บทที่2

แต่แล้วก็มีบ่าวผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาแจงข่าวร้าย

                 “ท่านขุนขอรับท่านขุน”

คุณหญิงย่าตกใจตามประสาคนแก่ผู้เฒ่า กล่าววาจาตำหนิบ่าว

         “มีอะไรหรือเจ้า เสียงดังได้ยินมาแต่โน่น”

   “คุณหญิงขอรับ…คือว่า……ว่า (ตาเหลือบมองคุณหญิง)”

     “ทัพพระยาสรรค์ยึดพระนครแล้วขอรับ”

ขุนศรีอภัยภักดิ์ตกใจ พร้อมพูดว่า

     “เจ้าว่าอันใดน่ะ หาไม่ข้าจะโบยเจ้า2ยก (80ครั้ง)”

 “ท่านได้ยินไม่ผิดแล้วขอรับ ทัพพระยาสรรค์ยึดพระนครธนบุรีขอรับ”

   “ไม่ได้การแล้ว (มองหน้าบ่าวผู้ชาย)บอกเจ้าเรืองเตรียมเรือให้ข้าด้วย”

                      “จะไปที่ใดรึเจ้า”

      “ลูกจะไปสืบข่าวคราวที่หน้าพระราชวังขอรับ”

          “ระวังตัวด้วยน่ะเจ้า เพลานี้พระนครไม่สงบ”

  ขุนศรีอภัยภักดิ์ก้าวเท้าเดิน2-3ก้าว แม่ชบาผู้เป็นเมียวิ่งไปกอดเข้าด้านหลัง

               “คุณพี่….ระวังตัวด้วยนะคะ”

   ด้วยจิตวิญญาณรักชาติ ขุนศรีอภัยภักดิ์เอามือจับมือของชบาแล้วปล่อยลง

                         “คุณพี่”

     “นี่แม่ชบา เจ้าจะร้องหาอันใด ผัวเจ้าแค่ไปสืบข่าวคราว ไม่ได้ไปตายสักหน่อย”

15บาทผ่านไป(1ชั่วโมงครึ่ง)

    ขุนศรีอภัยภักดิ์เดินขึ้นเรือนด้วยแววตาเศร้าสลด

                 “เป็นอย่างไรบ้างพ่อศรี”

     “เป็นดั่งที่บ่าวมาแจ้งขอรับ กองทัพพระยาสรรค์ยึดพระนคร หาไม่ยังบีบบังคับให้ขุนหลวงตาก(สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)ออกผนวช และสละราชสมบัติ”

                    “เจ้าว่ากระไรน่ะ”

      ท่านขุนฯยังพูดต่ออีกว่า

         “พระยาสรรค์นี่มันร้ายเหลือทน ขุนหลวงตากท่านทรงรับสั่งให้ไปปราบกบฏ แต่กลับไปเข้ากับกบฏนำทัพเข้ายึดกรุง”

               “สักวันกรรมจะตามสนอง”

   “แล้วนี่ใครจะขึ้นครองราชสมบัติต่อไปเล่า แผ่นดินมิสามารถว่างเว้นขุนหลวงได้”

       “ก็คงจะเป็นฝ่ายกบฏคนใดคนหนึ่งแหละขอรับ”

 คุณหญิงย่ากล่าววาจานุ่มนวล อ่อนหวาน

    “รู้ว่าขุนหลวงตากทรงพระสติวิปลาส แล้วฉวยโอกาสยึดพระราชบังลังก์ คิดทรยศต่อแผ่นดิน ทั้งๆที่ครั้งพม่าบุกกรุงศรีอยุธยาท่านก็ทรงขับไล่ศัตรูออกจากแผ่นดินจนหมดสิ้น สักวันกรรมจะตามสนอง”

แม่ชบาพูดแทรกว่า

     “นั่นสิเจ้าคะ ตัวเป็นถึงพระยา แต่ทำตัวต่ำๆทรามๆ ไม่สำนึกพระมหากรุณาธิคุณที่ขุนหลวงท่านมีไว้กับตนเอง คนเยี่ยงนี้ไม่ช้าไม่เร็ว กรรมที่กระทำจะคืนสนอง”

      “แล้วนี่ สมเด็จเจ้าพระยาฯ(ร.๑) ที่ไปราชการทัพเมืองเขมร ท่านทราบข่าวยังเล่า”คุณหญิงกล่าว

      “คงจะไม่แหละขอรับ เรื่องเพิ่งเกิดตอนตะวันขึ้นเอง”

ณ เมืองเสียมราฐ เขมร

    สมเด็จเด็จเจ้าพระยา (ร.๑) มีจิตใจร่าเริง ดีใจ เพราะสามารถยกทัพตีเมืองเสียมราฐได้สำเร็จ อีกใจหนึ่งมีความทุกข์ที่เห็นชาวเมืองเดือดร้อนแสนยากลำบาก ต้องกินน้ำโคลนจากศึกสงคราม แลเห็นไปทั้วเมืองเต็มไปด้วยบ้านผุพัง บ้านไม้ริมฝั่งน้ำโดนน้ำกัดเซาะจนเหลือแทบโครง

       “ข้าสงสารชาวบ้านชาวเมืองที่ต้องโดนภัย แต่ทำอย่างไรได้ เพื่อความเจริญ และสื่อถึงอำนาจของธนบุรี ข้าย่อมทำได้เสมอ”

   แต่แล้วได้มีนายทหารผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาเฝ้า

          “เจ้าเป็นอันใดรึ หรือว่าข้าศึกมันมาบุกเรากลับ”

  เสียงของสมเด็จเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยความแกร่งกราจชายชาติทหาร

            “ไม่ใช่เรื่องสงครามขอรับ”

                “แล้วเรื่องอันใดเล่า”

         “พระยาสรรค์ร่วมกับกบฏยึดพระนคร ปล้นพระราชบัลลังก์ขอรับ”

          “เจ้าว่าอันใดน่ะ ไม่ได้การแล้ว”

สมเด็จเจ้าพระยาสั่งทัพกลับธนบุรีโดยกระทันหัน

ฝ่ายกบฏและพระยาสรรค์ มีความสุขสบายในพระราชวัง สภาพขุนหลวงตากสินในขณะนี้คงเทียบได้กับเชื้อพระวงศ์บ้านพลูหลวง ถึงแม้จะเคยมีอำนาจในกำมือ แต่ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง พระยาสรรค์ให้คำมั่นสัญญากับพระยาสุริยอภัยซึ่งเป็นหลานของสมเด็จเจ้าพระยาฯว่าจะรั้งเมืองธนบุรีไว้เพื่อให้สมเด็จเจ้าพระยาฯกลับมาครองสืบไป แต่กาลต่อมาได้ปล่อยตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามซึ่งเป็นพระนัดดาของขุนหลวงตากพร้อมกับขุนนางฝ่ายขุนหลวงตากมาสู้กับพระยาสุริยอภัย ฝ่ายพระยาสุริยอภัยเกิดสงสัยว่าทำไมไม่เป็นไปดั่งสัญญา อาจเป็นไปเพราะครั้งนั้นพระยาสรรค์อาจจะยังไม่รับรู้ถึงกำลังทัพของพระยาสุริยอภัย จึงจำเป็นต้องยอมอ่อนน้อม แต่พอได้เห็นศักยภาพทัพของพระยาสุริยอภัย จึงฉุดคิดได้ว่าพอสามารถต่อสู้ได้ จึงตัดสินใจที่จะสู้ ถึงแม้จิตใจจะยอมอ่อนน้อม แต่ยังมีเสี้ยวเล็กๆยังคิดกบฏ

              เหตุการณ์จะเป็นเช่นไรต่อไปนั้น กรุณาติดตามชมตอนต่อไปขอรับ

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!