“อือ อ๊ะ อ๊ะ! จะเสร็จอีกแล้ว” ฉันร้องครางเสียงกระเซ่าเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถึงจุดหมายอีกครั้ง
ตอนนี้ฉันหันหน้าเข้าหาโขดหินโดยมีพี่โฟนยืนประกบอยู่ด้านหลัง ฉันเสร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง ต่างจากพี่โฟนที่เหมือนจะยังไม่เสร็จในครั้งที่แล้ว
“อ่าา กูด้วย”
เพี๊ยะะ เพี๊ยะะะ!!
ฝ่ามือหนาฟาดลงมาที่ก้นของฉันแรง ๆ สองสามครั้ง บวกกับขยับเข้าออกเร็วขึ้นและแรงขึ้น ก่อนที่ร่างของฉันจะกระตุกสั่น และเสียววาบที่หน้าท้องเมื่อจู่ ๆ ท่อนเอ็นก็ถูกดึงออกไปพร้อมกับฉันที่เสร็จสมอีกครั้ง
น้ำอุ่น ๆ ถูกรีดใส่แผ่นหลังของฉันจนฉันสัมผัสได้
จากนั้นฉันก็เอนตัวโน้มไปหาโขดหินที่เกาะไว้ทันที หมดเรี่ยวแรงแล้ว ต่อให้ฉันต้องกอดโขดหินเอาไว้แบบนี้ฉันก็ไม่อาย
“ไปล้างตัวหน่อยก็ดี เดี๋ยวกูไปหยิบเสื้อผ้าให้” ก็แหงแหละว่าต้องเป็นเขาไปเอา ห้อยไว้สูงขนาดนั้นส่วนสูงแบบฉันจะเอื้อมถึงได้ยังไงกัน “ไปสิ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังดึงกางเกงในของฉันให้มันกลับมาอยู่ในสภาพเดิม สภาพที่ปกปิดส่วนนั้นเอาไว้
“พูดมาก พี่ไปเอาชุดแยมมาเดี๋ยวนี้เลย”
“ก็กำลังจะไปเอานี่ไง”
“ก็ไปสิ”
“ค้าบบบ” นั่นเป็นเสียงตอบรับสุดท้าย พร้อมใบหน้าที่ทะเล้นกวนประสาทฉัน พี่โฟนตอบกลับฉันจากนั้นเขาก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่แขวนเอาไว้
ฉันไม่ลงไปล้างตัวในน้ำอีกรอบแบบที่พี่โฟนบอกหรอกนะ ไหน ๆ ก็จะกลับบ้านแล้ว กลับไปอาบน้ำทีเดียวดีกว่า
“เป็นไง หลังถลอกไหม?”
“นี่!” มันเป็นคำถามที่ไม่ควรถามเท่าไหร่ใช่ไหมละ ฉันก็คิดว่าอย่างงั้นแหละ
“ก่อนเอาร้องเหมือนกับหลังจะถลอกตาย ตอนเอาก็ร้องครางเสียงหลง หลังเอายิ่งร้ายทำหน้าตาดุใส่อย่างกับหมาบ้า”
ร่างสูงทำบ่นเอือมระอาฉัน ตัวเขากำลังใส่กางเกงนักศึกษาขายาวอยู่ ส่วนฉันก็ไม่ต่างกัน ฉันถอนเสื้อของเขาพาดไว้กับโขดหินแล้วล่ะ เปลี่ยนเป็นใส่ชุดของตัวเองแทน
“ก่อนหน้านี้ยังสารภาพรักอยู่เลย พอเสร็จก็ทำเป็นบ่นเป็นว่า”
“อะไรนะ?”
“อะไร แยมพูดอะไรเกี่ยวกับพี่ด้วยเหรอ?” ฉันตีหน้าซื่อ เดินผ่านเขาเพื่อจะขึ้นฝั่งไปใส่รองเท้า โดยมีพี่โฟนตามมาติด ๆ
พี่เขาโรแมนติกได้ไม่นานเลยสักนิด
“ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว ว่าแต่.. เฮ้อออออ ทำไมรู้สึกสบายตัวอย่างนี้ว่ะ ได้ผ่อนคลายแล้วแฮปปี้ว่ะ” พี่โฟนวิ่งเข้ามากอดคอของฉันเอาไว้แล้วเดินไปที่รถด้วยกัน โดยที่เขาไม่ใส่เสื้อตามเดิม
“อะไรของพี่อีกเนี่ย.. เสื้อก็ไม่ใส่”
“ก็ให้หมาใส่ไปแล้วไง มันเปียกไม่รู้เหรอจ๊ะ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังโน้มลงมากัดหูของฉันอีกด้วย ยอมรับแหละว่าขนลุกมาก
แต่ก็พยายามแสดงท่าทางออกมาให้ดูปกติที่สุด
“เหอะ”
“นี่ อย่ามาทำเย็นชาใส่แบบนี้นะ ได้กูแล้วทิ้งว่างั้นสิ ผู้หญิงสมัยนี้แม่ง ร้ายกาจจริง ๆ!”
“พี่นั่นแหละจะทิ้งแยม!” ฉันหันมาประจันหน้าพี่โฟนแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันโดยที่ฉันตอนนี้พิงอยู่กับรถยนต์ของเขา แล้วมีพี่โฟนยืนอยู่ด้านหน้า
“โน ๆ กูได้แล้วไม่ทิ้งเว้ย ทิ้งก็เสียของหมดดิ อย่างน้อยก็....” เขาเว้นวรรคแล้วมองฉันด้วยสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า “ขอกินให้อิ่มหน่ำใจก่อนก็แล้วกัน”
“กลับบ้านเถอะ แยมอยากอาบน้ำแล้ว”
อยากจะกรอกตามองบนให้เขาจริง ๆ ฉันคิดว่าเขาจะมีคำพูดที่ดีกว่านี้นะ แต่เปล่าเลย!
ทำไมฉันต้องมารอคำพูดดูดีจากคนปากหมาแบบพี่โฟนกันนะ
รู้สึกน้อยอกน้อยใจเหมือนกันแฮะ ที่พี่โฟนพูดออกมาราวกับว่าฉันเป็นแค่ของเล่นของเขา
อย่างน้อยก็กินให้อิ่มเหรอ? เอาซี้ ฉันก็จะกินเขาให้อิ่มบ้าง จะได้ไม่ต้องมีใครเสียเปรียบ!
ฉันพาตัวเองเข้ามานั่งในรถ จากนั้นพี่โฟนก็เข้ามานั่งบ้าง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสิ่งของบางอย่างจากเบาะหลังมา มันคือถุงกระดาษที่น่าจะบรรจุของบางอย่างไว้ในนั้น
เสื้อยืด?
“โห้..! นี่พี่เตรียมพร้อมมากเลยนะ ขนาดเสื้อพี่ยังเตรียมมา!” ฉันรีบพูดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นพี่โฟนหยิบเสื้อมาใส่ต่อหน้าต่อตา
ว่าเขาเตรียมพร้อมตั้งแต่กางเกงว่ายน้ำแล้วนะ นี่ยังมีเสื้อยืดที่เตรียมมาเปลี่ยนอีก ร้ายไม่เบาฉันตกหลุมให้กับแผนของพี่โฟนเข้าเต็ม ๆ
“ใครเตรียม ไม่มี๊! อันนี้เขาเรียกเสื้อฉุกเฉินต่างหาก”
“เชื่อก็บ้าเล่า..”
“ไม่เชื่อก็ได้.. รู้ไหมแผนล่อลวงนี่คิดมานานแค่ไหน ตอนแรกว่าจะพามาเปิดซิงทีนี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไร ครั้งที่สองกันที่นี้ก็โอเค” พี่โฟนพูดพร้อมกับเริ่มเคลื่อนตัวรถเล็กน้อย เตรียมจะกลับบ้าน
เดี๋ยวนะ!! แผนล่อลวง!?
“พี่โฟน!” ฉันหันไปวีดเขาแล้วทำหน้าขุ่นมัวท่าทางไม่พอใจใส่ ก็แหงแหละค่ะ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องพูดออกมาหมดทุกอย่างก็ได้
“ค้าบบบบบ” พี่โฟนหันมาขานรับ ไอ้คำว่าค้าบของเขานี่มันช่างมีอิทธิพลต่อหัวใจฉันมากเหลือเกิน แค่ค้าบคำเดียวก็ทำใจฉันเต้นแรงซะแล้ว
“อะ อ๋อ!.. งั้นสิ่งที่พี่สารภาพมาก่อนหน้านี้ก็คงเป็นแค่หนึ่งในแผนล่อลวงของพี่สินะ”
“อันนั้นความรู้สึกจริง ๆ เว้ย อย่าเอามาผสมกันดิ”
“เออ แล้วไป..” ฉันหันใบหน้าไปอีกทาง ยิ้มอย่างพอใจที่ได้ยินคำตอบนั้น
ท่าทางพี่โฟนจะแอบมองฉันด้วยย เขาถึงได้พูดประโยคนี้ออกมา
“นี่หลอกเอาคำกูเหรอ? ร้ายกาจนักนะแยม!”
“ขับรถไปเลย!”
.
.
เราสองคนมาถึงบ้านในเวลาต่อมา คงจะแปลกน่าดูที่วันนี้เราสองคนกลับบ้านพร้อมกัน อีกทั้งร่างกายยังคงเปียกอีกต่างหาก
ไม่รู้ว่าถ้าโดนถามพี่โฟนจะแถว่ายังไง?
“ไปทำอะไรมา” ไม่ทันที่ฉันจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ แม่ก็เอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังจะเดินผ่าน ซึงพี่โฟนเดินนำไปก่อนแล้ว และเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาก็หันกลับมาทางเดิม
“. . .” ฉันเงียบแล้วแอบมองไปทางพี่โฟน ทำนองว่าขอความช่วยเหลือจากเขา
“เล่นน้ำไง บอกแม่มึงไปดิ” พี่โฟนเอ่ยขึ้น ทำให้แม่หันหน้าไปสนใจพี่โฟนแทนฉัน ฉันเลยเดินเข้าไปยืนฝั่งเดียวกับพี่โฟน แม่จะได้ไม่ต้องหันไปมา
“เล่นน้ำ?” แม่ทวนคำถามอีกครั้งแล้วใช้สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ค่ะ”
“สองคนเหรอ?”
“ถามเซ้าซี้ทำไมอ่ะครับ พี่กับน้องไปเล่นน้ำกันแปลกตรงไหน อยากให้ครอบครัวเราสองคนเข้ากันได้ไม่ใช่เหรอ? นี่ไง เข้ากันแล้ว” ฉันอยากจะหยิกแขนพี่โฟนซะจริง พูดดี ๆ กับแม่ฉันหน่อยไม่ได้หรือไงกัน!
“. . .” แม่เงียบพลางทำสีหน้าครุ่นคิด คิดตามที่พี่โฟนพูด
“เข้า.. ออก...” เขาย้ำอีกครั้ง แต่ไปทางที่ทะลึ่งสักหน่อย แม่ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนที่เสียงเข้มของลุงฟาจะเอ่ยขึ้นมา สมทบแม่ฉันอีกที
“พูดจาเพ้อเจ้ออะไร!”
“เพ้อเจ้ออะไรแค่อธิบายให้เมียใหม่ของพ่อฟังเฉย ๆ ผมผิดเหรอ?”
“พูดกับผู้ใหญ่ให้มีมารยาทหน่อย แม่ไม่สั่งสอน!”
“ครับ แม่ตายไปก่อนเลยไม่ทันสั่งสอน” ถึงพี่โฟนจะตอบกลับทันที แต่ท่าทางเขาดูจะไม่พอใจอย่างมาก หน้าเริ่มแดงก่ำ คงเป็นเพราะว่าโดนขยี้เรื่องแม่เป็นแน่
“ไปแยม เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก” ทว่ายังไม่ลืมฉันที่ยืนข้างกาย พี่โฟนจับมือฉันต่อหน้าพ่อแม่ ก่อนจะดึงให้เดินตามเขาไป
ฉันเองก็ไม่ขัดขืน และไม่เกรงใจสายตาของผู้ใหญ่ที่มองตามด้วย ฉันรู้ว่านี่คือการปกป้องฉันแบบพี่โฟน
“งั้นก็อย่าเกินเลยคำว่าพี่น้องล่ะ!” แม่ยังไม่วายตะโกนตามหลัง แต่คำนี้มันเหมือนจะแทงใจพี่โฟน มันทำให้เขาหยุดชะงัก แล้งหันหน้ากลับไป
“ไม่รับปาก” เอ่ยประโยคนี้ออกมาอย่างกวนประสาทแล้วเดินต่อ โดยที่ไม่ปล่อยมือฉัน
่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 39
Comments