บทที่ 8

ตั้งแต่เมื่อวานที่คุณมาร์ตินได้กลับมาจากการเดทหรือเปล่าก็ไม่รู้ กลับมาเสร็จก็มานั่งเปิดเบียร์ดื่ม ซึ่งพวกเขาที่เดินมาบอกว่าโรงแรมที่สเปนกำลังมีปัญหา จะต้องเขาประชุมและขออนุมัติจากคุณมาร์ตินด่วน พอเขาเปิดประตูเข้าไปก็เจอใบหน้าของเจ้านายที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ ถ้าเขาพูดอะไรผิดคงจะโดนเตะหรือเปล่า

“เป็นอย่างไรบ้างครับ ไปเที่ยวสนุกไหมครับคุณมาร์ติน”

มาร์ตินเงยหน้าขึ้นไปมองยังไอ้คนที่มันแนะวิธีการจีบผู้หญิงมาให้เขา นาโช่ที่เห็นสายตาแบบนี้เอาแล้ว งานนี้เขาขอเว้นระยะห่างสักหน่อยดูแล้วท่าทางมันไม่น่าไว้ใจ

“ไหนนาย บอกผู้หญิงชอบผู้ชายพูดจาหวานๆอ่อยให้ผู้หญิงฟิน และก็คอยหยอดคำหวานๆ ผู้หญิงชอบคนเอาอกเอาใจ ฉันทำตามที่นายบอกทุกอย่าง รู้ไหมกั้งเขาบอกฉันว่าอะไร!!”

อ้าว ซวยละมรึงนาโช่ก็ผู้หญิงทั่วไปเขาก็เป็นแบบนั้น แล้วคุณกั้งทำไม

“บอกว่าอะไรครับ หรือว่าคุณกั้งเธออาจจะกลัว เพราะเธอเป็นดารามีคนมากมายติดตาม เลยมีข้อแม้เยอะหน่อยมั้งครับคุณมาร์ติน”

มาร์ตินจ้องมองที่ต้นเหตุของการสอนวิธีการจีบการอ่อยครั้งนี้

“นาย คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

“ครับ ผมว่าแบบนั้นแหละหรือคุณมาร์ตินอยากจะเลิกจีบแล้วก็ได้นะครับ เราเปลี่ยนเป็นคนอื่นดีไหม มีเยอะแยะนะครับ มาดามของคุณมาร์ตินเขาเตรียมไว้ให้เยอะมาก เดี๋ยวผมกดรูปมาให้คุณมาร์ตินดูว่าคนไหนบ้าง”

มาร์ตินเงยหน้ามองไอ้นี้มันวอนหาที่ตาย

“ฉันบอกนายสักคำไหม ว่าจะเลิกจีบ ฉันแค่ถามว่าเขาไม่เห็นชอบเหมือนที่นายแนะนำฉันเลยและที่สำคัญฉันไม่ใช่คนจิตใจโลเลชอบคนโน่นที คนนี้ทีเข้าใจไหม”

“ออครับ ๆ โอเคครับ” เบ็นที่หาช่องที่จะพูดถึงปัญหาของโรงแรมทางสเปน ก็เกือบจะไม่ได้พูดเพราะคนข้างๆมันแย่งพูดไปหมด

“ผมว่าควรพักเรื่องนี้ไว้ก่อน คุณมาร์ตินต้องมีเรื่องจัดการปัญหาที่สเปนก่อนนะครับ” เบ็นรีบเอ่ยออกไป เดี๋ยวจะไม่ได้พูดอีกดูจากสีหน้าคนข้างๆแล้ว มันคงกำลังคิดจะหาวิธีช่วยคุณมาร์ตินอยู่

“คุณมาร์ตินจะเดินทางกลับตอนไหนครับ ผมจะได้ให้นักบินเตรียมเครื่องบินให้พร้อม”

“อืม...เตรียมเครื่องเลยก็ได้ สักชั่วโมง โอเคไหม”

“ครับๆ”มาร์ตินหันไปถามเบ็น ที่กำลังจะเดินออกไป

“เบ็น ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ ถ้านายชอบใครสักคน นายจะทำไง”เบ็นมองหน้าคุณมาร์ตินสลับกับไอ้เผือก

“ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเองสิครับ ว่าสิ่งที่ผมทำคือผมจริงใจการกระทำมันพิสูจน์ทุกอย่างอยู่แล้วครับ”

นาโช่หันไปมองหน้าเบ็น ไม่น่าเชื่อคนอย่างเบ็นตอบได้กินใจมาก อยากจะยืนปรบมือให้กับมันมาร์ตินพยักหน้า

“อืม...ฉันก็คิดแบบนั้น แต่ฉันกับเขามันอยู่กันคนละทวีป และห่างไกลกันมาก มันจะพิสูจน์ยังไงละ”

“เราก็หาตัวช่วย ให้เขาจัดการให้สิครับ”เบ็นที่หันไปพยักหน้าให้กับคุณมาร์ตินและนาโช่

“ตัวช่วย เหรอ ใครละ” “หรือว่า” ทุกคนหันและพูดพร้อมกัน

“คุณ ตะนอย ตะนอย ตะนอย”

“นั้นแหละครับ ตัวช่วยชั้นดี”

ตั้งแต่วันนั้นที่เธอได้กลับมาจากการเที่ยว เธอรู้สึกว่าผู้จัดการเธอก็จัดตารางงานรับงานแบบแน่นเอี๊ยด ดูตารางงาน นี้มันยาวไปเกือบจะสองเดือนเลย ทีเดียวนี่เธอกลับมาจากเที่ยวแล้วต้องกลับมาใช้กรรมด้วยการทำงาน ส่วนงานที่รับไว้ ก็ดันจะเปิดกล้องใกล้ๆ กันอีก ตารางงานในสมุดบันทึกตอนนี้ 7 วันเต็ม กั้งเห็นถึงกับถอนหายใจ กลับมาจะอาทิตย์แล้วเหมือนทุกอย่างกำลังจะโอเค กลับมาใช้ชีวิตแบบ กั้งสไตล์ ทำงานเลิกงานเล่นเกมบ้างเป็นบางครั้ง ถ้ามีเวลาว่าง

วันนี้กั้งที่ตื่นมาพร้อมทั้งอัพ IG สวัสดีวันแรงงานเช้านี้

ส่วนทางมาร์ตินที่กำลังเลิกประชุม ได้กลับมาถึงห้องพัก ตั้งแต่กลับมาจากดูไบ เขาก็ต้องเข้าประชุมและเรียกทุกฝ่าย มาสอบถามงานโปรเจคที่กำลังจะเกิดขึ้น มันมีปัญหากับหุ้นส่วนก็มากมีคนคอยที่ป่วน เขาก็โดนคู่แข่งทางธุรกิจคอยขัดขว้างทุกอย่าง มีคนพยายามจะป่วนการสร้างคอนโดที่จะเปิดกลางใจเมืองมาดริด ดีนะสายของเขาที่ได้วางไว้ได้โทรมารายงายเบ็น ก่อนที่มันจะทำการดึงหุ้นส่วนของเขาไป

มาร์ตินที่ตอนนี้นั่งนวดขมับและนวดเบ้าตาไปเบาๆพร้อมพิงไปกับเก้าอี้ ตั้งแต่วันนั้น เขาก็มีภาพติดตาของเขาอยู่ตลอด วันที่เขาได้ขโมยรอยจูบนั้น ซึ่งเธอจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามแต่เขาก็ได้ขโมยรอยจูบนั้นมา คิดถึงและคิดถึงมาก

เขาได้เปิด IGเช็คข่าวของกั้งอยู่ตลอดเวลา บางครั้งตะนอยก็ส่งภาพทำงานของกั้งมาให้บ้าง ให้เขาหายคิดถึงแผนนี้ก็ได้ผล คือการให้คนไปติดตามดูเธอ ซึ่งเขาได้จ้างผู้จัดการเธอนะแหละ เป็นคนคอยส่งข่าวคอยเช็คว่ามีใครมาจีบ ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางกลับมาสเปน เขาก็ได้โทรคุยกับตะนอย ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อกั้งให้ผู้จัดการของเธอได้ฟังไปตรงๆ ซึ่งผู้จัดการของเธอก็รับรู้ เขาก็เริ่มเข้าใจเหตุผลว่าที่ทำไมกั้งถึงไม่ยอมเปิดใจให้ใคร จากที่คุยมาคงจะเป็นงานยากสำหรับเขาอยู่บ้าง ตะนอยได้แต่บอกให้เขาสู้ๆ

วันนี้เขาเห็นเธออัพรูปลง ก็ทำให้คิดถึงรอยจุมพิตนั้น มันคิดถึงมากใจก็อยากจะบินไปหาเธอ

“Martin: miss u ka” จนเขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปขอคอมเมนต์ให้เธอในวันนี้

ทุกวันนี้เขาแอบใช้รูปวอลเปเปอร์พักหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปของเธอ รูปที่เขาได้แอบถ่าย มาร์ตินค่อยๆ เอามือลูบไปบนหน้าจอโทรศัพท์ เอาไงดีนาโช่มันสอนว่า ถ้าคิดจะจีบเราต้องสะกัด พวกที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่ง เราต้องชิงลงความเป็นเจ้าของก่อนดีไหมเราจะอัพรูปนี้ลง IG ดีไหมเนี่ย

เอาว๊ะ!! มันจะยากอะไร ชอบเขาก็จัดไป แล้วก็เลือกรูปที่เขาว่าสวย ใครเห็นก็ต้องรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและกั้ง ตั้งแต่เปิดIGมา เขาก็ยังไม่เคยจะอัพรูปอะไรเลยสักอย่าง เอาไว้แค่ติดตามเปิดดูว่ากั้งทำอะไรคอมเม้นต์กั้งบ้างให้หายคิดถึง

ขนาดLineเขามี เขาก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปทัก กลัวเธอจะไม่ตอบ พอเลือกรูปได้แล้วก็ขอกดสักหน่อย ขอแท๊กเลยละกัน ไหนๆก็ไหนๆละ จะได้กำจัดคู่แข่งไปในตัวด้วยเลย มาร์ตินอัพ IGเสร็จ คนแรกที่เขามากด เขาอยากจะลุกขึ้นไปถามมันมากว่ามันไม่ทำงานบ้างเหรอ วันๆ มันทำอะไรซึ่งเขาก็มอบหมายงานให้ทำเยอะแยะ

นาโช่ที่พึ่งว่างจากการสรุปรายงานที่จะต้องเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้ซึ่งคุณมาร์ตินเขาไม่ต้องการเลขาผู้หญิง เพราะต้องการตัดปัญหาการทำงาน ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มาสมัครก็เพื่อจะมาเข้าใกล้ บางคนมาก็ได้แต่แต่งตัวสวยไปวันๆ ไม่ทำอะไร คุณมาร์ตินเลยตัดปัญหายกหน้าที่นี้ให้กับเขา ซึ่งเขาก็ทำได้ดีไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความที่เป็นผู้ชายเจ้านายไม่ต้องวางตัววางมาดอะไรมากมายเหมือนผู้หญิงไม่ต้องกลัวใครจะมาว่า

ว้าว !!! คุณมาร์ตินอัพIGด้วย ผ่านมาก็นานแล้วพึ่งจะมาอัพรูปลงกดlike ให้หน่อย เดี๋ยวจะน้อยใจว่าไม่มีใครสนใจ ซึ่งIGของคุณมาร์ตินมีแค่เขา คุณกั้ง คุณ ตะนอยและไอ้เบ็น ซึ่งเป็นคนสุดท้ายเบ็นก็คนหลังเขาเช่นเดียวกันกับเจ้านาย ซึ่งเขาก็บังคับให้มันสมัครไปพร้อมๆ กัน ลืมไปมีอีกคนเพื่อนสนิทของบอสก็คุณลูอิส รายนั้นไม่ต้องพูดถึงคาสโนว่าตัวพ่อ ซึ่งนิสัยต่างจากบอสของเขาโดยสิ้นเชิง

สักพัก ก็มีข้อความขึ้นมา “นายว่างมากใช่ไหม”

ส่วนกั้งที่ได้เดินออกไปนั่งพัก หลังจากที่ถ่ายโฆษณาตั้งแต่เช้า ออกมายืนเปลี่ยนบรรยากาศสักพัก กั้งก็ได้หยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย กั้งที่กำลังเช็คIGก็ต้องตกใจ

เฮ้ย เขาแท็กรูป เขากับเธอเพื่อ ตายแล้ว ตายแน่ๆ ตะนอยเดินออกมา เห็นเพื่อนทำหน้า นิ่วคิ้วขมวด

“แกเป็นไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น”

“ตะนอย แกงานเข้า ฉันแล้วแก แกดู แกดู เขาแท็กฉันทำไม”ตายแน่ ตายแน่ สักพักยอดคนกด Like ก็ปาไปเป็นหมื่นกว่าภายในไม่กี่นาที

“ทำไงดีแก เดี๋ยวนักข่าวหรือคนอื่นๆ ก็ต้องมาเล่นกับข่าวนี้แน่ๆ แล้วฉันจะตอบนักข่าว หรือคนที่ถามว่าไปรู้จักคุณมาร์ตินได้ยังไง แล้วแกดูรูปที่เขาลง ใครเห็นเขาก็ต้องคิดว่าต้องมีอะไรกันแน่ๆ

“แกจะซีเรียสไรวะ คุณมาร์ตินเขาก็ดังมากในวงการไฮโซ ติดท็อป10 หนุ่มCLEO นักธุรกิจดาวรุ่ง พุ่งแรง โปร์ไฟล์ก็เริ่ด มีอะไรที่แกต้องกลัว เขาแท็กรูปมาแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องชัดเจนกับแกมาก ไม่ได้คิดหรือเห็นแกเป็นของเล่น ตามที่แกเข้าใจ”

ตะนอยรีบพูดโน้มน้าวใจ ซึ่งก่อนหน้าที่จะลง คุณมาร์ตินก็ได้โทรมาขออนุญาตเธอก่อนแล้ว เขากลัวจะมีคนชิงตัดหน้ามาจีบ ซึ่งเขาอยู่ไกลเขาเลยต้องใช้วิธีนี้ กำจัดพวกที่คิดจะมาแย่ง เธอฟังสิ่งที่เขาพูด เธอก็เริ่มเห็นใจเขาที่เขาและเพื่อนเธอมันอยู่ไกลกันมาก และทางคุณมาร์ติน ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง หากเกิดความเสียหายกับเพื่อนเธอ

“แกไม่เป็นฉันแกไม่รู้หรอก เดี๋ยวทุกคนก็ต้องจับตามองฉัน แกคิดว่าฉันไปดูไบกับแกมาไม่นานแล้วก็มีหนุ่มต่างชาติระดับนักธุรกิจใหญ่มาติดพัน แกคิดว่าเขาจะชื่นชมกันเหรอ เขาก็ต้องคิดว่าฉันไปทำอะไรที่ไม่ดีมาแน่ๆ เดี๋ยวรอดูข่าวพรุ่งนี้”

กั้งที่เริ่มทำหน้าเครียด แต่ก็ต้องกลับเข้าไปถ่ายงานให้เสร็จ จนกระทั่งเลิกงานก็เกือบจะตีหนึ่ง กั้งนั้นแทบจะหมดแรง

“แกขับรถนะ ฉันไม่ไหว”

“อือ รู้แล้ว แกหลับไปเหอะ” สงสารนางจริงๆ

ตะนอยได้แอบกดถ่ายรูปส่งไปให้คนไกลทางโน้นได้ดู ซึ่งคุณมาร์ตินได้ขอร้องให้เธอคอยส่งความเคลื่อนไหวเพื่อนเธอไปให้ตลอดเวลา เกือบทุกชั่วโมง

มาร์ตินที่กำลังเตรียมตัวจะไปงานตอนกลางคืนซึ่งแม่เขาได้ขอร้องให้ไปร่วมงานด้วย ประเด็นหลักๆคือจะควงลูกชายไปให้บรรดาสาวๆลูกของเพื่อน แม่เขาคิดจะจับคู่ให้เขาอีกตามเคย

มาดามแพททิเซียได้โทรมาย้ำเขาแล้วย้ำเขาอีกว่าห้ามลืมห้ามให้เขาปฏิเสธ ซึ่งเขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาหลายต่อหลายครั้ง

เขาได้หยิบมือถือมาดูรูปที่ตะนอยส่งมาให้ กั้งทำไมคุณต้องทำงานหนักขนาดนี้เนี่ย ดูสิเห็นสภาพแล้วก็หงุดหงิด ถ้าเขาอยู่ใกล้ๆ ก็คงจะดียังสามารถได้ดูแลบ้าง “กั้งผมคิดถึงคุณ คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า”

คิดถึงค่ำคืนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาทันทีที่จะต้องออกงานครั้งนี้ บรรดาสาวๆ ลูกเพื่อนแม่เขา แค่คิดก็ไม่อยากจะไปแล้ว หรือเขาจะบอกแม่ว่าเขามีคนที่ชอบแล้วดีไหมท่านคงจะดีใจ แต่เขาก็ยังไม่อยากให้คนที่เขารักรู้สึกตกใจ ถ้าแม่ของเขารู้ ท่านคงจะต้องไปทำความรู้จักกับว่าที่ลูกสะใภ้แน่นอนและเขาก็คิดว่า ปัญหาที่แม่เขาจะไม่ชอบกั้งคงจะไม่น่าเกิดแน่นอน ซึ่งแม่เป็นคนใจดี อารมณ์ท่านดีมากๆ และยังเป็นภรรยาที่น่ารักของคุณอลันพ่อของเขา ซึ่งทุกเทศกาลหรือวันที่สำคัญของท่านทั้งสอง มักจะจัดอะไรเซอร์ไพรส์ให้กันและกันตลอดเวลานี่พึ่งจะพากันไปท่องเที่ยวรอบโลกหลังจากที่ท่านปลดระวางยกตำแหน่งประธานบริหารงานในเครือธุรกิจกุสโซ่มาให้เขาบริหารท่านแสดงออกความรักให้กันจนบางครั้งเขาก็นึกอิจฉา ขนาดเขายังยอมแพ้ให้กับความรักของพ่อแม่เขาเลย

มาร์ตินเดินทางมาถึงงานเลี้ยงที่มาดามแพททิเซียได้ดักทางหนีทีไล่เขาไว้หมดแล้ว ในการที่จะไม่มางานเลี้ยงค่ำคืนนี้

“สวัสดีครับมาดามแพททิเซีย สวัสดีครับคุณพ่อ”

มาดามแพททิเซียและคุณอลันได้ยินน้ำเสียงลูกชายสุดที่รักทักทายมาก็อดที่จะขำไม่ได้

“คุณลูกชายตั้งแต่กลับมาจากดูไบ ไม่คิดจะกลับบ้านเลยเหรอคุณลูก”

มาดามแพททิเซียที่เอ่ยปากตัดพ้อลูกชายสุดที่รัก คุณอลันท่านถึงกับหัวเราะเบาๆ

“ผมก็คิดว่าจะกลับวันอาทิตย์นี้อยู่แล้ว แต่แม่ชวนผมมางานนี้สะก่อน แล้วนี้ให้ผมมางานด้วยทำไมครับ”

“ก็ตามเคยมาร์ติน แม่เขาพาลูกมาให้รู้จักกับสาวๆ ลูกของเพื่อนแม่เขานะแหละ คงอยากจะมีลูกสะใภ้แล้ว เห็นบ่นเรื่องลูกว่า ยังไม่ยอมคิดจะลงเอ่ยกับใคร งานนี้ท่าทางจะรอดยาก ไอ้ลูกชาย”

“แม่อย่าพึ่งสิครับ ตอนนี้ผมก็เจอคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้แม่แล้วนะครับ”

มาดามแพททิเซียถึงกับงง ในเมื่อไม่นานก่อนหน้าที่ลูกชายของเธอจะไปดูไบ เธอก็ยังบ่นลูกชายเรื่องนี้อยู่ แล้วนี้กลับมาไม่นานดันมาบอกว่ามีคนที่จะมาเป็นว่าที่ลูกสะใภ้เธอแล้ว เธอพลาดอะไรไปหรือเปล่า

“อะไรน๊ะ!!! ลูกว่า ลูกมีแฟนแล้ว”

“ไม่ใช่ครับผมบอกว่าผมเจอคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่แล้ว แต่ตอนนี้เราสองคนก็กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ ครับ”

แม่เขาหันไปหาคุณอลันพ่อของเขา ท่านทั้งสองทำหน้าตกใจแค่เขาบอกว่ามีคนศึกษาดูใจ ต้องทำหน้าตกใจขนาดนี้เลยเหรอ

“คุณๆ ได้ยินที่ลูกชายพูดไหม ว่าเขามีคนที่กำลังศึกษา ตายแล้ว !!! ลูกฉันจะมีแฟน” พร้อมกับเขย่าพ่อของเขา คุณอลันเอามือลูบไปต้นแขนมาดามแพททิเซีย ให้ใจเย็นๆ ฟังลูก

“ผมก็ได้ยินพร้อมๆ กับคุณเนี่ยแหละ จะตื่นเต้นอะไรแค่ลูกบอกมีคนที่ดูอยู่ รอลูกพร้อมลูกคงจะพามาให้รู้จักใช่ไหม มาร์ติน”

มาดามแพททิเซียถึงกับถอนหายใจ จะไม่ให้ตกใจได้ไงพาใครมาแนะนำให้รู้จัก ลูกชายเธอก็เล่นแผลงฤทธิ์ให้บรรดาสาวๆ ต้องปวดหัวแต่ละคนก็โทรมารายงานพฤติกรรมของพ่อลูกชายตัวแสบของเธอ

“คุณนี่ไม่รู้เลย ว่าลูกของเราประสบความสำเร็จทุกอย่าง แต่ก็ยังจะไม่คิดจะมีใคร คนเป็นแม่อย่างฉันก็ต้องเครียดสิ ถามได้ว่าตื่นเต้นทำไม”

“ไปเถอะคุณ เข้าไปภายในงานกันได้แล้ว เดี๋ยวค่อยไปซักฟอกกันต่อที่บ้าน”

“วันนี้ แม่อุตส่าห์จะพามารู้จักหนูเจสสิก้า สะหน่อยท่าทางจะเป็นหมันแล้วงานนี้” มาร์ตินส่ายหน้ากับความเจ้ากี้เจ้าการในการหาลูกสะใภ้ของแม่เขา แต่ละคนที่หามาให้รู้จัก เขาเห็นก็เหนื่อยแล้ว

“ไปครับ วันนี้ผมขอควงมาดามแพททิเซียหน่อยนะครับคุณพ่อ คุณพ่อคงจะไม่หวงนะครับ” คุณอลันส่ายหน้าพอกันทั้งแม่ทั้งลูก พวกท่านได้เดินเข้ามาถึงภาย ในงานเลี้ยง สาวๆที่มางานต่างพากันหันมามอง และคอยแต่จะเข้ามาทักทาย เขารู้สึกเบื่อจริงๆ ก่อนหน้าที่เจอกั้ง เขาก็รู้สึกเฉยๆ กับสายตาเชิญชวนแบบนี้ แต่พอมีใครมาอยู่ในใจ เขากลับอยากจะหลีกหนีงานไหนที่จะต้องมาเจอบรรดาสาวๆ

เขาเห็นผู้หญิงสองคนเดินตรงมาหาแม่เขาด้วยความรีบเร่ง และนี่ก็คงจะเป็นเหมือนเดิมอีกเช่นเคย

“สวัสดีแพททีเซีย นี่ลูกสาวของฉันที่จะพามาแนะนำให้รู้จักกับลูกชายของเธอไง เจสสิก้าสวัสดี คุณป้า คุณลุง และพี่เขาสิคะ”

“สวัสดีคะ คุณลุง คุณป้า และพี่มาร์ติน”

เจสสิก้าพึ่งเคยเจอมาร์ตินแบบใกล้ชิดก็วันนี้ ทุกทีเห็นแต่ในสื่อหนังสือพิมพ์ นิตยสารบ้างประปราย เธอส่งสายหวานเยิ้มไปให้  หล่อจริงๆ สมกับที่แม่เธอบรรยาย สรรพคุณมาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้ยื่นมือไปให้มาร์ตินจับ

“ยินดี ที่ได้รู้จักนะคะพี่มาร์ติน”

สายตาแบบนี้เป็นสายตาที่มาร์ตินรู้สึกได้ถึงการเชิญชวน เป็นสายตาที่เขาเจอมาบ่อยมากกับสาวๆ ทั่วไป

“สวัสดีครับ” สั้นๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่น เจสสิก้า มองดูท่าทางหยิ่งใช้ได้เลยทีเดียว สมกับเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลกุสโซ่ คุณอลันเห็นลูกชายทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยสะกิด มาดามแพททีเซีย

“คุณ ผมว่าเราไปที่โต๊ะที่ทางงานจัดไว้ให้ดีกว่า ไปนั่งคุยกันตรงนั้นดีไหม ผมยืนจนเมื่อยแล้ว”

“โอเคคะ ไปคะ เชิญมีเรีย และหนูเจสสิก้า ไปนั่งด้วยกันนะ”

มาร์ตินถึงกับถอนใจกับแม่ของเขา ขนาดเขาบอกแล้วว่า เขามีใครที่อยู่ในใจแล้วนะ ผู้ใหญ่ทั้งสามเดินนำหน้าไปที่โต๊ะ เหลือแต่เขากับเจสสิก้า ที่ต้องเดินคู่กัน เข้าไปภายในงาน พร้อมกับมีกล้องเยอะแยะมากมาย คอยที่จะจับภาพซึ่งเขาเริ่มรู้สึกไม่โอเค ตรงคนข้างๆ ที่พยายามจะเข้ามาควงแขนเข้าไปในงาน ซึ่งเขากลัวภาพเหล่า นี้ลงไปในอินเตอร์เน็ต แล้วกั้งมาเปิดมาเจอจริงๆ

“คุณเจสสิก้า เดินไปก่อนก็ได้นะครับ เชิญครับ เดี๋ยวผมตามไป”

เจสสิก้ารู้ทันคิดเหรอว่าเธอจะยอม งานนี้เธอจะไม่ให้พลาดเจอเป้าหมายดีๆ แบบนี้

“ไม่เอาคะ เดินไปพร้อมๆ กันแบบนี้นะดีแล้ว”พร้อมทั้งพาเขาไปถ่ายรูปคู่ตายแน่งานนี้ ถ้ากั้งเห็นงานที่ว่ายากมันก็ยิ่งยากเข้าไปอีก

มาร์ตินหันไปสั่งนาโช่ เบ็นให้คอยเช็คไม่ให้ช่างภาพได้ภาพพวกนี้ไปลงเด็ดขาด

“จัดการด้วยนะ นาโช่ เบ็น อย่าให้หลุดไปได้”นาโช่กับเบ็น พยักหน้ารับคำสั่งเห็นแล้วรู้สึกสงสารคุณมาร์ตินจริงๆ

“ครับ คุณมาร์ติน เดี๋ยวพวกผมจัดการให้ครับ”

“งานนี้คุณมาร์ตินเจอของจริงแล้ว ฉันสัมผัสได้ถึงความยุ่งยาก ดูท่าทางคุณเจสสิก้า เธอคงจะไม่ปล่อยคุณมาร์ตินแน่ๆ เกาะติดขนาดนั้น นายว่าไหมเบ็น”

“อือ...ฉันก็ว่าอย่างนั้น งานนี้ถ้าทางคุณเจสสิก้าเอาจริง แล้วถ้าคุณเจสสิก้ารู้เรื่อง คุณกั้ง จะทำไงละปวดหัวแทนคุณมาร์ตินจริงๆ”

ตั้งแต่เข้ามาในงาน เขาแทบอยากจะหนีกลับให้ได้ เจสสิก้าตามติดเขา จนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญมากๆ แต่ด้วยมารยาท เขาก็ต้องทำหน้านิ่งเข้าไว้

“ไงจ้ะ หนูเจสสิก้าพักอยู่ที่ไหนกับคุณแม่ ไปพักที่โรงแรมของพี่เขาก็ได้นะ เดี๋ยวแม่ให้พี่เขาจัดการให้” มาร์ตินหันไปหาแม่ แล้วก้มกระซิบ

“แม่ ผมบอกแล้วนะว่าผมมีคนที่กำลังศึกษาอยู่”

“เอาน่า ศึกษาไปพร้อมๆ กันก็ไม่เสียหายนะลูก ลูกก็ยังไม่ได้ตกลงกับเธอว่าจะมาเป็นแฟน และที่สำคัญแม่ยังไม่ได้รู้จักแม่หนูคนนั้นเลย เป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ยังไม่รู้ คบๆไปก่อนถ้าแน่นอนก็พามาให้แม่รู้จักสิ” มาร์ตินถึงกับส่ายหน้า พ่อเขาก็คอยแต่พยักหน้าให้ตามๆไปก่อน

“ตามแม่เขาไปก่อน เสร็จจากงานนี้ก็พามาให้แม่เขารู้จัก”

“ครับพ่อ ผมไม่ปล่อยไว้นานแน่ เดี๋ยวแม่จะพาใครมาให้รู้จักผมอีก แค่ตอนนี้ผมก็รู้สึกอึดอัดมากอยู่แล้ว”

“มาร์ติน พาน้องออกไปเต้นรำหน่อยลูกสงสารน้อง น้องคงจะไม่รู้จักใครเดี๋ยวน้องเขาจะเบื่อสะก่อน” เจสสิก้าอยากจะกระโดดไปหอมแก้ม คุณป้าจริงๆ ที่คอยเปิดทางให้กับเธอ

“พี่มาร์ติน สะดวกไหมคะ ตามที่ป้าแพททิเซียบอกคะ”

มาร์ตินถึงกับไปไม่เป็น อาการถูกมัดมือชกมันเป็นแบบนี้ แม่นะแม่

“พอดีช่วงนี้ ผมไม่ค่อยได้เต้นรำ เลยรู้สึกว่ามันไม่โอเค ออกไปเดี๋ยวจะพาคุณขายหน้าสะก่อนครับ”

เจสสิก้าถึงกับยิ้มแห้งๆ มาร์ตินจะหักหน้าเธอแบบนี้ไม่ได้

“ผมว่าในงานนี้มีคนที่อยากจะเต้นรำคู่กับคุณเจสสิก้าก็มากมายนะครับ ลองมองๆ ดูครับ” เขาทำกับเธอแบบนี้คิดเหรอว่าเธอจะยอมแพ้ รู้จักคนอย่างเธอน้อยไปแล้ว

มาร์ตินได้โอกาสก็รีบบอกแม่ เขาขอลากลับทนอยู่อีกนิด เขาก็คงจะได้เหวี่ยงคนข้างๆ ออกไป

“แม่ครับ นี้ก็ดึกแล้วผมขออนุญาตกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมมีประชุมตอนเช้า พอดีคืนนี้ผมจะต้องเคลียเรื่องงานที่จะเข้าประชุมพรุ่งนี้”

มาดามแพททิเซียมองหน้าลูกชาย งานนี้ลูกชายเธอก็จะชิงหนีอีกแล้ว แต่ก็สงสารไม่อยากจะทำอะไรมากกว่านี้เดี๋ยวลูกชายเธอจะต่อต้านไปใหญ่ เธอรู้จักเจ้านิสัยลูกชายคนนี้ดี

“ตามใจเราละกัน ถึงแล้วก็โทรบอกแม่ด้วย อย่าหักโหมงานมากนัก เดี๋ยวแม่กับพ่อก็จะกลับเหมือนกัน วันนี้ก็รู้สึกเหนื่อย”

เจสสิก้าได้ยินแล้วรู้สึกหงุดหงิดแต่ต้องทำหน้ายิ้มเข้าไว้ เอ่ยปากพูดในสิ่งที่คุณป้า แนะนำไปเมื่อกี้ ไหนมาเที่ยวมาดริดแล้ว ก็ให้การมาครั้งนี้ไม่เสียเปล่า

“คุณป้าคะ ถ้าเจสสิก้ากับคุณแม่ ขออนุญาตไปพักที่โรงแรมพี่มาร์ติน แทนโรงแรมเดิม ที่เจสสิก้ารู้สึกไม่ค่อยจะโอเคเลยได้ไหมคะ คุณป้า”

มาดามแพททีเซีย หันไปมองหน้าลูกชาย และที่สำคัญเธอเป็นคนเอ่ยปากชวนเอง แต่งานนี้ก็ต้องให้ลูกชายสมยอมด้วย มาร์ตินที่อยากจะกลับเลยพยักหน้ารับไปส่งๆ

“ได้คะ ยังไงหนูเจสสิก้าไปติดต่อที่โรงแรมเลยนะคะ เดี๋ยวป้าจะให้เขาจัดการให้”

“ขอบคุณคะ คุณลุง คุณป้า พี่มาร์ตินด้วยนะคะ”สองแม่ลูกหันหน้ามายิ้มๆให้กัน

“ผมกลับแล้วนะครับ ขออนุญาตลาแล้วนะครับ”แล้วก็ลุกเดินไปดื้อๆ   เจสสิก้าที่กำลังจะลุกเดินตามไป แต่แม่ของเธอได้ดึงแขนไว้และส่ายหน้าไม่ให้ตาม

“อย่าพึ่งตาม ปล่อยพี่เขาไปก่อนคุณลูก”เจสสิก้าฮึดฮัดอยู่ในใจ งานนี้เธอจะปล่อยตามที่แม่เธอทัก

มาดามแพททิเซียเห็นแล้วก็รู้สึกว่างานนี้ เธอคิดผิดหรือคิดถูกที่แนะนำให้รู้จักลูกชาย หันไปหน้าไปหาคุณอลัน

“กลับยังคะ ฉันรู้สึกเพลียๆแล้ว” คุณอลันพยักหน้า ให้กับภรรยาคู่ใจ

“ไปสิครับ ลูกก็ไม่อยู่แล้ว” มาดามแพททิเซียจึงหันไปบอกมีเรียและลูก

“ยังไงวันนี้ ฉันขออนุญาตกลับก่อนนะ ถ้ายังไงก็แวะไปหาได้ที่คฤหาสน์แล้วกันนะจ้ะ มีเรียและหนูเจสสิก้า”

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***