คนนี้...พ่อเลี้ยงขอ!
: เกริ่นนำ :
Best Friend or Bad Friend
เพื่อนรักเพื่อนร้าย
ร่างอ้อนแอ้นอรชรในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทจีบรอบความยาวคลุมข้อเท้า
ปกปิดเรียวขาขาวไว้อย่างมิดชิดย่ำก้าวไปข้างหน้า
นัยน์ตาคู่สวยเศร้าหมองมองพื้นหินอ่อนบนทางเดินที่เชื่อมต่อกันระหว่างตึกเรียงราย
มือเย็นเฉียบทั้งสองของเธอกำลังกอดกุมอุปกรณ์การเรียนอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าผ้าใบโปรดไว้แน่น
ๆ เพื่อซึมซับความสดใสร่าเริงของสาววัยใสไว้ให้มากที่สุดในเวลาที่เธอยังอยู่ในสถานที่แห่งนี้
มหาวิทยาลัย...
เมื่อใดที่ก้าวขาออกไปแล้วคงไม่ได้มีชีวิตเหมือนเพื่อนคนอื่น
ๆ ไม่ได้เที่ยวเล่น เดินห้างสรรพสินค้า หรือไปรวมกลุ่มกับใคร
เพราะเธอดันมีธุระประปรังที่นับว่าเป็นเรื่องจุกจิกอยู่มากมาย...
ใช่ว่าเธอไม่มีเวลาขนาดนั้นเมื่อธุรกิจกำลังไปได้สวย
ปรายลดาแค่กำลังสนใจเรื่องหาเงินมากกว่าเรื่องเรียน
จึงตั้งใจจะตรงกลับบ้านไปทำงานของตนต่อ
ไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีบางคนกำลังตามหาตัวเธออย่างบ้าคลั่ง
“พุทรา! แกจะไปไหน?” เสียงแหลมปรี้ด รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดจึงหยุดก้าวลงแล้วหันกลับไปหาเพื่อนที่ดึงรั้งต้นแขนของเธอไว้เบา
ๆ ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองใจ
“งานของหญิงแย้ม
แกทำเสร็จหรือยัง?”
“เดี๋ยววันนี้ฉันทำให้นะปริม”
ในน้ำเสียงแผ่วลงตอบหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน
ความเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล
เธอรู้ว่านัชชาไม่ได้อยากมาจิก เพราะเพื่อนคนนี้มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด
“อาทิตย์ที่แล้วแกก็พูดแบบนี้
แกผลัดไปเรื่อย ๆ กี่ทีละ”
“ฉันก็ทำไปบ้างแล้วป่ะ
แค่ยังไม่เสร็จ อย่าเร่งสิ”
“ไม่เร่งแล้วมันจะเสร็จไหมล่ะ? งานเดดไลน์พรุ่งนี้นะ ไม่งั้นหญิงแย้มเอาตาย
แกก็รู้ว่าแม่ไม่หักคะแนนอย่างเดียว จะได้ทำเพิ่มอีกสามเล่มไปเป็นของไหว้ท่านแม่
แล้วฉันจะไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งด้วย”
คำสั่งเรื่องเวลาส่งงานอาจารย์สุดโหดผู้ได้รับฉายาว่า ‘คุณหญิงแย้ม’ คือคำขาดบาดคอตาย!นักศึกษาระดับชั้นปีที่สามเทอมสุดท้ายคงไม่มีใครอยากถูกตัดคะแนนแล้วยังต้องทำงานเพิ่ม
ใช่เพียงเท่านั้น ใคร ๆ ก็อยากจะได้ใบปริญญาตัวเลขสวย ๆ
ไปให้พ่อแม่ที่บ้านได้ชื่นชมในเร็ววัน
“ฉันทำงานด้วยนะเว้ย
เห็นใจบ้างดิปริม บ้านฉันไม่ได้รวยอย่างแก อยากได้อะไรก็ได้
ขนาดมาเรียนฉันยังต้องนั่งรถเมล์มา”
“แกก็พูดไปเรื่อย
พูดยังกับว่าฉันรวยคับฟ้า ขับพอร์ชมาเรียนงั้นแหละ”
“แกไม่ได้ขับพอร์ช
แต่แกขับบีเอ็มสปอร์ตมาเรียน... คงไม่ต่างมั้งเพื่อน” เบ้ปากประชด
ปรายลดาไม่ได้นึกอิจฉาลูกเศรษฐีอย่างนัชชาที่มีคุณแม่เป็นถึงเจ้าแม่ปลากระป๋อง
ทั้งขายในประเทศ ส่งออก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันแล้วทั้งชีวิตของเธอไม่มีวันหาได้
“นั่นมันรถแม่ฉันป่ะ
ฉันอุตส่าห์กราบงาม ๆ ขอมาเพื่อขับไปรับไปส่งแก แหม... จะมาทำบ่นอะไร”
“คราวหน้าจะไม่นั่งแล้วล่ะ
ฉันว่า... ฉันจะเลิกกินปลากระป๋องไปทั้งชีวิตด้วย”
นัชชาหัวเราะออกมา
ยกมือขึ้นป้องปาก รอยยิ้มเลือนหายไปในอีกครู่ “แกเลิกกินปลากระป๋องไม่ได้หรอก
ตราบใดที่แกยังไม่รวย... แล้วฉันจะบอกอะไรให้อย่าง ฉันจะไปทำงานกับแก ไปวันนี้
เดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลย เพราะฉะนั้น รายงานกลุ่มของเราต้องเสร็จ!”
คำขู่ฟ่อนั้นว่าทำแน่
ปรายลดาถึงกับอ้าปากค้าง
เพราะการที่จะให้ลูกผู้ดีอย่างนัชชามาทำงานของเธอคือไลฟ์ขายของ!มันคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นยะ
ฉันเป็นเพื่อนแก ฉันก็ต้องเห็นใจแกสิ... ไปกันเถอะ ฉันอยากช่วยแกทำงานเต็มแก่
ทำรายงานเสร็จแล้ววันนี้จะได้แต่งตัวสวยสะบัด ขายของเต็มหน้าฟี้ด cf cf เงินเด้งรัว ๆ ให้มือถือมันพังไปเลย”
นัชชายกมือขึ้นหยิกแก้มเพื่อนแรง
ๆ จนเจ้าตัวยกมือขึ้นลูบหน้าตาเหยเก
แก้มขาวนวลกลายเป็นสีแดงขับใบหน้างามหมดจดให้ดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก
พูดถึงความสวยของปรายลดาก็คงจะระดับดาวคณะบริหารธุรกิจ
สาขาวิชาการจัดการการตลาด ผิวขาวผ่องนวลเนียนละเอียดไปทั้งตัวไม่มีแม้รอยแผลเป็น
ทรวดทรงองเอวสะโอดสะอง จมูกโด่งเป็นสันงามตามแบบฉบับดารา
ริมฝีปากบางกระจับอมแดงชมพูทำให้เธอเปล่งประกายได้ในทุกย่างก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย
เบ้าหน้าใสกิ๊ก! แม้ไม่ใช่เด็กเฟรชชี่ปีหนึ่ง... อันที่จริงเด็กปีหนึ่งหลาย ๆ
คนดูมีอายุมากกว่าเธอที่อยู่ปีสามเสียอีก
“เออ
ไปก็ไป แต่แกต้องเอาส่วนแบ่งของแกไปด้วยนะ ไม่ใช่มาทำงานให้ฉันฟรี ๆ”
“ไม่มีปัญหา
ฉันเก็บไว้ทำบุญกับแก ไว้เป็นค่ารายงาน ค่าออกอีเว้นท์งานหน้า” นัชชาผุดรอยยิ้มกว้างเต็มวงหน้า
ยกมือขึ้นคล้องควงแขนกันเดินไป
นักศึกษาสาวดาวเดือนประจำคณะไม่มีใครแพ้ใคร
คนหนึ่งมีความโฉบเฉี่ยวในตัวด้วยเครื่องสำอางอ่อนรับลิปสติกสีเชอรี่
ขณะที่อีกคนนั้นสวยใสไร้เครื่องสำอาง แค่รองพื้นกันแดดมาเรียน
เพราะไม่มีเวลาจะแต่งหน้าแต่งตาเหมือนใครเขา
มันดันไปเสียเวลาตรงที่ต้องใช้ความพยายามในการปกปิดขอบตาคล้ำจัดเพราะอดนอนด้วยรองพื้นอย่างดี
เมื่อเด็กปีสามอย่างปรายลดาใช้ชีวิตเหมือนสาววัยสามสิบ! เลิกงานกลับบ้านทำงานบ้านทุกอย่าง ยังต้องทำงานที่เป็นธุรกิจของเธอเอง
แม้ว่าจะมีคนส่งเสียงเงินให้โดยไม่มีความจำเป็นต้องทำงานอะไรเลย
นัชชายังชอบที่จะว่าเธออยู่บ่อย
ๆ
“ชีวิตปรายลดาอนาถแท้
บ้านก็ไม่ได้จนไม่รู้จะขยันทำงานไปทำไม” บ่นอุบอิบพลางส่ายหน้าไปมา
ขณะที่อีกคนไม่ได้ตอบอะไรแต่เพียงเดินเคียงข้างกันไปเงียบ ๆ
ในมหาวิทยาลัยกว้างขวาง
นักศึกษาทยอยกันเดินทางกลับบ้าน จำนวนหนึ่งมีรถยนต์ส่วนตัวใช้
บางคนก็มีพ่อแม่มารับ การจราจรจึงเริ่มติดขัด
หากวันไหนปรายลดาไม่ได้ติดรถยนต์เพื่อนกลับบ้าน ก็จะต้องนั่งรถเมล์กลับเอง
พักหลังมานี้เธอได้มีโอกาสรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง
กลับบ้านทางเดียวกันอยู่บ่อย ๆ เป็นพี่รหัสนิสัยดี
มันจึงไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกับเธอที่ไม่ได้เป็นคนกลับบ้านดึกดื่นอะไร
ปัญหาอยู่ตรงที่นัชชาไม่ชอบขี้หน้ารุ่นพี่นี่แหละ...
“เออ...
ปริม ฉันมีเรื่องจะ...”
“หลงทางหรือจ๊ะ? สาว ๆ” เสียงทุ้มดังขึ้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาขวางหน้าไว้
ให้เพื่อนสาวที่เดินอยู่ข้าง ๆ กันมีสีหน้าไม่พอใจ
“ขอโทษนะคะ
พี่ธาม วันนี้พุทราไม่ว่างนะ เพราะว่าปริมจอง วันนี้เป็นวันของปริม
เชิญป้ายหน้านะคะ คุณพี่ธาม”
“ไปไหนกัน
ให้พี่ไปด้วยสิ?” ถามหน้าระรื่น
ตาคมจับจ้องอยู่บนวงหน้าหวานด้วยแววตามากความหมาย เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วที่ธามไทไม่ได้เป็นแค่รุ่นพี่กับปรายลดา
ท่าทางอีกคนนั้นจะยังคงไม่รู้
“ไม่ได้ไปกินชาบูแน่
ๆ ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องของพี่รหัสด้วยนะคะ”
“มันเป็นเรื่องของพี่รหัสนะครับ
ตราบใดที่น้องรหัสเดือดร้อน ไม่สบายใจ แล้วนี่... แฟนพี่ พี่ต้องได้สิทธิ์นั้นก่อน
ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก” ในท่าทีว่าได้รับชัยชนะ
ร่างสูงแทรกตัวเข้าระหว่างกลางจนแขนที่คล้องควงของคนทั้งสองหลุดออกจากกัน
เพื่อที่เขาจะดึงมือของปรายลดามาจับเอาไว้แทน
นัชชาหน้าซีดเผือดเมื่อพบว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นเป็นความจริง
จากอาการประหม่าของเพื่อนสาวที่ไม่ปฏิเสธมือของชายหนุ่ม
“พุทรา...! อย่าบอกนะว่าแกกับพี่ธาม...”
“ครับ ทำไมครับ?”
เป็นเรื่องทำร้ายจิตใจเพื่อนสนิทที่สุด
ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลสองจนเข้ามหาวิทยาลัย! ไม่มีเรื่องใดของปรายลดาที่นัชชาไม่รู้
นัชชาเองก็ไม่เคยปิดบังเรื่องส่วนตัวกับปรายลดา
ริมฝีปากบางเฉียบที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเชอรี่เม้มเข้าหากันสนิทแน่น
หากไม่เป็นเพราะใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่าทรงเอขยับตัวลำบากไปสักหน่อย คงจะได้มีหัวร้างข้างแตกกันไปข้าง!
“ไอ้พี่ธาม
นังเพื่อนทรยศ แกมีความลับกับฉันได้ยังไง?”
“คือฉัน...
เปล่านะแก ก็กำลังจะบอก... แก” ปรายลดาอึก ๆ อัก ๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างหวั่นกลัว
เมื่อแววตาคู่สวยประกายจัดปรากฎเพลิงโทสะลูกใหญ่ ไม่ต่างไปจากอีกคน
ธามไทไม่เคยชอบขี้หน้าลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ
อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนคนบ้า เพื่อน ๆ ในกลุ่มเขายังเรียกหล่อนว่า ‘อีปริม’ ลับหลังด้วยซ้ำ
มุมปากหนาหยักยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ปริมจะมีปัญญาทำอะไรพี่ได้ล่ะครับ...?”
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” สิ้นคำเท่านั้น นัชชาเบิกตากว้างมองคนทั้งสองอย่างโกรธแค้น
กระแทกส้นสูงปึงปังไป
มือหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายงานแบรนด์เนมออกมาเพื่อส่งข้อความอย่างไม่มีลังเลใจแม้แต่น้อย
‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง...’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 2
Comments
แกนไงจะ ใครล่ะ
ไม่ชอบ👎
2022-05-13
0