บทที่ 12

ตั้งแต่ออกมาจากงานเขาก็เห็นเธอเอามือกอดหน้าอกทำคอตั้ง เอาแต่จ้องมองข้างทาง ไม่ยอมหันหน้ามามองเขา จนเขาเริ่มรู้สึกไม่โอเคเลยแกล้งเอ่ยปากแหย่ออกไป

“กอด..อก มันไม่อุ่นเท่ากอดผมนะครับคุณ” เมื่อกั้งได้ยินก็หันหน้ามาจ้องหน้างานนี้จะเธอไม่ทน มันไม่ไหวแล้วกับคนข้างๆ ที่เอาแต่กวนอารมณ์ ตั้งแต่เจอหน้ากัน

“คุณ!!! ฉันไม่รู้นะว่าสิ่งที่คุณทำๆ อยู่ตอนนี้คุณต้องการอะไร ถ้าการที่ฉันสัมภาษณ์ไปแบบนั้นไม่ใช่ว่าฉันจะเปิดโอกาสให้คุณเข้ามาทำอะไรกับฉันก็ได้นะ ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ที่คุณคบมาเป็นแบบไหน แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่เราสองคนยังไม่รู้จักกันดีพอและคุณก็ไม่รู้ว่าฉันนิสัยเป็นแบบไหน เราจะเข้ากันได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ คุณอย่าทำอะไรที่มันเกินกว่าความสัมพันธ์ที่คุณได้ให้สัมภาษณ์ไปแค่ว่ากำลังศึกษาดูใจ” กั้งได้โอกาสก็พูดความในใจซึ่งงานนี้เธอจะต้องพูดกับเขาให้เข้าใจ ถึงแม้ในสัมภาษณ์เธออาจจะยอมรับว่ากำลังศึกษาดูใจมันก็มาจากคำพูดของเขา ถ้าเธอปฏิเสธไปเขาจะทำอะไรเธอ เธอก็กลัวลูกบ้าเขาเหมือนกันเลยตอบแบบเซฟๆ ตัวเองไว้ก่อน ถ้าความสัมพันธ์นี้ไม่มีอะไรคืบหน้า มันก็ไม่เสียหายอะไรเธอคิดเช่นนั้น

มาร์ตินจับใบหน้ากั้งให้หันมาฟังในสิ่งที่เขาจะพูด ซึ่งปกติเขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยชอบอธิบายความรู้สึกกับใคร เขาถึงได้ฉายาว่า

คาสโนว่าหน้านิ่ง

ที่ทุกคนชอบพูดถึง แต่สำหรับกั้งแล้วเขาอยากจะทำอยากที่จะแสดงออกให้รู้ชัดเจนว่าเขารู้สึกแบบไหน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมาก กั้งก็พยายามที่จะตั้งกำแพงเอาไว้ตลอดเวลา จนบางครั้งเขาก็อยากจะถามตัวเอง ว่าทำไมเขาถึงต้องมานั่งทนอยู่ตรงนี้มาที่นี่ทำไม ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเธอ

“ผมบอกคุณมาหลายครั้งแล้วนะ ว่าผมจริงจังกับคุณมองตาของผมกั้ง ไม่ใช่มาหลบสายตาผมฟังผมนะ!!! การมาครั้งนี้ผมต้องการให้เรา 2 คนมาศึกษากันอย่างละเอียดไม่ใช่เหมือนครั้งก่อนๆ และคุณก็ต้องเปิดโอกาสให้ผมพิสูจน์ด้วยว่าสิ่งผมพูดคือเรื่องจริงไม่ใช่พยายามหลบเลี่ยงเหมือนเช่นที่คุณทำอยู่ตอนนี้” มาร์ตินจับกั้งให้หันมามองสายตาของเขาความรู้สึกที่เขามีว่าเป็นเช่นไร

“เปิดโอกาสให้ผมบ้างได้ไหมกั้ง ผมขอร้องคุณนะอย่าพึ่งปิดโอกาส คุณลองมองผมดูที่นิสัยของผมว่าผมเป็นคนเช่นไร อย่าเอาข่าวมั่วๆที่มีในโลกโซเซียลมาเป็นตัวตัดสินว่าผมเป็นคนแบบนั้น ผมอายุ 30 กว่าปีแล้วไม่มัวมานั่งเล่นขายของหรอกนะครับ” มาร์ตินจ้องมองเข้าไปในดวงตาของกั้ง ซึ่งในสายตานั้นมันมีความหวั่นไหว เขาไม่รู้ว่าในสมองของน้อยนี้คิดอะไรอยู่ กั้งถึงได้พยายามปิดกั้นขนาดนี้ จากนั้นดึงมือของเธอมาวางไว้บนฝ่ามือของเขา กั้งรับรู้ถึงความอบอุ่นมันคอยแต่จะสั่นคลอนหัวใจของเธอ มันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเช่นที่ผ่านมาแล้ว ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตรวมถึงเรื่องที่เธอต้องการอยากจะรู้ละอยากจะทราบ

“คุณมาเมืองไทยไม่ได้มาแค่เรื่องฉันใช่ไหมคะ คุณมาติดต่อธุรกิจโรงแรมที่ได้ทำการเสนอขายให้คุณด้วยใช่หรือเปล่า” กั้งนั้นไม่แน่ใจว่าเขา รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอมาแล้วมั้ง ถ้าเกิดเขาเห็นนามสกุลก็ต้องสงสัยว่าเธอว่าเกี่ยวข้องยังไงกับคุณวิรุฒ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะมาดูธุรกิจโรงแรมของคุณวิรุฒ” มาร์ตินมองกั้ง เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้ มาร์ตินพยายามมองเพื่อค้นหา แรกๆ กั้งก็พยายามที่หลบสายตา จนเธอยอมแพ้กับสายตาที่พยายามจะคาดคั้นให้เธอบอก

“ฉันก็อยากจะรู้ว่าเจ้าของทำไมเขาถึงจะต้องขายโรงแรมนั้น เขามีปัญหาอะไรคุณพอจะทราบหรือเปล่าคะ” มาร์ตินฟังเรื่องที่เธอถามมา ในน้ำเสียงนั้นมันมีความห่วงใยและสายตาที่ต้องการอยากจะรู้มากในเรื่องนี้

“กั้งครับใครเป็นคนบอกคุณถึงเรื่องนี้คุณพอจะบอกผมได้ไหม” กั้งทำหน้าอ้ำอึ้ง “พี่ต้น เป็นคนบอก...”

“อะไรน่ะ คนชื่อต้น ... เป็นคนบอก เขาเกี่ยวอะไรด้วยเรื่องนี้ และเขารู้ได้ไง”มาร์ตินรู้สึกข้องใจมากกับสิ่งได้ยินคนชื่อต้น

“ พี่ต้นบอกว่าโรงแรมมีปัญหาหนักมากในเรื่องของการเงิน ทำให้หุ้นส่วนบางท่านไม่พอใจที่การบริหารของคุณวิรุฒมีบริหารที่ผิดพลาด ทำให้ผลประกอบการต่างๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาภายในจริงๆ ฉันก็ไม่รู้ลึกมาก คุณลุงพ่อพี่ต้น ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้คุณวิรุฒ เขาเลย...เขาเลย...”

“เขาเลย...อะไรกั้ง พูดมาให้หมดสิ เขาบอกคุณว่ายังไง”

“เขาก็เลยต้องการเอาโรงแรมที่สร้างไปขายให้นายทุนชาวต่างชาติ แต่เห็นว่าคุณวิรุฒจะขอให้ลูกสาวของท่านยังดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารอยู่” กั้งมองหน้าเขา เพื่อฟังสิ่งที่ต้องการอยากจะรู้ความจริงว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงและก็มั่นใจด้วยว่า เขาต้องรู้อะไรลึกๆ มากกว่าที่เธอรู้แน่นอน เขาต้องศึกษาหาข้อมูลอยู่แล้วในการซื้อขายครั้งนี้

มาร์ตินมองกั้ง ด้วยสายตาที่ห่วงใย เขารู้ว่าเธอคือลูกสาวอีกคน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่รู้คือว่าทำไมเธอกับคุณวิรุฒมีปัญหาอะไรกันมากมาย ถึงทำตัวเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะแยกทางมันก็ไม่น่าจะหมางเมินกันได้ขนาดนี้ “กั้ง คุณไม่รู้ใช่ไหมว่าพ่อของคุณกับภรรยาใหม่ของท่าน ติดการพนันอย่างหนัก ช่วงหลังๆ เลยปล่อยให้ลูกสาวของท่านบริหารงานเอง คนที่บริหารงานไม่เก่ง

มันก็มักจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ อย่างที่คุณพอจะรู้มานะแหละ ส่วนปัญหาอะไรมากกว่านี้ผมก็ยังไม่ได้เข้าไปดูว่ามีเรื่องอื่นอีกไหม ผมก็ต้องดูว่าถ้าผมลงทุนไปแล้วมันจะคุ้มหรือเปล่า ถึงเราจะมีเงินมากมายแต่ถ้ามันไม่โอเคผมก็จะไม่ทำและลงทุน” เขาดึงกั้งเขามากอดแล้วลูบตรงเส้นผมที่ดำสลวย

“เรื่องของหัวใจกับธุรกิจมันคือคนละส่วนนะครับ ผมขอคุณอย่าเอามารวมกัน เรื่องคุณกับเรื่องธุรกิจของพ่อคุณมันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน”

กั้งรู้สึกถึงอ้อมกอดนี้ทำไมมันช่างอบอุ่น และรู้สึกปลอดภัยแต่ลึกๆ เธอรู้สึกว่างานนี้อีกไม่นานถ้าคนพวกนั้นรู้ก็ต้องโยงเธอเข้าไปเกี่ยวแน่ๆ ในอีกไม่ช้า ยิ่งมีข่าวเรื่องเขากับเธอด้วยแล้วละก็งานนี้ คนพวกนั้นต้องมาหาเรื่องเธอ มันก็แอบหวั่นๆ ในใจยิ่งกับแพทด้วยแล้ว คนที่คอยแต่จะขว้างและแย่งทุกคนที่เข้าใกล้เธอ

“คะ”กั้งตอบเขาเบาๆ คล้ายกับจะเข้าใจสิ่งที่อีกคนกำลังอธิบาย

“เหนื่อยไหมครับ ถ้าเหนื่อยก็เอาศรีษะมาพิงที่ไหล่ของผมก็ได้นะไหล่นี้ ผมยกให้คุณคนเดียว มา มา”กั้งเห็นเขาทำหน้าแล้วก็ขำ หัวเราะออกมาเบาๆ

“บ้าสิคุณ พูดได้เสี่ยวมากคุณนะ จีบผู้หญิงวิธีนี้หรือไงคุณ” มาร์ตินยิ้มแค่กั้งหัวเราะออกมาเขาก็รู้สึกดี ดีกว่าตอนทำหน้าเครียด

“คุณ ถามจริงๆ นะอย่ากวน คุณพักที่ไหนตั้งแต่ขึ้นรถมา คุณก็ยังไม่ได้บอกเลยว่า จะให้ไปส่งที่ไหนอย่างไรหรือคุณพักใกล้ๆ คอนโดของฉัน” กั้งไม่เห็นมีใครพูดอะไรเลยตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ

“ผมก็พักที่เดียวกับคุณไง ผมก็บอกคุณแล้ว”

“อะไรน๊ะ!!!ที่เดียวกับฉันได้ไง ฉันยังไม่อนุญาตคุณเลยนะ ถ้าใครเป็นคนอนุญาตคุณ คุณก็ไปอยู่กับคนโน้นเลยนะ” เธอพูดดังๆให้ตะนอยได้ยินเรื่องอะไรจะให้มาอยู่กับเธอ มาร์ตินได้ยินก็ยังอยากจะแหย่ ถึงแม้เรื่องจริงมันไม่ใช่เลยก็ตาม

“ได้ไงหละครับ คืนนี้ผมจะนอนที่ไหน ผมไม่ได้จองโรงแรมด้วย คุณตะนอยเขาก็จัดการให้ผมแล้ว ไม่รู้ล่ะยังไงผมก็จะอยู่ที่เดียวกับคุณคืนนี้” ทุกคนแอบยิ้มกับ อาการของกั้ง มาร์ตินคิดจะกลัวอะไรเขานักหนาถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะดีใจ รีบเสนอตัวแน่ๆ แต่นี้อะไรไม่ดีใจ ดันจะผลักไส เขาให้ไปที่อื่นอีก

“โอ๊ยๆๆ ยัยกั้งพอ สรุปแกจะพาไปกินข้าวที่ไหนฉันหิวแล้วด้วย” ตะนอยคิดว่าทุกคนคงจะหิวกันรวมถึงตัวเธอ

“เอาไง ว่าไงว่ามาจะให้ฉันสั่งของไปกินที่ห้องไหม สงสารหนุ่มๆ บ้าง ท่าทางคงจะหิวแย่แล้ว เร็ว!!! ไม่งั้นฉันจะสั่งละนะ”

“เออ เออ สั่งไปกินที่ห้องนะแหละ แต่กินที่ห้องแกนะ” กั้งคิดว่าเรื่องอะไรจะให้เข้ามาในห้องของเธอ ไม่มีทางแน่ๆ

“พวกคุณสั่งเถอะครับ พวกผมทานอะไรได้หมด สั่งกินที่ห้องก็ได้ครับสะดวกดี วันนี้ดูท่าทางกั้งเขาคงจะเหนื่อยไม่รู้ว่าโมโหหิวหรือเปล่า ดูสายตาที่เขามองผม เหมือนเขาจะกินผมอยู่แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มาร์ตินจ้องแล้วทำหน้าล้อเลียน คอยแต่จะดึงกั้งมากอด กั้งก็พยายามดันตัวออกห่างและคอยมองคนอื่น กั้งก้มมาพูดเบาๆ

“เกรงใจคนอื่นเขามั้ง ที่นี้เมืองไทยคุณจะมาทำรุ่มร่าม แบบนี้ไม่ได้นะ” แต่มาร์ตินไม่สนใครจะทำไม

จนมาถึงคอนโดที่พักติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งดูแล้วถือว่าโอเค มีระบบรักษาความปลอดภัยดี เป็นคอนโดที่แพงใช้ได้เลยสำหรับเมืองไทย แต่สำหรับเขามันถูกกว่าคอนโดมิเนียมที่เขาจะสร้างไว้ขายอีก

เดินเข้ามาด้านในก็เริ่มเห็นมีสายตาจ้องมองมายังเขาและเธอ แต่ก็ยังดีที่มีมารยาทหน่อยไม่มีใครหันหน้าไปซุบซิบคุยกัน ทุกคนเดินมาถึงที่ลิฟท์และทำการกดชั้นกั้งมองดูเลขที่ตะนอยกดแล้วสงสัย

“ทำไมไม่กดชั้นของแกล่ะตะนอย มากดชั้นของฉันทำไม ฉันบอกแล้วไงว่ากินที่ห้องของแกไม่ใช่ห้องฉัน”

“ฉันก็ไม่ได้จะไปห้องของแก แต่จะไปห้องคุณมาร์ติน”

เดี๋ยวนะชั้นของเธอมีอยู่ 2 ห้องอยู่กันคนละฝั่ง หรือว่าเฮ้ย!!! ทำหน้าตกใจ หรือว่าเขาคือคนที่มาซื้อห้องตรงข้าม กั้งหันหน้ามามองเขาด้วยสายตา ไม่อยากจะเชื่อมาร์ตินพยักหน้า แล้วชี้ไปที่เธอ…

“ผมบอกแล้วไงว่าเราอยู่ที่เดียวกัน ดีใจไหมครับที่จะมีผมอยู่ใกล้ๆคุณ” กั้ง ถลึงตาใส่

“ดีใจกับผีนะสิ” ตั้งแต่อยู่ในลิฟท์เขาก็พยายามมายืนใกล้ๆ เธอก็ขยับหนี จนตัวไปติดผนังลิฟท์

“ไงครับ ไม่ขยับอีกแล้วเหรอครับ”กั้งพยายามดันให้เขาออกห่างแต่ไม่ได้ผล

“ขยับออกไปสิคุณ!!! ลิฟท์ตั้งกว้างจะมาเบียดอะไรกับฉัน” คนอื่นๆ มองสงครามเล็กๆ ที่ทั้งสองคอยแต่จะเถียงกัน นาโช่กับเบ็น ขำในพฤติกรรมของบอสไม่ได้ พวกเขาไม่เคยเห็นบอสเขาในมุมนี้จริงๆที่ทั้งกวน เอาใจ ไหนจะไปแหย่ คุณกั้งให้โมโห พอลิฟท์มาถึงชั้นของเธอ กั้งก็เดินนำหน้าออกมาจนมาหยุดที่หน้าประตู เธอได้หันไปบอกตะนอย

“ตะนอย แกเข้าไปจัดการเรื่องอาหารในห้องคุณมาร์ตินเลยนะ เดี๋ยวฉัน จะเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่ห้องก่อนแล้วจะตามไป” มาร์ตินมองไปยังกั้งด้วยสายตางานนี้จะมาไม้ไหนอีก ตะนอยพยักหน้า คุณนาโช่ เปิดประตูห้องแล้ว ทุกคนเดินเข้าไปหมดยกเว้นเขา ที่ยื่นจ้องหน้าเธออยู่

“เอ๊า!!! คุณไม่เข้าไปละ คนอื่นๆเขาเข้าไปกันหมดแล้ว เดี๋ยวฉันตามเข้าไป” กั้งก้มหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าทำการเปิดห้องของตัวเองกำลังจะเปิดประตู ฉุกคิดได้ว่าคนข้างๆ ยังอยู่

“คุณ !!! ไปสิ ห้องของคุณอยู่ฝั่งโน้นมายืนทำอะไรตรงนี้ ไป !!!” มาร์ตินได้ดันคนที่ตัวเล็กกว่าเข้าไปภายในห้องของเธอกั้งตกใจอะไรเนี่ย!!! เขาดันเธอเขาไปในห้องแล้วทำการปิดประตู กั้งรีบถอยห่างเว้นระยะแต่ช้ากว่าคนที่แขนยาวกว่า

“ผมก็ขอตามมาดูว่าห้องของคุณเป็นยังไง ผมจะได้ให้คนตกแต่งคล้ายๆห้องของคุณ เผื่อคุณจะไปนอนที่ห้องโน่นคุณจะได้รู้สึกสบายใจ เอ๊ะ!!! หรือว่าคุณไม่อยากไปห้องโน้น ผมจะมานอนห้องนี้ก็ได้นะ ผมเป็นคนง่ายสบายๆอยู่แล้ว คุณจะได้ไม่ต้องอึดอัด” กั้งได้ยินถึงกับโมโหเอาอีกแล้วนะ

“ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ไปอยู่กับคุณและคุณก็ไม่ต้องมาอยู่กับฉัน ไปเลยไปห้องของคุณเลย”กั้งพยายามจะผลักให้เขาออกไป แต่เธอมีรูปร่างเล็กกว่าเขามาก จะดันตัวเขายังไงก็ไม่ขยับจนเหนื่อยหอบ

“ฉันไม่ขำนะคะคุณมาร์ติน!!!” กั่งรีบถอยหนีแต่ช้ากว่าเขา ที่ดึงเธอเข้ามากอด เขาอยากจะกอดเธอให้หายคิดถึง ตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกที่งานแล้ว กั้งพยายามผลักตัวเขา “คุณปล่อยสิ!!! เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นมันจะไม่ดี คุณ!!!”

มาร์ตินโน้มตัวลงมาจูบตรงกลางหน้าผาก แล้วเอามือลูบไล้ไปบนใบหน้าที่สวยหวาน

“ผมคิดถึงคุณมากนะครับกั้ง ไม่เจอกันตั้งนานผมขอกอดคุณหน่อย” มันเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากๆ รวมถึงสายตาอ้อนวอนของเขา กั้งรู้สึกใจมันสั่นๆ กับความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนมันรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของเขา ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าเธอทำไมต้องให้เขากอด เธอรู้ว่าภายในใจของเธอก็โหยหาเขา แต่บางอย่างก็ทำให้เธอคิดว่ามันไม่เหมาะสม

“เดี๋ยวก่อนคะ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ที่นี้เมืองไทย ไม่ใช่วัฒนธรรมแบบบ้านของคุณ จะทำยังไงก็ได้ ถ้าคุณคิดจะคบกับฉันก็ควรให้เกียรติฉันด้วย” ถึงแม้กั้งจะรู้สึกดีกับอ้อมกอดเขาซึ่งเธอไม่เคยได้รับการกอดแบบนี้ ตอนเด็กๆ เธอเห็นพ่อกอดแพทเล่นกับแพท เธอแอบเห็นแล้วรู้สึกอิจฉา แต่กับเธอพ่อไม่เคยคิดที่จะเข้ามากอด หรือหยอกล้อเธอเหมือนกับแพทเลย มีแต่เจอก็คอยแต่จะต่อว่ายิ่งถ้าอยู่ต่อหน้าคุณหญิงภัสสรแล้วละก็มีแต่คำดูถูกส่งมาให้เธอตลอดเวลา

มาร์ตินโอบกอดคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลา ดันตัวของกั้งออกไป แล้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของกั้ง

“คุณคิดถึงผมบ้างไหม” อีกแล้วกับคำถามนี้ กั้งจ้องมองเขาซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่เธอไม่สามารถตอบได้ ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึง มันก็รู้สึกอบอุ่น ดีใจ

มาร์ตินค่อยก้มลงมามองที่ริมฝีปากที่เขารู้สึกคิดถึงมันมาก มาร์ตินเอามือค่อยๆ ลูบไปบนริมฝีปาก กั้งเงยหน้าขึ้นไปมอง มันรู้สึกสั่นๆ กับความรู้สึกนี้ ต่างคนต่างจ้องมองตากัน จะว่าด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกที่คิดถึง ริมฝีปากทั้งสองค่อยๆประกบ กั้งหลับตารับรู้ถึงรสจูบในครั้งนี้ ที่มันเต็มไปด้วยความโหยหา จากที่เริ่มละมุนกลายมาเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากขึ้น ร่างกายเขาตื่นตัวตั้งแต่ได้จูบอีกแล้วความรู้สึกแบบนี้ มาร์ตินรู้สึกอยากจะทำอะไรให้มากกว่านี้ มือก็เริ่มที่จะลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของกั้ง เลื่อนลงมาตรงสะโพกที่ได้รูปลากผ่านวนไปด้านหน้าตรงหน้าอก เขาลูบมันเบาๆ ผ่านเนื้อผ้าที่ลื่น ตอนนี้เหมือนอารมณ์ต่างคนต่างกระเจิงกันไปหมดแล้ว หน้าอกเธอมันช่างพอดีกับมือเขาจริงๆ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป มืออีกข้างก็ลากลงมาด้านหลัง และดึงสะโพกให้ขยับเข้าไปชิด ปากก็ยังไม่เลิกจูบ มือของกั้งตอนแรกพยายามที่จะผลักไส คนที่อ่อนประสบการณ์ด้านนี้ อารมณ์ที่กำลังจะกระเจิดกระเจิง กั้งได้สติขึ้นมารีบผลักเขาให้ออกห่าง ก่อนที่จะหยุดมันไม่ได้เพราะต่างคนต่างจุดไฟติดแล้ว “พอเถอะคะ คนอื่นๆ เขารอทานข้าวอยู่ รีบไปกันเถอะนะคะ” มาร์ตินมองหน้ากั้งตอนนี้เขารู้สึกไม่อยากจะทานข้าวแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะกินคนตรงหน้าของเขามากกว่าทุกอย่างในร่างกายเขา ตอนนี้มันตื่นไปหมด และรู้สึกปวดหนับตรงส่วนล่างมากๆ เขามองหน้ากั้งที่หน้าแดงไปหมด ออกอาการเขินๆ ทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น “ผมไม่อยากจะออกไปแล้ว อยากจะอยู่กับคุณแบบนี้ ผมคิดถึงคุณมากนะครับรู้ไหม” กั้งพยักหน้า เธอรับรู้ถึงสายตาอารมณ์ที่เขาส่งมาให้เธอ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนใจแข็งหรืออะไรที่ไม่รับรู้ว่ามันเกิดอะไรแต่มันเร็วเกินไปไหม “รู้คะแต่ให้คนอื่นเขารอไม่ดีนะคะไปเถอะ คุณจะได้พักผ่อนด้วยเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปคะ” กั้งรีบดึงเขาออกจากห้องของเธอก่อนที่อะไรมันจะเตลิดไปมากกว่านี้ แค่คิดแล้วเธอก็ยังกลัวๆ ตรงส่วนนั้นที่มันกระทบตรงขา เธอรับรู้ถึงความอลังการของมันได้ชัดเจน รีบพาตัวเองออกจากตรงนี้ดีกว่าไม่ไหวแค่คิดแล้วก็ขนลุก และก็กลัวใจตัวเอง แค่เขาทำแบบนั้นเธอยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาแล้ว “คืนนี้ขอให้ผมนอนกอดได้ไหม ให้หายคิดถึง” กั้งมองตาแล้วส่ายหน้า “ไม่เอาคะ มันเร็วไป ไปเถอะคะ กั้งหิวแล้ว” รีบลากเขามายังอีกห้อง เดินเข้ามาก็เจอสายตา แบบว่าทุกคนอมยิ้ม อะไรกันเนี่ยคิดอะไรกัน ตะนอยสังเกตเพื่อนของเธอนั่นมีพิรุธ หายกันเข้าไปในห้องก็นานพอสมควรจนพวกเธอ เตรียมอาหารอะไรกันหมดแล้ว ถ้าอีก10นาทีไม่มาจะเดินไปเคาะประตูเรียกมาทานข้าว เพราะหิวกันแล้ว กั้งมองเห็นสายตาแต่ละคนมีคำถามและสงสัยแน่ๆ เลยแกล้งพูดเปลี่ยนสถานการณ์ “ไหน ไหน แกสั่งอะไรมาทาน ฉันหิวข้าวแล้วไหนดูสิ”กั้งเดินไปดูอาหารตาก็แอบชำเลียงมองว่า ตะนอยและคนอื่นๆ จะว่าอะไร ส่วนคนที่ทำตัวมีปัญหา ไม่ต้องพูดถึงยืนยิ้มขนาดนั้นมองไปก็รู้สึกเขิน ถ้าเธอไม่ดึงสติกลับมาได้ ป่านนี้คงจะไม่ได้ทานข้าว และทุกคนก็คงเดาออกแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น “กั้งปากแกแดงๆ เน๊อะ ลิปสติกยี่ห้อนี้ดีจริงๆ สีไม่หลุด ขอใช้บ้างได้ไหม” กั้งรีบเม้มปากแล้วหันไปพูด “บ้าสิแก เดี๋ยวเหอะ จะกินไหมข้าว!!!”กั้งมองค้อนและชี้ไปที่ตะนอย ตะนอยยืนยิ้มแล้วเดินตูดบิดไปนั่งตรงเก้าอี้โต๊ะกินข้าว กั้งเห็นแล้วส่ายหน้ากับ ท่าทางการเดินของเพื่อน สามหนุ่มได้แต่มองด้วยความสงสัยไม่รู้จะเริ่มจากอันไหน อาหารที่อยู่โต๊ะเขาไม่รู้จักอะไรเลย ส่วนใหญ่พวกเขาก็ทาน Paella (ปาเอย่า) ข้าวผัดสเปนที่มีสีเหลืองๆ เอาข้าวไปอบในกระทะใส่พวกปลาหมึก กุ้ง หอยแล้วแต่ Jamon (จามอน) พวกแฮมดิบๆ กินกับขนมปังหรือชีส แต่อาหารที่อยู่บนโต๊ะคือ อะไรต้มอะไรสักอย่างน้ำแดงๆ ข้นเหมือนใส่นมมีผักในนั้นเห็นมีกุ้งมีพริกท่าทางจะเผ็ดร้อนพิลึก จานถัดไปพอจะมองออกน่าจะเป็นเนื้อหมูทอดมีเม็ดขาวๆ เกาะรอบๆอีกอันบนจานนั้นพอจะเดาได้น่าจะเอาไข่มาทอด คล้ายๆ กับแผ่นแป้งโรตี กั้งเห็นหน้าแต่ละคนแล้วถึงกับหัวเราะ แสดงว่าไม่รู้จักจริงๆ

“พวกคุณท่าทางจะไม่รู้จักอาหารไทยเลยใช่ไหมคะ” สามหนุ่มส่ายหน้าพร้อมกัน กั้งอธิบายอาหารที่ละจานเริ่มจาก

“ชามนี้คือ

ต้มยำกุ้ง

เป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศไทย คนต่างชาติต้องลอง จานนี้

หมูแดดเดียวทอด

จานนั้น

ไข่เจียวหมูสับ

และอีกอัน

ผัดผักรวมมิตร

คะ เราต้องกินกับข้าวสวยร้อนๆ แบบนี้คะ” กั้งสาธิตวีธีทานให้ทุกคน สามหนุ่มเริ่มตักชิมที่ละอย่างกั้งกับตะนอยมองแล้วลุ้นว่าพวกเขาจะทานได้ไหม เพราะแต่ละอย่างตะนอยไม่ได้สั่งอะไรเผ็ดมาให้ สั่งแต่เมนูที่ซอฟๆ สำหรับคนต่างชาติ

“พวกคุณทานแบบนี้กันก่อนนอนเหรอ มันไม่หนักไปสำหรับพวกดารา แบบคุณที่ต้องรักษาหุ่น” มาร์ตินเห็นพวกนางแบบดังเขาต้องรักษาหุ่น บางคนทานยังกับแมวดมแต่นี้อะไร

“พวกเรา 2 คนก็ทานแบบนี้ทุกวัน บางวันก็มีสลัดบ้าง ส้มตำบ้าง ผลัดกันไป กั้งไม่ค่อยออกไปทานร้านอาหารเท่าไหร่ มันไม่ค่อยจะสะดวก ส่วนใหญ่อยากทานอะไรก็สั่งมาที่ห้องคะ”กั้งอธิบายตาก็สังเกตอาการคนข้างๆ ไม่รู้เขาเจอผู้หญิงมาแบบไหนแต่สำหรับเธอ เธอไม่ค่อยชอบร้านอาหารหรูๆ นานๆครั้งก็มีบ้างแต่ไม่บ่อย ร้านอาหารที่ทานบ่อยสุดก็ร้านส้มตำ ลาบน้ำตก อะไรประมาณนั้น ส่วนใหญ่ก็สั่งมาทานที่ห้องจะทานยังไงก็ได้ สมัยนี้มันมีเดลิเวอรี่เกือบจะทุกอย่างไม่ต้องไปนั่งรอด้วย

มาร์ตินมองกั้งที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆ แล้วรู้สึกดี เธอไม่ได้สร้างภาพว่าเป็นคนสวย ไม่มีจริตในการทานต่างจากคนที่เขาเคยพบเจอมา

“กั้งๆ แกอย่ามั่วแต่ทานคนเดียวสิ ตักให้คุณมาร์ตินชิม ดูท่าทางคุณมาร์ตินไม่รู้ว่าจะทานอะไร ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีหน่อย” กั้งฟังแล้วหันไปมองหน้าตะนอย ตะนอยพยักหน้าให้รีบๆทำกั้งจึงวางช้อนส้อม แล้วลุกขึ้นยืนตักต้มยำให้ที่คน จากนั้นก็ตักผัดผักให้เขาลองชิม เธอจ้องมองหน้าเขาแล้วก็ลุ้นว่าเขาทานแล้วรู้สึกอย่างไร มาร์ตินเห็นแล้วรู้สึกอยากจะลากไปต่อจากเมื่อครู่จริงๆ ยิ่งเห็นสีหน้าและแววตาแบบนี้แล้วรู้สึกมันเขี้ยวคนข้างที่มองเขาทำตาปริบๆ ตอนตักผัดผักเข้าปาก เหมือนกับลุ้นไปกับเขา ว่าเขาจะรู้สึกอร่อยไหม

พออาหารเข้าปากแล้วเขาเคี้ยว อืม!!! มันก็อร่อยดีนะ รสชาตใช้ได้เลยอีกอันไข่เจียวตอนแรกเขาคิดว่ามันจะจืดๆ เหมือนกับที่สเปนมันไม่ใช่มันมีความเค็มนิดๆ ผสมกับหมูบดแล้วอร่อยดี พอมาถึงต้มยำกุ้งเขาลองชิมน้ำก่อนว่า มันเผ็ดไหม แรกๆ ก็ยังกลัวๆ อยู่ พอเอาเข้าไปในปากแล้วมันไม่ใช่รสชาตอร่อยมากเลยมีความเผ็ดนิดๆ ไม่ใช่เผ็ดแบบทนไม่ได้ พอไดชิมทุกอย่างเสร็จแล้วเขาพยักหน้าและทำท่าว่าอร่อยใช้ได้ กั้งเห็นแล้วก็ยิ้มและทำท่าดีดนิ้วแล้วตบไปตรงอกเบาๆ

“เห็นไหมคะว่าอร่อย เชื่อใจกั้งได้คะ” มาร์ตินเห็นแล้วก็หัวเราะ ทุกคนพลอยหัวเราะตามๆกันไปกับสิ่งที่กั้งทำ

นาโช่กับเบ็นมองนี่คือดาราที่มีชื่อเสียง คุณกั้งดูเป็นกันเองไม่หยิ่งและไม่มองพวกเขาว่าเป็นลูกน้อง เหมือนพวกดารานางแบบดังๆเมืองนอกที่คอยแต่มองเหยียดๆ เวลาเข้ามาหาคุณมาร์ติน คุณกั้งเป็นคนที่สวยนิสัยน่ารักเลย ถ้าพ่อและแม่คุณมาร์ตินมาเห็นท่านทั้งคงจะพอใจไม่มากก็น้อย

ทุกคนทานข้าวอย่างอเล็ดอร่อย อาจจะด้วยการที่ยังไม่ได้ทานอะไรกันมาพอทุกคนทานเสร็จ กั้งก็ลุกขึ้นกำลังจะหยิบจานชามเอาไปล้าง

“คุณกั้ง!!! จะทำอะไร!!! ครับ”กั้งมองก็เธอจะเก็บจานไปล้าง ก็กินเสร็จกันแล้วไม่ใช่เหรอ

“อ้าว!!! พวกคุณทานเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอคะ กั้งก็จะเก็บไปล้างไง มีอะไรกันร้องเสียงดังกั้งตกใจหมดคะ” ดูจากสายตาของพวกเขาจะตกใจอะไรกับแค่ล้างจาน

“เออ...พวกผม 2 คนล้างเองก็ได้ครับ คุณกั้งนั่งกับบอสเถอะครับ” สองหนุ่มพยักหน้าให้เธอนั่ง แรกๆ ที่เห็นเขาก็รู้สึกตกใจมาก ไม่เคยเจอแบบนี้ผู้หญิงคนอื่นถ้าทานเสร็จก็จะนั่ง รอให้แม่บ้านมาจัดการของบนโต๊ะซึ่งจริงแล้วงาน พวกนี้มีแม่บ้านทำอยู่แล้ว แต่พวกนั้นชอบวางอำนาจแค่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกับบอสของเขา

“คุณนั่งเถอะ ปล่อยให้พวกเขาจัดการล้างเอง” มาร์ตินเดินไปนั่งข้างๆที่โซฟาที่กั้งเดินไปนั่งก่อนแล้ว กั้งเห็นเขาเดินมานั่งใกล้เลยจะขยับหนี แต่คนหน้ามึนไม่ยอมปล่อยเธอจึงดึงเธอเข้ามานั่งใกล้ๆ จนจะเบียดกันอยู่แล้ว อีกแล้วนะอิตาบ้านี้ ทำไม่มือเป็นปลาหมึกขนาดนี้ มาร์ตินเห็นแล้วก้มหอมแก้มเบาๆ

“เหนื่อยไหมวันนี้ ผมเห็นคุณงานทำอะไรหลายอย่างมาก พักบ้างก็ได้นะครับ ว่าที่สามีของคุณเขาสามารถเลี้ยงดูคุณได้สบาย คุณไม่ต้องรับมากงานขนาดนี้หรอก” มาร์ตินคิดขนาดเขานั่งทำงาน บนโต๊ะ เซ็นเอกสารเฉย ทั้งวันเขายังเหนื่อย เลยนี้อะไร ตั้งแต่เขาเจอเธอบนเวที เดินลงมาก็ต้องไปถ่ายรูปกับแฟนคลับ สักพักเขาก็เห็นเธอหยิบกระดาษมานั่งอ่าน และที่สำคัญเขาเห็นตารางในสมุดบันทึก ไม่ไหว ถ้าทำงานขนาดนั้น เวลาสำหรับเขาและเธอคงจะไม่มีเลย เขาต้องขอคุยกับตะนอยแล้วทำไมรับงานเยอะมากขนาดนั้น

“ไม่เหนื่อยคะ มันเป็นงานที่กั้งรัก กั้งจะเหนื่อยทำไมและที่สำคัญ กั้งยังไม่ได้ตกลงที่แต่งงานกับคุณเลย คุณจะมาบงการกั้งไม่ได้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็แค่ศึกษาดูใจเท่านั้น” อะไรเนี่ย ยังไม่ได้เป็นอะไรกันก็จะมาไม่ให้เธอทำงาน เธอไม่ได้ร่ำรวยแบบเขานะ

“คุณพูดแบบนี้ คุณอยากให้ผมย้ำมันอีกครั้งใช่ไหมว่าเราเป็นอะไรกัน ผมก็ต้องการย้ำเหมือนกัน พอดีเมื่อครู่มันยังค้างๆ อยู่” กั้งตีไปตรงต้นแขนเขาดังผั๊วะ

“ทะลึง!!! คุณ” มาร์ตินหัวเราะทำไม ไม่รู้สิ แต่รู้สึกชอบแกล้งคนข้างๆ มาก ชอบให้เธอทำหน้างอ จมูกยื่นๆ มาให้เห็นแล้วอยากจะงับมันจริงๆ

กั้งเห็นว่าตะนอยที่ลุกไปช่วย สองหนุ่มล้างจานเสร็จแล้วเลยก็จะรีบชวนกลับห้อง ไม่ไหวดูท่าทางคนข้างๆ น่ากลัวจริงๆ

“คุณนาโช่ คุณเบ็น ล้างจานเสร็จหรือยัง กลับห้องกันเถอะ เจ้าห้องเขาจะได้พักผ่อน” กั้งลุกแล้วรีบเดินไปหาตะนอยทันที ไม่ไหวอยู่กับคนเยอะๆ ดีกว่ารู้สึกปลอดภัยดีกว่าอยู่กับคนบ้า ทำไมรู้สึกว่าเขาหื่นๆ พิลึก มาร์ตินเห็นกั้งเดินเข้าไปหาตัวช่วยแล้วคิดในใจ กั้งคุณไม่รอดผมหรอก ผมจะทำอะไร คนพวกนั้นเขาไม่สามารถช่วยคุณได้ ถ้าเขาคิดจะทำจริงๆ แค่ลากเข้าไปที่ห้องนอนก็จบแล้ว และไม่ต้องกลัวใครจะนินทา เขามั่นใจในคนของเขาและตะนอยก็คงจะไม่ว่าเช่นกัน

ตะนอย ที่กำลังเช็ดมือเดินออกมาหากั้ง “เออ...คุณเบ็น คุณนาโช่ เราไปกันเถอะคะ อยู่ห้องใกล้ๆ กัน เดินไปด้วยกันก็ได้นะคะ” กั้งมอง อ้าว...สองคนนั้นไม่ได้นอนที่นี้ล่ะแล้วทำไมถึงไปกับตะนอย หรือพักห้องของตะนอย

“อ้าว...คุณสอคนไม่พักกับเจ้านายคุณเหรอ ไม่พักห้องนี้ล่ะคะมีห้องนอนตั้งหลายห้องจะไปพักห้องเดียวกับตะนอยทำไม” กั้งรู้สึกสงสัยมากแต่เห็นสองคนนั้นหัวเราะ ก็รู้สึกสงสัยหรือมีอะไรอีกที่เธอไม่รู้

“พอดีบอสเช่าห้องใกล้ๆ ห้องคุณตะนอยให้พวกผมครับ พวกผมไม่ได้นอนที่นี่ บอสผมชอบความเป็นส่วนตัวครับ และอีกอย่างสะดวกพวกผมด้วย” คิดเหรอว่าคุณมาร์ตินคงจะให้พวกเขาอยู่ด้วยหรอก ซึ่งตอนนี้เขาดูสายตาแล้วคงอยากจะไล่พวกเขาออกห้องเต็มที่แล้ว ดูจากสายตาที่คุณมาร์ตินมอง

“อ้าว!!! จะไปเช่าเพิ่มทำไมให้เปลืองเงินล่ะคะ ที่นี้มีตั้งหลายห้อง คุณคงจะใช้ไม่หมดทุกห้องหรอกจริงไหมคะ คุณมาร์ติน” มาร์ตินมองคนที่พยายามจะหนีเขา และหาทางใช้ให้คนอื่นมากันเขาไม่ให้ไปยุ่งกับเธอ เห็นแล้วแอบขำท่าทาง ทำไมเธอต้องกลัวอะไรเขามากมายขนาดนั้น ทั้งที่เธอน่าจะดีใจที่เขาอยากจะอยู่ใกล้เธอ

“ดีแล้วครับพวกคนโสด เขาจะอยู่กันตามลำพัง มาอยู่ที่นี้พวกนั้นเขาก็จะอึดอัดมาเจอคู่รักแบบเรา พาลจะทำให้พวกเขาอิจฉา”

“บ้าสิ!!! ใครเขาจะคิดเหมือนคุณกัน คิดเองเออเองตลอดนะคุณ”

ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเตรียมตัวออกจากห้อง กั้งก็สบโอกาสที่จะเนียนออกไปด้วย มาร์ตินเห็นแล้วเลยตะโกนเรียกกั้ง

“กั้ง!!! นั่นคุณจะไปไหน คนอื่นเขาจะกลับไปพัก คุณต้องอยู่กับผม” กั้งได้ยินจะบ้าเหรอไม่อยู่หรอก แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมันจะซ้ำรอยแบบเมื่อครู่อีกไม่เอา ไปตอนนี้ดีแล้ว เธอหันไปบอกเขา

“กั้งก็ติ้งกลับห้องของกั้งสิ พวกเรา 4 คนก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน และที่สำคัญ ดูท่าทางคุณเหนือย เหนื่อย จะได้รบกวนคุณไงคะ” กั้งมองไปยังคนที่เหลือ ให้ช่วยหน่อยสิ พยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้ช่วยแต่ทุกคนกับส่ายหน้า คืออะไรคะ พวกคุณ แล้วหันหน้ามาหามาร์ตินแล้วส่งยิ้ม แหะ แหะ

“ไปแล้วนะคะ กู้ดไนท์คะ สวัสดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ”

กั้งที่กำลังจะก้าวเดินออกประตูไป แต่ดันมีมือมาดึงเอาไว้แล้วพูดกับคนอื่นว่า

“พวกนายและคุณตะนอยไปพักเถอะครับ เหนื่อยกันแล้ว” นาโช่กับเบ็น ตะนอยต่างพยักหน้า

“ครับ ยังไงคุณมาร์ตินต้องการอะไรเรียกผมได้นะครับ”

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ คุณกั้ง” กั้งมองแล้วตะโกนเรียก ส่วนเพื่อนของเธอก็เดินออกไปแล้วทำท่าโบกมือ

“good night นะจ้ะกั้ง นอนหลับฝันดีเห็นว่าช่วงนี้นอนไม่ค่อยสนิท คืนนี้ท่าทางจะหลับง่ายเพราะมีคนกล่อม” กั้งอยากจะลุกไปขย้ำคอเพื่อนเธอจริงๆ อะไรเนี่ยหนีกันไปหมดเลย อยากจะร้องไห้ทำไงดีละเรา ค่อยหันมามองหน้าเขาแล้วทำท่าง่วง

“ฮ้าว ฮาว กั้งง่วงแล้ว งั้นกั้งขอกลับไปนอนก่อนนะคะ บาย” พยายามแกะมือนี่มือคนหรืออะไรเหนียวชะมัด มาร์ตินดึงกั้งเข้ามากอด

“เหนื่อยหรือยังสิ่งที่ทำ คุณหนีผมไม่พ้นหรอกง่วงนอนแล้วใช่ไหม งั้นไปนอนกัน”

“เฮ้ย!!! ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้นนะฉันจะไปนอนห้องฉัน แล้วชี้ไปที่มาร์ติน คุณก็นอนห้องคุณ ตรงโน้นห้องนอนเราสองคนไม่ได้จะนอนด้วยกันนะโอเค”แล้วทำท่าให้คนตรงหน้าเข้าใจ มาร์ตินไม่ฟังเสียงโวยวาย ดื้อนักก็อุ้มไปห้องนอนมันสะเลยละกันไม่งั้นคืนนี้ก็คงไม่ได้นอน ซึ่งจริงๆเขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไร ก็แค่อยากนอนกอดให้หายคิดถึง แค่นั้นเอง ไม่รู้ว่าในหัวของคนตรงหน้าคิดอะรอยู่ ถึงเขาจะรักและต้องการมากแค่ไหน เขาก็ยังให้เกียรติผู้หญิงเสมอ แค่กอดหอมเท่านั้นพอให้หายคิดถึง

“ปล่อยสิคุณ!!! ฉันไม่เล่นด้วยนะ ฉันง่วง ฉันจะกลับห้อง เข้าใจไหม”

“คุณก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ไปนอนไม่เห็นจะยาก หรือให้ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เอาไหม ผมก็อยากจะอาบน้ำให้คุณอยู่นะ เมื่อกี้ยังเห็นไม่ถนัด” กั้งที่ได้ยินก็เพราะแบบนี้ไงเธอถึงไม่อยากจะอยู่ด้วย มันรู้สึกไม่ปลอดภัย กั้งก็ลุกขึ้นมาพูด

“ก็คุณ เป็นแบบนี้ไง ฉันถึงไม่อยากอยู่ใกล้คุณ คุณจ้องแต่จะเคลมฉัน ฉันก็กลัวสิ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นของคุณ น๊ะ!!! ที่จะยอมนอนกับคุณง่ายๆ” มาร์ตินมองหน้าแล้วส่ายหน้า

“ผมบอกหรือยังว่าจะปล้ำคุณ ผมแค่อยากจะนอนกอดคุณให้หายคิดถึง ผมคิดถึงคุณมาก ผมถึงมาหาคุณที่นี่ และที่สำคัญผมไม่ทำอะไรผู้หญิง ถ้าเขาไม่เต็มใจ ผมเป็นลูกผู้ชายพอครับ”

กั้งฟังที่เขาพูดแล้ว เธอจะเชื่อใจเขาได้ไหม ก่อนหน้านี้เธอก็เกือบจะไม่รอด มาแล้ว

“ผมบอกแล้วนะ ว่าผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ทำอะไรคุณหรอกผมสัญญา ผมขอแค่นอนกอดคุณเท่านั้นเอง”กั้งมองหน้าเขาเอาไงดี เนี่ย คิดสิ คิด!!!

“เออ...เสื้อผ้าฉันไม่มีเปลี่ยน เพราะชุดอยู่ห้องโน้นหมดเลย งั้นฉันไปอาบน้ำที่โน้น แล้วเดี๋ยวฉันกลับมา”

มาร์ตินมองหน้าแล้วส่ายหน้า“อาบน้ำที่นี่ !!! ใส่เสื้อของผมไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปเอาเสื้อผ้าของคุณมาไว้ที่นี้หรือจะให้ผมเอาเสื้อผ้าไปไว้ห้องของคุณดี”  กั้งโมโหจนหัวระเบิด ถ้าทะเลาะกันอย่างนี้วันนี้ก็คงจะไม่ได้นอน พรุ่งนี้เธอมีถ่ายแบบด้วยสิ ยอมๆ ไปก่อนก็ได้ กั้งมองมาร์ตินตาขว้าง

“แล้วไหน เสื้อผ้าที่จะให้เปลี่ยน ไม่เห็นมีเลย”

มาร์ตินเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวมาให้เธอ ดูแล้วน่าจะโอเคสุด”

กั้งมองเขาหยิบเสื้อมาให้เธอแล้วก็ผ้าเช็ดตัว

“เออ...” มาร์ตินเริ่มที่ทนไม่ไหว

“อะไรอีกคุณ ถ้ายังมีข้อแม้แค่อีกข้อเดียว ผมจะเป็นคนพาคุณไปอาบน้ำเองนะหรือคุณจะเอาแบบนั้น” กั้งได้ยินถึงกับส่ายหน้า

“เปล่า...กั้งแค่จะบอกว่า กั้งไม่มีชุดชั้นในเฉยๆ” แล้วทำเสียงอ่อน ทำไมต้องโมโหด้วยน่าจะเป็นเธอต่างหากที่ควรจะโมโห

มาร์ตินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นี่เขาอยู่กับเด็กกี่ขวบ คุยกับเด็กยังไม่เหนื่อยเท่ากับคนตรงหน้าเลยจริงๆ

“ไม่มี ก็ไม่ต้องใส่”

ห๊ะ!!! ไม่ต้องใส่ กั้งทำหน้าตกใจและกำลังจะอ้าปากพูด มาร์ตินชี้นิ้วมาตรงที่เธอยืน กั้งรีบงับปากทันทีแล้วก็วิ่งเข้าห้องน้ำไป สักพักก็ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากในห้องน้ำ

“แปรงสีฟันล่าคะ จะให้ใช้อันไหน”เขาละเพลียนี้เขาจะมีเมียหรือเขาจะมีลูกกันแน่คิดแล้วกลุ้ม

“อันไหนก็ได้ ผมก็ยังไม่ได้ใช้สักอันมีอะไรอีกไหมกั้ง ตอนนี้ผมเริ่มไม่ไหวแล้วนะ ถ้าขืนคุณยังช้าแบบนี้ผมจะเข้าไปช่วยคุณอาบโอเคไหม”

กั้งได้ยินตอนแรกก็คิดจะถ่วงเวลา ดูแล้วตาบ้านี้เอาจริง ไม่เอาดีกว่ารีบๆอาบ รีบๆ นอน

มาร์ตินเดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็น เขาได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมาสักพักแล้ว เห็นในตู้เย็นมีนมสดก็เลยจัดการเทไปให้คนที่มีนิสัยเหมือนเด็กแต่อย่างอื่นไม่น่าเด็ก แต่พอเข้าไปถึงห้องนอน มองไปรอบๆ ไม่เห็น จนไปมองที่เตียงอะไรคลุมผ้าห่มแล้วนอนหลับเขาถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้

“กั้ง ลุกขึ้นมากินนมก่อนเลย ผมรู้ว่าคุณยังไม่หลับอย่าทำแบบนี้ ลุกขึ้นมาถ้าไม่ลุกจะให้ผมปลุกคุณแบบวิธีของผมไหม”

“เอาไงดีวะ เอาไงดี” นับ1 นับ 2 นับ..ลุกพรวด!! กั้งพยายามนับในใจ

“โอ๊ย!!! คุณ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะที่ต้องมากินนมก่อนนอน และที่สำคัญฉันแปรงฟันแล้ว คุณนะรีบๆไปอาบน้ำเลย ฉันง่วง” กั้งแกล้งโมโห ใส่สะเลย นึกแล้วแอบขำที่เห็นเขาทำหน้าเหวอ แล้วรีบมุดลงไปในผ้าห่มสมน้ำหน้าชอบสั่งเธอดีนัก

เอ๊ะ!!! เงียบท่าทางคงจะเข้าไปอาบน้ำแล้ว กั้งค่อยๆเปิดผ้าห่มออกมาเท่านั้นแหละ

“ไหน !!!บอกว่าง่วงจะนอนแล้ว แล้วไม่นอนละ!!! หรือจะให้ผมกล่อม”เขาถึงกับกลั้นยิ้มเจ้าเล่ห์นักนะ ดูท่าทางจะแสบไม่ใช่เล่น

กั้งตกใจนึกว่าเขาเข้าไปอาบน้ำแล้วแต่ทำไมมานั่งจ้องเธออยู่บนเตียง นึกในใจ ทำไมเขาต้องรู้ทันหมดขยี้ผมตัวเอง

“ดื่มซะ!!! ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นเด็ก ผมจับมาแล้วว่ามันพอดีมือ แต่ผมอยากให้คุณดื่มนมก่อนนอนคุณจะได้หลับสนิท เห็นว่าเมื่อว่านอนไม่ค่อยหลับ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว คุณจะได้นอนนี้จะตี 2 แล้ว” มาร์ตินก้มลงไปจูบตรงหน้าผาก แล้วห่มผ้าให้ กั้งมองหน้ามาร์ติน เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็มีแต่แม่ที่ทำแบบนี้จนมีเขา

“ขอบคุณนะคะ”กั้งหอมตรงแก้มของเขา เป็นการขอบคุณ มาร์ตินนิ่งงานนี้เขาอึ้งจริงๆ ไม่คิดว่ากั้งจะทำแบบนี้

“ไม่เป็นไรครับ ฝันดีนะเด็กน้อยของผม”พูดเสร็จ ก็ลุกไปอาบน้ำ กั้งนอนคิด นี้เป็นการนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนและดันเป็นผู้ชาย งานนี้จะหลับลงดีไหม

มาร์ตินอาบน้ำออกมา หยิบกางเกงผ้ายืดขายาวมาใส่นอนตัวเดียวเขาไม่ชอบใส่เสื้อนอนเดินออกมาตรงห้องนอน กำลังเช็ดผมอยู่หันหน้าไปมองตรงเตียงแล้วตกใจ “เฮ้ย!!! ไหนคุณว่าจะนอนไง ทำไมลุกมาจ้องผมแบบนั้น” กั้งเห็นตั้งแต่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ โอ้วว!!! แม่เจ้า หน้าอกโครตแน่น มีน้ำเกาะตรงหน้าอกเช็กซี่มากๆ ตอนที่เขาสะบัดผม โอ้วว!!! โครตหล่อ กั้งคิดในใจ คืนนี้จะไหวไหมเนี่เรา

“เปล่า!!! แค่เห็นคุณอาบน้ำนานก็เลยลุกขึ้นมาดู แล้วคุณไม่ใส่เสื้อนอนคุณเปิดแอร์เย็นขนาดนี้เดี๋ยวไม่สบายนะ”

มาร์ตินเดินเอาผ้าไปเก็บแล้วขึ้นบนเตียง “ผมชอบนอนถอดเสื้อ อากาศแบบนี้ก็ถือว่าโอเค นอนสบาย ทำไมคุณหนาวเหรอมาๆ ผมกอดให้”

“หยุด!!! ไปใส่เสื้อนอนเดี๋ยวนี้ คุณไม่ใส่เสื้อฉันไม่โอเค!!!ไป” กั้งผลักมาร์ติน

“อย่าพูดมาก นอนได้แล้ว” มาร์ตินเอื้อมมือไปปิดไฟตรงหัวเตียง

“นอน ผมบอกให้นอน หรือว่าคุณอยากจะออกกำลังกายตอนนี้”กั้งได้ยิน ก็นิ่งค้าง มาร์ตินหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุม แล้วนอนกอดกั้งทางด้านหลัง กั้งรู้สึกไม่ชิน งานนี้จะนอนได้ไหมพลิกหันหน้า มาจะบอกว่าให้เอาหมอนข้างมาขว้างไหม แต่ดันเจอเข้ากับสายตาของมาร์ตินค่อยๆ พลิกหันหน้ากลับไปที่เดิม

“นอนนะครับตี 2 แล้ว พรุ่งนี้จะต้องทำงานอีกไม่ใช่เหรอ ผมบอกแล้วว่าไม่ทำอะไรคุณ นอนเถอะ” เขากอดเธอแล้วลูบไปบนแผ่นหลังกล่อมให้นอน กั้ง รู้สึก ทำไมมันอบอุ่นแบบนี้ อ้อมกอดของเขาสักพักเขาก็ได้ยินเสียงลมหายใจ ที่สม่ำเสมอของอีกคน

“กว่าจะนอนได้นะเรา” พร้อมกับหอมแก้มของกั้ง แค่ได้นอนกอด แบบนี้ เขาก็มีความสุขแล้ว

ฮอต

Comments

บุญส่ง ทองนาค

บุญส่ง ทองนาค

ชอบบบ

2022-02-21

0

นิด นิด

นิด นิด

ชอบค่ะน่ารัก

2021-06-03

0

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 55

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!