บทที่ 11

เมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนคนบ้าที่ทั้งโทรทั้งline มารบกวนเธอตลอดทั้งคืนหนักเข้าเธอเลยปิดเครื่องมันเพื่อจบการรบกวน กั้งนั้นตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัวซึ่งมีเรื่องมากมายเข้ามาให้เธอคิดตลอดทั้งคืน ทั้งเรื่องที่พี่ต้นบอกเธอครอบครัวบ้านโน้น ซึ่งปกติเธอพยายามจะไม่สนใจแต่ก็อดห่วงไม่ได้ และอีเว้นท์วันนี้อีกที่นักข่าวต้องแห่มาขอสัมภาษณ์เธอเรื่องของเขาแน่ๆ

“โอ๊ย!!ไม่อยากจะไป โว้ย” กั้งขยี้หัวตัวเองจนผมเผ้าชี้ฟู

“ตายแล้วยัยกั้ง !!! ฉันให้แกมาร์คหน้าก่อนนอน ทำไมแกไม่ทำดูสิสภาพอย่างกับศพเดินได้ ไป ไปเปิดตู้เย็นหยิบแตงกวามาปิดตาเลย ไปเลยเดี๋ยวนี้”ตะนอยถึงกับทำหน้าตกใจกับสภาพนางเอกที่ดูไม่จืด

“ใครล่ะ ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะแกกับคนบ้านั้นเหรอ คอยดูนะ เจอหน้าจะชกให้คว่ำเลย”แค่คิดกั้งก็รู้สึกโมโหจนจะเป็นบ้า

“เส้นเลือดในสมองฉันจะแตกตายไหมเนี่ย”กั้งบ่นและเกิดอาการงอแง

“โอ้ย !!! ไม่ต้องกลัว งานนี้ฉันว่าแกมีสิทธิ์เส้นเลือดแตกตายแน่ๆ”

ตะนอยเอ่ยออกมา ก่อนที่คุณมาร์ตินจะเดินทางมาเมืองไทย ได้สั่งให้เธอจัดการหาห้องพักที่อยู่ใกล้กับห้องของกั้ง ตรงข้ามได้ก็ยิ่งดีจะราคาแพงแค่ไหนเขาพร้อมจ่าย พอดีว่าคนที่อยู่ตรงข้ามห้องของกั้งเขาประกาศขาย มันช่างประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้ แต่ราคาที่ขายก็แพงหูดับเอาเรื่อง

“ตะนอยคืนนี้งานเริ่มกี่โมง” กั้งเดินออกมาถาม

“หกโมงเย็น ทำไมเหรอแก”

“งั้นฉันขอไปนอนต่ออีกแป๊บนะ เดี๋ยวจะลุกมาอาบน้ำขอหลับต่อสักชั่วโมงล่ะกัน”

ส่วนมาร์ตินเขาอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เจอกับกั้งแล้ว เห็นตะนอยบอกว่าคืนนี้กั้งมีงาน เขาต้องการจะไปเซอร์ไพร์สกั้งที่งานเปิดตัวโทรศัพท์ตัวใหม่ที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์ เขาลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายจากการที่ต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานานๆ ส่วนเรื่องของห้องพักก็ไม่ต้องห่วง เขาได้ให้คุณตะนอยจัดการไปแล้ว งานนี้เขาจะอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ กำหนดอาจจะเลื่อนว่าเขาเคลียปัญหากับกั้งได้เร็วแค่ไหน และยังมีเรื่องโรงแรมที่จะทำการซื้อขายอีก เมื่อคืนช่วงว่างเขาเปิด ยูทูปค้นหาละครที่กั้งแสดง ซึ่งมีเยอะมากมาย จนทำให้ได้รู้จักกั้งในมุมอื่นๆ ก่อนจะนอนเมื่อคืน แม่เขาโทรมาบ่นใหญ่เรื่องที่ไปแถลงข่าวหักหน้า 2 แม่ลูกนั้น บ่นเสร็จดันวกกับมาของกั้งบอกเขากลับมาสเปนครั้งนี้ให้รีบพากั้งไปหาแม่และพ่อด่วน ถ้ามาช้าพ่อกับแม่เขาจะบินตามมาเมืองไทยเอง เขาล่ะเชื่อแม่ของเขาจริงๆ แต่ดูจากน้ำเสียงแล้ว แม่เขาท่าทางจะปลื้มกั้งอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าแม่เขาจะสมัครเป็น fc กั้งหรือเปล่า ฟังมาเหมือนรู้เกือบจะทุกเรื่อง บางเรื่องเขายังไม่รู้เลย แต่แม่เขารู้ได้ไง ขนาดเขาที่ให้นาโช่ คอยหาข้อมูลที่ได้ยังไม่เท่าของแม่เขา ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่น่ากลัวในการที่อยากจะรู้อะไรสักอย่างเธอจะเจาะเข้าไปได้หมดรู้ลึกรู้จริงและรู้ดี คิดแล้วก็รู้สึกกลัว

กั้งตื่นขึ้นมาพร้อมร่างกายที่โอเคกว่าเมื่อครู่ ยังดีที่ได้นอนไปสักพักลุกขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวไปงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ที่เธอรับเป็นพรีเซนเตอร์ งานนี้ค่าตัวเท่าไหร่ไม่ต้องพูดถึง มันสามารถทำให้เธอมีกินมีใช้จนทุกวันนี้ก็มาจากรายได้พวกนี้เธอเป็นคนไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว เงินที่หาได้ก็เก็บไว้ให้แม่ไปลงทุนทำไร่ ปลูกบ้านให้แม่ชีวิตถือว่าสุขสบาย เห็นรอยยิ้มของแม่แล้วทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ในทุกๆ วัน ไม่ต้องเจอปัญหาหนักอกหนักใจไม่ต้องมานั่งเห็นแม่ร้องไห้ในทุกๆคืน เช่นก่อนที่แม่จะหย่าขาดกับพ่อ ตั้งแต่วันที่แม่เดินออกมาจากบ้านหลังนั้นแม่เธอไม่ได้เอาอะไรติดตัวออกมาเลย แม่ขอแค่เธอเท่านั้นอย่างอื่นท่านไม่เรียกร้องจะเอาอะไร

“พร้อมไหมแกวันนี้ ดูท่าทางโอเคแล้วล่ะสิ จะกินข้าวก่อนไหมเดี๋ยวฉันทำอะไรให้ทานรองท้องก่อน”ตะนอยเดินไปตรงห้องครัวแล้วก้มหน้าทำอะไรให้เธอทานเบาๆ

ตะนอยถือว่าเป็นทั้งผู้จัดการเป็นทั้งเพื่อนบางที่เป็นเหมือนพี่สาว ที่คอยดูแลเธอในทุกเรื่องๆ ซึ่งข้างนอกอาจจะมองว่า เธอสวยเก่งไปทุกอย่าง จริงๆแล้วเธอไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบเลย เธอทำกับข้าวก็ไม่เป็นถึงขั้นแม่ ตะนอย และพี่ต้น ขอร้องว่าอย่าทำอาหาร ไม่หวานมาก ก็เค็มไปเลย นึกถึงแม่ก็ยิ่งรู้สึกขำในสิ่งที่แม่เคยถามเธอ“กั้งรักแม่ไหม”แรกๆ เธอก็งงกับคำถามนี้ ช่วงทำกับข้าวให้แม่กินครั้งแรกเธออุตส่าห์ตั้งใจทำนึกว่าแม่จะชื่นชมเปล่าเลย แม่ของเธอพูดว่า “ถ้ารักแม่ อยากให้แม่อยู่กับกั้งไปนานๆ อย่าทำกับข้าวให้แม่กินอีกเลย แม่กลัวจะเป็นไตวายไม่งั้นก็เป็นเบาหวานก่อนลูก แม่ไม่ลำบากที่จะทำกับข้าวให้ลูกกินเอง ถือว่าแม่ขอร้อง”เวลานั้นเธอถึงกับเสียความมั่นใจไปพักหนึ่ง

“สรุปจะเอาไหม ฉันจะได้ทำเผื่อ”ตะนอยถามกั้งไปแต่เห็นเงียบเอาแต่นั่งยิ้ม เพื่อนเธอคงจะเพี้ยนไปแล้วสิ

“เอาขนมปังกับกาแฟก็ได้ ไม่ต้องทำอะไรเยอะ ยังไม่ค่อยหิวไม่อยากทานอะไรมาก” กั้งหันหน้าไปตอบ

กั้งได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเครื่อง เมื่อคืนเธอปิดเครื่องไว้เพราะรำคาญคนบ้าคนหน้ามึน ถามอยู่ได้คิดถึงไหม คิดถึงหรือเปล่า นี่คงจะใกล้ถึงเมืองไทยแล้ว ก่อนจะปิดเครื่องเห็นเขาส่งรายงานการบินมาให้เธอดูว่าถึงไหน ยิ่งนึกยิ่งรู้สึกถึงความวุ่นวายที่มันจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ในไม่ช้า ที่สำคัญวันนี้เธอจะต้องตอบนักข่าวไปว่ายังไงดีกับเรื่องของเธอ

“กินร้องท้องก่อนจะได้มีพลังในวันนี้ ฉันเอาน้ำส้มมาให้ด้วยจะได้สดชื่น”กั้งยื่นมือไปรับแก้วกาแฟพร้อมกับจานขนมปัง

“แกรู้ไหมว่าเขาพักที่ไหน”กั้งยังข้องใจเลยถามตะนอย ตอนนี้เธอเริ่มจะแน่ใจว่าเพื่อนเธอต้องรับงานเป็นเลขาส่วนตัวนายคนนั่นเพิ่มอีกตำแหน่ง ภาวนาอย่าให้ลางสังหรณ์เธอแม่นเลย เมื่อคืนก่อนจะเข้าห้องเธอสังเกตเห็นห้องฝั่งตรงข้ามได้ขนย้ายเสื้อผ้าออกมาพนักงานบอกว่าห้องนี้ได้ขายให้ชาวต่างชาติไปแล้ว แต่เธอฟังไม่ถนัดช่วงนั้นง่วงๆ อยู่ด้วย

“รู้สิ ทำไมเหรอแก” ตะนอยคิดในใจรู้สึกคันปากนิดๆ อยากจะบอกเพื่อนเธอจริงๆ ว่าก็อยู่ตรงข้ามห้องแกนะแหละเปิดประตูก็เจอแล้ว

“สู้โว้ย!!! สำหรับวันนี้ ไปหรือยังแก”

ตะนอยตกใจอยู่ดีๆ เพื่อนเธอก็ตะโกนออกมาเสียงดัง พยักหน้าลุกขึ้นหยิบของที่เตรียมไว้ กั้งยืนรอตะนอยตรงลานจอดรถกั้งนั้นเจอกับพี่ต้นที่กำลังจะออกไปทำงานพอดี

“กำลังจะออกไปทำงานเหรอค่ะพี่ต้น เมื่อวานพี่ต้นบอกจะไปคุยงานใกล้ๆ ที่กั้งมีงานอีเว้นท์อย่าลืมแวะไปเชียร์น้องสาวด้วยนะคะ” แล้วทำตาปริบๆให้ ต้นส่ายหัวกับความขี้อ้อนของกั้ง

“จ้า!!! แม่ซุปตาร์ ถ้าเสร็จงานเร็วพี่จะแวะไปยืนเอาป้ายไฟไปเชียร์นะ ถ้าให้พี่ไปเป็นหน้าม้าคืนนี้เลี้ยงข้าวพี่ด้วยละกัน”

“ได้เลยสำหรับพี่ต้น อย่าลืมเอาป้ายไฟไปด้วยนะ ถ้าไม่มีกั้งไม่เลี้ยงข้าวด้วย บาย บายคะพี่ต้น ยังไงเดี๋ยวเจอกันนะคะ”แล้วยืนมองเพื่อนที่ไปเอารถตะนอยวนรถมาถึงพอดีกั้งโบกมือให้พี่ต้นก่อนขึ้นรถ

จนถึงสถานที่จัดงานสำหรับวันนี้ เธอกำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ และก้มหน้าอ่านสคลิปงาน สักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนเธอรีบรับและลุกเดินออกไปยังด้านนอกห้อง ถ้าเธอเดาไม่ผิดแสดงคนนั้นน่าจะมาถึงเมื่องไทยแล้ว เขาคงจะโทรเข้ามือถือของเธอไม่ได้จึงโทรหาตะนอยแทน

“กั้งทำผม แต่งหน้า แต่งตัวเรียบร้อยแล้วมายืนถ่ายรูปตรงนี้หน่อยน่ะ”ตะนอยต้องการถ่ายรูป เพื่อลงโปรโมทเสื้อผ้าให้กับเจ้าของร้านที่เขาเอามาให้ใส่ ด้วยการอัพลง IG ซึ่งมักจะมีคนติดตาม เสื้อชุดนั้นก็จะมีการออกแบบชุดมาขายและใส่ตามดาราทีชื่นชม

“แป๊บหนึ่ง พี่นิวติดตะขอข้างหลังให้อยู่” ติดเสร็จแล้วเดินมาถ่ายรูป วันนี้เธอให้ชุดราตรี คล้องคอ สีแดง ตามคอนเซ็ปต์ของมือถือตัวใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

“พร้อมนะกั้ง สู้ๆ สำหรับการสัมภาษณ์วันนี้ก็อย่าไปคิดอะไรมาก ฉันก็พยายามสกรีนคำถามให้ และจะขอร้องให้ถามเบา ๆ”

นาโช่กับเบ็นได้ให้คนขับรถที่สนามบินนำกระเป๋าเสื้อผ้าไปไว้ที่ห้องให้บอสที่คอนโดก่อนแล้ว ส่วนคุณมาร์ตินมาถึงก็จะพุ่งไปหาคุณกั้งที่งานทันที บอกว่าจะไปเซอร์ไพรส์กั้ง ให้คุณตะนอยเตรียมดอกไม้ไว้ให้พร้อม

“บอสเรานี้เมื่อความรักมันเข้าตาสามารถทำได้ทุกอย่างเลยนะ ตั้งแต่ได้เจอคุณกั้งทำแต่ละอย่าง เห็นแล้วตกใจจริงๆ ว่านี้ใช่บอสของเราหรือเปล่า”

นาโช่พูดออกมาเบ็นถึงกับหัวเราะ พึ่งจะมีความคิดคล้อยตามนาโช่ก็วันนี้ นาโช่ชี้ให้ดูการแต่งตัวเสื้อผ้าหน้าผมของบอส “งานนี้ฉันว่าดังระเบิดแน่ๆ ดูบอสเราจัดเต็มสะขนาดนั้น”

“งานนี้ใครจะเซอร์ไพรส์กันยังไม่รู้” นาโช่กับเบ็น เห็นพ้องต้องกัน

ช่วงที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด “มาดามโทรมาทำไหมว๊ะ”

เบ็นได้ยินนาโช่อุทานออกมา “นายรีบกดรับสิ เดี๋ยวจะโดนมาดามต่อว่า”

“อือ” นาโช่พยักหน้ารีบกดรับมือถือของมาดามใหญ่ตระกูลกุสโซ่

“สวัสดีครับมาดาม มาดามมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

“อะไรนะครับ ครับ ครับ” เบ็นมองหน้านาโช่ที่คุยกับมาดาม อะไรว๊ะ ได้แต่ตอบว่าครับ ครับ ครับ พอนาโช่วางสายเสร็จ

“มาดามมีเรื่องอะไร เหรอนาโช่”

“ฉันว่าเป็นทั้งแม่ทั้งลูก งานนี้” นาโช่คิดถึงสิ่งที่แม่เจ้านายให้เขาทำ

“อะไรว๊ะ เป็นทั้งแม่ทั้งลูก” เบ็นรู้สึกงงในสิ่งที่เพื่อนหันหน้ามาบอก

“มาดามให้ฉันถ่ายรูปของบอสกับคุณกั้งและต้องส่งรูปคุณกั้งไปให้มาดามดู และต้องคอยรายงานว่าบอสเราทำอะไร ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นหรือเปล่า เน้นย้ำว่าให้ส่งไปทุกวัน”นาโช่ถึงกับถอนหายใจ แค่คุณมาร์ตินคนเดียวพวกเขาก็ปวดหัวจะแย่ นี้เพิ่มแม่ของบอสเข้าไปอีก ตายแน่งานนี้ ไม่รู้ใครตื่นเต้นกว่าใครแม่หรือลูกคิดๆ แล้วก็รู้สึกเพลีย

“เบ็น!!! มันไม่มีทางอื่นแล้วเหรอจะสองชั่วโมงแล้ว ยังติดอยู่ที่เดิมเนี่ยนายเช็คมาดีแล้วเหรอว่าอยู่แถวนี้” เบ็นหันหน้ากลับไปบอกบอสสุดหล่อและพยายามพูดปลอบใจ ซึ่งตอนนี้ดูท่าทางจะโมโหแบบสุดๆ

“ครับคุณมาร์ตินพวกผมเช็คมาอย่างละเอียด สถานที่จัดงานเลยตรงนี้ไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้วครับใจเย็นๆ ครับบอสถนนเส้นนี้ มันติดมากอยู่แล้วครับ”

“เออ เออ” มาร์ตินได้แต่พยักหน้าซึ่งเขากลัวไปไม่ทันงานของกั้ง สมกับที่เขารู้มาว่ากรุงเทพรถติดมากจริงๆ

งานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น พิธีกรกำลังกล่าวเชิญแขกผู้เกียรติขึ้นมากล่าวเปิดงานผลิตภัณฑ์มือถือตัวใหม่รวมทั้งวีทีอาร์แนะนำผลิตภัณฑ์ จนถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยมาถึง ขอเชิญนางเอกซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง คุณกังสดาล วัฒนาศิริ ขึ้นมาบนเวที กั้งได้ปรากฏตัวออกมาในชุดราตรีคล้องคอสีแดง ที่เผยให้เห็นแผ่นหลังที่เรียบเนียน ซึ่งทำให้ทุกคนในงานตะลึงและหนึ่งในนั้นก็คือ มาร์ติน

มาร์ตินที่เดินมาถึงงานก็รีบเดินตรงมายังที่นั่งด้านหน้าของเวทีซึ่งตะนอยได้จัดเตรียมไว้ให้ กั้งเดินโชว์ผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ จนมาเจอสายตาของคนที่ทำให้เธอโมโหเมื่อวานนี้ กั้งคิดในใจมาถึงเมืองไทยแล้วเหรอเนี่ย และที่สำคัญมาทำอะไรที่นี้ คงไม่ใช่มารอฟังสัมภาษณ์ของเธอนะ คิดในใจอยากจะเดินไปหักคอเพื่อนของเธอจริงๆแสดงว่าจัดเตรียมให้ทุกอย่างเลยใช่ไหม

คนในงานถึงกับตะลึงว่ามีผู้ชายต่างประเทศเดินเข้ามาภายในงาน บรรดาสาวๆ ต่างพากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไปทั่ว“แกดูสิทำไมหล่อแบบนี้ ผู้ชายสาย ฝ”

มาร์ตินถึงกับเขินๆ กับสายตาของคนที่นี้ นี่เขาแต่งตัวผิดปกติหรือเปล่า ทำไมมีแต่คนหันมอง นาโช่กับเบ็นถึงขั้นต้องคอยกัน ให้เจ้านายเดินไปยังข้างหน้าเวทีได้สะดวก ก่อนที่สาวๆ แถวนี้จะเขาถึงตัวเจ้านายเขา ตะนอยมองเห็นคุณมาร์ตินมา ถึงงานแล้ว โอ้ว!!!เจอที่ดูไบว่าหล่อแล้วไม่เจอกันนาน อะไรความหล่อจะทะลุองศา ออกมาขนาดนี้ ตะนอยรีบเดินไปทักทายและพาไปนั่งข้างๆ แขกผู้มีเกียรติในงาน ซึ่งบางท่านที่รู้จักถึงกับแสดงสีหน้าสงสัย ใครเชิญมหาเศรษฐีคนดังมาในงานนี้ มีคนเดินทักทายเขามากมาย พร้อมกับนักข่าวที่หันกล้องมาถ่ายรูปเขา มาร์ตินเห็นกั้งเดินมาใกล้ๆ จึงแอบกระซิบให้เธอได้ยินเบาๆ

“ตอบคำถามดีๆ นะครับ เพราะผมรอฟังอยู่ ถ้าไม่พอใจในคำตอบนั้น คุณเตรียมตัวโดนรับโทษเลยนะกั้ง”แค่ได้ยินกั้งก็รู้สึกขนลุกแล้วกั้งได้เดินไปรอบๆ โชว์ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยเหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ยุค 4.0 และโชว์ตามไลฟสไตล์ว่าเธอใช้โทรศัพท์ทำอะไรบ้าง

มาร์ตินนั่งมองด้วยสายตาชื่นชม พอมองรอบๆ งานมีป้ายไฟ FC ของกั้งมากมาย เป็นกลุ่มๆ นาโช่กับเบ็นไม่พลาดที่จะแทรกตัวเข้าไปยังกลุ่มของแฟนคลับ กั้ง ซึ่งแรกๆ พวกแฟนคลับก็ตกใจ ที่ทำไมมีผู้ชายร่างยักษ์เดินเข้าในกลุ่ม แล้วพูดว่าเป็น FC คุณกั้งมาขอยืนด้วยแฟนคลับเห็นถึงกับกรี๊ด “ได้สิคะเชิญๆ เลยคะ”

ช่วงไฮไลของงานคือโชว์ร้องเพลงซึ่งงานนี้กั้งเลือกเพลง (Firework ของ Katy Perry) ถือว่าเป็นเพลงโปรดของเธอก็ว่าได้ จนการแสดงจบกั้งเดินกลับเข้าหลังเวทีเพื่อเปลี่ยนชุดออกมาก็เจอเข้ากับตะนอย เลยสะกิดตะนอย

“ที่เขาอยู่ตรงนี้ก็เพราะแกอีกแล้วใช่ไหม” ตะนอยได้แต่หัวเราะทำหน้าคล้ายกับสำนึกผิด

“ก็เขาขอร้องฉัน ฉันเลยจัดให้อย่าคิดมาก เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเห็นไหมล่ะ”

“ก็อย่าให้ทำอะไร ให้ฉันต้องปวดหัวเพิ่มอีกก็แล้วกัน” ตะนอยหันหลังบ่นงึมงำกับตัวเอง

“ก็แค่เขาจะเอาดอกไปให้หน้าเวทีเฉยๆ”  งานนี้เพื่อนเธอรู้คงโวยวายอีกแน่ๆ เอาเถอะให้เขาจัดการกันเองช่วยได้แค่นี้ที่เหลือคุณมาร์ตินจัดการเองเห๊อะ เธอจึงมาดูความพร้อมของกั้ง  กั้งเดินออกมาหน้าเวทีด้วยรอยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุยเล่นกับผู้คนหน้าเวที สักพักก็ร้องเพลงทุกโชว์ของเธอ เธอต้องคอยหลบสายตาคนที่จ้องมองเธอตลอดทั้งโชว์ตั้งแต่ต้นจนจบ จนถึงช็อตสำคัญมาร์ตินลุกขึ้นหยิบช่อดอกไม้ที่ตะนอยจัดเตรียมไว้ให้ ก้าวขาจะออกไปยื่นดอกไม้ให้ แต่แล้วดันมีผู้ชายคนหนึ่งชิงตัดหน้าเขาไปยื่นดอกไม้ให้ก่อน ซึ่งพอเห็นหน้าเท่านั้น ต่อมโมโห ต่อมหึงหวงก็ทำงานทันที พร้อมกับมีเสียงตะโกนออกมา

“เฮ้ย เฮ๊ย เฮ้ย” นาโช่ เบ็น ตะนอยร้องเสียงหลงรวมถึงกั้งด้วย ทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว กั้งไม่คิดว่าพี่ต้นจะมาพร้อมกับซื้อดอกไม้มาให้เธอและที่สำคัญคือ ส่งดอกไม้ยท่นให้ก่อนคนที่ยืนทำหน้าเหมือนกำลังจะฆ่าใคร ทุกคนมองเห็นรังสีอำมหิต รวมทั้งพลังงานบางอย่างที่กำลังจะฟาดฟันกันหน้าเวที

ตะนอยรู้สึกช็อคจนลืมหายใจ โอ๊ย!!!อิพี่ต้น ทุกครั้งไม่เคยจะเห็นมางาน วันนี้ดันมาสะงั้นและมาพร้อมกับดอกไม้ กะเทยจะเป็นลม ยิ่งเห็นใบหน้าของคุณมาร์ตินแล้วกะเทยกลัว นาโช่กับเบ็นรีบวิ่งมาแถวหน้าเวที “ตายห่าละ!!! ล่ะงานนี้”

มาร์ตินมองใบหน้าต้นแล้วพยักหน้าโดยมารยาทพร้อมทำมือเชิญให้ดอกไม้ก่อนได้ ต้นหันหน้าไปมองคนข้าง เอาละสิงานนี้ตัวเขาต้องเข้ามาผิดจังหวะแน่ๆ เมื่อเมื่อครู่เขาก็ไม่ได้สังเกตว่ามีใครยืนอยู่ พอดีคุณน้าแม่ของกั้งฝากให้เขาเอาดอกไม้มาแสดงความยินดีกับลูกสาวแค่นั้น เขายื่นให้เสร็จแล้วพูดว่า “คุณป้าฝากมาให้” กั้งก้มหน้าแล้วส่งยิ้มพยักหน้า

ส่วนอีกคนที่ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกัน ภาพพยักหน้าและส่งยิ้มให้กันนั้น ทำให้เขาต้องพยายามระงับอารมณ์แบบสุดๆ ที่จะไม่ระเบิดลงตรงนี้ เย็นไว้ เดี๋ยวเราเจอกันแน่กั้งที่คอนโด เขาสูดลมหายใจเงยหน้าแล้วส่งยิ้มยื่นดอกไม้ให้กับเธอ ซึ่งเป็นดอกไม้ชนิดเดิมที่เธอชอบมาก กั้งรับมาแล้วก็กล่าวขอบคุณเขาเบาๆ

มาร์ตินยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ซึ่งเขาสังเกตเห็นนักข่าวรอเก็บภาพงานนี้ เขาจะไม่ให้พลาดสักช็อตกั้งโน้มตัวมารับช่อดอกไม้ซึ่งมันพอดีกับใบหน้าของเขา เขาจึงเอาหน้าไปไว้ใกล้ตรงข้างแก้มแล้วพูดว่า

“คืนนี้เดี๋ยวเจอกันนะครับและเตรียมตัวตอบคำถามนักข่าวดีๆนะ ผมรอฟังอยู่ คิดถึงนะครับ” กั้งได้ยินแล้วรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

เร็วกว่าก็นักข่าวที่มายืนรอสัมภาษณ์เธอได้เก็บภาพมุมนี้เห็นทีไม่ต้องแก้ตัวแล้วมั้ง นักข่าวพากันกดชัตเตอร์รัวๆ กั้งถึงกับถอนหายใจรู้สึกปวดหัวจี๊ด มาถึงวันแรกเขาก็เล่นงานเธอแล้ว

กั้งเดินอ้อมมายังด้านหลังเวทีมาก็เจอตะนอย เธอถึงกับถอนหายใจพร้อมกุมขมับ ตะนอยเห็นแล้วอดขำเพื่อนเธอไม่ได้ กั้งหันหน้ามาถามพร้อมส่งสายตาดุๆ

“ขำอะไร ไม่ทราบ ตัวดีนักนะเราน่ะ”

“ขำรถไฟชนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ตะนอยหัวเราะกับภาพที่เห็นตรงหน้าเวที

“คุณกั้งเตรียมให้สัมภาษณ์ได้แล้วคะ” staffของงานเดินมาเรียกเธอ

“เอาน่า จะยากอะไร”กั้งสูดลมหายใจเข้าลึก สัมภาษณ์มาก็เยอะไม่เครียดอะไรเท่ากับครังนี้ กั้งเดินออกมาให้สัมภาษณ์ข้างๆเวที แต่งานนี้ดันมีใครอีกคนยืนกอดอกรอฟังคำสัมภาษณ์ของเธอด้วย กั้งถึงกับถอนหายใจถ้าจะทำขนาดนี้มายืนให้สัมภาษณ์ด้วยกันเลยดีไหม มาร์ตินยักคิ้วพร้อมกับส่งจูบมาให้เธอ หึ หึ อยากจะเอาเล็บเข้าไปตะกรุยใบหน้าหล่อๆ นั้นจริงๆ นักข่าวสอบถามถึงการรับเป็นพรีเซนเตอร์โทรศัพท์เสร็จและก็มาถึงประเด็นสำคัญที่นักข่าวทุกคนอยากรู้

”สรุปว่าข่าวที่คุณมาร์ตินให้สัมภาษณ์ไว้ว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับคุณกั้ง นั้นเป็นเรื่องจริงๆ ใช่ไหมคะ” นักข่าวยื่นไมค์มาจ่อเพียบ

“เออ...ก็ตามนั้นคะตามที่เขาให้ข่าวไปคือเราสองคนพึ่งศึกษาดูใจ กันได้ไม่นานมานี้คะ” กั้งปรายตามองไปทางเขา ซึ่งกำลังจับจ้องการให้สัมภาษณ์ของเธอ มาร์ตินยกนิ้วให้ ดีมากกั้งรู้จักเอาตัวรอดนะ

“แล้วจะมีโอกาสที่เราจะได้รู้จักคุณมาร์ตินหรือเปล่าค่ะ ส่วนผู้ชายที่ยื่นดอกไม้ให้คนแรกเมื่อครู่คือใคร หรือว่าคุณกั้งแอบคบใครซ้อนอยู่อีกคนหรือเปล่าคะ” นักข่าวพากันพยักหน้าด้วยความอยากรู้ เห็นหน้าเวทีมีผู้ชายสองคนที่ยืนส่งช่อดอกไม้ให้คนหนึ่งเป็นคนไทยอีกคนเป็นหนุ่มต่างชาติ

“เออ...ผู้ชายคนแรกเขาคือคุณต้นคะซึ่งคุณแม่ของกั้งฝากช่อดอกไม้มาให้กั้งคะเราสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรมากกว่าพี่น้องคะ” กั้งพยายามพูดให้ชัดและเคลียที่สุด

“ส่วนอีกคนก็คือคุณมาร์ตินคะที่ทุกๆ คนอยากเจอ” กั้งปรายตามองไปยังเขา ได้ชอบแบบนี้ใช่ไหม กั้งจัดให้ดูสิว่าถ้านักข่าวไปลุมมั้งจะรู้สึกยังไง

“เขาพูดอะไรเกี่ยวกับฉัน ฉันฟังไม่ออก นายพอจะแปลได้ไหมเห็นว่าไปลงทุนเรียนภาษาไทยมาไม่ใช่เหรอ” มาร์ตินที่ได้ยินชื่อของตัวเองออกมาจากเสียงสัมภาษณ์เริ่มรู้สึกไม่โอเค เขาไม่รู้ว่ากั้งให้สัมภาษณ์ว่าอะไร และดูนักข่าวที่หันหน้ามามองเขาด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจ หรือว่ากั้งให้สัมภาษณ์ว่าเขาโมเมเรื่องนี้หรือเปล่า

นาโช่เกาหัวพึ่งเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็โดนลากมาที่นี่ พูดยาวสะขนาดนั้นใครจะไปแปลได้

“ผมพึ่งเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์บอสก็ลากผมมาที่แล้ว ผมไม่รู้ครับ เดี๋ยวรอถามคุณตะนอยเอาดีกว่า”

จนนักข่าวขออนุญาตกั้งให้เรียกคุณมาร์ตินมาถ่ายรูปคู่ได้ไหม กั้งกำลังจะตอบปฏิเสธแทนเขาว่าเขาคงจะเขินไม่สะดวก แต่ผิดคาดดันมีนักข่าวท่านหนึ่งได้เดินไปหาเขาแล้วและกำลังคุยอะไรสักอย่าง นั่น!!เชิญเขามาตรงที่เธอสัมภาษณ์อีก งานนี้ตายแน่ ยัยกั้งเธอนึกในใจดูจากสีหน้าและรอยยิ้มเดินมาขนาดนั้นเข้าทางเขาเลยล่ะสิ

มาร์ตินเดินมาหากั้งตามคำเชิญของนักข่าวที่ขอเชิญเขาสัมภาษณ์ร่วมกับกั้ง จากที่ขอให้นักข่าวแปลสิ่งที่กั้งสัมภาษณ์ไปแล้วถูกใจเขาจริงๆ แสดงว่ากั้งก็คงจะกลัวในสิ่งที่เขาได้พูดกับเธอไว้นาโช่กับเบ็นมองมาที่บอสของตัวเองจึงสะกิดเบ็น

“ตั้งแต่ฉันทำงาน ฉันไม่เคยเห็นหน้าบอสเรายิ้มภูมิใจอะไรได้ขนาดนี้ มองบางที่ฉันยังคิดว่านั้นใช่บอสของเราหรือเปล่า ทำผลกำไรได้เป็นพันๆ ล้าน ยังไม่ยิ้มดีใจออกนอกหน้าเท่ากับการไปยืนสัมภาษณ์คู่กับคุณกั้งและดูหน้าคุณกั้งสิ ฉันเห็นแล้วรู้สึกสงสารจริงๆ ดูเหมือนคนดีใจจนจะร้องไห้”

“ดีใจยังไงว๊ะ ดีใจจนจะร้องไห้”เบ็นหันหน้าไปถามนาโช่ที่พูดจาชวนให้คิด

“ก็ร้องไห้ที่จะได้บอสเราไปเป็นแฟนนะสิ ซวยหรือโชคดีไม่รู้คุณกั้ง”นาโช่พูดในสิ่งที่คิด เบ็นถึงกับหัวเราะแล้วยกนิ้วให้เห็นด้วย

“เออว๊ะ!!! ฉันก็รู้สึกสงสารคุณกั้ง”

นักข่าวได้ขอสัมภาษณ์มาร์ตินถึงการมาเมืองไทยครั้งนี้มาทำอะไร มาร์ตินปรายตามองไปยังกั้งเป็นสายตาที่หวานเชื่อม จนสาวๆ แถวนี้มองยังรู้สึกอิจฉาเธอกันทั่วโลกแน่ๆ หรือไม่ก็เตรียมโดนผู้หญิงทั่วทั้งโลกเตรียมมาตบเธอ มาร์ตินตั้งใจฟังคำถามแล้วตอบ

“ผมมาเมืองไทยครั้งนี้ ผมเดินทางมาเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่เมืองไทยผมจะทำการลงทุนและอีกเรื่องที่สำคัญคือวันก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่ง โกรธผมที่ดันไปมีข่าวว่าคบหาดูใจอยู่กับคุณเจสสิก้า ซึ่งวันก่อนผมได้แถลงไปแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง การมาวันนี้และมายืนให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆผมเขาคือตัวจริงครับ”

หันหน้าไปมองกั้งทันทีที่เขาพูดจบ พร้อมกับมีเสียงเฮ!!! กันดังลั่น เธอถึงกับอายใบหน้าแดงคอเริ่มร้อนไปหมด เขาพูดไปได้ไงว่าเธอคือผู้หญิงตัวจริงของเขา นี้เรายังไม่ได้ตกลงเรื่องสถานะอะไรเลย กั้งได้แต่ส่งยิ้มอ่อนๆ พยักหน้ารับไปก่อน มาร์ตินจึงหันมาโอบรอบเอวเธอเบาๆ ให้ขยับเข้ามาถ่ายรูปคู่ งานนี้เขามั่นใจมากว่าต้องติดเทรนทวิตเตอร์แน่นอนกั้งพยายามจะขยับหนี แต่เขาก็พยายามดึงไว้

“ยิ้มสิครับหรือจะให้นักข่าวเขาเห็นผมจูบคูณตรงนี้ อย่านะ ผมพร้อมเสมอ” กั้งได้ยินอยากจะทุบคนข้างๆ มาถึงวันแรกก็ทำเธอปวดหัวจนจะระเบิด

กั้งพยายามยิ้มกับนักข่าว ที่พยายามเรียกเธอหันไปตรงโน้นทีตรงนี้ที ตะนอย นาโช่และเบ็นเห็นแล้วอดที่จะขำไม่ได้ ท่าทางยัยกั้งจะเจอของจริงแล้ว ต้นซึ่งมองดูกั้งไกลๆ เขาได้แต่ยิ้ม หวังว่าคุณคงจะดูแลปกป้องน้องผมได้นะ ต้นยืนมอง มาร์ตินซึ่งเขาก็อยากจะเห็นหน้าจะได้ไปบอกกับพ่อของเขาถูก พ่อของเขาจะเข้าประชุมร่วมกับคุณวิรุฒในอีกไม่กี่วัน

กั้งให้สัมภาษณ์และถ่ายรูปเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับเขา ที่เดินถือช่อดอกไม้ตามหลังตลอดทางที่เดินกลับเข้าห้องแต่งตัว เธอได้ยินพวกสาวๆ พูดถึงเขาฟังแล้วหงุดหงิด หมั่นไส้ มีแต่เสียงชื่นชม หล่อบ้าอะไร กวนประสาทชัดๆ พอหันหลังก็เจอเขาที่เอาแต่ส่งยิ้ม ส่งจูบ

มาร์ตินรู้สึกขำตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาเดินตามหลังผู้หญิงคนนี้ ใครรู้ก็คงจะหัวเราะเยาะเขาแน่ๆ โดยเฉพาะไอ้ลูอิสส่วน 3 คนด้านหลังไม่ต้องพูดถึงเขาแอบเห็นทั้ง 3 ขำเขาตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์แล้ว

ตะนอยเดินมาถึงห้องแต่งตัว สวนกั้งขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อก่อน ตะนอยจึงเดินไปถามคุณมาร์ตินว่าจะกลับคอนโดที่ซื้อเลยไหม มาร์ตินจึงถามตะนอยว่า

“จะไปไหนกันต่อหรือเปล่าครับ เสร็จงานหรือยัง” มาร์ตินเห็นกั้งทำงาน แล้วรู้สึกว่ามันก็หนักเหมือนกันนะการเป็นดาราที่มีชื่อเสียง

“เสร็จแล้วคะ เดี๋ยวรอกั้งออกมาก่อนนะคะ ว่าเราจะไปทานข้าวที่ไหน หรือว่าจะกลับคอนโด” ตะนอยหันหน้าไปตอบคุณมาร์ตินซึ่งคอยแต่เฝ้าดูประตูห้องว่ากั้งออกมาหรือยัง เมื่อกั้งเดินออกมาจากห้องแต่งตัว

ทันทีที่เห็นมาร์ตินถึงกับตกใจ แม่คุณ!!! ใส่ชุดอะไรเนี่ย กั้งใส่เสื้อลายเสือคลุมมาแค่ต้นขา แต่ข้างในเป็นกางเกงขาสั้น ถ้ามองดีๆก็เหมือนไม่ได้ใส่กางเกง มีกระเป๋าคาดเอวสีขาว พึ่งออกคอลเลคชั่นใหม่มาเมื่อวันก่อน เธอต้องใช้จริงและเป็นผู้รู้เรื่องนี้ดี เดินออกก็มายืนให้ตะนอยถ่ายรูปและอัพลงIG

“พวกดารานางแบบต้องทำแบบนี้กันทุกคนเลยไหมแต่งตัวเสร็จแล้วต้องถ่ายภาพ” ซึ่งต่างจากสายงานเขา แต่งตัวเสร็จก็เดินเข้าห้องประชุม แต่ดาราแต่งตัวเสร็จแล้วต้องมายืนถ่ายรูป

“ถ้าเราไม่ทำแบบนี้แล้วใครจะมาจ้างงานเราละคะ กั้งก็เหมือนกับคนโชว์สินค้าก็ต้องถ่ายรูป เพราะมีคนตามแฟชั่นของดาราที่มีชื่อเสียงเขาแต่งตัวแบบไหน แฟชั่นตอนนี้เป็นอย่างไร วัยรุ่นเห็นก็อยากจะใส่ ร้านเสื้อผ้าเห็นวัยรุ่นชอบก็จัดทำเสื้อผ้าฮิตๆออกมาขายคะ” ตะนอยอธิบายถึงการเป็นดารา ให้กับคนที่อยู่คนละสายงานให้เข้าใจ ตะนอยยังเมาท์ไม่หมด “โอ๊ย!!! ถ้าคุณมาร์ตินเจอยัยกั้งตอนยังไม่ได้ทำงาน คนละคนกับตอนนี้เลยคะ นางชอบใส่เสื้อผ้าเดิมๆ ซ้ำๆ”

“ทำไมคะ พวกนางแบบดาราที่คุณควงออกงานเขาไม่ทำแบบนี้เหรอ” กั้งได้ยินแล้วรู้สึกหมั่นไส้เลยขอแขวะไปทีหนึ่งเถอะ

มาร์ตินได้ยินแล้วก็หัวเราะแล้วเดินไปหากั้ง แล้วเรียกตะนอยมาถ่ายรูปให้หน่อย กั้งได้ยินเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจึงหันหน้าไปถาม“จะถ่ายทำไมคุณ”

“ก็คุณเป็นคนถามว่ามันต่างกันยังไงไม่ใช่เหรอครับ ผมก็จะแสดงให้ดู”นาย 2 คน มาช่วยถ่ายรูปฉันให้ที นาโช่ เบ็น และตะนอยรีบหยิบกล้องออกมา “เตรียมตัวนะครับ พร้อม!!!!”

ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงมือถือของตะนอย นาโช่ เบ็น ล่วงพร้อมกันพร้อมกับอ้าปากค้าง กั้งตั้งตัวไม่ติดเพราะมาร์ตินก้มหน้ามาจูบเธอเขาใช้โอกาสช่วงที่กั้งอ้าปากค้างปิดปากมันนานเป็นสิบนาที ที่ทุกคนลืมหายใจและสะตั้นกับภาพที่เห็น

“เออ..โอเค นะคะ เออ...” เอาไงดีตะนอยหาเสียงของตัวเองไม่เจอ นาโช่ เบ็น สะบัดหัว ไม่เชื่อสายตาตัวเองบอสของเขาไม่เคยทำแบบนี้ต่อหน้าใคร แต่นี้คืออะไรและภาพที่เขากดถ่ายได้ชัดเจนยิ่งกว่าภาพ3D มาร์ตินถอนจูบ แล้วดึงใบหน้าของกั้งให้ออกห่างแล้วพูด

“อย่าตบหน้าผม ต่อหน้าทุกคนนะ ถ้าคุณตบผมจะจูบไม่หยุดนะกั้ง ผมเริ่มติดใจรสจูบของคุณแล้วสิ”มาร์ตินส่งยิ้มให้กั้ง กั้งได้แต่กำหมัดไว้ฝากไว้ก่อนเถอะถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะเอาคืนให้แน่ๆ

แล้วก็เดินกระทืบเท้าออกไปจากห้องแต่งตัว ตะนอยมองแล้วรู้สึกขำเพื่อนของเธอท่าทางชีวิตนางคงจะมีสีสันขึ้นมาก แต่เมื่อกี้กะเทยฟินเหมือนโดนจูบเอง ขนลุก ปรายตาไปมองนาโช่ แล้วทำปากยั่ว นาโช่ตกใจ “เฮัย !!!” เบ็นเห็นก็ส่งเสียงหัวเราะเมื่อเห็นภาพตะนอยอยากจะกินเพื่อนเขา

“รถของคุณจอดไหนตรงไหนหรือมากับรถสนามบินคะ ฉันจะได้ไปส่งคะ” กั้งสงสัยตั้งแต่ออกมาก็เห็นเขาเดินตามเธอ มันไม่น่าจะเป็นไปได้เธอมางานตั้งแต่บ่าย ไม่น่าจะจอดชั้นเดียวกัน มาร์ตินที่เดินตามกั้งมา “ผมก็ไปที่เดียวกับคุณน่ะแหละ ไม่ต้องไปส่งผมคุณอยู่ไหน คุณนอนที่ไหนผมก็นอนที่นั้น”

“ฉันไม่ตลกนะคุณ ถ้าไม่มีรถฉันจะไปส่ง แต่สิ่งที่คุณมาพูดว่าฉันนอนที่ไหนคุณก็นอนที่นั้น ไม่มีทางที่ฉันจะเปิดห้องในคุณเข้ามานอนได้หรอกนะ คุณมาร์ตินฝันไปเถอะ”กั้งได้ยินแล้วมันพาลให้โมโห ตั้งแต่ที่เจอเขาเธอรู้สึกปวดหัวจี๊ดอาการมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ถ้าไม่ให้ผมไปห้องคุณ คุณมาก็เดินมาหาผมสิหรือว่าเราจะย้ายมาอยู่ห้องเดี๋ยวกันก็ได้นะครับประหยัดและสะดวกดีว่าไหม”มาร์ตินหันหน้าไปส่งยิ้มให้กั้ง

“ฉันไม่ได้เจอคุณนานมากใช่ไหม ตัวตนที่แท้จริงคุณเป็นแบบนี้เหรอ กวน  เอาแต่ใจ เจ้าเล่ห์ และก็ชอบบงการชีวิตของคนอื่นแบบนี้เหรอคะ” กั้งตอบกลับไปตอนนี้เธอรู้สึกฟิวส์ขาด

“ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมเป็นคนชัดเจนรู้สึกยังไง ผมก็แสดงออกมาแบบนั้นไม่เก็บเอาไว้ในใจหรอก เพราะผมไม่ค่อยจะมีเวลามานั่งจีบคุณมากนัก ช่วงที่ผมว่าง ผมก็เดินหน้าเต็มที่อย่างที่ใจผมต้องการและไม่วิ่งหนีหัวใจเหมือนกับคุณ หรอกกั้ง”ทุกคนได้ยินอยากจะยืนปรบมือให้กับความชัดเจน สมกับฉายาที่พวกเขามอบให้คนแมน2018 จริงๆ มีแค่กั้งเท่านั้นที่รู้สึกไม่โอเคและหัวใจของเธอด้วย ที่เขาพยายามจะดักทางหนีที่ไล่เธอทุกอย่าง กั้งได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินขึ้นรถไป มาร์ตินก้าวเดินตามขึ้นไปบนรถ ส่วนรถที่เขาเช่ามาจากสนามบิน เขาได้จัดการส่งคืนไปแล้วตอนมาถึงที่งาน ทุกคนพากันส่ายหัวกับพฤติกรรมของทั้งสองคนที่ต่างไม่ยอมกัน คนหนึ่งตาม อีกคนหนี

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 55

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!