลยเป็นนักเขียนหน้าใหม่มันก็จะไฟแรงหน่อย555 ถ้าอยากรู้หรือบอกอะไรเพิ่มก็เม้นไว้ด้วยนะ ถ้าเม้นวัณจะดีใจมาก เเล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าน้อนจะไม่มีชื่อนะ มีชื่อเเน่นวนเเค่ยังไม่บอกตอนนี้ค่าา (กว่าจะเจอชื่อที่ถูกใจก็ไปหาหลายวันอยู่555)
ปล.ถ้ามีตรงไหนพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วยน้า วัณเองก็เป็นทั้งนักเขียน บก. เเล้วก็หน่วยพิสูจน์อักษรในเวลาเดียวกัน555
เเละอีกอย่างนึงถ้ามาพิมพ์ว่า “อัพ” “อัพหน่อย” “อัพสักทีเถอะ” “อัพสิ” “อัพเหอะ”ถ้าจะทวงก็ทวงได้เเต่อย่ามาพิมพ์ห้วนๆอย่างงี้วัณไม่ชอบถ้าเจอนะวัณจะโกรธเเล้วไม่อัพจริงๆด้วย!! ถ้าจะลาหรือหยุดยาววัณจะมาเเจ้งด้วยตัวเองค่ะ วันนี้ก็ขอลาไปก่อนบายจ้าาา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments