บทที่ 13

กั้งที่ลุกงัวเงยตื่นขึ้นมาพร้อมสะบัดศรีษะและบิดขี้เกียจ แต่ตาก็ยังไม่ลืม สักพักก็ล้มตัวลงนอนเอาหน้ามุดกลับลงไปนอนต่อ ลืมคิดไปว่านี่ไม่ใช่ ห้องนอนของตัวเอง

ภาพที่เขาเห็นบอกเขาที่ว่านี่คือสภาพนางเอกชื่อดังตอนตื่นนอน โอ้ว!!! ผมเผ้าชี้ฟู เสื้อเชิ้ตหลุดจนเห็นเนินอกอวบอิ่มรำไร ชายเสื้อเปิดมาถึงต้นขาทำให้เห็นผิวที่มันเนียนภาพนี้..

มาร์ตินเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือตรงโต๊ะข้างๆ เขาได้แอบถ่ายภาพนี้เอาไว้ ซึ่งมันเป็นภาพที่เขาคิดว่าน้อยคนที่จะได้เห็น ยิ่งเขามาเจอแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกหวงเพิ่มมากขึ้น เมื่อคืนกว่าเขาจะหลับตาได้ เขาต้องลุกขึ้นมาจัดการตัวเอง ตอนตี3กว่าๆ จะหลับลงได้ไง แม่เจ้าประคุณเล่นเอาหน้าอกที่ไม่ใส่ชุดชั้นในมาเบียดกับอกเขา พร้อมกับเอาหน้ามุดไปตรงอก ขาก็เกาะเกี่ยวเอวเขาไว้ คงจะนึกว่าเขาเป็นหมอนข้างแน่ๆ เขาขยับเพื่อให้เธอได้นอนสบาย ดันกลายเป็นเขาที่ทรมานกับภาพที่เขาเห็นเมื่อคืน หน้าอกเนียนต้นขาขาวๆ ที่มันคอยแต่จะเลื่อนขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาทนไม่ไหว ร่างกายเขามันตื่นไปทุกส่วน ต้องรีบลุกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ซึ่งเกิดมาเขาไม่เคยที่จะต้องทำแบบนี้ แค่คืนแรก แล้วคืนต่อๆไป เขาจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอได้หรือเปล่า “จะไหวไหมเรา” ยิ่งตอนนี้มันก็ตื่นตัวอีกแล้ว ตายแน่ๆ มาร์ตินตื่นขึ้นมาก็ลุกไปทำอาหารมาให้คนบนที่นอน ที่คิดว่าคงจะตื่นแล้ว แต่เปล่าเลย

“กั้ง ครับ ตื่นนอนได้แล้ว ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว” มาร์ตินเขย่ากั้ง

“ไม่เอา!!!! ขอนอนต่ออีกชั่วโมงนะตะนอยฉันง่วง” กั้งเอาหมอนมาปิดใบหน้า แล้วลากผ้าห่มมาคลุมปิดไว้หมด

มาร์ตินถึงกับอมยิ้ม ท่าทางคงจะลืมตัวคิดว่าอยู่ห้องตัวเองแน่ๆ เขาไม่คิดเลยจริงๆ ว่าต้องลุกมาทำแบบนี้กับใคร ในตอนเช้าแต่มันกลับทำให้เขามีความสุขมากๆ ในการที่ตื่นมาแล้วเห็นเธอในสภาพแบบนี้ในห้องนอน มาร์ตินดึงผ้าห่ม กับ หมอนออกจากใบหน้ากั้ง แล้วก้มลงมาหอมแก้มเบาๆ

กั้ง ที่นอนๆอยู่ รู้สึกว่ามีหนวดของใครมากระทบกับแก้ม แล้วก็กลิ่นนี้ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า....

“ เฮ้ย!!! คุณทำอะไร” กั้งลุกพรวดลืมตา ที่นี้ตื่นเลย อาการง่วงเมื่อกี้ ไม่มีหลงเหลือแล้วมองไปรอบๆ ใช่ เมื่อคืนเธอนอนที่ห้องของเขา อ้า...ปากกว้าง เมื่อมองเห็นเขาแบบเต็มตาเช้าแบบนี้ แม่เจ้า!!! เมื่อคืนว่าเช็กซี่แล้ว ยิ่งมาเจอเช้านี้ ยิ่งไปกันใหญ่มันชัดเจนมาก แสงที่ตกมากระทบเขา โอ้ยๆใจสั่นกันเลยทีเดียว กั้งสะบัดหัว อย่าทำตัวหื่นแต่เช้าแบบนี้ไม่ดีกั้งใจเย็นๆพยายามคุมอารมณ์ ตอนนี้มันเริ่มแตกกระจาย ยิ่งมองหน้าอก กล้ามแล้วอยากจะเอามือลูบเบาๆ กั้ง หึย!!! คิดแล้ว ใจมันสั่น มาร์ตินมอง

“เป็นอะไรคุณ งับปากบ้างก็ได้ สิ่งที่เห็นนะมันเป็นของคุณคนเดียว ผมไม่ให้ใครมาจับหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มาร์ตินกระซิบข้างๆหู

“หื่นนะเรา” กั้งหน้าแดงลามไปถึงต้นคอที่เขาเห็นอาการของเธอ ที่มันแสดงออกขนาดนั้นเลยกั้งสะบัดหน้า แกล้งทำเป็นไม่สนใจ

“เปล่า!!! ใครว่าฉันหื่น ฉันแค่คิดว่าคุณตื่นมาแล้วทำไมยังไม่ใส่เสื้อผ้าอีก แก้เสื้อเดินไปเดินมาทำไหม ชอบอ่อยชอบโชว์หรือไง” กั้งลุกขึ้นมามองไปด้านข้าง ตาไปกระทบกับแก้วน้ำส้ม ที่ข้างๆ เป็นจานอโวคาโดบด โรยหน้าด้วยซีเรียล แล้วหันไปมองหน้าเขา“คุณทำ เหรอ!!!” มาร์ตินพยักหน้า

“ใช่ ผมเป็นคนทำ ผมถึงปลุกคุณขึ้นมาทาน เห็นว่าวันนี้ต้องไปถ่ายแบบโฆษณาไม่ใช่เหรอ”

มาร์ตินยกไปวางให้เธอบนเตียง“เชิญครับ คุณผู้หญิง ผมไม่ใส่เสน่ห์ลงไปในนั้นแค่นี้ผมก็มั่นใจนิดๆ แล้วว่าคุณเริ่มจะหลงรักผมแล้วละ” กั้งมองหน้าเขาแล้วโครตจะหมั่นไส้จริงๆ ผู้ชายอะไรจะหลงตัวเองได้ที่หนึ่ง

“ฉันนะไม่กลัวหรอกเสน่ห์ กลัวจะเป็นอย่างอื่นมากกว่าละสิไม่ว่า อย่ามาหลงตัวเองหน่อยเลย” กั้งมองค้อนมองหายางรัดผม จัดการรวบเป็นหมวยไว้กลางหัว แล้วเงยหน้าพูดกับเขา

“ฉันนะเจอล่ำๆ อกแน่นๆ ยิ่งกว่าคุณอีก คุณรู้จักไหมโอปป้าเกาหลีนะ นั่นสเปกฉัน อย่ามาอวดเลยแบบนี้”

มาร์ตินได้ยินถึงกับ หูผึ่ง อะไรนะ!!! เห็นมามากกว่าเขา และก็บอกว่าชอบมากด้วยสไตล์โอปป้าเกาหลีเหรอ

“ได้เลยกั้ง!!! คุณจะยั่วให้ผมหึงแต่เช้า!!! ได้!!! เดี๋ยวผมจะโชว์ให้คุณดูว่าผู้ชายสเปนแตกต่างจากโอปป้าเกาหลีของคุณยังไง เตรียมตัวรับมือดีๆหละ” กั้งเริ่มที่จะนั่งไม่ติดเห็นเขาหยิบถาดอาหารที่เขานำมาให้เธอไปไว้ข้างเตียงและหยิบแก้วน้ำส้มที่นำมาให้เธอยกขึ้นดื่ม แบบนี้คือใช่เลยกั้งเริ่มคิดได้ว่าควรจะต้องโดดหนีลงจากเตียง แต่ก็ช้ากว่าคนข้างๆ เขาจับเธอกดไว้บนเตียง แล้วจับใบหน้าเธอให้หันมาทางเขาทันใดนั้น เขาก็กดจูบลงมาที่ปากของเธอซึ่งในปากเขามีน้ำส้มอยู่ด้วย กั้งกำลังอ้าปากจะร้อง แต่ไม่ทันแล้วเขาได้ปิดปากเธอด้วยน้ำส้ม

มาร์ตินกระหน่ำ จูบป้อนน้ำส้มไปเรื่อยๆ ป้อนแบบนี้ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ตอนแรกมันออกจะรุนแรง กั้งพยายามหลบให้พ้นใบหน้าเขา

“อย่านะ!!! คุณ” มาร์ตินจัดการสั่งสอนกั้ง จากที่ขัดขืนเริ่มกลายเป็นคล้อยตาม พอได้สติกั้งพยายามดันหน้าเขาให้ออกห่าง แต่สู้แรงคนข้างบนไม่ได้ เธอตัวเล็กกว่าเขาพยายามผลักมาร์ติน แต่คนด้านบนพยายามปลุกอารมณ์ของเธอให้กระเจิง กล้าชมคนอื่นต่อหน้าเขา ได้!!! เขาจะทำให้เธอรู้ว่าการชมผู้ชายคนอื่นเป็นยังไง!!!

มาร์ตินเริ่มซุกไซ้ไปเรื่อยๆ ไล่ลงมาตรงซอกคอ แล้วค่อยๆ ลากผ่านมาตรงด้านหน้าวนกลับไปที่ริมฝีปาก จากนั้นมือเริ่มที่จะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่วันนี้เขาได้เห็นมันแบบเต็มตา เขาค่อยเอามือลูบเบา เหมือนกลัวจะมันบอบช้ำ มันช่างพอดีมือของเขาสะเหลือเกิน เขาก้มลงมาจูบเบาตรงกลางร่องอก กั้งสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มันรู้สึก มันรู้สึกรัญจวนใจ เสียวซ่านที่อีกฝ่ายบรรจง สั่งสอนเธอ อึ้ม... อะ ...อือ กั้ง...ผมเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ

มาร์ตินลากปลายลิ้นผ่านไปยังปลายถันสีแดงทั้งสองข้าง ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน มาร์ตินกับกั้งตอนนี้สติได้แตกกระเจิงไปแล้ว เธอไม่น่าปากดีไปประชดเขาเลย ตอนนี้เธอเริ่มจะทนไม่ไหว กับอารมณ์ที่อีกฝ่ายปลุกเธอ

“อะ...อ๊ะ... อือ...” มาร์ตินค่อยๆ ถอดเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นร่างของกั้งอย่างเต็มตา มันสวยมาก สวยจนเขาลืมหายใจ ค่อยลากมือผ่านไปตรงเอว ไล่ไปตรงสะโพก วนไปตรงสะดือ ซึ่งกั้งรู้สึกเสียวจนทนไม่ได้แล้วยิ่งเขามองแบบนี้ มาร์ตินหน้าแดงกล่ำ ที่ตอนนี้ร่างกายเขาตื่นไปหมดทุกส่วนแล้วก้มมองด้านล่าง กั้งรีบเอามือปิดไว้ กั้งเริ่มได้สติจากเมื่อกี้

“อย่าปิดกั้ง ผมอยากเห็นคุณทั้งตัว มันสวยมาก คุณไม่ต้องกลัวนะ เราจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”มาร์ตินเริ่มร่ายเสน่ห์ใส่เธออีกครั้ง เขาไล่ริมฝีปาก ตั้งแต่กลางอก ลงมาเรื่อยๆจนถึงด้านล่าง มันช่างบรรยายไม่ถูก เขาค่อยก้มลงไปจูบ แล้วใช้ลิ้นควานหาน้ำหวานที่มันเอ่อล้น ออกมา ค่อยชิมเบา กั้งเริ่มรู้สึกเหมือนจะขาดใจ

อืม...อือ... เอามือไปจิกตรงผ้าปูที่นอน มาร์ตินเห็นแบบนั้น ยิ่งเร่งให้เธอมีอารมณ์ เพิ่มมากขึ้นซึ่งเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใคร อ๊ะ...อือ... กั้งได้ยกสะโพกลอยขึ้นมาตามที่มาร์ตินได้กดลงไป ตอนนี้กั้งหลงเข้าไปในวังวนเสน่หาของมาร์ตินเรียบร้อยแล้ว เขาถอนใบหน้าออก มองเธอซึ่งตอนนี้ทั้งตัวมีรอยแดงจากที่เขากัดเบา เขาใช้นิ้วค่อยๆ แหวกกลีบเกสรนั้น เริ่มที่จะเขี่ยเบาๆ ค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไป ในช่องทางรักของกั้ง

ส่วนกั้งที่ตอนนี้ ไม่ไหวแล้ว มันอึดอัด มันเหมือนต้องการบางสิ่งที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มาร์...ติน... อ๊ะ...อือ...อืม... เขาเร่งให้มันเร็วขึ้น แรงขึ้น ใจจริงเขาอยากจะให้ลูกชายเขาเข้าไปมากกว่า จากภาพที่เห็นมันช่างงดงามจริงๆ กั้งยกตัวลอยขึ้นมา มาร์...ติน...คะ กั้งไม่ไหวๆแล้ว อ๊ะ...อะ...กรี๊ด และกระตุกไป สองสามครั้ง จากนั้นรู้สึกถึงความเสียวที่ไม่เคยได้พบ มันเหมือนตัวเองไร้น้ำหนักไม่มีแรง เหมือนใช้พลังงานไปมากมาย กั้งเริ่มที่จะหายใจเป็นปกติ ค่อยๆ ลืมตา มอง คนที่อยู่ข้างหน้า ที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำไปทั้งตัว เธออายกับสิ่งที่เธอแสดงออกไป รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมไว้ มาร์ตินรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นภาพนั้น แต่ถึงจะทรมานเขา เขาก็ยังไม่อยากจะทำมากกว่านั้น ใจเย็นๆ ไอ้ลูกชายอย่าพึ่งเขาค่อยๆ คุมสติ ที่มันมีมาก เขากลัวกั้ง จะไปทำงานไม่ได้ เขารู้ถ้าเขาได้ลงทำไป วันนี้กั้งต้องได้เสียงานแน่ๆ

“เป็นไงครับรู้หรือยัง ว่าหนุ่มสเปนกับหนุ่มเกาหลีต่างกันแบบไหน...” กั้งมองเขาเขินๆ กับสิ่งที่เขาได้ทำให้เธอ มาร์ตินก้มลงไปหอมแก้มแล้วกระซิบ ข้างๆหู

“นี้แค่การสั่งสอน ที่กล้าชมผู้ชายคนอื่น ถ้ายังมีอีกผมไม่รับรองว่าผมจะหยุดแค่นี้ไหม” กั้งมองค้อนคนข้างๆ ที่ตอนนี้เธออายจนไม่กล้าที่พูดอะไรแล้ว

“อาบน้ำเถอะ เดี๋ยวคุณตะนอยก็คงจะขึ้นมาแล้ว” มาร์ตินอุ้มกั้งเข้าไปในห้องน้ำ ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้า เพราะมันไม่หลงเหลือตั้งนาน กั้งพยายามจะดิ้นหนี แต่เธอสู้แรงเขาไม่ได้จริงๆ เลยต้องปล่อยให้เขาอุ้มไปจนถึงอ่างอาบน้ำ แหละกั้งถึงกับอ้าปากค้างที่เขาถอดกางเกงออก เธอรีบหันหน้าเข้ากำแพง ใจเต้นตึกๆ ไม่ไหวแล้ว ไม่กล้าที่หันกลับไปดูเขา มาร์ตินค่อยก้าวลงมาในอ่างอาบน้ำ กั้งสั่นๆ มันสั่นไปหมดทั้งตัวเธอ ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ มาร์ตินจับเธอหันหน้ามา ค่อยๆ เอาฟองสบู่ ลูบไปตามลำตัว กั้งพยายามดึงมือเขาออกและกั้งรู้สึกถึงส่วนล่างที่มันขยาย ชนเข้ากับขาของเธอ มาร์ตินค่อยลากมือมาที่ต้นคอ ค่อยจับกั้งหันหลัง นวดให้กั้ง อืมม...กั้งรู้สึกผ่อนคลายเลย เผลอพิงไปที่ไหล่ของเขา มาร์ติน มาร์ตินมองกั้งแล้วโอ๊ย...จะไม่ไหวแล้ววะ นับหนึ่ง นับสอง จากที่จะผ่อนคลายให้กั้งกลายมาเป็นตอนนี้เขาเครียดจนอึดอัดไปหมด เขารีบพากั้งไปล้างตัว แล้วเอาผ้าเช็ดตัวห่อให้

“เมื่อเช้าผมไปหยิบเสื้อผ้ามาให้คุณแล้วนะ วางอยู่ตรงห้องแต่งตัว ออกไปครับ ก่อนที่ผมจะขย้ำคุณกินในห้องนี้” กั้งมองหน้าเขา ใบหน้าเขาแดงก่ำมาก และ ตรงส่วนนั้นที่เธอมองลงไป มันติดตามันชัดเจนมากคิดแล้วยังกลัวๆ ไม่หายถ้าเขาลงมือทำจริงๆ เธอก็คงจะไม่รอด คงจะสมยอมไปกับเขาแน่ๆ ดีที่เขาหยุดและลงโทษเธอแค่เบาๆ กั้งรีบวิ่งออกจากห้องไป ส่วนมาร์ตินรีบปิดประตูห้องน้ำทันที ที่กั้งวิ่งออกไป อีกแล้วเขาต้องจัดการมันด้วยมือของเขาอีกครั้ง

กั้งเดินออกมาเปลี่ยนชุดที่เขาเตรียมไว้ให้ เขาหยิบมาหมดเลยเหรอเนี่ย ทั้งข้างในข้างนอก กั้งคิดถึงเมื่อกี้แล้วเขินมาก เธอไม่คิดว่าเธอจะเป็นแบบนั้นได้ เดินออกมาจากห้องแต่งตัวเจอเข้ากับถาดอาหาร เธอถึงกับกินไม่หลง เพราะมันเขินไปหมดคิดแล้วเธอคงจะไม่กล้ากินน้ำส้มไปสักพัก หยิบถาดอาหารออกไปวางไว้ตรงโต๊ะทานข้าว สักพักมาร์ตินก็เดินออกมาใส่ชุดสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ กั้งมองเขา ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้มือไม้จะเริ่มเอาไว้ที่ไหน

“เออ...ทำไมทุกคนถึงยังไม่ขึ้นมากันนะคะ...เราลงไปหาพวกเขากันไหม”

มาร์ตินจ้องมองกั้งคงจะเขินหรืออะไรสักอย่าง หน้าแดงไปหมดแล้ว เขาเดินอ้อมไปกอดข้างหลัง

“ทำไม ไม่อยากอยู่ใกล้ผมแล้วเหรอ”พร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งที่ กั้งหันหน้ามาพูด

“บ้าสิ ใครจะอยากอยู่ใกล้คุณขนาดนั้น ขยับออกไปเลย” มาร์ตินหัวเราะ คงจะอายจริงๆนะแหละ

“ทำไมคะ เมื่อกี้ยังเห็นเรียกหาผมอยู่เลย”กั้งได้ยินฟาดไปที่แขนหนึ่งที่

“บ้า!!! ทะลึ่งคุณ”สักพักก็ได้ยินเสียงกดออด...ตรงประตู กั้งรีบได้ยินรีบวิ่งไป คงจะเป็นตะนอยเพราะต้องเอาคิวงานวันนี้มาให้เธอ

“อรุณสวัสดิคะคุณมาร์ติน!!! นอนหลับสบายดีไหมค่ะเมื่อคืน” ตะนอยพูดเสร็จแล้วก็อมยิ้ม ส่วนอีกสองคนที่ตามหลังมา ได้ยินก็อมยิ้มไม่ได้ ไม่มีใครกล้าแซวบอสเขาแบบนี้ เพื่อนของคุณกั้งแน่จริงๆ

กั้งได้ยินถึงกับมองบนนั้นไง ว่าแล้วเพื่อนเธอมันต้องแซวแน่ๆ ดูนางทำหน้าพูดถึงคนโน่นแต่ปรายตามองมาที่เธอ

“ กั้ง เมื่อคืนโอเคหรือเปล่า ดูท่าทางสดชื่นนะวันนี้” เธออยากจะเดินไปขย้ำหัวเพื่อนเธอจังเธอได้แต่ชี้หน้า “เดียวเห๊อะ!!! หยุดเลย ” ตะนอยส่งเสียงหัวเราะ

“ฉันซื้อโจ๊กมาฝากแกด้วย ทุกคนมาทานโจ๊กกันคะ”

ตะนอย เดินไปหยิบชาม มาเทโจ๊กให้แต่ละคน ซึ่งหนุ่มๆ มอง นี้คืออะไร ข้าวเละๆ เหนียวๆ แต่ก็หอมน่าทานจัง กั้งมองแต่ละคนคงสงสัยแล้วหัวเราะ

“นี่คือโจ๊กคะ คล้ายกับข้าวต้มพวกคุณเคยทานไหม” สามหนุ่มส่ายหน้าพร้อมกัน พึ่งเคยเห็นครั้งแรกก็ที่นี้

ตะนอยหยิบชามมาให้แต่ละคน จนเธอไปสังเกตชามของมาร์ตินทำไมมีไข่ตั้ง 2 ฟอง เลยสงสัยว่าเพื่อนเธอสั่งพิเศษมาให้เขาเหรอ

“แล้วทำไหมชามของคุณมาร์ตินมีไข่ตั้ง 2 ฟองล่ะ คนอื่นๆ มีแค่ฟองเดียว เธอสั่งพิเศษให้คุณมาร์ตินหรือไง”

“เปล่า!!! แค่ฉันคิดว่าเมื่อคืน คุณมาร์ตินคงจะเหนื่อย... เพราะต้องใช้แรงไปเยอะก๋เลยจัดมาให้ 2 ฟอง” แล้วหันหน้าไปทางกั้ง

“หรือแกก็เหนื่อย เดี๋ยวฉันตักไข่เพิ่มให้เอาไหม” กั้งได้ยินก็รู้สึกเขิน มือที่กำลังข้นโจ๊กอยู่ พูดแจ้วๆเธอเลยได้โอกาส ตักโจ๊กร้อนๆ ที่ยังไม่ได้เป่า ยัดเข้าไปในปากเพื่อนของเธอแทน

“ว้าย ว๊าย ร้อน ร้อน แกทำอะไรฉันยัยกั้ง มันร้อนนะดูสิลวกปากฉันเลย”

“ดี!!! ร้อนมากๆ จะได้หยุดพูด”ตะนอหันหน้าไปพูด

“ชะนี!!! แกซาดิส!!! ดูไว้นะคะคุณมาร์ติน!!! ระวังตัวนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าตะนอยไม่เตือน”มาร์ตินหัวเราะ กั้งชี้ไปที่เพื่อน

“ยัง ยังไม่หยุด...ยังอยากจะโดนอีกเหรอ”

กั้งที่ทานเสร็จก่อนเพราะต้องออกมาซ้อมท่าเต้น สำหรับโฆษณาวันนี้ เดินไปหยิบโทรศัพท์ กับรายละเอียดที่จะต้องทำ มาร์ตินคอยชำเลืองมองว่าชีวิตประจำวันกั้งทำอะไรบ้าง เขาเริ่มศึกษาเธอเงียบๆ นิสัยใจคอเป็นอย่างไร เท่าที่อยู่ด้วยกันมา ถือว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับเขาเลย

“ผมถามอะไรหน่อย คุณรับงานให้กั้งเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ผมเห็นในสมุดตารางงานมองไม่เห็นวันว่างเลย” ซึ่งเขาแอบเปิดอ่าน ตารางแน่นมาก เต็มเกือบจะ 7 วัน แล้วชีวิตเขาและเธอจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันช่วงไหน เขาอาจจะเห็นแก่ตัวที่อยากจะอยู่กับกั้ง ช่วงที่อยู่เมืองไทยให้ได้มากที่สุด เขาไม่มีเวลาว่างขนาดที่จะตามเฝ้ากั้งได้ทุกวัน ถ้าเขามีงานด่วนที่สเปนเขาก็ต้องกลับ

“เออ...คิวงานพวกนี้ เขาขอกั้งมาตั้งแต่ปีที่แล้วคะ มันเลยจะเยอะหน่อยช่วงอาทิตย์นี้ คุณมาร์ตินอดทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวก็จะว่างแล้วคะ” ตะนอย ตอบแบบเอาใจ มองหน้าคุณมาร์ตินแล้วรู้ว่าเขาคงจะไม่โอเคกับเธอ

ทุกคนทานโจ๊กเสร็จ ก็ออกมาดูกั้งที่ซ้อมเต้นอยู่คนเดียว มาร์ตินมองแล้วหันไปคุยกับตะนอยในสิ่งที่เขาคาใจ เรื่องครอบครัวกั้ง

“ผมขออนุญาตถามอะไรหน่อยครับ ครอบครัวกั้งเขาเป็นอย่างไรครับ เธอมีปัญหาอะไรกับทางคุณวิรุฒใช่ไหม คุณตะนอยพอจะเล่าได้ไหมครับ” ตะนอยหันหน้าไปมองเขา

“คุณรู้จักคุณวิรุฒพ่อของกั้งด้วยเหรอคะ” ตะนอยถามมีไม่กี่คนที่จะรู้ว่าคุณวิรุฒคือพ่อของกั้ง มีเฉพาะคนที่สนิทกันมากๆเท่านั้นถึงจะรู้ความสัมพันธ์ของกั้งกับพ่อ

“ถ้าตะนอยเล่าคุณอย่าไปบอกกั้งนะว่ารู้ยังไง” ตะนอยก็เริ่มเล่าชีวิตของกั้ง พอตะนอยเล่าจบ เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไหมกั้ง ถึงตั้งกำแพงไว้สำหรับพวกผู้ชายมองมุมหนึ่งก็สงสารและเห็นใจอยู่ไม่น้อยที่กั้งเจอชีวิตแบบนั้น

“ขอบใจนะครับที่เล่าเรื่องราวกั้งให้ผมฟัง ถ้าผมขอให้กั้งพูด คุณก็คงจะรู้ว่าไม่มีทาง” ตะนอยพยักหน้าและมองมาร์ติน เขาใส่ใจเพื่อนของเธอมากๆ ในทุกๆเรื่องตั้งแต่ที่ได้คุยกับเขามา คอยสอบถามชีวิตของกั้ง เธอก็หวังให้เขาได้ลงเอ่ยกับกั้งเถอะ เธอจะได้หมดห่วง อยากให้กั้งเจอรักแท้ ซึ่งเจ้าตัวอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนะ โหยหาความรักจากคนเป็นพ่อเลยตั้งกำแพง เหมือนตัวเองไม่แคร์ไม่อยากให้ใครมาดูแล เธอเห็นหลายครั้งที่กั้ง มองข่าวพ่อตัวเองกับน้องสาวแล้วดูสายตากั้งมันเศร้าๆ แต่ก็แป๊บเดียว กั้งก็กลบสายตาแบบนั้น แลัวทำเป็นยิ้มมีความสุข

“ตะนอยเอาใจช่วยนะคะ ตะนอยอยากเห็นยัยกั้งมีความสุขคะ” มาร์ตินยิ้ม พยักหน้า

“ครับ ขอบคุณครับ”ต่างคนต่างจ้องมอง คนที่กำลังซ้อมร้องและเต้นอยู่ ดูแล้วเธอ เป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ คงจะมาจากคำพูดที่พ่อของกั้ง ที่พูดดูถูกไว้เลยทำให้กั้งต้องพิสูจน์ตัวเองในเส้นทางนี้

มาร์ตินเดินเข้าไปนั่ง ที่โซฟาดูกั้งซ้อมแบบเงียบไม่อยากจะกวน สมาธิ เห็นแล้วการเป็นดารา ก็ไม่ได้ง่ายๆอย่างที่เขาคิด แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว

ซ้อมเสร็จกั้ง เดินมานั่งตรงโซฟาที่ทุกคนนั่งอยู่ “เดี๋ยวกั้งมานะคะ ขอไปหยิบของที่ห้องก่อนคะ” กั้งเดินออกไป มาร์ตินเว้นระยะห่างให้กั้งนิดนึง ไม่อยากจะทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก กั้งเดินออกมาจากห้องของมาร์ติน กำลังก้มหน้าจะสอดคีย์การ์ด เธอก็ได้ยินเสียงของคนที่เธอไม่คิดว่าจะมาที่นี้

“ไง...สบายดีไหม” กั้งรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวซึ่งเธอไม่เจอกับท่านเลยเกือบจะปีกว่าแล้วมั้ง ครั้งล่าสุดที่เจอก็คือ งานการกุศลที่เธอได้แต่พยักหน้า ยกมือไหว้ทักทายแค่นั้นเท่านั้น กั้งหันหน้ามามองช้าแล้วก็ยกมือไหว้

“สวัสดีคะ มีอะไรหรือเปล่า” คุณวิรุฒมองหน้าลูกสาวคนโต ซึ่งมีใบหน้าเหมือนกับภรรยาคนแรกของเขามาก ยิ่งเห็นหน้าแล้วยิ่งนึกถึงวันนั้น วันที่เขาเห็นผู้หญิงแม่ของกั้งนอนกับผู้ชาย ซึ่งเป็นคนสนิทกับเขา เขารับไม่ได้จริงๆ โกรธมาก เขาจึงรู้สึกพาลมาถึงลูกสาวคนนี้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเขาห่วงอยู่เหมือนกัน เขาเฝ้าติดตามข่าวสารของลูกสาวคนนี้อยู่เงียบๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ เพราะเราสองคนเจอหน้า ก็คอยแต่จะทะเลาะกัน โดยที่เขาก็แสดงออกไม่เป็นว่าเขาห่วงลูกคนนี้ แม้กระทั่งวันที่ลูกรับปริญญาเขาจะเอาช่อดอกไม้ไปแสดงความยินดี เขาก็ยังไม่กล้าที่จะไป ยิ่งภรรยาใหม่ถ้ารู้ว่าสนใจใส่ใจลูกสาวคนนี้ก็พาลจะหาเรื่องมาทะเลาะกันเสมอ เขาเลยเลือกที่จะไม่แสดงออกดีกว่า

กั้งเปิดประตูห้อง แล้วเชิญเข้าไปคุยด้านใน ดีกว่ามายืนคุยตรงนี้ พอเข้ามาถึงด้านในพ่อเธอก็ได้ถาม

“เออ...ฉันได้เห็นข่าวของแกกับคุณมาร์ติน แกเป็นแฟนของเขาช่ไหม” เป็นเหมือนที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด ถ้าหากบ้านโน้นรู้เรื่อง

“ฉันมาที่นี้เพื่อมาขอร้องแกให้ช่วยพูด ให้เขาซื้อโรงแรมด้วย ฉันขอร้องแกในฐานะคนเป็นพ่อ ฉันหวังว่าแกคงจะทำได้ เพราะแกก็คงจะถนัดงานประเภทนี้อยู่แล้ว เรื่องเอาอกเอาใจผู้ชาย”กั้งมองหน้าคนเป็นพ่อ เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะมีความคิดแบบนี้ มันเจ็บลึกๆ อยู่ข้างใน กั้งกำมือแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บจนชา

“แล้วไม่ให้แพทไปเจอเขาละคะ แพทอาจจะทำได้ดีกว่าหนูก็ได้” กั้งพูดออกไปในสิ่งที่คิด ลองถ้าเป็นแพทท่านจะพูดยังไง

“ฉันมาขอร้องแกให้เป็นคนทำ เพราะสายงานอาชีพของแกคงจะทำได้ไม่ยากเรื่องพวกนี้ อย่าให้น้องของแกเขามายุ่งกับงานแบบนี้ ประเภทที่ชอบอ่อยชอบโชว์เนื้อตัวเหมือนแก” คุณวิรุฒ มองหน้ากั้ง

“ถ้าแกคิดว่าฉันเป็นพ่อ ฉันหวังว่าแกคงจะช่วยฉัน แกคงจะไม่อยากเห็นฉันกับน้องของแกต้องเดือดร้อน”

คุณวิรุฒพูดจบแล้วก็เดินออกจากห้องไป ส่วนกั้งก็ทรุดลงนั่งกับพื้น น้ำตาก็ค่อยๆ ไหล นี่คือสิ่งที่คนเป็นพ่อขอร้องเธอ กั้งนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ตะนอยมองนาฬิกา นานแล้วน่ะทำไมกั้งยังไม่เดินกลับมาที่ห้องนี้ ซึ่งทุกคนรออยู่มันแปลกๆ

“เดี๋ยว ตะนอยขอไปดูกั้งแป๊บนะคะ ไม่รู้ว่าหายเงียบแบบนี้ไม่ใช่ หาของไม่เจอหรือเปล่าเดี๋ยวมานะคะ” ตะนอยเดินตูดบิดออกไป เปิดประตูออกมาก็เจอเข้ากับคุณวิรุฒพ่อของกั้งที่ออกมาจากห้องพอดี ตะนอยเลือบมองเข้าไปด้านในห้องของกั้ง เธอยกมือไหว้คุณวิรุฒ ท่านเห็นแล้วพยักหน้าแล้วก็เดินจากไป ตะนอยเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปก็เจอกั้งนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น

“กั้ง!!! แกโอเคไหม” ตะนอยพอจะรับรู้ได้บ้างว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้

“เอาน่าใจเย็นๆ แก อย่าคิดมากปล่อยๆไปบ้าง แกยังมีแม่ มีฉัน อย่าไปสนใจเลย”

กั้งได้ยินก็กอดตะนอยแล้วร้องไห้ มาร์ตินที่เดินออกมาจากห้องเห็นประตูห้องของกั้งเปิดอยู่ แต่ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้เขาเลยรีบวิ่งเข้าไป เจอกั้งที่กอดตะนอยร้องไห้อยู่ เขารู้สึกงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเมื่อเช้าก็ยังดีๆอยู่ นี้เกิดอะไรขึ้น

มาร์ตินเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆ“คุณเป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้”เข้ามาเจอกั้งร้องไห้แบบนี้ใจของเขารู้สึกหน่วงๆ มันเป็นห่วงจนไม่รู้จะทำยังไง เลยดึงกั้งเข้ามากอดแทนตะนอยแล้วลูบผม

“ใครทำอะไรกั้งบอกผมได้ไหม เดี๋ยวผมไปจัดการให้ อย่าร้องไห้ ไปทำงานไหวไหมยกเลิกงานหรือเปล่า” มาร์ตินพยายามปลอบกั้ง กั้งร้องไห้อยู่ตรงไหล่ของเขา แล้วมาร์ตินหันไปถามตะนอย

“เกิดอะไรขึ้นครับ”

“เมื่อกี้ตะนอยเจอพ่อของกั้ง แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรนะคะ เดินเข้ามาเจอกั้งนั่งร้องไห้อยู่”ตะนอยพูดออกไปพยายามลูบที่แขนเพื่อน

กั้งเงยหน้าแล้วเช็ดน้ำตา นิ่งไปสักพักสูดลมหายใจพ่นออกมา

“แกเข้าไปหยิบของให้ฉันที่ ฉันพร้อมแล้ว” มันก็เป็นแบบนี้ตลอด เธอแค่ตั้งคำถามว่า เขาจะมาหาเธอเพราะคิดถึงเป็นห่วงลูกบ้างไหม ถ้าครอบครัวบ้านโน่นไม่เดือดร้อน คนเป็นพ่อคงไม่คิดที่มาสนใจเธอ มันก็แค่อารมณ์น้อยใจที่มีต่อพ่อ

กั้งลุกขึ้นยืนเดินไปล้างหน้าแล้วก็มองไปที่กระจก มันสะท้อนตัวเธอ

“ยิ้มสู้สิจะอ่อนแอ ทำไมเขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แกจะหวังอะไร” มาร์ตินที่เดินตามเข้ามา มองเข้าไปเห็นกั้งพูดกับตัวเองในกระจก เขาไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร แต่มองแล้วเขารู้สึกห่วงมากๆ กั้งเช็ดหน้ากำลังจะเดินออกจากห้องน้ำก็เจอเขา

“คุณโอเคไหมกั้ง คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณ มีอะไรในใจก็บอกผมได้นะ อย่าเก็บมันไว้คนเดียว”กั้งมองหน้าเขา

“ขอบคุณคะ” แล้วส่งยิ้ม

“กั้งไม่เป็นไรแล้ว เห็นไหมโอเคแล้ว ไปกันเถอะคะเดียวรถติด” กั้งชูสองนิ้ว เขาเห็นแล้วก็ส่ายหน้า ขนาดตัวเองเศร้ายังเก็บอาการทำเป็นร่าเริงอีกนะ

กั้งคิดอีกไม่นาน แพทก็ต้องมาขอเจอเขาแน่ๆงานนี้เธอก็แอบหวั่นๆ ในใจ ว่าเขาอาจจะสนใจแพท ทุกคนที่เข้ามาแรกๆ ก็เหมือนจะชอบเธอ พอสักพักก็หันไปสนใจแพททุกคน กั้งได้แต่ถอนหายใจหยิบแป้งขึ้นมาเติมและทาลิปสติก มองไปที่กระจก

“ฉันจะมั่นใจได้ไหม ว่าคุณจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ คุณมาร์ติน”

ทุกคนเห็นกั้งเดินมาท่าเดินเหมือนนางพญา ซึ่งมาร์ตินก็ทึ่งเมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่แล้วดูตอนนี้

“ฉันพร้อมแล้วไปกันเถอะคะ” ตะนอยพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเต้น

“ชะนี สู้ สู้ ชะนี สู้ตาย ชะนี ไว้ลาย สู้ตาย สู้ สู้” กั้งเห็นถึงกับหัวเราะ ท่าทางของเพื่อน ส่วนมาร์ตินมองเห็นความรักระหว่างเพื่อนที่ดูแล้วหาได้ยากในสังคมแบบนี้ที่จะมีเพื่อนดีๆอยู่ข้างกายตลอดเวลาแบบนี้ วิรุฒมองหน้าลูกสาวคนโต ซึ่งมีใบหน้าเหมือนกับภรรยาคนแรกของเขามาก ยิ่งเห็นหน้าแล้วยิ่งนึกถึงวันนั้น วันที่เขาเห็นผู้หญิงแม่ของกั้งนอนกับผู้ชาย ซึ่งเป็นคนสนิทกับเขา เขารับไม่ได้จริงๆ โกรธมาก เขาจึงรู้สึกพาลมาถึงลูกสาวคนนี้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเขาห่วงอยู่เหมือนกัน เขาเฝ้าติดตามข่าวสารของลูกสาวคนนี้อยู่เงียบๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ เพราะเราสองคนเจอหน้า ก็คอยแต่จะทะเลาะกัน โดยที่เขาก็แสดงออกไม่เป็นว่าเขาห่วงลูกคนนี้ แม้กระทั่งวันที่ลูกรับปริญญาเขาจะเอาช่อดอกไม้ไปแสดงความยินดี เขาก็ยังไม่กล้าที่จะไป ยิ่งภรรยาใหม่ถ้ารู้ว่าสนใจใส่ใจลูกสาวคนนี้ก็พาลจะหาเรื่องมาทะเลาะกันเสมอ เขาเลยเลือกที่จะไม่แสดงออกดีกว่า

กั้งเปิดประตูห้อง แล้วเชิญเข้าไปคุยด้านใน ดีกว่ามายืนคุยตรงนี้ พอเข้ามาถึงด้านในพ่อเธอก็ได้ถาม

“เออ...ฉันได้เห็นข่าวของแกกับคุณมาร์ติน แกเป็นแฟนของเขาช่ไหม” เป็นเหมือนที่เธอคิดเอาไว้ไม่มีผิด ถ้าหากบ้านโน้นรู้เรื่อง

ฮอต

Comments

เจ้าหญิงไร้เงา

เจ้าหญิงไร้เงา

อิอิ

2024-02-23

0

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 55

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!