หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมา นี่ก็ผ่านมาสามอาทิตย์แล้วครับ ผมกับมันใช้ชีวิตร่วมกันปกติครับแต่อาทิตย์แรกก็มีรู้สึกแปลกๆในใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องน่ากังวนครับ เหตุการณ์วันนั้นผมไม่คิดโทษอะไรมันเลย เพราะตัวผมเองดันหลงระเริงอารมณ์ไปกับมันด้วย ถือซะว่าเราสองคนเจ๊ากันครับ ผมก็ใช้ชีวิตเหมือนอย่างที่เคยๆทำ มันเองก็ควงคนนู้นคนนี้ไปมาไม่ซ้ำหน้าเหมือนเดิมในแต่ละวันสบายใจเชิบ แต่ผมนี่สิทุกครั้งที่มาเรียนผมต้องใส่เสื้อคอเต่าไปเรียนเกือบอาทิตย์เดินขาถางไปหลายวัน ส่วนไอ้ตัวดีอ่ะหรอเจอผมทีไรเป็นต้องแอบขำผมทุกที เหอะ! มึงไม่ใช่กูนี่หว่า
"เอออิงกูมีอะไรจะถามว่ะ แต่เอ่อ แต่ถ้าลำบากใจที่จะตอบไม่ต้องตอบกูก็ได้นะมึง"หนิงลังเลที่จะถาม ตอนนี้เราสองคนอยู่ใต้อาคารเรียน รอไอ้สามตัวที่ยังไม่มาสักที ปกติมันจะรีบพากันมานั่งส่องสาวที่คณะ แต่ป่านนี้ยังไม่เห็นหัวพวกมันสักคน
"ถามมาสิ กูตอบหมดแหละ" ผมยกขวดน้ำขึ้นมาดื่ม
"เอ่อ เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วมึงเอ่อ มึงโดนใครแทงข้างหลังมาใช่ไหมว่ะ" พรืด น้ำจากปากผมกระจายเต็มโต๊ะ
"แค่กๆ คำถามมึงนี่ ตรงเกินไปหนิง"ผมเอามือเช็ดน้ำที่มุมปาก
"แล้วมันจริงไหม กูไม่โง่แบบพวกมันหรอก เชื่อที่มึงหลอกว่ามึงจะตกบันไดจริงๆ เพราะท่าทางมันไม่ใช่" มันจ้องหน้าผมเพื่อต้องการคำตอบ
"อืม ใช่"
ปัง!
"กูว่าแล้ว เซ้นต์กูยังใช้งานได้อยู่" มันเอามือตบโต๊ะดังลั่น
"เบาๆ ก็ได้ไอ้หนิง แล้วมึงก็ไม่ต้องไปบอกใครเขาละ" ผมเอามือปิดปากมัน มันพยัคหน้าหงึกๆ ผมเลยเอามือออก
"กูจะเหยียบไว้.. ไว้ฟินคนเดียวเลย" ประโยคหลังมันพูดเบาจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ชั่งมันเถอะไม่น่ามีอะไร
"เออแล้วพวกมันยังไม่มาอีกหรอว่ะ ช้าชิปหาย" ผมก้มมองนาฬิกานี่มันใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วนะเนี้ย
"กูว่าพวกมันนี่ตายยากเชี่ยๆ พูดปุบมาปับ" หนิงมันชี้ไปหน้าอาคารเรียน ผมมองตามก็เจอไอ้ทิวกับไอ้ต้าเดินมาแค่สองคนและก็เถียงอะไรกันไม่รู้เข้ามานั่งที่โต๊ะ
"อ่ะไม่เชื่อมึงถามไอ้อิงดู" ไอ้ต้ามันพูดกับไอ้ทิวแล้วหันมาหาผม
"เดี๋ยวมึงคุยอะไรกัน แล้วทำไมเอากูไปเกี่ยวด้วย" ผมมองพวกมันสองคนอย่างงงๆ
"ก็ไอ้ต้าอะดิ มันบอกว่ามึงรู้เรื่องที่ไอ้ซันมีคู่หมั้นนานแล้วแต่ไม่ยอมบอกเพื่อน"ทิวมันบอก
"คู่หมั้น? " ผมทวนคำถามมัน
"มึงไม่รู้หรอว่ะ" ไอ้ทิวมันเลิกคิ้วขึ้นเชิงถามผม
"อืม กูไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย"ผมตอบพวกมันตามความจริง
"ได้ไงว่ะ มึงเพื่อนสนิทมันเลยนะเว้ยมีอะไรมันต้องบอกมึงคนแรกดิว่ะ" หนิงมันพูด
"มึงก็รู้แล้วหรอ"ผมถามมัน
"กูรู้พร้อมไอ้ทิวเมื่อวานไอ้ต้าบอก กูคิดว่ามึงรู้แล้วเลยกะจะมาถามมึงดู เพราะไอ้ซันมันไม่พูดหรอก ถ้ามันพูดมันพูดไปนานแล้ว แต่มึงเองก็ดันไม่รู้"หนิงตอบ
"เออกูไม่รู้มันไม่เห็นพูดอะไรให้กูฟังเลย ไอ้ต้าแล้วมึงรู้มาจากไหนว่ะ" ทำไมเรื่องสำคัญแบบนี้มันไม่เห็นบอกผมเลย ความรู้สึกจุกอกนี้มันคืออะไรกัน มันเป็นความรู้สึกโกรธหรอ น้อยใจหรอ มันคืออะไรผมเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
"รู้เมื่อสองสามวันที่แล้วอ่ะ กูเผลอไปได้ยินมันคุยโทรศัพท์ว่าคู่หมั้นอะไรสักอย่างนี้แหละ กูเลยสงสัยคู่หมั้นใครเลยแอบฟังต่อจนรู้เรื่องว่ามันมีคู่หมั้นแล้ว"ไอ้ต้ามันเองก็พึ่งรู้ไม่นานมานี้
"พวกมึงสงสัยอะไรก็ถามเจ้าตัวมันดีกว่ามันมานู้นแล้ว"ทิวมันบอก พวกผมก็มองตามสายตามันไปจนเจอไอ้ซันเดินลวงกระเป๋ากางเกงเข้ามานั่งที่โต๊ะ
"มีอะไรว่ะ ทำไมมองหน้ากูแบบนั้นกัน"มันถาม
"มึงมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่เห็นบอกพวกกูเลยสักคำถ้ากูไม่เสือกไปได้ยินมึงคุยโทรศัพท์กูคงไม่รู้"ไอ้ต้าเป็นเปิดประเด็นก่อนใครเพื่อน ในขณะที่พวกผมจ้องหน้าไอ้ซันคล้ายตำรวจเข็นความคนร้าย
"นี่มึงแอบฟังกูคุยหรอว่ะ" ไอ้ซันมันถาม
"มึงก็ตอบมาสิว่ะ"พวกมันสามคนประสานเสียงอย่างกับนัดกันมา ส่วนผมได้แต่นั่งนิ่งรอฟังมันตอบ
"เออกูมีคู่หมั้นแล้ว กูเองก็รู้มาไม่นานนี้เอง พวกมึงก็รู้ว่าช่วงนี่ใกล้สอบเราต่างอ่านต่างติวหนังสือกัน กูจะมีเวลาบอกอะไรพวกมึงล่ะ" ก็จริงอย่างมันบอกช่วงนี่พวกเราเอาแต่อ่านหนังสือกัน
"แล้วใครคือคู่หมั้นมึง แล้วจะหมั้นเมื่อไหร่"ไอ้ต้ารัวคำถามถามมัน
"ชื่อเนยเป็นลูกของเพื่อนพ่อกู รอยพวกท่านหมั้นหมายให้กูตั้งแต่เด็กๆ บอกว่ากูโตจะจับกูหมั้น แต่ไม่รู้กำหนดเมื่อไหร่ เรียนจบค่อยแต่งงานกัน"ซันมันอธิบายให้พวกผมฟัง
"อ่อเข้าใจแหละ แต่เดี๋ยวพวกมึงได้เวลาเรียนแล้ว! "เสียงหนิงมันดังขึ้น พวกผมพากันสะดุ้งตัวโย้งตามเสียงที่มันตะโกน พอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครแล้ว ตายแน่ๆ คราวนี้ พวกผมพากันวิ่งไปที่ห้องเรียน และนั้นก็มาไม่ทันอยู่ดีครับเรามาเลทสองนาทีโดนหักไปคนละสองคะแนนตามระเรียบ พวกผมเดินหน้าจ๋อยมานั่งที่
"มึงโกรธกูรึป่าวที่ไม่ได้บอกว่ากูมีคู่หมั้นแล้ว" มันถามผมเบาๆ พอได้ยินแค่สองคน
"ไม่หรอกช่วงนี้ยุ่งกูเข้าใจมึง"ผมตามมันตามตรง
"เย็นนี้แม่กูชวนมึงไปกินข้าวที่บ้าน ท่านบอกคิดถึงมึงช่วงนี้ไม่ได้เจอมึงเลย"
"เออๆ กูก็คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่มึงเหมือนกัน" นึกแล้วผมกลืนน้ำลงคอดัง อึก เปรี้ยวปากมาเลย
"เห็นแก่กินนะมึงเนี่ย"มันว่าอย่างขำๆ แล้วเอวมือมาจิ้มพุงผม
"ชิ กูแค่จะไปฝากท้องบ้านมึงแค่นี้เองไม่ได้หรอ" ผมปัดมือมันที่จิ้มพุงผมอยู่
"กูแค่แกล้งมึงเล่นน่า กินไปเถอะแต่มึงควบคุมการกินบ้างก็ดี พุงออกแล้วเนี่ยดูดิเหมือนแม่หมูเลย"ไม่ว่าเปล่ามันยังเอามือมาจิ้มพุงผมจับแขนจับขาผมไปทั่ว
"แม่หมูบ้าบออะไรของมึง พอๆ เรียนๆ " ผมบอกปัดๆ มันไป เพราะถ้าไม่บอกมันก็ลุ่มล่ามกับผมไม่หยุด
.
.
[เลิกเรียน]
"ไปอิงกลับบ้านกัน"ซันหันมาหาผม
"พูดเหมือนไปคันเดียวกันแหละ กูเอารถมา"
"เออว่ะกูลืมคิดว่ามึงมากับกู"ไอ้ซันมันยกมึงเกาหัวหัวเราะแก้เก้อ
"รถมันก็มีจะมากับมึงทำไมประสาท"ไอ้ต้ามันพูดกับไอ้ซัน
"แหม่ไอ้ต้ามึงก็น่าจะรู้ มันชอบมาด้วยกันออกจะบ่อยซันมันจะสับสนก็ไม่ผิดหรอก"ทิวมันพูดขณะที่มันก้มเก็บของที่โต๊ะ
"งั้นกูไปก่อนแล้วกัน เจอกันที่บ้านกูเลย"ไอ้ซันบอกแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกไป ตามด้วยไอ้ต้าไอ้ทิวผมหันไปมองหนิง ที่กำลังยืนหันหลังนิ่งเหมือนคนคิดอะไรอยู่
"หนิงมึงไม่กลับบ้านไง"
เงียบ
"หนิง! "
เงียบ ผมเลยเดินไปสะกิดมัน
"หนิงมึงเป็นอะไรปะ-เห้ยมึงกำเดาไหล เห้ยๆ มึงเป็นอะไรไปห้องพยาบาลไหม" หนิงมันสะดุ้งแล้วหันหลังกลับมาเสื้อนักศึกษาของมันเปอะไปด้วยเลือดกำเดา
"ไม่ต้องๆ กูคิดอะไรไปเรื่อยน่ะกลับเถอะๆ "มันยกมือขึ้นคล้ายบอกไม่เป็นไรจริงๆ อะไรของมึงว่ะคิดอะไรจนกำเดาไหน
"ไม่แน่นะ งั้นกลับบ้านได้แล้ว"ผมมองมันอย่างลังเล กลัวมันจะไปเป็นลมเป็นแล้งเอา
"สบายมากมึง ป่ะกลับบ้านกัน"แล้วมันก็เดินยิ้มออกไป จริงอย่างที่ไอ้ต้ากับไอ้ทิวที่มันชอบพูด ว่าหนิงมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือผมจะจับมันไปหาหมอดีครับ ผมเดินเกาหัวออกจากอาคารเรียนไปที่รถ
ตลอดทางที่ผมขับรถนึกถึงแต่อาหารเยอะแยะเต็มหัวไปหมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ ผมขับเข้ามาที่โรงจอดรถบ้านมัน ลงจากรถเดินไปหน้าประตูบ้านก็เจอคู่ชายหญิงที่ดูยังไงก็ไม่แก่ลงเลยสักนิดเธอคือแม่ดาว ชายที่ยืนข้างๆ ก็คือพ่อเสือ เป็นพ่อแม่ของไอ้ซันนั้นเอง
"สวัสดีครับแม่ดาว สวัสดีครับพ่อเสือ" ผมเดินเข้าไปยกมือไหว้ท่าน
"ไหนมาให้แม่กอดหน่อยสิอิงฟ้าลูกแม่"ท่านอ้าแขนรอรับผมทันที ผมไม่รอช้าเดินเข้าไปกอดท่านเช่นกัน
"อะแฮ่ม นี่คุณมาให้ผมกอดมั่งสิผมก็คิดถึงเจ้าอิงเหมือนกันนะ" พ่อเสือว่าอย่างขำๆ เดินเข้ามาลูบหัวผม ผมก็ยิ้มตอบท่านสองคน พ่อแม่ไอ้ซันก็เหมือนพ่อแม่ผมครับ ท่านทั้งสองอบอุ่นมากตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้ท่านก็ยังเหมือนเดิม
"แหม่ๆ ใช่สิผมมันไม่ใช่ลูกพ่อกับแม่หนิ เชอะ! " ไอ้ซันมันเดินมาทำน้ำเสียงเคืองๆ ใส่เราสามคน
"มาชงมาเชอะ ไปๆ กินข้าวกันน้องเนยรอแย่แล้ว"แม่ดาวพูดจบก็พาผมเดินไปที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะอาหารมีอาหารเยอะแยะไปหมดมีของโปรดผมเยอะเลย และก็จริงอย่างที่แม่ดาวพูดมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรอเราอยู่ แต่เดี๋ยวนะชื่อเนยหรอ? ก็คู่หมั้นไอ้ซันอ่ะดิ ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อแม่ดาวก็จับผมไปนั่งข้างท่านแล้วไอ้ซันไปนั่งข้างเนย
"อิงลูกคนนี้น้องเนยเป็นคู่หมั้นของเจ้าซันมัน ทำความรู้จักกันไว้นะ"แม่ดาวแนะนำให้ผมรู้จัก
"หนูเนย นี่อิงเพื่อนสนิทเจ้าซัน"
"สวัสดีเนย ยินดีที่ได้รู้จัก" ผมยิ้มนิดๆ ให้เธอ
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันอิง" เนยยิ้มตอบผม เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักมาก ยิ้มง่าย ดูเป็นกันเอง
"มาๆ เรามากินข้าวกันดีกว่าพ่อหิวแล้ว"พ่อเสือพูดเสร็จพวกเราก็ลงมือทานข้าวกิน คุยนู้นคุยนี้ไปเรื่อย บ้านนี้ไม่ถือสาอะไรครับกินไปคุยไปสนุกดีบ้านผมก็เหมือนกันจะชอบเอาเรื่องระหว่างวันมาแชร์กันว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างทำนองนี้
"อ่ะอิงของโปรดมึง"ซันมันตักผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่กุ้งมาให้ผม
"เอาใจแต่เพื่อน ตักให้หนูเนยบ้างสิลูก"แม่ดาวบอกไอ้ซัน
"เนยชอบทานอะไรคะ เดี๋ยวพี่ตักให้"
"ไม่เป็นอะไรค่ะ เนยตักเองได้"เนยหันไปยิ้มให้ไอ้ซัน ผมรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่อกยังไงไม่รู้ ทำไมแค่เห็นเขาสองคนยิ้มให้กันผมถึงรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆในใจ
"ผมขอข้าวเพิ่มครับป้านิด" ผมหันไปบอกป้านิด ป้านิดท่านยิ้มให้ผมแล้วเดินมาตักข้าวให้
"กินเก่งจังเลยลูก จานที่สองแล้ว" ผมหัวเราะแห้งๆ ให้แม่ดาวสงสัยผมจะโมโหหิวมั่งครับ
"ช่วงนี้มันเอาแต่กินครับแม่ ดูแก้มมันดิพุงมันด้วยเหมือนแม่หมูเลยฮ่าๆ " ผมมองตาขวางใส่มันทันที ใครแม่หมูว่ะ
"หุ่นกูออกจะเพอร์เฟค จริงไหมครับแม่ดาว" ผมตอกลับมันไป แล้วหันไปอ้อนแม่ดาว
"นี่ตาซันเรียกแบบนั้นได้ไง แต่อิงลูกช่วงนี้หนูก็อ้วนขึ้นจริงๆนะ อ้ะไม่ใช่ๆ ดูมีเนื้อมีหนังขึ้นจริงไหมคุณ" แม่ดาวหันไปหาพ่อเสือ เพื่อหาคนช่วย
"อ่อๆ ใช่แค่ดูมีเนื้อมีหนังขึ้นมานิดหน่อย" พ่อเสือเออๆ ออๆ ตามแม่ดาวไป
"จริงหรอครับ" ผมยกมือจับแก้มตัวเองแล้วก็เอามือลงตักข้าวกินต่อก็มันหิวนี่ครับ พวกเรากินเสร็จก็พากันไปนั่งคุยที่ห้องนั่งเล่นต่อ จนเวลาผ่านไปนานผมเลยขอตัวกลับบ้านก่อน
ในระหว่างที่ผมขับรถกลับคอนโด จู่ๆ ภาพไอ้ซันกับเนยก็แล่นเข้ามาในสมองผมภาพที่สองคนยิ้มใหกันคุยเล่นหยอกล้อกันอย่างสนุก มันทำให้ผมรู้สึกอ้างว้างเจ็บอกด้านซ้ายแปลกๆ ผมต้องดีใจกับเพื่อนรักของผมสิไม่ใช่รู้สึกเจ็บที่ใจแบบนี้ ผมสบัดหัวสองสามทีแล้วขับรถต่อ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments