บทที่ 18

เมื่อคืนกว่าเขานั่นจะได้กลับมานอนเกือบจะตี 2 แม่คุณแม่ทูนหัวขอเล่นเกมทำให้เขาได้เรียนรู้แล้วคำว่า“อีกเกมหนึ่ง” มันไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน จนกว่าทีมใดทีมหนึ่งจะแพ้หมดกันภาพพจน์หนุ่มนักธุรกิจชื่อดัง มานั่งเฝ้าเมียเล่นเกม เขาคิดว่าเขาคงได้ทำบาปทำกรรมอะไรกับใครไว้หรือเปล่าทำไหมฟ้าดินถึงลงโทษเขาได้มากมายขนาดนี้

มาร์ตินลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะลงไปคุยงานกับลูกน้อง ที่เตรียมหาข้อมูลเพื่อจะเข้าไปดูกิจการโรงแรมของคุณวิรุฒ ระบบงาน งบประมาณ ผลกำไร ว่าโอเคพอที่ทางเขาจะลงทุนในกิจการนี้ได้หรือไม่ เดินออกมาก็เจอกั้งนอนคลุมโปง หลับสบายใจ เขาคิดในใจ เอาวะ!!! ค่อยๆ ปรับกันไปไม่อยากจะไปบีบบังคับอะไรมากนิสัยที่แตกต่างกัน เขาเป็นคนทำอะไรต้องวางแผนเป็นระบบงานแต่ละวัน+จะต้องทำอะไรบ้างตามแบบฉบับนักธุรกิจ ส่วนเธอนั่นไม่มีระบบอะไรทั้งนั้นในชีวิต คนที่จัดการระบบของเธอคือผู้จัดการส่วนตัวตะนอย ที่คอยจัดการงานทุกอย่างให้กั้ง คิดๆ แล้วคงต้องปรับตัวกันอีกเยอะ เขาเดินไปนั่งบนที่นอนข้างๆ ก้มลงไปหอมแก้ม

“เดี๋ยวผมมานะครับ ขอไปคุยงานกับสองคนนั้นเดี๋ยวตอนบ่ายไปโรงแรมกับผมนะครับกั้ง”

กั้งได้ยินก็พยักหน้ารับ แต่ตายังไม่ลืมตาแต่ยังคงนอนต่อไป มาร์ตินมอง เขาคงจะต้องบอกตัวเองว่า อย่าหวังมากที่จะให้ผู้หญิงคนนี้ลุกขึ้นมาหอมแก้มเขา และเดินไปส่งเขาทำงานเตรียมเสื้อผ้าให้เขาเอาๆ ไหนก็รักไปแล้วเมื่อเดินออกจากห้องนอนไปจริงแล้ว กั้งตื่นมาสักพักแต่แกล้งหลับต่อดูสิว่า เขาจะพูดอะไรไหม ถ้าเธอไม่ลุกไปเตรียมอะไรให้เขาที่สังเกตมา ตั้งแต่อยู่กับมาร์ติน เขาไม่เคยบ่นเธอเรื่องการนอนหน้าที่ของแฟน เมื่อคืนก็สงสารที่ต้องมานั่งเฝ้าเธอเล่นเกมทั้งคืน เธอไล่กลับห้องไปนอนก่อนก็ไม่ไปบอกว่ารอได้ผ่านไปชั่วโมง หน้าก็เริ่มเป็นตูดจนเธอเล่นเสร็จกำลังจะปิดคอม เขาก็จัดการอุ้มเธอกลับมานอนห้องเขาอีกตามเคย ถ้าแม่เธอรู้แม่คงจะต้องต่อว่าเธอแน่ที่มาอยู่กับผู้ชายแบบนี้ คิดถึง ไม่ได้โทรไปหาตั้งหลายวัน FaceTimeไปหาแม่ดีกว่า เธอลุกเดินไปตรงระเบียงข้างห้องนอน

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด แม่นายแม่ของกั้ง กำลังจะให้เด็กส่งออเดอร์ลูกค้าให้กับเลขา เห็นเป็นเบอร์ของลูกสาวสุดที่รัก โทรมาก็รีบกดรับ

“สวัสดีคะแม่ ทำอะไรอยู่ค่ะ” กั้งโบกมือทักทาย

“แม่กำลังจะส่งของตามออเดอร์ปีนี้ไร่ของเราผลกำไรดีมากๆ ลูกค้าเยอะกว่าปีที่แล้วอีก” แม่กั้งโบกมือกลับทักทายลูกสาว

กั้งคุยกับแม่ไปได้สักพักเธอจะบอกเรื่องที่ พ่อได้มาหาที่คอนโดมันจะดีหรือเปล่าและปัญหาที่พ่อเธอประสบอยู่ตอนนี้ดีไหม

“แม่คะแม่รู้ข่าวของพ่อบ้างไหม”กั้งตัดสินใจถาม “รู้ ทำไมลูกเรื่องนั้นต้นเขาได้โทรมาเล่าให้แม่ฟังนานแล้ว” คุณสุมณฑา รู้เรื่องได้สักพักหนึ่ง แต่ยังไม่อยากจะบอกลูกสาวแต่นี้คุณวิรุฒอดีตสามีกลับไปหาและขอร้องกั้งเอง ถ้าคนเป็นพ่อลงทุนมาหาลูกแสดงว่าเรื่องนี้คงจะหนักเอาการเธอนั่นไม่อยากให้ลูกไปยุ่งด้วย เพราะเธอรู้ฤทธิ์คุณหญิงภัสสรคนที่ทำให้เธอถูกตราหน้าว่ามีชู้ เธอเจ็บกับคนพวกนี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว

คนเป็นแม่ก็ตามข่าวลูกสาวด้วยเช่นกันเห็นว่ามีหนุ่มต่างชาติมาพัวพันแรกๆ ก็ยังห่วงอยู่ แต่พอได้เห็นหน้าตาอนาคตพ่อลูกเขยแล้วก็รู้สึกโอเคขึ้นมากถือว่าใช้ได้และเป็นลูกผู้ชายพอกล้ามาขอโทษเธอที่ได้ล่วงเกินลูกสาวของเธอไปแรกๆ ที่ได้ฟังลมแทบจับแต่พอรู้สาเหตุแล้วคนเป็นแม่ก็ต้องขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือลูกสาวเธอห่วงแต่ลูกของเธอเนี่ยแหละที่ไม่โตสักที

“แล้วแม่รู้สึกยังไงบ้างคะ” กั้งถามเพราะต้องการอยากจะรู้ว่าแม่จะมีความคิดเห็นแบบไหนเพราะมาร์ตินจะพาเธอไปด้วย ใจจริงเธอไม่อยากจะเข้าไปกับเขาอยากจะอยู่ให้ห่างจากคนพวกนั้น เธอรู้ฤทธิ์เดชสองแม่ลูกนั้นดี

“อะไรจะเกิดก็ปล่อยเป็นเรื่องของพวกเขาเถอะแม่ว่าเราอย่าเข้าไปยุ่งเลย แม่ไม่อยากจะรับรู้ถึงคนพวกนั้นแล้ว” คุณสุมณฑาบอกกล่าวกับลูกไปตามที่ใจเธอคิด

“คะแม่ คิดถึงแม่นะคะดูแลตัวเองดีๆ อย่าดื้ออย่าซนนะจ้ะ”กั้งอดที่จะแซวแม่ของตัวเองไม่ได้

“สวัสดีจ้ะ เป็นไงบ้างสบายดีไหม” แม่เธอทำงานจนเพี้ยนหรือเปล่า มาสวัสดีเธอทำไมและแม่โบกมือให้ใคร อย่าบอกว่าเป็น เขานะ!!!

“Hola” มาร์ตินยกมือ สวัสดีแม่ของกั้งตามที่ ตะนอย บอกไว้ จะต้องยกไหว้สวัสดี คนที่มีอายุมากกว่า เป็นวัฒนธรรมของคนไทย วันแรกที่เขามีอะไรกับกั้ง เขาให้ตะนอย เป็นธุระ จัดการให้โทรไปขอโทษแม่ของกั้ง เขาศึกษาว่าคนไทยถือเรื่องนี้มาก

“คุณ!!! อะไรเนี่ย” กั้งนั่นรีบกดปิดมือถือไป ด้วยความตกใจเธอยังไม่ได้บอกเรื่องของเขากับแม่

“คุณกดปิดทำไม!!! ผมกำลังทักทายแม่ของคุณอยู่นะ”

“เออ...ก็ฉัน ก็ฉัน ยังไม่ได้บอกเรื่องของคุณกับแม่เลย”

“เรื่องนั้นนะ ผมจัดการบอกแม่คุณไปตั้งแต่วันที่เรามีอะไรกันแล้วครับ”

“ห๊ะ!!! ว่าอะไรน่ะ!!! คุณบอกแม่ฉันไปแล้ว”

“ใช่ ตะนอยบอกคนไทยเขาถือเรื่องนี้มาก หากผมจริงใจกับคุณก็ต้องบอกความจริงกับแม่ของคุณด้วย ใครจะได้ไม่มานินทาคุณ อะไรน่ะ...วันนั้นตะนอยบอกผมเข้าๆๆ อะไรสักอย่าง” มาร์ตินคิดไม่ออกมันเป็นสำนวนไทยฟังยาก

“เข้าตามตรอก ออกตามประตู”

“ใช่ๆ คำนี้ที่ตะนอยพูด ผมเลยโทรไปขอโทษคุณแม่ของคุณและก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านฟัง ว่าผมจริงใจกับลูกของท่านมากและขอโทษที่ได้ล่วงเกินลูกสาวของท่านไป”

กั้งมองใบหน้าของมาร์ติน เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นที่ละเอียดอ่อนขนาดนี้ ขอบคุณนะขอบคุณจริงๆ ที่วันนั้นผู้ชายคนนั้นเป็นเขา ถ้าเป็นนายธนดลเธอคงจะช็อกตายแน่ๆ และคงจะมีใครรอสมน้ำหน้าเธอ คิดแล้วเธอควรจะจัดการอย่างไรกับแพท

“ขอบคุณนะคะ ที่วันนั้นเป็นคุณไม่งั้นฉันคงจะต้องแย่แน่ๆ”มาร์ตินดึงกั้งเข้ามากอดแล้วจูบไปตรงหน้าผาก

“ผมบอกแล้วว่าผมรักคุณ ผมก็ต้องชัดเจนกับคุณและคนที่คุณรัก อย่า!!! พยายามหนีผมอีกนะกั้งเปิดใจแล้วลองคบกันนะครับ”

มาร์ตินมองเข้าไปในดวงตาของกั้ง ครั้งนี้คนตรงหน้าไม่ได้หลบสายตาอีกแล้ว ส่วนกั้งก็มองเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยเช่นกันมันมีเธออยู่ในนั้นและจะเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า ครั้งนี้เธอพร้อมจะเสี่ยงหรือไหม

“ขอบคุณคะ ที่คุณบอกว่ารักกั้ง”กั้งเอามือไปจับใบหน้าของเขาให้ก้มลงมาใกล้ๆ ครั้งนี้เธอเป็นคนที่ประทับรอยจุมพิตไปตรงริมฝีปากหนา

ครั้งนี้เป็นมาร์ตินเองที่เป็นฝ่ายหลับตาใช้ใจในการรับความรู้สึกนี้ ทำไมใจของเขามันเต้นเหมือนมันจะทะลุออกมาจากอก แค่รอยจุมพิตมันทำให้เขามีความสุขจนล้นจริงๆ

“ผมจะไม่ทำคุณผิดหวังในตัวของผม เราจะศึกษาและเปิดใจไปพร้อมกันนะครับขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ครับ”

กั้งส่งยิ้มและพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย ต่างคนต่างกอดซึ่งมันสุขใจมาก แม้วันข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงก็ต้องพยายามช่วยกันฝ่ามันไป

“ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวเราสองคนจะต้องออกไปโรงแรมของพ่อคุณ”

“ไม่ไป ไม่ได้เหรอคะ กั้งไม่อยากจะเจอคนพวกนั้น”

“ไม่ได้ ไปเถอะครับไปทำให้เขารู้ว่าคุณไม่ได้กลัวพวกเขาอีกแล้วและไปจัดการคนที่ทำไม่ดีไว้กับคุณด้วยไม่ต้องกลัวผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ นะกั้ง”

“คะ” กั้งฉีกยิ้มให้กับเขาเป็นการขอบคุณ ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเดินเขาก็จัดการอุ้มเธอไปยังห้องน้ำ และเธอคงต้องหน้าด้านแบบเขาใช่ไหมหมดกันชีวิตนี้

“คุณคะ อาบน้ำอย่างเดียวนะห้ามมีอะไรเด็ดขาด”

“ทำไมครับ เรายังศึกษากันไม่พอเลย ผมยังไม่รู้ความชอบของคุณเลย”

“หยุด!!! ความคิดนั้นเลยถ้าคุณยังขืนทะลึ่ง ฉันจะไม่เข้าไปกับคุณแล้วน่ะ”

“ครับๆ อาบน้ำเฉยๆ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกเราจะออกไปโรงแรม ผมยังไม่อยากทำอะไรคุณแต่พอหลังจากกลับมาผมไม่รับรองนะครับว่าไม่ทำ”

“พอเลย...งั้นคืนนี้ฉันจะกลับไปนอนที่ห้องฉัน คุณไม่ต้องตามเข้าไปเลย”

“ก็ลองดูว่าคุณจะได้กลับห้องไหมนะครับคืนนี้”

มาร์ตินไม่พูดแล้วจัดการอาบน้ำกั้งก่อนด้วยวิธีของเขาอะไรต่อมีอะไร มันก็คอยแต่จะทิ่มตาเธอและตาเจ้ากรรมมันก็มักจะก้มไปมองมันอยู่ร่ำไป

ออกจากห้องน้ำเขาก็ยังไม่ปล่อยเธอ และจับเธอมานั่งตรงเก้าอี้หน้าเตียงจัดการเป่าผมของเธอให้แห้งกั้งมองไปตรงกระจก เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ตั้งใจเป่าผมให้ไม่มีแววตาขี้เล่นคอยก้มดูผมของเธอตรงส่วนไหนยังไม่แห้งเขาก็จัดการเป่า กั้งไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโมเม้นแบบนี้ว่าใครจะมาทำให้เธอและเขาคือมหาเศรษฐีระดับโลก แรกๆ ที่เธอต้องการปฏิเสธไม่อยากจะเข้าใกล้ ไม่อยากที่จะเป็นของเล่นไฮโซ ที่ต้องการเธอไว้ประดับข้างกายจริงๆมีหลายคนเข้ามาเธอไม่เคยคิดจะสนใจ แต่สำหรับเขา หน้าอกข้างซ้ายมันคอยสั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรก ยิ่งเวลาที่ได้อยู่ได้รู้จักกันมากขึ้น เขาเป็นหนุ่มต่างชาติที่ระมัดระวังการปฏิบัติตัวต่อหน้าคนส่วนใหญ่ เขาให้เกียรติเธอเสมอเคารพงานของเธอมากๆ รวมถึงเรื่องเมื่อเช้าที่เธอได้รู้ว่าเขาขอโทษแม่ของเธอ ที่ได้ล่วงเกินเธอ

มาร์ตินเป่าผมเสร็จส่งยิ้มให้ในกระจก เขาตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้คอยดูแลห่วงใยเธอมาก

“แต่งตัวสวยๆ ให้เกียรติผมด้วยนะครับ”

“ทุกครั้งฉันไม่สวยหรือไง คุณถึงต้องบอกแบบนี้”กั้งหันหลังกลับไปมองเขา

“เปล่าครับ ปกติสวยอยู่แล้วแต่วันนี้อยากจะให้พิเศษกว่าทุกครั้งครับ” จริง แล้วเขาต้องการเปิดตัวเธอกับทุกคนในโรงแรม เขาต้องพบบอร์ดผู้บริหารทั้งหมด ก่อนจะลงนามทำการซื้อขาย

“คะ...คุณมาร์ติน กุสโซ่ ผู้บริหารกิจการเครือกุสโซ่พอใจไหมคะ” เธอเข้าใจ ว่าเขาต้องการสื่ออะไรออกมามาร์ตินเห็นเธอพูดจึงบีบจมูกมันน่ามั่นเขี้ยวจริง

“ไปเปลี่ยนชุดเถอะ เดี่ยวกั้งเดินไปเปลี่ยนที่ห้องโน้นคะ”

“ผมบอกให้คุณเอาเสื้อผ้ามาไว้ที่นี่ คุณก็ไม่เอามา”

“อ้าว...ก็เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะคะ กั้งไม่ได้ลำบากอะไรแค่เดินออกประตูไปก็ถึงห้องกั้งแล้ว ไป ไป รีบแต่งตัวเถอะคุณ” กั้งที่ส่งจูบให้มาร์ติน คิดแล้วควรจะยกเลิกนัดดีไหมเนี่ย

กั้งเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเลือกชุดจัมพ์สูทสีขาว เปิดหน้าท้องหน่อยๆ ให้ดูเซ็กซี่เบาๆ เดินออกมาเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุด เธอเลือกที่จะใส่แค่ตุ้มหู เพราะไม่ชอบใส่อะไรเยอะ เดินมาตรงชั้นรองเท้าก็เลือกรองเท้าสีขาวส้นสูงเดินมาส่องกระจกโอเคเรียบร้อย

ตะนอยที่เดินเข้ามาเช็คความเรียบร้อยของเพื่อนว่าโอเคไหม กั้งนั้นชวนเธอไปเป็นเพื่อนงานนี้ไม่รู้ว่าการเหยียบเข้าถ้ำเสือจะเป็นอย่างไร มีอะไรจะได้ช่วยกันได้วันนี้เธอจะเข้าไปจัดการนังน้องสาวของกั้ง งานนี้เธอต้องจัดการให้ได้แพท

กั้งเดินออกมาเจอตะนอยที่แต่งชุดจัดเต็มยิ่งกว่าเธอ นี่ไปโรงแรมหรืองานแฟชั่นวีคดูเพื่อนเธอแต่งเดินมาพร้อมกระเป๋าถือใบใหญ่ยี่ห้อดังใส่แว่นตา

“โอ้โหว...มาขนาดนี้ ตะนอยแกจะไปเปิดงานที่ไหนต่อคะคุณเพื่อน จัดใหญ่จัดเต็มแบบนี้ เอาจนชุดของฉันด้อยไปเลย”

“แน่นอนสิคะ วันนี้เราจะไปบุกถ้ำเสือ เราต้องใส่ชุดขู่เอาไว้ก่อนไม่ได้เดี๋ยวเสือตัวลูกมันจะแผลงฤทธิ์”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาน่าไปเถอะ คุณมาร์ตินเขารอแล้ว”

มาร์ตินที่ยืนเช็คเอกสารรอกั้งได้ยินเสียงเคาะประตูเปิดมาเห็นคนที่เดินนำเข้ามาถึงกับตกใจ คุณตะนอยจะไปงานแฟชั่นที่ไหน นาโช่กับเบ็นมองสีสันหนึ่งของชีวิตพวกเขาเลยมองดูเธอก็น่ารักไปอีกแบบ สมกับการเป็นผู้จัดการดาราจริงๆ

กั้งเห็นสายตาทุกคนแล้วก็อมยิ้ม คิดว่าเธอ2 คนจะทำให้เขาขายหน้ากันหรือเปล่าเนี่ย มองดูเพื่อนเธอจัดใหญ่จัดเต็มสะขนาดนั้น

มาร์ตินสำรวจการแต่งกายของกั้งถือว่าผ่านสำหรับชุด แต่ขัดใจนิดๆ ตรงที่เปิดพุงโชว์ผิวขาวๆ เนียน เห้อ...มีแฟนสวยก็ต้องทำใจ

“ไปกันหรือยังคะ กั้งพร้อมแล้ว”

ณ โรงแรมแกรนภัสสร คุณวิรุฒ คุณหญิงภัสสรภรรยาและลูกสาว กวินนา ได้เรียกประชุมผู้บริหารของโรงแรม เพื่อที่จะแถลงข่าวการเปลี่ยนกิจการโรงแรมให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาบริหารซึ่งแรกๆทุกคน ก็ยังกลัวๆ ว่าจะมีผลกระทบอะไร แต่พอรู้ว่าคนที่จะเข้ามาหารแทนเป็นใครทุกคนก็เบาใจ เป็นถึงมหาเศรษฐีที่มีกิจการโรงแรมมากมายภายใต้เครือกุสโซ่ ทุกคนกำลังรอต้อนรับคุณมาร์ติน กุสโซ่ ที่จะเข้ามาดูข้อมูลและลงนามการซื้อขายภายในวันนี้

“คุณแม่คะ คุณแม่ว่า นังกั้งมันจะมาด้วยไหม”

“แม่ว่ามันก็คงจะมาและคงจะทำคอเป็นหงส์เชิดๆ ใส่พวกเราแน่”

“พ่อกับแม่ไม่น่าไปเป็นหนี้พนัน พวกเราก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ดูสิมันจะต้องดูถูกพวกเราแน่”

“โอ๊ย...ฉันก็ไม่อยากจะให้เป็นแบบนี้ เพราะพ่อของแกนะแหละไม่น่าไปหลงเชื่อไอ้ฟิลลิปบ้าอะไรนั้นเลย”

“คุณกับลูกก็หยุดพูดกันได้แล้วมาช่วยกันเช็คดูสิว่ามีอะไรที่ขาดไปบ้าง” คุณวิรุฒฟังเรื่องเหล่านี้มาเป็นอาทิตย์จนจะเป็นบ้า ทางโน่นยื่นคำขาดมาแล้วภายในวันสองวันนี้ต้องได้เงิน ถ้าไม่ได้พวกมันจะเข้ามาจัดการพวกเขาถึงเมืองไทยแน่

“คุณพ่อ ทำไมคะกลัวลูกสาวสุดสวยไม่ช่วยหรือไง” คุณวิรุฒหันไปมองลูกสาวคนเล็ก ท่านไม่น่าตามใจลูกแบบนี้เลยซึ่งก่อนหน้านี้ยังดูเรียบร้อย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนเป็นคนละคนกับเด็กสาวที่เขาท่านเคยเลี้ยงมา

“หยุด!!! ลูกก็อย่าไปยุ่งกับกั้งมาก พี่เขายังไม่มายุ่งกับเราเลยแพท”

“แตะ...ไม่ได้เลยนะคะคุณ นังลูกสาวสุดที่รักเนี่ย กลัวมันไม่ช่วยหรือไงถึงกับต้องปกป้อง อย่า!!! ให้ฉันรู้นะว่าคุณแอบติดต่อนังสุมณฑาไม่งั้นฉันเอาคุณตายแน่”

“อยุดคิด!!! แค่ทุกวันนี้เขากับลูกยังไม่อยากจะคุยกับผม ผมคงจะไม่ไปยุ่งให้คุณกับลูกไปตามรังครวญพวกเขา”คุณภัสสรหันหน้าไปมองหน้าสามี

“ก็ดี...ก็อย่าให้ฉันรู้แล้วกัน ฉันไม่ปล่อยไว้ให้มันทิ่มแทงใจหรอก”

“คุณแม่คะ ชุดหนูเป็นยังไงบ้างแฟชั่นเซ็ทนี้พึ่งมาเมื่อวานเองคะ สวยไหม”

คุณวิรุฒหันมามองนี้ก็อีกคนใช้เงินเหมือนไม่รู้สถานการณ์ว่าตอนนี้เป็นยังไง

“เราก็เหมือนกันใช้เงินให้น้อยๆ หน่อย เห็นออกไปช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าทุกวัน ถ้าเขามาดูแลกิจการแล้วก็ควรทำงานให้สมกับราคาชุดที่ใส่หน่อย” คุณหญิงภัสสรได้โอกาสก็หันหน้ามาต่อว่าลูกสาวเธอ

“คุณแม่ไม่ต้องห่วงคะ ผู้ชายเขาก็ต้องชอบของสวยๆงามๆ ผู้หญิงเอาใจพอทำงานด้วยกันเข้าทุกวัน เขาก็อาจจะสปาร์คกับหนูเองแหละ”

งานนี้เธอมั่นใจ ส่วนเรื่องนายธนดลนั่นดีที่เธอชิ่งหนีออกมาก่อน ไม่งั้นจะซวยทำยังไงให้เขาจับได้โง่จริงๆ ผู้ชายอะไร ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเขาเลย เห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์บอกว่าไปขัดผลประโยชน์คนอื่น เธอก็รู้ว่างานนี้ คุณมาร์ตินจงใจปิดข่าวเพื่อรักษาหน้ายัยกั้งแน่ๆ

มาร์ตินกับกั้งเดินทางมาถึงยังโรงแรมแล้ว กั้งมองไปยังคนที่ยืนรอบริเวณด้านหน้าโรงแรมก็รู้สึกอึดอัด ยิ่งคุณหญิงภัสสรเธอยิ่งไม่อยากจะพบ เธอยังจำสิ่งที่คุณหญิงทำเอาไม้ตีเธอกับน้ำแกงจืดเทราดใส่เธอยังไม่นับรวมวีรกรรมอื่นๆที่ สองแม่ลูกได้ทำมันช่างไม่ต่างจากบทละคร และสุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นจริงๆ

“พร้อมนะครับ” กั้งพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้ม มาร์ตินก้าวลงมาจากรถก่อน และก็ตามด้วยกั้งที่ลงมายืนข้างๆ แพทเห็นแล้วรู้สึกอิจฉาริษยาบอกไม่ถูก ทำไมคนที่ยืนตรงนั้นไม่ใช่เธอดูสิมันทำหน้า

“สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับผมวิรุฒ คุณหญิงภัสสรภรรยาของผมและกวินนาลูกสาวของผมครับ”

กั้งเจ็บข้างในกับการที่พ่อแนะนำตัว เธอเมินหน้าไปทางอื่นตะนอยฟังแล้วรู้สึกเห็นใจและสงสารเพื่อนอย่างบอกไม่ถูกกับสิ่งที่ผู้เป็นพ่อแนะนำ

“สวัสดีครับ ผมมาร์ติน กุสโซ่ และที่ยืนข้างๆ ผมคือว่าที่มาดามคนใหม่ของตระกูลกุสโซ่ครับ” ตะนอยได้ยินแล้วอยากจะยืนปรบมือให้กับคุณมาร์ตินจริงๆ ดูสิ ฝั่งนั้นหน้าจ๋อยกันไปหมดสมน้ำหน้า

“สวัสดีคะ” กั้งยกมือขึ้นสวัสดีตามมารยาทของสังคมไทย

คุณหญิงภัสสรได้ยินสิ่งที่คุณมาร์ตินกล่าวแล้วก็พอจะรู้ว่านังกั้งมันสำคัญยังไง งานนี้เธอควรต้องแสดงบทแม่เลี้ยงที่ใจดีแล้วสินะ

“สวัสดีจ้ะ หนูกั้งเราไม่เจอหน้ากันนานเลยนะลูก ไม่คิดเลยว่าหนูจะเป็นแฟนของคุณมาร์ตินขอแสดงความยินดีด้วยนะจ้ะ”

แพทเห็นสิ่งแม่ตัวเองทำลงไปแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียน คุณแม่ทำไปได้ไง ทำเหมือนกับรักและเอ็นดูมัน คุณหญิงภัสสรอ่านสายตาลูกสาวออกท่านพยักหน้าให้ทำๆ ไปเถอะ

“สวัสดีคะกวินนา ยินดีที่ได้รู้จักและหวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกันนะคะ” แพทส่งสายตาและยื่นมือไปจับมือของมาร์ติน เธอพยายามส่งสายตาเพื่อสื่อทุกอย่างออกไปเหมือนเช่นคืนนั้นที่เธอเคยทำ กั้งและตะนอยเห็นการกระทำแล้ว รู้สึกรับไม่ได้จริงๆ ทั้งแม่ทั้งลูกเลย กั้งนั้นเมินหน้าไปทางอื่น

มาร์ตินรับรู้ถึงทุกถ้อยคำที่สองแม่ลูกพูดออกมา แต่เขาก็ทำเป็นนิ่งแต่มือยังกุมมือกั้งไว้ข้างๆ เสมอ

“อย่าพึ่งอะไรเลยครับผมยังไม่ได้ตกลงจะซื้อกิจการของคุณ เพราะข้อเสนอคุณบางประการผมก็ยังไม่อยากจะยอมรับครับ”มาร์ตินจ้องใบหน้าของแพทและสื่อไปทางสายตาแพทนั่นพอจะรับรู้ว่าเขาต้องการจะพูดเรื่องอะไร

คุณวิรุฒเชิญทุกคนไปยังห้องรับรองที่เตรียมไว้ มาร์ตินกับกั้งเดินเคียงข้างกันช่างดูเหมาะสมจริงๆ พนักงานทุกคนเห็นพากันยิ้มพูดไปตามๆ กันว่าเหมาะสมกันมาก สวย หล่อ

คุณหญิงภัสสรกับแพทได้ยินถึงกับปรายตาหันไปมองอยากจะตกงานกันมากใช่ไหม แพทกัดฟันระวังตัวไว้ดีๆเหอะ แกต้องพลาดให้ฉันสักวันนังกั้ง

“สิ่งที่คิด อย่าคิดที่จะทำ ถ้ายังไม่อยากที่จะเจ็บตัว เรื่องที่เธอก่อไว้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเป็นเธอนะฉันให้โอกาส แต่ถ้าเธอยังจะกล้าทำอีกอย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้ทำเพื่อนของฉันอยู่ฝ่ายเดียว” ตะนอยพูดเสร็จแล้วรีบเดินตามกั้งไป ทิ้งให้แพทยืนนิ่งด้วยความโกรธเกลียดและโมโห

“ฝากไว้ก่อนเถอะระหว่างแกกับฉันใครกันแน่ที่ควรต้องระวัง”

นาโช่กับเบ็นสังเกตเห็นสายตาที่ไม่น่าจะเป็นมิตรมองไปทางคุณกั้ง เสร็จจากงานนี้เขาคงต้องรายงานให้เจ้านายทราบแน่ๆ

มาร์ตินกับกั้งเดินเข้าไปภายในห้องรับรอง กั้งที่กำลังจะเดินไปหาตะนอย แต่มาร์ตินได้ดึงข้อมือไว้ ให้นั่งลงตรงข้างๆ

คุณวิรุฒและคุณหญิงเห็นว่ากั้งยังนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขากำลังจะเสนอรายงานผลประกอบต่างๆ ให้อีกฝ่ายทราบแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป จนแพทเดินเข้ามาถึงในห้องรับรอง

“ขอโทษนะคะ คุณกั้งจะร่วมรับฟังด้วยเหรอคะ เพราะสายงานที่คุณกั้งทำไม่น่าจะฟังเข้าใจคะ ถ้าไม่สะดวกด้านข้างมีห้องรับแขกยังไงก็เชิญได้คะ”

นาทีนี้กั้งถึงกับรู้สึกจุกเจ็บกับคำพูดขึ้นมาทันที เธอไม่อยากจะทำอะไร แต่ก็ได้หันหน้าไปยิ้มให้กับทุกคนในห้อง

“ขอโทษนะคะ ดิฉันได้ศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วคะ ยังไงคุณมาร์ตินคงให้ดิฉันแปลในส่วนที่คุณมาร์ตินยังไม่เข้าใจในวงการธุรกิจไทย ขอรบกวนทุกๆ คน อธิบายกันได้เลยคะ อย่ามาเสียเวลาเพราะดิฉันเลย”ตะนอยยกยิ้มที่มุมปากแบบนี้สิเพื่อนฉัน

มาร์ตินฟังไม่ออกว่ากั้งพูดอะไรแต่ดูท่าทางรับรู้ว่ากั้งพยายามระงับอารมณ์ถือว่ามีวุฒิภาวะทางจิตใจมากกว่าที่เขาคิดไว้

คุณวิรุฒพยักหน้าหลังจากนั้นก็กล่าวถึง โรงแรมในเครือของแกรนภัสสร มาร์ตินกับกั้งนั่งฟัง ส่วนกั้งนั่งคิดในใจถ้าไม่ติดว่าพ่อเธอเป็นหนี้การพนัน ท่านไม่น่าจะนำกิจการมาเสนอขายดูแล้ว ปัญหาไม่ได้ใหญ่อะไรหากหาบอร์ดผู้บริหารใหม่

แพทมองไปทางกั้งที่ทำตัวเป็นนางพญา เห็นแล้วรู้สึกอยากจะจับนังกั้งให้ลุกจากที่ตรงนั่น ตะนอยและนาโช่จับความรู้สึกนั้นได้ มาร์ตินคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรยากในระบบงานถือว่าโอเคหากเขาจะซื้อกิจการซึ่งเขาจะซื้อในนามของ กังสดาล วัฒนาศิริ ตัวเขายังไม่ได้บอกเธองานนี้คงมีคนลุกขึ้นมาเต้นหลายคนแน่ๆ

มาร์ตินฟังเสร็จลุกขึ้นยืน จากนั้นเขาใช้สายตาจ้องไปทางคุณหญิงภัสสรและกวินนา

“ผมรับข้อเสนอที่คุณยื่นมาครับ” ทุกคนได้ยินถึงกับยิ้มโล่งอก โดยเฉพาะ คุณวิรุฒคุณหญิงภัสสร

“ตกลงเราทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันเลยนะครับ ทางผมได้เตรียมเอกสาร มาแล้ว”

กั้งฟังเสร็จถึงกับอึ้งคนรวยนี้ดีจริงๆ ฟังไม่ถึงชั่วโมง ก็จัดการซื้อได้ภายในเวลาแป๊บเดียวด้วยราคาที่แพงเอาเรื่องอยู่ คิดแล้วถ้าพ่อเธอใช้จ่ายเคลียปัญหาหนี้สินต่างๆ ท่านก็ถือว่าใช้เงินอยู่สบายๆได้ทั้งชาติเลยโดยไม่ต้องทำงานหรือจะนำไปลงทุนต่อได้อีกทางหนึ่ง

นาโช่เดินเอาหนังสือสัญญาซื้อขายไปให้ทันที ที่คุณวิรุฒอ่านสัญญาซื้อขาย ท่านถึงกับมีใบหน้าถอดสี

เพราะชื่อคนที่จะเป็นเจ้าของกิจการคือ นางสาวกังสดาล วัฒนาศิริ

คุณหญิงภัสสรสงสัยทำไมสามีเธอยังไม่ยอมเซ็น ได้แต่ทำหน้าตกใจเธอเลยคว้าเอกสารมาอ่านดูจนถึงชื่อคนที่จะเป็นเจ้าของคนต่อไปทำให้ท่านต้องร้องเสียงดัง

“ยังไงคะ!!! คุณมาร์ตินทำไมชื่อเจ้าของกิจการถึงเป็น เออ..ยัยกั้ง” เมื่อกั้งได้ยินถึงกับตกใจ ทำไมมีชื่อเธอในนั้นเธอรีบหยิบเอกสารขึ้นมาดู

“อะไร!!! กันคุณ ทำไมใส่ชื่อฉันไม่ใส่ชื่อของคุณล่ะคะ”

“ผมเป็นผู้ลงทุน แต่คนที่จะเข้ามาบริหารต่อคือคุณกังสดาล วัฒนาศิริ พวกคุณสงสัยเพราะอะไรใช่ไหมครับ เพราะผมมั่นใจว่าเธอสามารถบริหารดำเนินกิจการนี้ได้ ผมอาจจะให้เธอออกจากวงการในไม่ช้า เราจะแต่งงานกันตัวเธอจะได้ไม่บ่นว่าไม่มีอะไรทำ ซึ่งจริงๆ แล้วแต่งงานไปเธอก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาให้กับผม กิจการส่วนใหญ่ของผมก็มีโรงแรมที่สเปนเป็นหลักผมเลยจัดการซื้อโรงแรมนี้เพื่อให้คุณกังสดาล ได้ทำงานที่เป็นสายเดียวกับผม เราสองคนจะได้ช่วยกันพัฒนาโรงแรมในเครือของเรา ให้ดียิ่งขึ้น พวกคุณเข้าใจแล้วใช่ไหมครับงั้นเชิญลงนามได้”

มาร์ตินกล่าวจบกั้งได้แต่อ้าปาก ส่วนคุณวิรุฒอึ้งไม่ต้องพูดถึงสองแม่ลูกจะรู้สึกยังไง คุณหญิงภัสสรถึงกับมีน้ำตาคลอเบ้าตาด้วยอารมณ์โกรธเหมือนเธอโดนหักหน้า รวมถึงแพทที่ตอนนี้สั่นด้วยความโกรธและโมโหมาก

คุณวิรุฒ เซ็นแล้วหันเอกสารมาทางกั้ง กั้งมองหน้าพ่อของเธอ เธอพูดไม่ออกในสิ่งที่เขาทำแต่กลับไปเดี๋ยวค่อยพูดกัน เธอจับปากกาแล้วลงลายมือชื่อเสร็จ มาร์ติน ลุกขึ้นยืนจัดเสื้อสูทให้เข้าที่แล้วพูดอีกเรื่อง

“ส่วนเรื่องรองผู้บริหาร ผมจะขอให้คุณกังสดาลเป็นคนตัดสินใจเองนะครับ ว่าจะรับคุณกวินนาเป็นรองผู้บริหารอีกหรือเปล่านะครับ” พูดเสร็จมาร์ตินก็เดินออกไปจากห้อง กั้งที่กำลังจะลุกตามแต่มีใครคนหนึ่งเข้ามากระชากแขนเธอ

“แก!!! แกนังกั้งแกต้องการหักหน้าพวกฉันใช่ไหม ถึงได้ทำแบบนี้” คุณวิรุฒ รีบดึงคุณหญิงภัสสรออก

“อย่า!!! คุณ เรามีเรื่องที่ต้องทำมากกว่า ตอนนี้ปล่อยไปเถอะ ส่วนกั้งออกไปก่อน เดี๋ยวยังไงพ่อจะขอคุยที่หลัง”

กั้งสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมเธอ แต่ช่วงที่สะบัดดันมีรอยเล็บลากเป็นทางยาว ตะนอยเห็นว่าเพื่อนยังไม่ได้เดินออกนึกสงสัย เลยเดินเข้าไป

“ทำไมกั้งมีอะไร เธอก้มลงไปสำรวจแล้วเห็นรอยเล็บ แล้วกำลังจะอ้าปากต่อว่า” กั้งส่ายหน้าให้รีบเดินออกไป

เธอยกมือไหว้ลาทุกคนและหันหน้าไปมองแพทที่ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าแพทนั่นคิดอะไรแต่ดูแล้วท่าทางคงจะเอาเรื่อง

กั้งเดินออกมาพร้อมกับตะนอย ตะนอยจับแขนเพื่อนที่มีรอยแดงลากยาวของเล็บกำลังจะเอ่ยพูดแต่มีเสียงหนึ่งที่แทรกมา

“อย่าคิดว่าทำแบบนี้ แล้วฉันจะยอมแพ้ นี้แค่การเริ่มต้นต่อจากนี้แกจะได้เจอของจริงและที่สำคัญฉันจะเอาคุณมาร์ตินและตำแหน่งผู้บริหารนั้นต้องเป็นของฉัน ถ้าแกไม่ให้ก็ถือว่าแกกลัวซึ่งมันคือนิสัยของแกที่ชอบวิ่งหนีอยู่แล้ว” แพทยืนกอดอกมองไปทางกั้งและตะนอยที่ยืนฟังอยู่

“ฉันไม่เคยกลัวเธอ แต่ฉันไม่อยากจะลงไปสู้กับอะไรที่มันไม่สมควรทำ เพราะเวลาของฉันมันมีค่ามากกว่ามานั่งทำเรื่องไร้สาระจำไว้นะแพท ว่าถ้าเธอทำอะไรฉัน ฉันเอาเธอคืนให้เจ็บมากกว่าเรื่องที่เธอก่อเอาไว้อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่อยากจะไปเอาเรื่องกับเธอ แค่ที่เห็นมันก็น่าจะหนักเอาการอยู่แล้ว” กั้งกำลังจะเดินจากไปแต่นึกอะไรขึ้นมาได้เลยหันหน้ากลับมาพูด

“ส่วนเรื่องรองผู้บริหารฉันยกให้เธอ เพราะยังไงเธอก็ต้องอยู่ใต้อาณัติฉันอยู่ดี จำเอาไว้ว่าใครที่ใหญ่ที่สุดในนี้”

“ยัยกั้ง!!! แก” แพทกำลัง ง้างมือเตรียม ตะนอยเห็น

“หยุด!!! ถ้ายังอยากให้พ่อกับแม่เธอมีเงินไปใช้หนี้ ก็หยุดสิ่งที่จะทำ ไปกันเถอะกั้งคุณมาร์ตินเขารอแล้ว” กั้งเดินออกมาพร้อมตะนอย มาร์ตินที่เดินออกมาดูรอบๆ โรงแรม เลยไม่ได้เห็นว่าหลังจากที่ลงนามแล้วเกิดอะไรขึ้น เขาคิดว่าคงจะไม่มีอะไรที่รุนแรง

“แก เป็นไงบ้างกั้ง เจ็บไหมดูสิ!!! ถลอกยาวเลย”

“อือ...อย่าไปสนใจมันเลย แผลแค่นี้ฉันไม่เจ็บหรอก หลังจากนี้สิมันจะเกิดอะไรขึ้น”

“ เอาน่า...ฉันว่าคุณมาร์ติน เขาจัดการให้แกได้อยู่แล้วพิสูจน์ให้คนพวกนั้นเห็นสิ ว่าตัวแกน่ะทำได้” กั้งพยักหน้าเดินไปหามาร์ตินตรงล็อบปี้โรงแรม มาร์ตินเห็นกั้งเดินมาแล้ว จึงเดินมารอรับพร้อมสำรวจร่างกายจนมาเจอกับรอยเล็บ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองกั้ง กั้งนั้นรับรู้ว่าเขาจะถามอะไร กั้งยิ้มๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง

“ไปกันเถอะคะ วันนี้เราควรไปฉลองกับตำแหน่งใหม่ของกั้งกันดีกว่า” กั้งรีบจูงมือเขาพาขึ้นรถ เธอไม่อยากจะทำอะไรให้มันมากกว่านี้ มาร์ตินมองหน้าตะนอย ตะนอยได้แต่พยักหน้าให้ผ่านๆไป เดี๋ยวคงจะได้คุยกันหลังจากนี้

กั้งเก็บทุกอย่างไว้ในใจ กลับไปค่อยคุยกับเขาที่ห้องวันนี้ เธอไม่แน่ใจว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เธอก็อยากจะรู้เหตุผลของเขาเช่นกัน

ฮอต

Comments

กาญจนา บินเรโบ

กาญจนา บินเรโบ

สนุกมาก

2021-06-14

2

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 55

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!