• EPISODE 17 •

หลังจากนั้นฉันก็เข้าไปเรียนตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติคือเพื่อน ๆ ต่างมองฉันกันแทบทุกคนเลย ฉันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำนั่น ผู้หญิงคนนั้นต้องเอาไปนินทาแน่

ก็ช่างมันเถอะ ยังไงฉันก็ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ยิ้มให้ใครก็ไม่เห็นจะยิ้มตอบ ไม่อยากเป็นเพื่อนกันนักก็แล้วแต่

“เฮ้ย ปากกาหมึกหมดขอยืมหน่อยดิ” ในระหว่างที่กำลังเรียนคาบของอาจารย์คนหนึ่งอยู่ จู่ ๆ เพื่อนข้าง ๆ โต๊ะฉันก็เอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา แต่ไม่ได้ขอยืมฉันหรอกนะ ขอยืมเพื่อนเขานู้น

“. . .” ซึ่งไร้เสียงตอบกลับ โต๊ะของเราแยกห่างกันน่ะค่ะ เลยไม่สามารถเอื้อมมือไปหยิบเองได้ อีกทั้งอาจารย์คนนี้ค่อนข้างดุและเข้มงวด ทำให้พวกเรานักศึกษาปีหนึ่งกลัวกันไปหมด

“แก้ว ขอยืมหน่อย” เมื่อข้างโต๊ะเธอไม่ได้เลยหันไปด้านหลัง

แน่นอนว่าไม่มีใครที่จะยื่นมาให้แน่ ถ้าอาจารย์เห็นเข้าคงโดนดุ และโดนทำโทษ

“. . .”

“เอ้า!” เธอสะบัดหัวอย่างหัวเสีย ฉันเข้าใจความรู้สึกนะคะ มีเพื่อนไว้ทำไมถ้าในยามแบบนี้ยังจะไม่ช่วยเหลืออะไรเรา

“อะ นี่” ฉันยื่นปากกาของตัวเองไปให้ โดยที่สายตาไม่ได้มองเธอเลย แต่เธอก็รับไปใช้แต่โดยดี ถือว่าช่วยเพื่อนร่วมห้องก็แล้วกันนะ

หลังเลิกเรียน ฉันรีบหารถแท็กซี่เพื่อกลับบ้านก่อนพี่โฟน ไม่อยากเจอหน้าเขาน่ะนะ หลบได้นานแค่ไหนฉันก็จะหลบให้นานเท่านั้น ไม่นานแท็กซี่ก็มาจอดเทียบตรงหน้าของฉัน พร้อมกับมือถือที่สั่นคล่อน มีปลายสายที่โทรเข้ามาเป็น ‘พี่โฟน’

ฉันเลี่ยงที่จะรับสาย แต่ทักไปบอกเขาในข้อความแทนว่าฉันกลับบ้านก่อนเขาแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้โวยวายอะไร แค่อ่านแล้วไม่ตอบ

พอกลับมาถึงบ้านฉันก็รีบเข้าห้องทันที หวังว่าจะอยู่ในห้องนี้ไม่เสนอหน้าออกมาเจอพี่เขาอีก

ทว่า...

“แม่?” กลับเจอแม่อยู่ในห้องนอนของฉัน แถมยังทำท่าเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างอีก นี่แม่ทำอะไรของแม่

“. . .” แม่เงียบแล้วยืนจ้องหน้าฉันเขม่ง เหมือนกับว่าฉันไปทำความผิดอะไรมาอย่างนั้นแหละ

“มีอะไรหรือเปล่า เข้ามาห้องแยมทำไม?” ฉันถามพลางเดินเข้าไปหาแม่ และไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องด้วย

“เมื่อวันก่อนหายไปไหนมา แม่โทรไปทำไมไม่รับ แล้วทำไมถึงกลับมาพร้อมกับโฟน.. แกไปทำอะไรมา”

“นี่คือเรื่องที่แม่บุกห้องแยมเหรอคะ?” ฉันเบี่ยงประเด็นถามแม่กลับ เพราะสมองตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะแถยังไงดี

“ตอบคำถามแม่ก่อนสิ”

“ไปนอนบ้านเพื่อนค่ะ ส่วนพี่โฟนแยมไม่รู้.. เรามาเจอกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง แยมเลยกลับบ้านกับพี่โฟน ส่วนที่ไม่รับสายแม่ก็เพราะ...”

“โกหก” ฉันยังพูดไม่ทันจบแม่ก็แทรกขึ้นมาก่อน นั่นทำให้ฉันถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่เลยละ

“. . .”

“แม่เลี้ยงแกมาสิบเก้าปี เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ว่าแกโกหก”

“แล้วแม่คิดว่ายังไงละคะ?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แล้วเดินไปนั่งบนเตียงนุ่มนิ่มของฉัน จะให้เล่าเลยมันก็คงไม่ได้ และแม่อาจไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ขั้นที่ว่าเราสองคนมีอะไรกันแล้ว

“จะยังไงก็ช่าง แต่แกกับโฟนเป็นพี่น้องกัน ยังไงก็รักกันไม่ได้เด็ดขาด!” แม่ขึ้นเสียงใส่ฉันดังลั่นห้อง สีหน้าแววตาของแม่คงจะอยู่ในหมวดที่โกรธที่สุดแล้ว

“ก็แค่พี่น้องไม่แท้”

“แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“ถ้าแยมกับพี่โฟนรักกัน มันก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่คะ เมื่อเราทั้งสองคนต่างสายเลือดกันอยู่แล้ว” ฉันไม่ได้พูดจาปั่นประสาทแม่นะ แต่ฉันพูดออกมาตามความเป็นจริง

“ไม่ได้!!!”

“ถ้างั้นแม่ก็เลิกกับลุงฟาสิคะ แยมจะได้คบกับพี่โฟน”

“นับวันยิ่งทำตัวเหลวไหล! ได้! แม่จะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับแกเอง!” แม่กัดฟันกร่อด ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ฉันถอนหายใจตามหลังของแม่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ฉันพูดไปเป็นเพราะฉันกวนแม่แต่อย่างใดนะ ฉันอ้างอิงความเป็นจริงทั้งนั้น แล้วนี่ก็ไม่รู้ว่าฉันจะหลงรักพี่โฟนหรือเปล่า? ในวันใดวันหนึ่ง

อะไรกันเนี่ย! ทำไมมีแต่เรื่องปวดหัวนะแยม!

ผ่านพ้นคืนนั้นไปได้ ดีหน่อยที่พี่โฟนไม่มาปั่นประสาทฉัน ไม่เข้ามาวุ่นวายกับฉันในห้อง มันเลยทำให้ฉันสบายใจขึ้นมานิดนึ่ง

เห็นหน้าพี่โฟน พี่โฟนต้องถามฉันแน่ว่าหลบหน้าทำไม และเมื่อคืนฉันก็ไม่มีอารมณ์ตอบกลับเขา

วันนี้ก็เหมือนเดิม ฉันไปเรียนแต่เช้าโดยไม่รอพี่โฟนเหมือนเดิม พอออกมาจากบ้านมองผ่านเข้าไปในโรงรถก็เห็นว่ารถยนต์ของพี่โฟนไม่อยู่แล้ว

หรือเมื่อคืนเขาจะไม่ได้กลับบ้านนะ?

ไม่นานนักฉันก็เลยมาถึงมหา'ลัย มาถึงที่นี้ก็ต้องสวมใส่หน้ากากหนา ๆ แล้วสินะ เพราะต้องอยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว สังคมที่ไม่มีเพื่อนก็ไม่โหดร้ายเท่าไหร่หรอกนะ

“แยม” ระหว่างทางที่ฉันกำลังเดินไปห้องเรียน ก็มีเสียงคนทักขึ้นมา เลยทำให้ฉันหันหน้าไปเผชิญกับเสียงที่เรียก

“พี่โฟน..” และเป็นเขาที่เหมือนจะมาดักรอฉันถึงที่มหา'ลัย

“หลบหน้ากูทำไม?”

“. . .” พี่โฟนถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ ส่วนฉันก็ทำได้แค่เงียบ เพราะไม่คิดว่าพี่โฟนจะมาดักรอกันถึงที่นี้

ปกติเขาไม่ได้ตื่นเช้าขนาดนี้..

“กูถาม”

“เปล่าค่ะ แยมไม่ได้หลบหน้าพี่สักหน่อย” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิด ความจริงคือฉันตั้งใจหลบหน้าเขาต่างหาก

“ก็เห็นอยู่ ทั้งที่บ้าน ที่มหา'ลัย”

“. . .”

“โกรธกูเรื่องวันนั้นเหรอ?” ร่างสูงเดินเข้ามาหาฉัน ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างยีแก้มของฉันอย่างหมั่นไส้

“เปล่า แยมจะโกรธพี่ทำไม แยมไม่ทีสิทธิ์สักหน่อย” ฉันจับมือของเขาออกเพื่อพูดอย่างน้อยใจ และฉันยังคงจับมือเขาเอาไว้อย่างนั้น ท่าทางของเราสองคนตอนนี้ ถ้าเกิดมีคนมาเห็น คงคิดว่าเราเป็นแฟนกันแน่

“ใครบอกว่าไม่มีสิทธิ์ มึงมีสิทธิ์เต็มร้อย”

“. . .” ทำไมฉันรู้สึกดีกับคำพูดเมื่อกี้จังเลยนะ มันเหมือนกับว่าฉันสำคัญต่อพี่โฟนอย่างนั้นแหละ

“ไว้กูพร้อมเมื่อไหร่ กูจะเล่าให้ฟังนะ” พี่โฟนว่าแล้วดึงฉันให้เข้าไปซบอกของเขา ด้วยส่วนสูงของฉันตอนนี้บวกกับส่วนสูงของพี่โฟนแล้ว ฉันอยู่ตรงหน้าอกของเขาพอดี

นั่นเลยทำให้ฉันได้ยินเสียงบางอย่างที่กำลังเต้นอย่างโครมครามอยู่ด้านในตัวเขา

เสียงหัวใจ...

“นี่พี่!” ฉันที่กำลังเคลิ้มกับอกอุ่น ๆ ของเขาอยู่ต้องหลุดออกจากภวังค์ เมื่อพี่โฟนโน้มใบหน้าลงมาราวกับว่าจะจูบฉันตามที่อารมณ์มันพาไป

แต่มันไม่ได้! ที่นี้มันมหา'ลัยนะ! ถ้ามีคนมาเห็นเราสองคน คงได้กลายเป็นข่าวฮอตพอดี

อันที่จริงตอนนี้ก็เริ่มมีคนสองสามคนเข้ามาแล้วนะ ฉันควรจะผละตัวออกจากพี่โฟนได้แล้ว!

“จะหลบหน้ากูอีกไหม?” พี่โฟนกำชับ

“ไม่แล้ว”

“ดีมากเด็กน้อย” พอได้ยินคำตอบของฉัน พี่โฟนก็เปลี่ยนเป็นคล้องคอฉันแทน ก่อนจะออกแรงลากฉันให้เดินไปกับเขา

ทำไมฉันรู้สึกเหมือนกับเราสองคนเป็นแฟนกันเลยนะ.. ถ้าเป็นจริง....

ก็ดีสิ...

“วันนี้มาส่ง..”

“ขอบคุณค่ะ” ฉันออกห่างจากตัวของพี่โฟนเมื่อมาถึงห้องเรียนของตัวเอง ที่แท้พี่โฟนก็เดินมาส่งฉันนี่เอง

จากนั้นก็เรียนอย่างเอาเป็นเอาตายเลยแหละ ระหว่างสับเปลี่ยนคาบ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ เลยเผลอหลับไป ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วยนะ เพราะฉันตั้งใจว่าจะงีบแค่สิบนาทีรออาจารย์คนใหม่เข้ามาสอน.. สักพักมือถือฉันก็สั่นทำให้ฉันตื่นขึ้นมาและพบว่า

ทั้งห้องโล่งไม่มีคนแล้ว แต่มีโน๊ตเขียนไว้ว่าอาจารย์ยกเลิกคลาสนี้ พร้อมกับปากกาที่ฉันให้เพื่อนคนนั้นยืมเมื่อวาน

นี่คงเป็นข้อเสียของการไม่มีเพื่อนสินะ.. ก็ถ้ายกคลาสงั้นฉันก็กลับบ้านได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี้ต่อ

ฉันคิดแบบนั้นก่อนจะลุกขึ้นจัดทรงผมเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก็คงต้องไปรอพี่โฟนก่อนน่ะนะ เพราะว่าพี่เขาอาจจะเรียนอยู่

กึก! กึก กึก!!

ฉันเขย่าประตูสองสามครั้งเพราะเปิดไม่ออก และเหมือนกับว่าฉันจะโดนแกล้งเข้าแล้ว เนื่องจากมันโดนแม่กุญแจห้อยล็อคจากด้านนอก.. ถึงจะไม่ได้ล็อคจริง ๆ แต่แค่ห้อยกุญแจเอาไว้ฉันก็ไม่สามารถออกได้แล้ว

ทำไงดี... เพื่อนฉันไม่มีพึ่งใครไม่ได้แล้วนอกจากพี่โฟน

ฉันตัดสินใจโทรหาพี่โฟนในเวลาต่อมา เพราะว่าพี่โฟนคือทางพึ่งสุดท้ายของฉันแล้ว ฉันกดโทรออกทันทีอย่างไม่ลังเล และในเวลาไม่นานนักเขาก็รับสายพร้อมกับเสียงอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่

(“ว่าไง กูเรียนอยู่!”) พี่โฟนเหมือนจะดุฉันเล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่ต้องมารับสายฉันก็ได้นะถ้าเขาเรียนอยู่ แต่นี่เขาเลือกที่จะรับสายของฉัน

“พี่โฟนแยมโดนขัง.. โดนขังไว้ในห้องเรียน” ฉันรีบฟ้อง

(“ห๊ะ!”)

“ทำไงดี ไม่มีใครอยู่ด้านนอกเลย”

(“กูจะไปเดี๋ยวนี้”)

“อือค่ะ” ฉันอุ่นใจขึ้นเล็กน้อยที่พี่โฟนพูดแบบนั้น แล้วสักพักเสียงอาจารย์ในห้องของเขาก็ดังแทรกขึ้นมา

(“ ... : นักศึกษาจะไปไหน!! อยากโดนหักคะแนนหรือไง!”

“อยากหักก็หักเลยครับ ผมต้องไปหาคนสำคัญก่อน!”)

“พี่... พี่โฟน...” คนสำคัญอย่างนั้นเหรอ.. ฉันได้ยินเท่านั้นก่อนที่สายจะถูกตัดไป สักพักก็มีคนเดินมาบริเวณหน้าห้อง ซึ่งนั่นก็เป็นพี่รหัสของฉันเอง พี่ไวท์

“อ้าวเฮ้ย!” พี่เขาตกใจนิดหน่อยที่หันมาแล้วเจอฉันโดนขังอยู่ในห้อง นี่ถ้าเขามาเร็วกว่านี้ฉันคงไม่ต้องโทรตามพี่โฟนแล้ว.. “โดนแกล้งเหรอ?” พี่ไวท์ถามอย่างสงสัยหลังเปิดประตูให้กับฉัน

เขาถือวิสาสะจับแขนของฉันทันทีโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว แล้วสำรวจร่างกายของฉันด้วยสายตา

“ใช่ค่ะ..” ฉันตอบเสียงเบา

“ใครทำแยม?” พี่ไวท์ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดูเป็นผู้ชายอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา

“ไม่รู้.. แยมไม่รู้”

“เฮ้อออ.. เข้มแข็งนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้พี่เชื่อแบบนั้น” พี่ไวท์เหมือนจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา เขาเลยให้กำลังใจฉันผ่านคำพูด แล้วลูบหัวของฉันเบา ๆ อย่างเอ็นดู “เอาเบอร์พี่ไว้ไหม เผื่อมีอะไรบอกพี่ได้นะ”

“เอ่อ... ค่ะ” ฉันตอบตกลงหลังคิดเพียงแค่แปปเดียว มีก็ดีนะ ฉันจะได้ไม่ต้องรบกวนพี่โฟน ฉันก็เกรงใจเขาเป็นเหมือนกัน

“เอามือถือแยมมาสิ” พี่ไวท์ว่า ฉันเลยเอามือถือในมือยื่นให้กับเขาไป

ตึก! ตึก! ตึก!!

และมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่โฟนวิ่งอย่างหอบเหนื่อยมาพอดี

“. . .” ฉันเงียบแต่ยิ้มทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม ดีใจที่เขารีบมาหาฉันขนาดนี้ ดีใจที่เมื่อกี้พี่เขาบอกว่าฉันเป็นคนสำคัญ..

“แฮ่ก ๆ ... กูอุตส่าห์วิ่งมาแทบตาย” แต่สีหน้าพี่โฟนท่าทางจะไม่พอใจเท่าไหร่ แล้วพี่ไวท์ก็คืนโทรศัพท์ฉันมาพอดี

“พี่เขา..” เราไม่ได้แลกเบอร์กันนะ และฉันก็ไม่ได้อ่อยด้วย พี่เขาแค่ให้เบอร์ฉันไว้แค่นั้นเอง..

“เสียเวลาว่ะ!” พี่โฟนพูดอย่างหัวเสียแล้วหมุนตัวเดินกลับไป ทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมากนี่พี่โฟนต้องโกรธฉันแหงเลย

“พี่โฟน!!” ฉันตะโกนตามหลังเขา แต่ไม่วายที่จะหันไปขอบคุณพี่ไวท์แล้ววิ่งตามก้นพี่โฟนไป

เฮ้อ! ให้ตายเถอะ!!

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!