บทที่ 17

ส่วนสามคนที่ยังอยู่ในห้องถึงกับงงกับสองคนที่ทะเลาะกันออกไปนอกห้อง กั้งได้โวยวาย ทุบไหล่มาร์ตินไปตลอดทั้งทางที่เดินกลับถึงห้อง

“ เออ...เมื่อกี้...เมื่อกี๊คืออะไรคะ” ตะนอยรู้สึกงงคุยกันเรื่องกั้งชอบเล่นเกมทำไมถึงได้เป็นแบบนั้น นางเอกฉันจะไหวไหมเนี่ย สองหนุ่มที่เหลือถึงกับส่ายหน้า ไม่รู้คืออะไร อาจจะช่วงข้าวใหม่ปลามันก็เป็นไปได้

กั้งทุบเขาไปบนไหล่ ตั้งแต่เขาอุ้มเธอออกมาจากห้อง

“คนบ้า!! จอมบงการ” กั้งโวยวายไปเรื่อยๆ

“คุณ!!! ปล่อยเลยนะ ฉันจะกลับห้องเข้าใจไหม ปล่อยนะ!!! คุณมาร์ติน กั้งบอกให้ปล่อย!!!” มาร์ตินไม่สนเขาต้องการความเป็นส่วนตัวกับกั้ง ถ้าไม่อุ้มออกมา ไม่มีทางที่กั้ง กั้งจะกลับมาห้องพร้อมเขาแน่ๆ

มาร์ตินเปิดประตูห้องเสร็จก็จัดการวางกั้งลงกับพื้น

“คุณ!!! ฉันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของคุณนะ ฉันไม่ไหวแล้วเข้าใจไหมที่ให้คุณไปมันก็มากพอแล้ว” กั้งรู้สึกโมโห งานนี้เธอจะไม่ทนไอ้คนบ้าอำนาจแบบนี้แน่ๆ

“คุณว่าอะไรน่ะ!!! ผมมีอะไรกับคุณ ไม่ได้หมายความผมใช้คุณเป็นที่ระบายอารมณ์ ถ้าผมอยากระบายอารมณ์มากคงไม่ต้องมาตอแยคุณอยู่แบบนี้ ผมแค่เดิน ออกห้องไปผมก็หาคนมาระบายได้แล้ว กั้ง!!!” มาร์ตินสวนกลับทันที เขาก็จะไม่ทนกับคนที่ไม่ยอมรับอะไรพูดอะไรออกไปมันก็กลับไปที่จุดเดิม

“คุณก็ไปสิ!!! ไปเลย!!! ทำไมต้องเป็นฉันละไม่เป็นคนอื่น!!!” กั้งรู้สึกโมโห จนสติหลุด กั้งยืนหอบเพราะเถียงกับเขาที่ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่พอมองใบหน้าเขาเต็มๆ เธอพูดอะไรผิด

“กั้ง!!! ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจอะไรเลย ในสิ่งที่ผมบอกคุณ ถ้ามันห้ามกันได้ ผมก็ไม่อยากจะมารักคนอย่างคุณ คนที่เอาแต่หนีตัวเองขนาดใจของคุณเอง คุณยังไม่ซื่อสัตย์กับมันว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม แต่คุณรู้อะไรไหม ผมชอบคุณตั้งแต่วินาทีแรก ผมไม่เคยตามใครไม่เคยคิดจะชอบใคร และที่สำคัญผมไม่เคยรักใคร นอกจากตัวเอง แต่วันที่เจอคุณทุกอย่างผมชัดเจนมาก ผมพยายามที่อยู่ใกล้ชิดคุณแต่คุณพยายามที่จะอยู่ห่างจากผม” พูดเสร็จเขากำลังจะหันหลังเดินออกไป แต่อยู่ดี ๆ ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้จึงหันหน้ามาพูดกับเธออีกครั้ง มองเธอเหมือนตัดพ้อ

กั้งตกใจทำไมดวงตาของเขาแดงกร่ำแบบนั้น เธอไม่เคยเจอเขาในอารมณ์แบบนี้ เขาโกรธเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอกั้งมองหน้ามาร์ติน

“ผมจะบอกให้นะ ผมอุ้มคุณกลับมาก็เพราะคุณบ่นก่อนออกไปว่าเหนื่อย เพลีย แต่ไปถึงที่โน้นคุณกับเล่นแต่เกม ไม่สนใจผมคิดว่าผมจะโอเคไหม ผมพยายามหาเวลามาหาคุณที่เมืองไทย ก็เพราะต้องการอยากจะรู้จักคุณ อยู่ใกล้คุณ ใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุด”

มาร์ตินพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องนอนไป ซึ่งกั้งได้แต่มองตามหลังทำตัวไม่ถูก

“ทำไงดีละ เกิดมาก็ไม่เคยง้อผู้ชาย โอ๊ย...กลุ้มใจหรือว่าเราไม่ต้องง้อ จะว่าไปเราก็ไม่ผิด ก็เขาเป็นคนลากเรามาเอง นิ่งไปสักพัก เอ๊ะ...หรือเราผิด เพราะสิ่งที่เขาพูดมันก็เรื่องจริง” กั้งเอามือขยี้ผมตัวเองแล้วมองดอกไม้ เธอมาถึงอารมณ์แบบนี้ได้ไงมานั่งนับกลีบดอกไม้ไม่น่ะ เธอจะไม่ทำมันน้ำเน่าเกินไป

“ง้อ ไม่ง้อ ง้อ ไม่ง้อ ง้อ นั้นไงลงทายที่ง้อ อะไร!!! กรีบดอกไม้มีแค่นี้เนี่ยน่ะ เดินไปหารอบๆ ห้องของเขา รสนิยมเจ้าของเดิมนี้ช่างไม่สุนทรีย์ ไม่เห็นจะมีดอกไม้อะไรให้เธอ“โอ๊ย...ง้อก็ง้อ มันจะยากอะไร ก็แค่การง้อคน”

กั้งเดินไปหาเขาในห้องนอนค่อยๆ เปิดประตู “จ๊ะเอ๋ อ้าวหายไปไหนแล้ว” มองไปรอบๆ ได้ยินเสียงมาจากห้องอาบน้ำท่าทางคงจะอาบน้ำดับอารมณ์ที่โมโหเธอ

มาร์ตินรู้สึกหงุดหงิดกั้งมากๆ เลยเดินไปอาบน้ำดับอารมณ์ที่มันโกรธ งอน พูดคุยธุรกิจเป็นพันๆ ล้านยังไม่เหนื่อยและยากเท่าคุยกับกั้ง ถ้าคุยครั้งนี้ไม่รู้เรื่องคงจะใช้แต่ภาษากายกันแล้ว ถ้าจะดื้อขนาดนี้

กั้งที่นั่งรอบนเตียงนอนรอว่าเมื่อไหร่เขาจะออกมาจากห้องน้ำ

“อาบน้ำ นานจังนี้จะ 20 นาทีแล้วอาบหรือตายในนั้น โอ๊ย...ทำไมต้องมาง้อด้วยเนี่ย” นั่งไปก็บ่นไป สักพักประตูห้องน้ำก็เปิดออกมา กั้งมองเขาที่ลำตัวมีหยดน้ำเกาะบนแผงอก ผมที่ยังไม่แห้งดี กล้ามอกเป็นมัดๆ เลือดกำเดาของเธอจะไหลออกมาหมดตัวไหม กั้งรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าเธอร้อนและน่าจะแดงมาก

มาร์ตินเดินออกจากห้องน้ำมาเจอกั้งนั่งอยู่บนที่นอน ดูทำท่าทางทำไมถึงแพ้เธอดูสายตาที่เธอมองมาที่เขา ยิ่งมานั่งในท่านี้ด้วยแล้ว พึ่งไปดับร้อนในห้องน้ำจะเอาอีกแล้วเหรอ

“คุณ...ทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งมานั่งนี้สิเดี๋ยวกั้งเช็ดให้นะคะ” มาร์ตินฟังก็หันไปมองหน้าของกั้งว่าเธอมาอารมณ์ไหน

“มาสิคะมา มา เดี๋ยวกั้งเป่าผมให้นะ” เนียนไปละกันกั้งคิดในใจ ทำหน้าตา กระตือรือร้นมาก

มาร์ตินเดินมาที่เตียงนอนแล้วนั่งลงไป ส่วนกั้งก็โดดมานั่งข้างหลังของเขา หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ มาเช็ดผมให้แล้วค่อยๆ นวดไปเบาบนศีรษะ

“เป็นอะไร...ถึงมาเอาใจผม” มาร์ตินข้องใจต้องมีอะไรแน่ๆ เมื่อกี้ยังโวยวายเขาอยู่เลย

“เปล่าคะ เออ...คือว่ากั้งขอโทษ นะคะ” กั้งตัดสินใจพูดออกไป มันอาจจะเขินหน่อยที่ต้องมานั่งทำแบบนี้

“เต็มใจไหมที่จะทำ ถ้าไม่ก็อย่าฝืน” สะตั้นสิคะยัยกั้ง ผู้ชายงอน งอนหนักมาก ไม่ยิ้มทำหน้าบึ้ง เธอจะเช็ดผมให้อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อเฉยเลยกั้งมองตาม

“หรือว่าเราต้องเล่นใหญ่มากกว่านี้ ไม่อ๊ะ...ทำไงต่อละ ที่นี้จะง้อแบบไหน” กั้งนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มาร์ตินแอบเห็นก็ยิ้ม ที่สามารถให้ผู้หญิงแบบกั้งมานั่งง้อเขาต้องทำแบบนี้ไม่งั้น เธอต้องเอาแต่ใจตัวเองทำอะไรไม่นึกถึงคนอื่น ดูสิว่าการง้อของเธอจะเป็นแบบไหน

มาร์ตินเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาก็เดินเลยกั้งออกไปยังโซฟาด้านนอก ไม่สนใจคนที่นั่งอยู่บนเตียงกั้งได้แต่มองตาม

“อ้าวเฮ้ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้เดินผ่านไปเลย”

กั้งนั่งคิดสักพัก คิดอะไรไม่ออกโทรหาตัวช่วยดีกว่ามีตั้ง 3 คน มันต้องได้ผลสักคน

ตะนอยที่กำลังนั่งคุยเฮฮา กับพวกหนุ่มๆ ที่นั่งเมาท์คุยกันว่าวันนี้จะไปที่ไหนเพราะดูท่าทาง 2 คน ที่อยู่ในห้องฝั่งตรงข้ามคงจะไม่ออกไปไหนกันวันนี้

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตะนอยมองโทรศัพท์เพื่อนเธอโทรมาทำไม

“ว่าไง มีอะไรย๊ะหล่อน” ตะนอยส่งยิ้มให้สองหนุ่ม ที่สงสัยว่าคุณกั้งโทรมาหาคุณตะนอย ต้องมีอะไรแน่ลางสังหรณ์ในใจมันบอก

“แก!!! เขางอนฉัน ฉันควรจะทำยังไงดี เขาไม่คุยกับฉันและเขาก็เดินผ่านฉันไปเฉยเลย” กั้งมองออกไปด้านนอกที่มองเห็นมาร์ตินนั่งก้มหน้าดูมือถืออยู่

“อะไรน๊ะ!!! คุณมาร์ตินงอนแก แล้วประเด็นคือ...อะไรที่แกจะถาม” ตะนอยรู้สึกงง ผู้ชายงอนต้องมาบอกเธอด้วยเพื่อนฉัน

“ก็จะง้อเขายังไง ฉันง้อใครไม่เป็นแก ช่วยฉันหน่อยสิ” กั้งส่งน้ำเสียงอ้อนวอนและขอร้อง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยัยกั้งจะง้อสามี เธอก็ดูสิว่าเขาทำอะไร แกก็ไปช่วยเขา พยายามเอาใจเขาหน่อยนั้นสามีแกนะจะกลัวอะไร” ตะนอยคิดอาจจะเพราะกั้งโตมาคนเดียวเลยทำอะไร ไม่ค่อยจะมีมุมหวาน เหมือนสาวๆ คนอื่น การเอาอกเอาใจถึงติดลบ

“ถ้าฉันรู้ ฉันจะมาถามแกเหรอตะนอย เพราะมันไม่รู้นะสิ ในละครกับชีวิตจริงมันไม่เหมือนกันนะ”

“ลองๆ ไปไม่เสียหายปล่อยไปเขาโกรธจริงหนีกลับสเปนแล้วร้องไห้นคะ”กั้งคุยกับตะนอยเสร็จก็เดินออกมาหามาร์ตินที่นั่งอยู่ด้านนอกในมือก็ถือโทรศัพท์นั่งเช็คอะไรอยู่

“หิวอะไรไหมคะ...” มาร์ตินหันหน้ามอง

“ไม่...” แค่นั้นแล้วก้มมองมือถือ

“เออ...กั้งขอโทษนะ หายโกทธเถอะนะคะ” กั้งทำหน้าตาน่าสงสาร แบบที่ทำกับแม่

“รู้ตัวเองเหรอว่าทำผิด” กั้งพยักหน้า

“แล้วทำไง ถ้ารู้ตัวว่าทำคนรักเสียใจควรจะทำยังไงรู้ตัวหรือเปล่าวิธี” กั้งส่ายหน้า แต่เมื่อกี้ขอเคลียคนที่เรารักเรายังไม่ได้ตอบรับรักเขาเลยนะขี้ตู่ชะมัด

“เดี๋ยวคุณฉันยังไม่ได้บอกเลยว่ารักคุณเลยนะ เราศึกษาดูใจกันเฉยๆ ถ้าคิดว่าตอนนี้เราน่าจะเป็นแฟนมากกว่านะ” มาร์ตินฟังแล้วดีจริงๆ มานั่งง้อคนที่กำลังบอกว่าศึกษาดูใจให้มันได้อย่างนี้

“คนที่ศึกษาดูใจ เขาไม่ทำกันเหมือนที่เราทำหรอกนะกั้ง ถ้าจะพูดว่าเป็นแฟนผมยังไม่โกรธเท่ากับสิ่งคุณพูดออกเมื่อกี้” กั้งโดนอีกแล้วอันแรกยังง้อไม่สำเร็จแล้วมาโกรธเรื่องนี้อีกwhat?

“กั้งก็ขอโทษ คุณอยู่เนี่ยให้กั้งทำไงก็บอกมาเลย กั้งง้อใครไม่เป็น ก็คนมันไม่เคยมีมันจะรู้ไหมละ คุณจะให้ทำอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า ถ้าพูดไม่ถนัดก็เขียนมาเลย” กั้งคิดถ้าเป็นแบบนี้บอกมาเลย ดีกว่ามาให้เธอนั่งเดา

มาร์ตินฟังสิ่งที่กั้งพูด เอากับคุณเธอสิให้เขาบอกวิธีง้อ แล้วเธอจะได้ทำให้ บางครั้งเขาเริ่มคิดว่าเธอแสดงละครได้ไงดูในละครที่เธอแสดงก็เหมือนอินไปกับบทบาทแต่ชีวิตจริงนี้

“เอางี้...ผมให้คุณแสดงออกว่า คุณอยากจะง้อผมยังไงในสิ่งที่คุณคิด” กั้งฟังเขาพูดง้อในแบบที่เธอคิดเหรอ ได้ง่ายมาก

“ดีกันนะ...” มาร์ตินตกใจหันไปมองหน้ากั้ง นี้คือวิธีง้อของนางเอกซุปตาร์เมืองไทย ยื่นนิ้วก้อยมาให้เขาเนี่ยนะ แม่เจ้า...เธอเห็นเขาอยู่ชั้นอนุบาลใช่ไหมบอกเขาที่

“แบบนี้เนี๊ย...น่ะ ที่คุณคิด” กั้งพยักหน้า มาร์ตินเห็นแล้วอยากจะวิ่งไปชนกำแพงจริงๆ นี้เขาคงจะหวังอะไรมากไปใช่ไหม

“ทำไม...เหรอ เวลาตอนเด็กๆกั้งจะง้อใครก็ทำแบบนี้ ทุกคนก็ยื่นนิ้วมาเกี่ยวก้อยแล้วก็หายไปเล่นกันต่อไม่เห็นจะแปลกเลย” มาร์ตินมองหน้ากั้งเอากับคุณเธอสิ สรุปว่าเขาต้องยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยด้วยเนี่ยนะ ไม่!!! เขาอายุ33แล้ว และมองไปตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้อายุ 24 จริงเหรอใครก็ได้บอกเขาที oh my god!!!

“คุณ...ผมอายุ 33 แล้วนะไม่ใช่เพื่อนของคุณที่จะมาทำแบบนี้ คุณแสดงละคร พระเอกเขาง้อนางเอกแบบไหน คุณก็จำมันมาทำบ้างสิ” มาร์ตินถึงกับต้องปลงชีวิตว่าเขาต้องเป็นคนบอกวิธีง้อให้กับคนข้างหน้าเพื่อเอามาง้อตัวเขาเองหมดกัน เขาจะมีเมียหรือมีลูกว๊ะ!!

“อืม...เหมือนในละครเหรอ...” กั้งนั่งคิดมาร์ตินนั่งมองนี้เขามอบโจทย์คณิตศาสตร์ให้กับเธอหรือไง ถึงต้องนั่งคิดมากขนาดนี้ไม่ไหวแล้วมองแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดไมเกรนจะขึ้น มาร์ตินเลยลุกหนีไปยังด้านนอกระเบียง

“อ้าว...ออกไปไหน กั้งกำลังนั่งคิดอยู่คุณ...อย่าพึ่งหนีสิคะ”

“เชิญคุณนั่งคิดไปเลยกั้ง...คุณคิดออกเมื่อไหร่ แล้วค่อยมาง้อผม”

กั้งนั่งคิดไปทำไงดีในละคร เธอนึกไปเรื่อยๆ มาร์ตินมองกั้งเขาต้องดีใจใช่ไหม ที่เขาได้เป็นเธอเป็นแฟนคนแรก บางทีเขาก็ขำ ถ้าเขาไม่มาอยู่ด้วยเขาก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเธอเป็นคนแบบนี้ เธอฉีกกฎทฤษฎีของผู้หญิงที่เขารู้จักมาทั้งหมด ถ้าเป็นคนอื่น คงจะมาออดอ้อนหอมแก้มไม่งั้นก็จูบเขาเบาๆ แต่นี้คืออะไรยื่นนิ้วก้อยมาเพื่อขอคืนดี

มาร์ตินเดินออกมาตรงระเบียงด้านนอกมองไปวิวนอกคอนโดนี้ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มองแล้วสบายตาทันใดนั้นเขาก็ตกใจ เมื่อมีมืออ้อมมากอดเขาจากด้านหลังพร้อมทั้งจูบไปบนแผ่นหลังกว้างของเขา

“กั้ง...ขอโทษนะคะ ที่พูดอะไรไม่คิดดีกันนะ” มาร์ตินนิ่งนี่คือสิ่งที่เธอเอามาง้อเขา เขาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่เขาก็ชอบมากกว่าเมื่อกี้ มันเป็นอ้อมแขนเล็กๆที่อบอุ่นพร้อมกับรอยจูบที่เธอใช้จูบลงไปบนแผ่นหลังของเขา มาร์ตินค่อยๆ หันหน้ากลับมามองก็เจอเข้ากับสายตาที่ส่งมาอ้อนและยิ่งกว่านั้นเธอมองเขา ค่อยโน้มใบหน้าเขาเข้ามาจูบ

“กั้ง!!! คุณคิดเองหรือเปล่าที่ทำแบบนี้”กั้งพยักหน้า เธอไม่รู้ว่าจะทำแบบไหน เห็นเขายืนมองออกไปด้านนอก เธอเห็นแผ่นหลังแล้วอยากจะกอดเขา เธอใช้ใจในการคิดเท่านั้น

“กั้งไม่รู้ว่าจะทำยังไง คุณไม่ชอบหรือไงคะ”

“กั้งการง้อหรือจะทำอะไรให้คนรัก เราอย่าไปคิดอะไรเยอะ คุณใช้แค่ตรงนี้”มาร์ตินชี้ไปที่อกด้านซ้าย

“ขอบคุณคะ ที่คุณเข้าใจกั้ง” มาร์ตินพยายามจะไม่ยิ้ม ทันทีเห็นใบหน้าเธอแบบนี้แล้วเขาก็อดไม่ได้จริง เขาเชยคางกั้งให้เงยหน้าขึ้นมามองตาเขา “เราเป็นแฟนกันแล้ว ถึงแม้ว่าสถานะจริงๆ เราอาจจะมากไปกว่านั้น ผมอยากให้คุณใช้ความรู้สึกมากกว่าควรทำอย่างไรกับคนที่คุณรักและเขาก็รักคุณมาก ผมหวังดีกับคุณมากๆ นี่คือชีวิตจริงที่เราต้องมาศึกษากัน ไม่ใช่ละครที่คุณ แสดงไม่ดีมันก็คัทถ่ายใหม่กันได้ แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่ถ้าเรารักใครก็จงถนอมน้ำใจอีกฝั่งให้มากๆ ผมขอคุณแค่นี้ได้ไหมครับกั้ง” มาร์ตินจ้องเข้าไปในดวงตาค่อยๆ ใช้มือลูบไปบนริมฝีปากที่เขาชอบกั้งพยักหน้า

“คะ กั้งจะพยายามคิดถึงจิตใจคุณให้มากกว่านี้นะคะ”

มาร์ตินก้มลงไปจูบกั้งเบาๆ กั้งที่กำลังเคลิ้มกับรอยจุมพิตที่เขามอบให้ เขามือลากผ่านไปยังแผ่นหลัง ตอนนี้ทุกอย่างถูกจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง มาถึงตอนนี้ก็ขอทำโทษ คนที่ทำให้เขาต้องเหนื่อยอธิบายหน่อยเถอะส่วนอารมณ์ตอนนี้ของเขามันเลยเถิดไปไกลยากที่ดึงกลับมาได้ มาร์ตินจัดการอุ้มกั้งเข้าไปยังห้องนอน ปรับความเข้าใจกันบนเตียงซึ่งใช้ภาษากายท่าทางจะง่ายกว่า จากบทลงโทษของเขาส่งผลให้กั้งหมดฤทธิ์ไปจนถึงช่วงเย็น กั้งที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมาสรุปสุดท้ายเธอก็ต้องจบด้วยวิธีนี้อีกแล้ว กั้งลุกขึ้นมามองไปรอบๆ ห้องเขาหายไปไหนอีกแล้ว ทำไมเขาไม่รู้จักเหนื่อยเหมือนเธอบ้างนะ

มาร์ตินที่จัดการลงโทษกั้งที่สลบไปก็เดินไปหาคนของเขาที่ห้องของกั้งเจอทั้งสามคนคุยกัน และนั่งเล่นเกมสบายจริงๆ นะ เอาน่าเหมือนให้ลูกน้องเขาได้พักผ่อน พรุ่งนี้เขาจะต้องเข้าไปคุยเรื่องโรงแรมกับคุณวิรุฒหน่อย เพื่อรับฟังข้อเสนอต่างๆ เหล่านั้น เขาเลยมาให้ลูกน้องสองคนหาข้อมูลให้พร้อมเตรียมไว้สำหรับพรุ่งนี้ เขาคิดจะเอากั้งไปด้วยยอมไม่ยอมก็จะลากไปให้ได้

“คุณตะนอยและนายสองคนหิวกันหรือยัง เดี๋ยวรอกั้งตื่นเราค่อยออกไปหาอะไรทานด้านนอกกันไหม ผมอยากจะเห็นว่าคนที่นี้มีวิถีการใช้ชีวิตเป็นยังไง จะได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ภายในโรงแรม ถ้าผมคิดจะซื้อกิจการจากพ่อของกั้ง”

“ได้คะ เดี๋ยวตะนอยพาไป เห็นกั้งอยากจะไปอยู่พอดีนางขอร้องมาหลายครั้งแต่ติดตรงงานเยอะยังไม่ว่างเลยไม่ได้ไปกัน ดีเลยคะ”

มาร์ตินพยักหน้า ก็ดีเขาอยากจะรู้ว่ากั้งชอบไปที่ไหน

“เดี๋ยวผมเดินไปดูกั้งอีกที ท่าทางน่าจะตื่นแล้วนี่ก็จะหกโมงเย็นแล้ว”

มาร์ตินพูดเสร็จแล้วเดินออกไปห้อง พอเข้ามาในห้องก็ไม่เจอกั้งในห้องนอน ไปไหนเนี่ยห้องน้ำก็ไม่เจอ เดินมาที่ระเบียงเจอกั้งกำลังถ่ายรูปพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าห้องของเธอมองไม่เห็น

มาร์ตินเดินเข้ามากอดจากทางด้านหลังแล้วหอมลงไปบนแก้มนุ่มๆ

“ถ่ายรูปอะไรครับ” กั้งหันหน้ามาบอกเขา

“ถ่ายรูปพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ห้องที่กั้งอยู่มองไม่เห็นคุณไปไหนมา กั้งหาไม่เจอไปหาพวกตะนอยมาเหรอคะ”

มาร์ตินพยักหน้าแต่มือเอื้อมไปคว้ามือถือของเธอมา จากนั้นก็ก้มไปจูบตรงหน้าผาก แล้วก็กดถ่ายรูป กั้งมองหน้าเขาทำไมหนุ่มสเปนถึงเป็นคนที่โรแมนติกทำแต่ละอย่าง เธอพึ่งเปิดอ่านนิสัยของหนุ่มสเปน ถ้าไม่รักจริงหนุ่มสเปนจะไม่พูดออกมา และถ้าตกลงแต่งงานจะรักครอบครัวมาก

“คุณอยากถ่ายรูปไม่ถ่ายดีๆ ละคะ ถ่ายแบบนั้นมันจะสวยหรือไง” เขาชอบถ่ายเธอมุมนี้

“ถ้าผมอยากได้รูปสวยๆ ผมก็ทำไปแล้วแต่ผมอยากได้รูปที่ใครๆ ไม่สามารถมีได้ และมันต้องพิเศษเฉพาะผมเท่านั้น” มาร์ตินยิ้มๆ กั้งเขินและหลบสายตา

“ผมเดินไปชวนพวกนั่นออกไปทานข้าวข้างนอก เห็นตะนอยว่าคุณอยากจะไปที่ไหนอยู่สักที่หนึ่งเขาบอกว่ารอถามคุณก่อน”

“อ๋อ...คะ กั้งอยากไปเดินเยาวราช ไปหาของอร่อยๆ ทานอยู่แต่ไม่ค่อยว่าง คุณอยากไปไหมหรืออยากไปร้านหรูๆ กั้งก็พาไปก็ได้คะ” กั้งพูดออกมาขอทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี จริงแล้วสตรีทฟู้ดบ้านเราคือที่สุด นักท่องเที่ยวอยากมาพบเจอ แต่เธอไม่รู้ว่าเขาชอบหรือเปล่าหรืออาจจะไปโรงแรมร้านหรูๆ ก็ได้ ระดับเขาเป็นมหาเศรษฐี จะมาเดินข้างถนนกับเธอคงจะไม่

“ได้ คุณลองพาผมไปสิผมอยากจะสัมผัสความเป็นอยู่ของคนไทย ผมจะได้เอามาปรับเปลี่ยนนำไปใช้กับธุรกิจผมบ้าง”

“ได้เลยคะเดี๋ยวกั้งพาไป รับรองคุณต้องสนุกแน่ๆ พร้อมหรือเปล่าคะ แนะนำว่าคุณควรต้องใส่รองเท้าผ้าใบคะ เราเดินไปเรียกพวกเขาเถอะ กั้งจะไปเอารองเท้าด้วย” มาร์ตินรู้สึกดีใจมากๆ ครั้งนี้ กั้งเป็นคนที่เดินเข้าหาเขาแถมยังชวนเขาไปในที่ ที่เธอชอบมันจะเป็นแบบไหนกันนะ

เมื่อทุกคนพร้อมแล้วสำหรับทริปในครั้งนี้ ที่กั้งได้เสนอไว้คือทริปของอร่อย

เมื่อฝ่าดงรถติดและกว่าจะหาที่จอดกันได้เล่นเอาเหนื่อย ส่วนกั้งนั่นลัลล้า ทันที เธอชอบมากเรื่องหาอะไรอร่อยๆ ที่ไม่ใช่ร้านหรูๆ ดังๆ เธอไปได้หมด

มาร์ตินที่เดินตามไกด์สาวดูท่าทางสนุก มันจะดูร้อนๆ หน่อยแต่ดูมีชีวิตชีวา สีสันยามค่ำคืน กั้งยืนให้ตะนอยถ่ายรูป คงจะไม่ใช่พวกเขาแล้วละที่มาเที่ยวน่าเป็น พวกเธอสองคนมากกว่าที่สนุก เดินดูของกินเดี๋ยวแวะเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ กินไปเรื่อยๆ

“คุณๆ ลองชิมร้านนี้ไหมอร่อยน่ะ” ทำหน้าแบบนี้มีเหรอที่เขาจะปฏิเสธ พยักหน้าเรียกสองคนที่ตามมาจริงๆ เขาเป็นคนไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่าง เขากินนอน เที่ยวกับพวกมัน เขากินอะไรลูกน้องก็ต้องกินกับเขาไม่ได้แยกว่านี่ของฉัน ฉันเป็นเจ้านายสองคนนั้นคือลูกน้อง ถึงทำให้เขามีคนที่สนิทไว้ใจอยู่ด้วยตลอดเวลาก็จะห่างบ้างก็ตอนเจอกั้ง

“พวกคุณลองทานสุกี้แห้งไหมคะ แนะนำเลยร้านนี้อร่อยมากกกก”

“อร่อยของแกคนเดียวหรือเปล่า พวกเขายังไม่ได้ชิมพวกเขาคงไม่รู้หรอก”

“อ้าว!!! ก็ฉันอยากให้เขาชิม อย่าพูดมากสั่งเถอะ”

เด็กเสิรฟ์เดินมารับออเดอร์พอเห็นว่าเป็นดาราดังเท่านั้น พนักงานก็ออกอาการเขินกั้งเห็นก็หัวเราะ

“เอาสุกี้ทะเลแห้ง 5 ที่นะจ้ะ” พนักงานรับออเดอร์ไปแล้วตะโกนตามสไตล์ เยาวราช แรกๆ มาร์ตินตกใจทำไม ดูมันแปลกๆ ที่นี้เขาทานกันแบบนี้เหรอมีแต่โต๊ะสังกะสีกับเก้าอี้พลาสติกดูร้านแล้วคนเยอะมากๆ รวมคนที่ยืนรอคืออะไรมันจะมากกว่าร้านอาหารหรูๆ ที่เขาเคยไปอีกมันคงต้องดีจริงๆ

สักพักก็มีคนมาลุมล้อมมองดาราและก็เริ่มมีคนมาขออนุญาตถ่ายรูป จากหนึ่งคน สองคนเริ่มจะเยอะมากขึ้นเรื่อย

“คุณกั้งครับ ผมขอถ่ายรูปได้ไหม” กั้งมองหน้าแล้วยิ้มเห็นหลายคนแอบถ่ายรูปเธอ เธอมองไปรอบๆ หาพื้นที่ ที่สะดวกหน่อย

“มาคะ เอาตรงนั้นดีกว่าไม่เกะกะหน้าร้าน”

เท่านั้นแหละ คนก็วิ่งตามเธอไปเป็นสิบ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ แม่ค้าร้านข้างๆ คนเดินผ่านไปผ่านมาเห็นดาราก็ขอถ่ายรูป บางคนเห็นเธอรีบเอาของกินมาให้ จนบนโต๊ะที่เธอนั่งมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้น

มาร์ตินตกใจอะไรจะขนาดนั้น มองดูอาหารบนโต๊ะ มีของกินที่ถือว่าเยอะมาก คนโน้นคนนี้เอามาให้ชิม เขายังไม่ได้ควักเงินสักบาทเลย มองแล้วคนไทยน่ารักจริงๆ จากมารยาทที่ขอเธอถ่ายรูปแต่ละคนถ่ายเสร็จกั้งก็ยกมือไหว้ทุกคนเลยเขามองแล้วต่างจากพวกดารานางแบบ ที่เขาเจอในเมืองนอกและเข้าใจแล้ว ทำไมเธอถึงเป็นซุปเปอร์สตาร์ดังมีงานเยอะแยะ เพราะความไม่ถือตัวของกั้งนั่นเองง่ายๆ ธรรมชาติมากไม่ได้ปรุงแต่งเสื้อผ้าที่เธอชอบใส่ก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นบ้างยาวบ้าง รองเท้าผ้าใบ ไม่ต้องแต่งหน้า ผมก็ไม่ต้องทำปล่อยบ้างมัดบ้างแล้วแต่ดูแล้วสบายตาสบายใจ

กั้งถ่ายรูปกับแฟนคลับเสร็จก็เดินมานั่งที่โต๊ะมองตรงไปยังจานสุกี้ร้อนๆ

“กินสิคะรออะไร คุณทานเป็นไหม ทานแบบนี้นะคะ ดูกั้งคุณตักน้ำจิ้มเอาแบบนิดๆ ก่อนว่าเผ็ดไหม ถ้าไม่เผ็ดก็ค่อยๆ เพิ่มแล้วก็ตักเข้าปากแบนี้ อือ...ฟิน” จนทุกคนเริ่มน้ำลายสอ มาร์ตินจึงเริ่มลงมือทานตามที่กั้งสาธิต พวกหนุ่มถึงกับร้องไม่น่าเชื่อแค่ผักกับของทะเลราดน้ำจิ้มก็อร่อยแล้ว อร่อยกว่าอาหารในภัตตาคารร้านหรูๆ

กั้งที่ลุ้นว่ารสชาตจะถูกปากของพวกเขาไหม เห็นเขายิ้มและพูดว่าอร่อย เธอก็ดีใจที่เขาพยายามปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมการกินของคนไทย ซึ่งเธอไม่ค่อยชอบอาหารหรูๆ เธอชอบแบบนี้อร่อยและไม่แพง

ทานกันไปจนจะหมดแล้ว ตะนอยจัดการชิมอาหารที่ทุกคนเอามาให้ แต่กั้งอยากกินขนมปังเจ้าดังไส้เยิ้มๆ หันหน้าไปหาตะนอยที่กำลังชิมของกินอันอื่นอยู่

“แกๆ ฉันขอตังค์หน่อยดิ ฉันจะเอาไปซื้อขนมปัง” มาร์ตินมองกั้งแบมือขออะไรตะนอย สักพักเห็นตะนอยควักเงินในกระเป๋าส่งมาให้ 200 บาท

“คุณไม่มีเงินเหรอ ถึงต้องไปขอเงินตะนอย ผมก็มีจะไปขอตะนอยเขาทำไม” กั้งตกใจก็เธอเป็นคนไม่พกเงินอยู่แล้วจะเอาอะไร เดี๋ยวตะนอยก็จัดการจ่ายให้ กระเป๋าตังค์เธอไม่ได้เอามา เราสนิทกันเลยเป็นแบบนี้ แล้วเขาจะมาซีเรียสอะไร

“ไม่ใช่คะคุณมาร์ติน กั้งเป็นแบบนี้คะไม่ค่อยพกเงิน มีอะไรนางก็จะขอ อยากจะกินอะไรตะนอยก็จ่ายอย่างนี้แหละอย่าตกใจเลยคะ”

“เท่าไหร่!!! เอาที่ผม” เขาควักแบงค์พันมา 5 ใบยื่นให้กั้ง เขาคงต้องให้สองคนทำบัตรเครดิตให้กั้งแบบไม่จำกัดวงเงินคิดๆ แล้วรู้สึกขายหน้าเป็นแฟนมหาเศรษฐีไม่มีเงินพกติดตัวสักบาท

กั้งมองเงินที่เขายื่นมาให้ เฮ้ย!!! จะเอาเงินแค่สองร้อยให้มาห้าพันบ้าหรือเปล่าตะนอยกับเธอ อ้าปากค้างคือไปซื้อขนมปังปิ้งแค่เนี่ย

“บ้าหรือเปล่าคุณ!!! ฉันจะเอาสองร้อยบาท คุณให้อะไรฉันมาเยอะแยะเนี่ย ขนมปังไม่กี่บาทเอง”

“ก็คุณไม่มีเงิน ผมก็ให้คุณก่อน คุณจะได้ไม่ต้องไปเอากับคนอื่น ผมเป็นแฟนคุณ ถ้าพฤตินัยก็สามี ผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณ”

ตะนอยยิ้มรวยจริงๆ ให้เงินแฟนไปซื้อขนมปังห้าพัน ตะนอยสะกิดกั้งรีบรับๆ ไปเหอะเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง กั้งรับเงินมาหนึ่งพันที่เหลือคืนให้เขา

“เดี๋ยวเอามาทอนให้นะคะ”

กั้งลุกเดินไปสั่งเขามองของกินบนโต๊ะมันก็มากพอดู พวกเขากินยังรู้สึกตื้อๆเลย แล้วคนที่วิ่งไปสั่งขนมปังไม่อิ่มเลยเหรอตัวเล็กแต่กินจุจริงๆ เวลากั้งกินแล้วมันน่าอร่อย พวกเขาจ่ายเงินมายืนรอคนที่วิ่งไปซื้อขนมปังปิ้งที่คิวนานมาก ขนมปังอะไรจะขายดีขนาดนั้น สักพักกั้งก็วิ่งข้ามถนนมาหาพวกเขา พร้อมกับกล่องขนมปัง

“นี้ไง!!! อยากกินมากๆ ได้กินแล้วนี่คะเงินถอน” มาร์ตินถึงกับอึ้งไปอีก รวมถึงลูกน้องเขาด้วยนี่คือว่าที่นายหญิงพวกเขาใช่ไหมเหมือนพ่อเอาเงินให้ลูกสาว ความรู้สึกแบบนั่นเลยยื่นเสร็จก็ยกมือไหว้อีกครั้ง กั้งผู้ซึ่งไม่สนใจอะไรก็ก้มหน้าหยิบขนมปังที่มีไส้เยิ้มๆ ขึ้นมาทาน มาร์ตินจ้องนี้เขาได้ลูกสาวมาชัดๆ เลย

“คุณไม่อิ่มเลยเหรอ เอาไปเก็บไว้ส่วนไหนหมด” มาร์ตินนึกได้ว่าตรงส่วนไหนก็ยิ้มๆ กั้งเห็นคำถามกับสายตาก็ทำให้รู้ว่าเขาคิดอะไร ทะลึ่งแน่ๆ

“บ้า!!! สิชิมไหมคะ อร่อยนะ” เธอป้อนเขาสามคนที่เหลือพากันอิจฉาจริงๆ สองหนุ่มไม่ลืมที่จะถ่ายรูปส่งไปให้ มาดามของคุณมาร์ติน

ทุกคนพากันเดินย่อยไปจนถึงรถ มาร์ตินรู้สึกสนุกมากๆ เขาไม่ค่อยได้ยิ้มหรือหัวเราะอะไรแบบนี้เลยจริงๆ

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 55

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!