บทที่ 10

ถ้ามันคือความคิดถึง ฉันเองก็คงคิดถึง ถ้ามันคือความลึกซึ้ง ก็ลึกสุดสุดหัวใจ ถ้ามันคือรักจริงจริง ก็คงจะรักมากมาย เฝ้ารอคนอยู่ไกลไกลจะย้อนมา มาหากัน

( เพลง มันคือความรัก ของลุลา )

กั้งเดินงัวเงีย ออกมาจากห้องนอน

“โอ๊ย!!! อะไรนักหนาเนี่ย คนจะนอนแล้วแกมาเปิดเพลง ทำไม ไม่ไปเปิดที่ห้องแกตะนอย ฉันง่วงเข้าใจไหม”

ตะนอยหัวเราะ เธอจะต้องทำการปลุกเพื่อนให้ลุกขึ้นมาเตรียมพร้อม กับ สถานการณ์ ที่คิดว่าเพื่อนของเธอจะโกรธโมโห ถ้ารู้ว่าคุณมาร์ตินกำลังจะเปิดเผย เรื่องของเขาให้สื่อรับรู้ และหนึ่งในนั้นคือเรื่องของคนที่กำลังบ่น

“แหม่!!! เวลาหลับเวลานอน เขานอนตอนกลางคืน ไม่ใช่มานอนตอนกลางวันนี่มันจะเที่ยงแล้ว ฉันหิวข้าวลุกขึ้นมาได้แล้ว เป็นผู้หญิงอะไรนอนกินบ้านกินเมือง”

“โอ๊ย!!!ก็เมื่อวานและวันนี้ฉันพึ่งจะได้หยุด ฉันก็อยากจะนอนพักบ้างสิ เดี๋ยวหน้าก็โทรมหมด หน้าเหี่ยวเดี๋ยว แกก็บ่นอีกแต่นี้อะไร วันหยุดฉันแต่แกดันมาเปิดเพลงลั่นห้อง มันคืออะไร มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย”

ตะนอยทำหน้าแบบนิ่งๆ กลัวเพื่อนจับได้ว่าจะต้องมีอะไรแน่ๆ

“เปล่าแก !!! แค่จะชวนออกไปกินข้าว ฉันหิวแล้ว”

“วันนี้ฉันไม่ออกไปไหนนะ ฉันอยากจะพักอยู่ห้องแกอยากกินอะไรแกก็สั่งมากินที่ห้องเลย”

กั้งเดินเข้าในห้องนอน ไม่ต้องหลับมันละวันนี้ เพื่อนมาปลุกจนตอนนี้เธอหายง่วงไปเลย กั้งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นมัดผมง่ายๆ เดินออกมาก็เจอพาเหรดอาหารทะเล เพื่อนเธอไปหิวอะไรมาจากที่ไหน จึงหันไปถาม

“แกจะกินกี่คนเนี่ย สั่งมาเยอะขนาดนี้”

“ก็พี่มิคเขาให้แกรีวิวให้ร้านเขาหน่อย แกก็ช่วยๆ พี่เขาหน่อยสินี้พี่เขาก็ส่งอาหารทะเลต่างๆ มาให้แกชิมเพียบเลย มาๆ อย่าพูดมากแค่ได้กลิ่นฉันก็หิวแล้วเนี่ย”

“เออๆ รีบๆ รีวิวจะได้ทานฉันรู้สึกหิวแล้ว”

ตะนอยหันไปมองค้อนเมื่อกี้ยังบ่นอยู่เลย พอตอนนี้ดันบอกว่าหิวนึกในใจ รีบๆ ทานเดี๋ยว พอรู้ว่าข่าวตัวเองเสร็จ จะพาลทานไม่ลงเอาตะนอยได้แต่นึกขำ

เมื่อเสร็จสิ้นการรีวิว กั้งยกกล่องปูดอง ที่เธออยากกินมากขึ้นมาดม

“อือหื้อ...หอมน้ำปลามาก ไข่ปูเต็มเลย หิวแล้วฉันไม่รอแล้วนะ แกลงคลิปไปเลย”

ตะนอยที่กำลังทำการลงรีวิวใน IGทั้งของเธอและของกั้ง หันหน้าไปเพื่อนหัวเราะ

“ตามสบายจ๊ะ หิวก็เชิญกินก่อนได้ของมีตั้งเยอะ ฉันไม่กลัวแกแย่งกินหมดหรอก”กั้งจัดการอาหารบนโต๊ะ อย่างมีความสุขฟินสุดๆกินไปยิ้มไป

ส่วนอีกฝากฝั่งของทวีปก็กำลังวุ่นอยู่กับการจัดแถลงข่าว คอนโดมิเนียมที่กำลังจะเปิด และการขยายโรงแรมมาทางฝั่งเอเชีย โดยจะเริ่มที่เมืองไทย โดยประเด็นหลักๆ คือหาข้ออ้างที่จะมาเมืองไทยได้บ่อยๆ พอดีมีโรงแรมอยู่ที่หนึ่งเห็นว่ายื่นข้อเสนอมาให้เขา เข้าไปบริหารงานแทนโดยเจ้าของนั้น กำลังประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรง

ช่างเข้ามาประจวบเหมาะช่วงที่เขาหาทางลงทุนในเมืองไทยอยู่พอดี     คุณวิรุฒ ได้ยื่นขอเสนอการซื้อขายโรงแรมมาให้เขา เมื่อเช้านี้ เขาได้เช็คประวัติทางโรงแรมและผลประกอบการมา ไม่มีอะไรที่เลวร้ายมากนัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขายังข้องใจ คือนามสกุล คุณวิรุฒนั้นคล้ายกับกั้ง ยังคงเก็บความสงสัยไว้ภายในใจ ส่วนการไปเมืองไทยในวันมะรืน เขาต้องการจะไปเจรจาการซื้อขายโรงแรมแห่งนี้ และที่สำคัญคือไปจัดการเรื่องของกั้งให้เรียบร้อย

นาโช่กับเบ็นเดินมาตามคุณมาร์ตินไปยังห้องที่ใช้แถลงข่าว ซึ่งมีนักข่าวมาหลายสำนักมากมายตามที่ให้เชิญมา

“ทุกอย่างพร้อมแล้วนะครับ คุณมาร์ตินเชิญที่ห้องแถลงข่าวได้เลยครับ”

มาร์ตินพยักหน้าลุกขึ้นจัดเสื้อเนคไทให้โอเค พร้อมกับที่จะทำการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวที่ทุกคนยังไม่เคยได้ข่าวจากเขา และเป็นการเปิดใจครั้งแรกของเขาเลยก็ว่าได้ ในเรื่องของหัวใจ งานนี้ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ทางโน้นจะรู้สึกยังไง แต่เขาอยากให้เธอได้รับรู้ว่าเขาจริงใจกับเธอไม่ได้เห็นเธอเป็นแค่ของเล่น ที่เอาไว้ประดับข้างกาย

มาร์ตินเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าวที่มีนักข่าวมามากมายกว่าทุกครั้งมาร์ตินได้เริ่มการแถลงรายงานโครงการต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจนถึงช่วงที่ให้นักข่าวสัมภาษณ์นาโช่กับเบ็นเป็นคนจัดคิวให้นักข่าว สัมภาษณ์ได้ที่ละคำถาม

มาร์ตินพยักหน้าให้เริ่มคำถามได้ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจมากมาย และโครงการต่างๆ ของเขา จนล่วงเลยมาใกล้จะช่วงสุดท้าย นักข่าวเริ่มยกมือถามในประเด็นที่มีข่าว

“สรุปว่าข่าวที่คุณมาร์ตินกำลังคบหากับลูกสาวเจ้าของแบรนด์เครื่องเพชร คุณเจสสิก้าเป็นเรื่องจริงใช่ไหมคะ”

มาร์ตินได้ฟังก็รู้สึกโมโห อยู่ในใจที่เจสสิก้าไปให้สัมภาษณ์ ที่กำกวมให้นักข่าวไปเล่นข่าวเรื่องของเขาสนุกมากในช่วงวันนี้

“เอาไงดีครับ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ ผมก็ไม่อยากจะเปิดเผยอะไรมากมาย ซึ่งข่าวที่ออกไป ได้ไปกระทบถึงความรู้สึกใครบางคนที่ผมกำลังศึกษาดูใจ ซึ่งเธอคนนั้น ไม่ใช่คุณเจสสิก้า ครับ”

“สรุปว่าคุณมาร์ตินมีคนที่กำลังดูใจอยู่แล้วใช่ไหมคะและเธอคนนั้นเป็นใคร ซึ่งพวกเราต้องการอยากรู้”

“เอาละครับ ผมจะให้สัมภาณ์ครั้งนี้ครั้งเดียว และขอให้สื่อสำนักพิมพ์ที่ลงข่าวผมไปแล้วช่วยแก้ข่าวให้ผมด้วย ผมมาร์ตินกำลังศึกษาดูใจอยู่กับนางเอกดังของเมืองไทย ถือว่าเธอก็ดังมากในระดับหนึ่ง พวกคุณบางคนในที่นี้อาจจะรู้จักก็ได้ เธอเป็นพรีเซนเตอร์ยี่ห้อกระเป๋าชื่อดังทางฝรั่งเศส และเธอก็เป็นตัวแทนทางฝั่งเมืองไทยครับ”

นักข่าวรีบพากันค้นหาข้อมูลจนกระทั่งมีนักข่าวท่านหนึ่งได้ยกมือขึ้นถาม

“สรุปว่าคนที่คุณมาร์ตินกำลังศึกษาดูใจและพูดถึงอยู่นั้นคือคุณกังสดาล ดารานางแบบชื่อดังของเมืองไทยใช่หรือไม่ครับ”

มาร์ตินยอมรับเลยว่าโลกยุค4.0 มันช่างน่ากลัวมากๆ แค่เขาบอกคุณสมบัติของกั้งออกมาแค่แป๊บเดียวนักข่าวก็สามารถหาข้อมูลได้แล้วว่าเป็นใคร

“ครับ ใช่คุณกังสดาลคนนั้นและครับ ที่ผมกำลังตามจีบและภาวนาขอให้เธอยอมรับผมเป็นแฟนด้วย ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่ได้ตอบรับว่าจะมาเป็นแฟนผมนะครับ เธอได้เห็นข่าวที่พวกคุณลงเรื่องของผมไว้ทำให้ข่าวที่ลงไปทำให้เธอเกิดความไม่ไว้ใจในตัวผม ซึ่งผมจะขอบอกว่าผมไม่ได้คบใครหรือศึกษาดูใจใครอื่น นอกจากเธอคนเดียวและผมกำลังจะเดินไปเมืองไทยเพื่อเดินทางไปปรับความเข้าใจกับเธอ แล้วยังไงกลับมาจากเมืองไทยครั้งนี้ ผมอยากให้ทุกคนเอาใจช่วยผมให้ผมพิชิตใจนางเอกคนดังด้วยนะครับ”

นาโช่กับเบ็น ได้ฟังถ้อยคำแถลงข่าวของคุณมาร์ตินแล้วรู้สึก คนแมน2018 อย่างแท้จริงพาลนึกถึงคุณกั้งจริงๆ ถ้าเห็นข่าวนี้แล้วจะรู้สึกยังไง

ส่วนกั้งตอนนี้ที่กำลังเพลินอยู่กับการกินปูดองเจ้าอร่อยอยู่นั่น สักพักเธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนเธอดังไม่ขาดสาย

ตะนอยรีบลุกเดินออกไปรับโทรศัพท์ทำให้ได้รู้แล้วว่าทางฝั่งคุณมาร์ตินได้แถลงข่าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นักข่าวกำลังโทรมาขอตารางงานอีเว้นท์ของกั้งว่าพรุ่งนี้กั้งจะไปที่ไหนซึ่งเธอพอจะเดาได้ถึงกองทัพนักข่าวที่จะมาทำข่าวเพื่อนเธอ งานนี้เจ้าตัวจะรับมือยังไง ตะนอยเริ่มรู้สึกหนักใจแล้วสิ

กั้งหันไปมองเพื่อนเธอมีอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้โทรศัพท์ดังอยู่ตลอดเวลา นี้เป็นสิบ สิบสายแล้ว และกางสมุดงานของเธอทำไม

แค่นี้ตารางงานเธอก็แน่นเอี๊ยดจะแย่อยู่แล้ว ไหนจะวันมะรืนอีก ที่จะมีการเปิดตัวยี่ห้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เธอรับเป็นพรีเซนเตอร์เพิ่มอีก 1 ตัว

กั้งมองและสอบถามเพื่อนด้วยความสงสัยว่าเพื่อนจะรับงานให้เธอเพิ่ม

“มีอะไรหรือเปล่าแก กางตารางงานฉันทำไมตอนนี้ก็ไม่มีหน้าไหนจะว่างแล้วนะ จะรับงานให้ฉันเพิ่มหรือไง ไม่ไหวแล้วนะแก ฉันไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินขนาดนั้นไม่ต้องรับงานเยอะพักๆ บ้างเถอะ”

ตะนอยสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆแล้วถอนหายใจออกมา มองหน้ากั้งแล้วพูดว่า

“กั้งวันมะรืนแกเตรียมรับมือกับบรรดานักข่าวที่จะมาขอสัมภาษณ์แกไว้ด้วยนะ คือว่า เออ เออ ”

กั้งตั้งใจฟังรู้สึกสงสัย เธอมีข่าวอะไรเหรอช่วงนี้ แค่จะทำการเปิดตัวสินค้าทำไมต้องให้เตรียมตัวอะไรขนาดนั้น เพื่อนเธอพูดไม่เคลีย กั้งหันมาถาม..

“เอ๊า!!!พูดให้ครบสิ ฉันจะได้รู้ว่ามีอะไร และต้องเตรียมตัวยังไงก็บอกมา”

“กั้งแกฟังฉันนะ คุณมาร์ตินเขารู้เรื่องที่แกเห็นข่าวที่เขาควงกับคนอื่น เขาเลยจัดแถลงข่าวว่าคนที่กำลังศึกษาดูใจด้วยไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นตัวแกเอง”

“อะไรน๊ะ!!!เขาแถลงข่าวเรื่องฉัน ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น และฉันก็ยังไม่ได้ศึกษาดูใจอะไรกับเขาเลยแล้วจะให้ฉันตอบนักข่าวไปว่าอะไร”

กั้งโมโหและตอนนี้โมโหมากด้วย งานนี้เธอจะไม่ทนแล้ว เอาว๊ะ เป็นไงเป็นกัน ค่าโทรศัพท์แสนแพงแค่ไหนวันนี้เธอต้องโทรให้ได้ กั้งรีบหยิบโทรศัพท์จัดการโทรไปหาต้นเหตุของเรื่องยุ่งวุ่นวายนี้

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง มาร์ตินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วก็อมยิ้มรวดเร็วดีจังคุณกั้ง

“สวัสดีครับ ว่าไงครับคุณกั้ง”กั้งที่ได้ยินเสียงของฝั่งโน้นเท่านั้นแหละ กั้งถึงกับฟิวส์ขาดทันที

“คุณไปให้สัมภาษณ์นักข่าวแบบนั้นได้ยังไง ว่าฉันกำลังศึกษาดูใจอยู่กับคุณ ห๊ะ!!!คุณมาร์ติน คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณจะเป็นข่าวกับใคร คุณไม่ต้องดึงฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้ไหม ฉันอยู่ของฉันดีๆจะให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับคุณทำไมคุณมาร์ติน!!! ฉันขอสั่งให้คุณไปแก้ข่าวเลยนะเข้าใจไหมสิ่งที่ฉันพูด คุณมาร์ติน”

มาร์ตินฟังกั้งพูดจนจบหายใจทันไหมแม่คุณ มาร์ตินก็เปิดประเด็นร่ายยาวไปเช่นกัน งานนี้เขาจะต้องเอาเธอมาเป็นแฟนและคนรักได้แน่นอน

“ผมเป็นคนชัดเจน ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ ผมก็ตอบแบบนั้นถูกแล้วและที่สำคัญผมไม่ชอบให้ใครเขียนข่าวของผมมั่วๆ ผมก็ตอบในส่วนของผมว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณก็แค่นั้นและคุณไม่ต้องไปเดาให้คนอื่นหรือใครมาเป็นแฟนผม ผมเป็นคนที่ชอบหรือรักใคร ผมมีแค่ใจดวงเดียวมอบให้เขาไปแล้วตั้งแต่ที่ดูไบผมก็ไม่เปลี่ยนใจด้วยตัวคุณเองแหละที่มีปัญหา คุณพยายามที่จะผลักไสผมให้ออกไป เพราะตัวคุณกลัว กลัวที่จะรักผมต่างหากนั้นคือประเด็นกั้ง”

กั้งอึ้งในสิ่งที่เขาตอบกลับมาเธอหาเสียงตัวเองไม่เจอ มาร์ตินเห็นกั้งเงียบไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ไหม

“กั้งยังอยู่ไหม”

“อยู่ แล้วทำไม”

มาร์ตินหัวเราะคงจะโมโหมากสินะ ใครใช้ให้มีผู้ชายมาเกาะแกะเขาไม่ปล่อยให้มีใครมาเป็นคู่แข่งเขาแน่นอน

กั้งได้ยินเสียงหัวเราะเขา ต่อมโมโหก็ทำงานอีกครั้ง

“คุณหัวเราะทำไม วันมะรืนฉันจะบอกนักข่าวไปยังไงกับเรื่องนี้ หรือจะให้ตอบตามความรู้สึกฉัน ใช่ฉันจะบอกว่าคุณเพ้อเจ้อโมเมไปเองในเรื่องนี้โอเคไหม”

มาร์ตินได้ฟังก็เริ่มมีอารมณ์โมโหเช่นกัน งานนี้เป็นไงเป็นกัน

“ได้!!! กั้ง ถ้าคุณบอกนักข่าวไปว่าผมโมเมขี้ตู่ว่าผมเป็นแฟนคุณ แล้วที่นี่ผมก็ไม่ต้องรอให้คุณไปให้สัมภาษณ์ผมจะทำให้นักข่าวรู้เรื่องของเราเอง ว่าผมโมเมไหม แล้วแต่คุณเลยนะกั้งว่าคุณจะตอบนักข่าวแบบไหน ผมว่าคุณเป็นคนฉลาด และคิดแทนผมได้ว่าผมต้องการคำตอบแบบไหน”

กั้งที่ได้ฟังคำขู่ของเขาที่มันแฝงไปด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว นี่เขากล้าขู่เธอเลยเหรอ

“ได้!!! คอยฟังฉันบ้างนะว่าจะตอบนักข่าวแบบไหนคุณมาร์ติน”

“ได้เลยกั้งเดี๋ยวผมจะไปรอฟังนะครับ ตอบให้มันดีๆ นะ ไม่งั้นตัวคุณจะได้รับการยืนยันด้วยภาพและการกระทำของผมแน่นอนแล้วเจอกันนะครับคุณกั้ง อย่าลืมคิดคำตอบให้ผมถูกใจด้วยนะครับแล้วเจอกันที่เมืองไทยครับ”

กั้งได้ยินถึงกับไปไม่เป็นที่เธอได้ยินคือเขาบอกว่าเจอกันที่เมืองไทย หรือว่าเขาจะมาเมืองไทยตายแน่ยัยกั้ง แกจะทำไงละที่นี้

กั้งหันไปมองคนที่เธอจะต้องจัดการ คนที่อยู่ใกล้ก่อนกั้งเดินออกไปด้านนอกไปจัดการคนที่คิดสมรู้ร่วมคิดกับนายนั้นก่อน

“ว่าไง จะให้ฉันตอบนักข่าวว่าไงแกทำอะไร แกไม่เห็นใจฉันบ้างเลยหรือไง ฉันเป็นเพื่อนของแกนะ แกคิดบ้างไหม” ตะนอยฟังสิ่งที่เพื่อนบ่นแล้วก็หัวเราะ แฮะ แฮะ เธอไม่คิดว่ามันจะลามไปเป็นเรื่องใหญ่โตแบบนี้

จากนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังไม่หยุดจนเธออยากจะบ้าตาย น่าจับคนที่วางระเบิดไว้ ทุ่มลงไปยังด้านล่างคอนโดจริงๆเลย คิดแล้วมันหงุดหงิด เดินไปเปิดดูสิว่าเขาให้สัมภาษณ์ว่าไงดูเสร็จเท่านั้นแหละ กั้งอยากจะจับโน๊ตบุ๊คเขวี้ยงทิ้งทันที เพราะคิดเป็นใบหน้าของคนที่ทำเรื่องให้เธอต้องมาปวดหัวและต้องแก้ตัวในวันมะรืน

“ โอ๊ย!!! อยากจะบ้าตาย”

“ทำไมแกต้องซีเรียสด้วยคุณมาร์ตินเขาก็ชัดเจนกับแกนะ แค่เขารู้ว่าแกเห็นเขามีรูปคู่กับผู้หญิงคนอื่น เขายังออกมาแถลงข่าวชัดเจนในตัวผู้หญิงคนนั้น เขาถ้าเขามองแกเป็นของเล่น เขาไม่ต้องลงทุนทำแบบนี้หรอก อย่าไปประเมินหรือตัดสินหัวใจของคุณมาร์ตินเขาต่ำไป”

ครั้งนี้ตะนอยขอเตือนสติเพื่อนเธอสักหน่อยคนดีๆ มีเข้ามาก็ทำท่าจะหนีเขาอีกแล้ว แต่คนนี้เธอเชียร์เต็มที่ เพราะเขาดูจริงใจและชัดเจนมากที่สุดเท่าที่เคยเข้ามาจีบเลยก็ว่าได้

พอดีมีเสียงกดกริ่งหน้าประตู เธอเลยเดินออกไปเปิด

“อ้าว!!! พี่ต้นกลับมาจากต่างจังหวัดแล้วเหรอคะดำไปหรือเปล่าเนี่ย พ่อหนุ่มวิศวกรใหญ่”ตะนอยเน้นเสียงไปที่คำว่าใหญ่! แล้วมองลงไปด้านล่าง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าไง รู้ได้ไงว่าของพี่ใหญ่ ไม่ดีนะเรา แอบดูของคนอื่นเขา แล้วนี้ดาราดังที่เป็นข่าวไปไหนแล้วละ”

“โน้นนนคะ ตรงห้องโน่นพี่ต้นเข้ามาสิคะ ดีพี่ต้นมาจะได้สั่งสอนมันหน่อย”

ต้นเดินเข้าไปหากั้ง เขาเห็นข่าวแล้วยัง รู้สึกงง ว่ากั้งนั่นไปมีแฟนตอนไหน ไม่ใช่ว่าเขาหึงหรือหวง แค่เป็นห่วงตามความรู้สึกของคำว่าพี่ชายจริงๆไม่มีความรู้สึกแบบชู้สาว ซึ่งกั้งก็รับรู้ในความรู้สึกนี้ทั้ง 2 คน คุณป้าสุมณฑาให้เขาคอยช่วยเหลือน้องเวลาน้องมาอยู่กรุงเทพในช่วงที่คุณพ่อของกั้งขอให้กั้งมาอยู่ด้วย ซึ่งพ่อเขาก็ทำงานเป็นเลขาของคุณวิรุฒพ่อของกั้ง ซึ่งตอนนี้เขาได้ข่าวใหม่ อาจจะสะเทือนมาถึงกั้งก็ได้เพราะคุณวิรุฒ มีปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงถึงขั้นสั่นคลอน ตำแหน่งหน้าที่ในโรงแรมก็ว่าได้ เพราะผู้ถือหุ้นเริ่มที่ไม่เชื่อถือในการทำงานของ 2 พ่อลูกแล้ว มีการบริหารงานผิดพลาดบ่อยๆ ผลประกอบการก็ดูแย่ ลูกค้าก็ไม่ค่อยมี เขาได้ยินจากพ่อมาว่าคุณวิรุฒได้ยื่นข้อเสนอ ให้ชาวต่างชาติเข้ามาบริหารงานแทน พ่อของกั้งจะขายกิจการที่ท่านทำมาให้กับนักธุรกิจรายนี้ แต่ที่น่าตกใจกว่าคือชื่อที่เขาเห็นดันไปตรงกับชื่อที่พัวพันกับกั้งเห็นว่าจะมาในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้แหละ

“ทำหน้าเครียดเลยเราเป็นข่าวดังนะเนี่ย พี่จะต้องฝากเนื้อฝากตัวกับน้องสาวพี่แล้วละสิ เผื่อน้องพี่จะได้ไปเป็นมาดามอยู่ที่สเปนกับเขา”

กั้งได้ยินก็หันหน้ามาเตรียมจะด่า พร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจ

“นี่ก็อีกคน จะพูดทำไมเนี่ยแค่นี้กั้งก็รู้สึกปวดหัวจะแย่แล้วนะพี่ต้น” ยิ่งมีเรื่องอิตาบ้านี้เขามาอีกยิ่งหงุดหงิดไปใหญ่

“ศึกษาเขาไว้บ้างก็ดีนะเรา พี่ดูแล้วเขาก็โอเค ไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี และที่สำคัญเผื่อเขามาซื้อกิจการของพ่อเรา กั้งจะได้เป็นหูเป็นให้พ่อของเราด้วย จากที่พี่ฟังเขาให้สัมภาษณ์พี่ว่าเขาก็เป็นคนดี และตรงใช้ได้เลยนะ”

กั้งได้ฟังถึงกับตกใจเมื่อพี่ต้นพูดถึงกิจการของพ่อเธอที่มีปัญหา แม้เธอกับพ่อจะไม่ลงรอยกันแต่บางครั้งก็ยังอดเป็นห่วงบ้างไม่ได้ แม้เธอไม่ใช่ลูกรัก เหมือนแพท ซึ่งแพทนั้นมีนิสัยขี้อ้อนชอบประจบเอาใจพ่อของเธอสารพัด นิสัยของเธอเป็นคนไม่ชอบแสดงออก เลยดูเหมือนจะก้าวร้าว เธอกับพ่อไม่ลงรอยกันในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเรียน พ่อให้เธอเรียนบริหารเพื่อจะมาช่วยกิจการ แต่เธอหนีไปเรียนอักษรศาสตร์ พอเรียนจบมาก็อยากให้เข้าไปช่วยทำงานในโรงแรมเธอก็หนีมาเป็นดารา จากที่ไม่ลงรอยกันอยู่แล้วก็หนักเลยที่นี้ พ่อว่าเธอเป็นพวกชอบเต้นกินรำกินชอบโชว์เนื้อหนังให้ผู้ชายดู เหมือนกับแม่ของเธอทำงานในวงการก็อย่าหาเรื่องท้องไม่พ่อ หรือมั่วผู้ชายจะพาลทำให้นามสกุลท่านต้องแปดเปื้อนไป และอย่าทำตัวเหมือนแม่ของเธอที่มีชู้ นั้นคือจุดแตกหักที่ทำให้เธอไม่เคยกลับเข้าไปในชีวิตของผู้ชายคนนั้นอีกเลย จะว่าเธอยังไงก็ได้ แต่อย่าลามไปถึงแม่ของเธอ ซึ่งเธอก็มั่นใจมากว่าแม่ของเธอ ไม่เคยมีชู้อย่างที่พ่อและคุณหญิงภัสสร กล่าวหา

“ปัญหามันหนักขนาดต้องขายกิจการเลยเหรอคะพี่ต้น”

ต้นได้แต่พยักหน้าแล้วเล่าถึงสิ่งที่พ่อของเขาได้บอกมาเพื่อแจ้งให้กั้งรับรู้

“ถ้าคนอย่างคุณลุงวิรุฒพ่อของกั้งและคุณหญิงภัสสร รวมทั้งยัยแพทตัดสินใจทำแบบนี้ แสดงว่าคงจะถึงที่สุดแล้ว ถึงแม้ขายกิจการไปได้เงินมาก้อนใหญ่ ก็คงจะอยู่ไม่ได้นานหรอกกั้ง แต่เห็นว่าท่านจะขายหุ้นไปไม่หมดนะ เพราะท่านจะขอให้แพทดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการไว้ซึ่งคนที่จะเข้ามาทำการเทคโอเวอร์ ก็คือคนที่มีข่าวกับเรานะแหละ”

กั้งได้ยินถึงกับถอนหายใจแล้วเขาจะรู้ไหมว่าเธอเป็นลูกคนที่จะขายกิจการให้กับเขา

ต้นมองหน้ากั้งแล้วเอามือไปลูบหัวเขารักน้องสาวคนนี้คิดแล้วก็สงสารในชะตาชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ในเรื่องครอบครัว

“เอาน่าใจเย็นๆ ค่อยๆ ดูไป สิ่งที่กั้งคิดอาจจะไม่ได้เลวร้ายแบบนั้นก็ได้”

นาโช่เห็นรูปที่คุณตะนอยส่งมาให้แล้วพาลนึกถึงอีกคน ถ้าเห็นแล้วจะรู้สึกยังไง งานนี้คงมีระเบิดลงที่กรุงเทพแน่ๆ เขาเอารูปที่ตะนอยส่งเอาให้เบ็นดู แล้วถามเบ็นว่า

“ถ้าคุณมาร์ตินเห็นรูปนี้ นายคิดว่าคุณมาร์ตินเขาจะรู้สึกยังไง แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ววะ” และก็จริงๆด้วยไม่นานระเบิดก็ลงในเครื่องบินส่วนตัว

มาร์ตินขึ้นมาบนเครื่องบินส่วนตัวได้สักพัก เพื่อที่จะเดินทางไปประเทศไทย ไปเคลียปัญหากับคนดื้อและยังเรื่องธุรกิจโรงแรมที่เสนอขายมายังเขา และข้อมูลใหม่ที่เขาให้นาโช่ไปหาคุณวิรุฒเป็นอะไรกับกั้ง เลยทำให้รู้อะไรเพิ่มอีกว่าคุณวิรุฒเป็นพ่อของกั้งแต่งงานใหม่กับคุณหญิงภัสสร มีน้องสาวต่างมารดาชื่อกวินนา

ฟังเรื่องราวคราวๆมา พอจะเดาเหตุการณ์ได้ว่ากั้งต้องเจออะไรมาแน่นอน

เขาได้เปิด IG ขึ้นมาเท่านั้นแหละ ต่อมความโมโหพร้อมจะทำลายล้างได้เกิดขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนขึ้นมา

“ทำไม มันถึงได้ถ่ายรูปคู่กับกั้งและอยู่ในห้องกั้งได้ไง เบ็น นาโช่!!! อยู่ไหน มาหาฉันเดียวนี้”

นาโช่กับเบ็นได้ยินเสียงตะโกนที่ดังออกมา ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เขากลัวได้เกิดขึ้นแล้วทั้งสองรีบเดินเข้าไปหาบอสสุดหล่อ

“เจ้านายครับ มีอะไรครับ”

“นาย 2 คนได้โทรหาคุณตะนอยไหม ว่าเขาอยู่ไหนอยู่กับกั้งหรือเปล่า แล้วทำไมถึงมีรูปกั้งถ่ายกับไอ้หน้าจืดคนนี้ได้”นาโช่กับเบ็นพยักหน้าและพูดว่า

“รู้ครับ คุณตะนอยก็อยู่ที่ห้องนั้นด้วยครับ เขาแค่ถ่ายรูปกันปกติอยู่แล้วครับ บอสอย่าไปคิดมากเลยคุณกั้งเธอก็ไม่ได้อยู่กับคุณต้นแค่สองคนนะครับ บอสจะเดือดไปทำไมครับ พรุ่งนี้บอสก็ไปถึงเมืองไทยแล้ว”

มาร์ตินรู้สึกโมโห  เขาไม่ได้โมโหที่กั้งถ่ายรูปกับไอ้หน้าจืด แต่เขาโมโหที่กั้งไม่เคยลงรูปคู่กับเขาเลยก็ว่าได้ ถึงแม้วันนั้นเขากับเธอไปเที่ยวด้วยกัน เธอก็ยังไม่ลงรูป ได้เลยกั้ง!!! คุณจะได้รู้ว่าคุณสะกิดต่อมหึงของผม แล้วผมจะเป็นไง

มาร์ตินนั่งหารูปที่ลับเฉพาะแล้วจัดการส่งรูปให้ลูอิสจัดการลงให้เขาในสื่อออนไลน์

ลูอิสถึงกับอึ้งเมื่อไอ้เพื่อนรักมา ขอร้องให้เขาลงรูปมันกับคุณกั้งในสื่อ และช่วยลงข่าวมันกับคุณกั้งด้วย เขารู้สึกขำท่าทางมันน่าจะเป็นเอามาก เมื่อก่อนมันไม่ชอบเป็นข่าวหรือให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น วันนี้เขาได้เห็นคลิปสัมภาษณ์ของมันแล้ว เขาถึงกับหัวเราะคนที่ไม่อยากเป็นข่าวดันเป็นคนมาขอให้ลงข่าวเรื่องตัวเอง

นาโช่กับเบ็น เดินออกมาจากเจ้านายก็มานั่งกุมขมับด้วยกัน 2 คนนาโช่ คุยกับ เบ็น

“งานนี้จะไหว ไม่เจ้านายอารมณ์แบบนี้ และที่สำคัญฉันก็พึ่งเคยเห็นคุณมาร์ตินที่คอยตามหึงคุณกั้งแบบนี้ คุณกั้งเขาจะโอเคไหมวะเบ็น”

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***