• EPISODE 16 •

พอพี่โฟนพูดออกมาแบบนั้น ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที พอเราทั้งสองคนเงียบสักพักฉันก็หลับไป ตื่นมาอีกทีก็น่าจะเป็นช่วงเวลาบ่ายคล้อย ฉันลุกไปอาบน้ำอาบท่า เพราะพี่โฟนยังนอนหลับอยู่ เสื้อผ้าก็ไม่มีใส่ ได้ใส่ตัวเดิม ที่สภาพไม่สมบูรณ์แบบแล้ว ก่อนที่ฉันจะมานั่งปลายเตียงเพื่อรอพี่โฟนตื่น

ฉันตอนนี้หิวมากเลยนะ เลยตั้งใจว่าจะสั่งอะไรมากินสักหน่อยก่อนกลับบ้าน

เดี๋ยวนะ... กลับบ้านงั้นเหรอ?

แล้วเราทั้งสองคนไม่กลับบ้านแม่จะว่ายังไงบ้างเนี่ย!

คิดได้แบบนั้นฉันก็หยิบมือถือมาเปิดดู ไม่รู้ว่าปิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และแน่นอนว่าแม่โทรมาตั้งเป็นสิบสายเลยแหละ ป่านนี้คงกังวลใจแย่แล้วมั้ง! นี่คิดภาพไม่ออกเลย ว่ากลับบ้านไปแม่จะว่ายังไงบ้าง

“พี่โฟน!!” เลี่ยงไม่ได้แล้วจริง ๆ ที่จะไม่ปลุกเขาให้ตื่นน่ะ ฉันเดินไปเขย่าร่างหนาที่นอนหลับอยู่ไปมาสองสามครั้ง ก่อนที่พี่โฟนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมา พลางดึงฉันลงไปนอนบนเตียงตามเดิม

“ปลุกแบบนี้อยากได้อะไร?” เขาถามทั้งที่ยังกอดรัดร่างของฉันเอาไว้

“ไม่ได้อยากได้อะไรทั้งนั้น แยมอยากลับบ้านแล้ว แม่โทรมาตั้งไม่รู้กี่สาย ป่านนี้เป็นห่วงแย่”

“ได้ไง.. กูยังไม่อยากกลับเลย”

“ได้ไงอะไรของพี่ ลุกไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา แรงผู้ชายนี่มันเยอะจริง ๆ เลยนะ!

“ไปตอนนี้ไม่กลัวแม่รู้เหรอ ว่าเราสองคน....”

“แยมรู้ว่าพี่แถได้เนียน!”

“อ่า.. ขอบคุณสำหรับคำชม” เขาตอบกลับแล้วค่อย ๆ คลายแรงกอดออก พลางยันตัวลุกขึ้นนั่งสะบัดผมสองสามครั้ง “เสื้อเป็นไรอะ”

“ไม่น่าถาม” ฉันจิปากตอบแล้วเดินไปหยิบเสื้อกัดหนาวสีดำให้กับเขา เมื่อวานเขาใส่มาน่ะ

“เอาไปใส่กันนมหกเถอะ” พี่โฟนปฏิเสธที่จะใส่มัน แต่เอาเสื้อผืนนั้นมาคลุมหัวของฉันแทน ส่วนตัวเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป น่าจะไปทำธุระส่วนตัวมั้ง สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพที่ดูดีขึ้นมานิดหน่อย

“ไปดิ รอไร”

“รอพี่ไง” ถามได้ ที่ฉันยืนนิ่ง ๆ รอก็เพราะรอเขานั่นแหละ จะให้ไปรอใครที่ไหนได้อีก

“งั้นไปเช็คเอ้าท์กันน้องรัก เอ้ย... ไม่ใช่ดิต้องเปลี่ยนสถานะแล้ว” ร่างสูงเดินมาเกี่ยวคอของฉันเอาไว้แล้วลากให้เดินเคียงคู่ไปกับเขา ฉันชอบโม้เม้นท์ดี ๆ แบบนี้นะ มันดูเหมือนว่าพี่เขาอบอุ่นดี ทั้งที่ปากร้ายและการกระทำเสียมาตลอด ทำอย่างกับเกลียดฉันน่ะ

วันนี้เขาเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อย..

“ถ้าพี่เปลี่ยนให้ทุกคน พี่ไม่มีเมียเป็นพันคนหรือไง”

“กูไม่ได้มั่วแบบนั้นสักหน่อย มึงเป็นคนแรกในรอบหลายปีเลยนะ มึงควรภูมิใจสิ ไม่งั้นกูไม่มีแรงเยอะขนาดนั้นหรอก ฮ่า ๆ ๆ !” งั้นพี่ก็ต้องภูมิใจมากกว่าสิ ที่เป็นคนแรกของแยมน่ะ!

ฉันคิดในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกไปให้เขาได้ยิน

“ขำไปคนเดียวเถอะ!” ฉันแกล้งทำเป็นพูดแบบนั้น แล้วเราสองคนก็ลงลิฟท์เพื่อมายังชั้นล่างแล้วไปเช็คเอ้าท์ ให้ทายพี่พนักงานเขาต้องดูออกแน่ ๆ ว่าเราสองคนผ่านอะไรกันมา!

“พี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ?” จู่ ๆ ฉันเกิดโพล่งถามออกมาในระหว่างทางที่เรากำลังขับกลับบ้าน

ไม่รู้สิ.. ฉันนึกถึงพี่คนเมื่อวานที่พี่โฟนไปส่งน่ะ

“คนไหน” พี่โฟนถามแต่สายตายังคงจ้องมองไปยังท้องถนนอยู่

“คนที่สวย ๆ ที่พี่ไปส่งเมื่อวานไง”

“อ๋อ...” แล้วก็เก็ทในคำถามของฉัน นี่คงมีสาวเยอะสิท่า ไม่รู้ฉันเป็นคนที่เท่าไหร่ในสต็อกของพี่โฟน “ทำไม เป็นเมียกูวันแรกก็หึงกูแล้วเหรอ? เก็บอาการหน่อยดิ”

“หึงอะไรกัน แค่ถามไม่ได้เหรอเห็นสนิทกันไง นึกว่าเป็นแฟนกัน แยมแค่ไม่อยากเป็นชู้” เอาจริงก็หลอกถามอะแหละ

“โถ่.. เด็กน้อย” พี่โฟนเอื้อมมือมาขยี้หัวของฉันที่นั่งข้าง ๆ

“. . .”

“อันนั้นมันก็แค่เพื่อนในคณะแค่นั้นแหละ ไม่เห็นเหรออ่อยกูขนาดนั้น แม่งเอ้ย นี่ถ้ากูเป็นคนมั่วเพศกูคงไปยำมันละ ดีหน่อยที่ได้มึงมาเป็นไม้กันหมา” ไม้กันหมาเหรอ? แต่ก็ยังดีที่ฉันเป็นไม้ไม่ได้เป็นหมาน่ะนะ

“ท่าทางเมื่อวานไม่เห็นเป็นแบบที่พี่พูดเลย” ฉันว่าแบบอิดออด

“เออน่า ไม่ใช่แฟนกู กูไม่มีแฟน มีมึงคนเดียวเนี่ย”

“. . .” ทำไมฉันถึงรู้สึกเขินกับคำพูดของพี่โฟนจัง มีฉันคนเดียวงั้นเหรอ.. นี่ฉันควรดีใจกับคำพูดของเขาไหมนะ?.

แต่ก็อย่างว่า แค่พูดใครก็พูดได้เรื่องจริงอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้

“พี่เกลียดแยมไหม?” แล้วฉันก็ถามออกมาแบบไม่คิด เพียงแค่จิตใต้สำนึกของฉันมันนึกอยู่ในหัว ฉันก็โพล่งถามออกมา

“ใครที่ไหนจะเกลียดเมียตัวเองว่ะ” ถึงคำพูดพี่โฟนจะดูห้วนไปหน่อย แต่ฉันก็รู้สึกดีนะที่พี่เขาพูดแบบนี้

มันเหมือนกับว่าพี่โฟนไม่เกลียดฉันแล้ว

“ก่อนหน้านี้...”

“เออ ก็ไม่ค่อยชอบ แต่พอได้ลองเอาดูแล้วก็ อืม.. ให้อภัย”

“นี่!”

เกือบจะไปได้สวย.. ถ้าไม่มีประโยคที่ว่าลองเอาน่ะนะ สมองของเขาคงไม่มีอะไรแล้วมั้งนอกจากเรื่องหยาบคายและเรื่องอย่างว่าเนี่ย!

“ไม่ดีหรือไง?”

“ก็ดี..” ก็แหงแหละ ปฏิเสธไม่ได้สักนิดว่ามันไม่ดี “แล้วแม่ของแยมล่ะ?”

“ก็ไม่ชอบเหมือนเดิม คือทั้งพ่อกูและแม่มึงควรปลงได้แล้วป่ะว่ะ ถึงจะต่างคนต่างไม่มีผัวมีเมียก็เถอะ แต่แม่งก็ไม่น่ามาได้กันอะ กูรู้ว่ามึงก็คงไม่ได้อยากให้พ่อแม่เรามาได้กันหรอก มึงแค่ไม่แสดงออก แต่กู กูแสดงออกไง”

“อืม..” นี่คงเป็นความในใจพี่โฟนสินะ.. ดีเหมือนกัน วันนี้ฉันกล้าถามอะไรหลาย ๆ อย่างกับเขา อะไรที่ฉันสงสัย ฉันก็ได้

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉันไม่มีทางถามเขาแน่นอน

ส่วนคำถามที่ฉันอยากรู้มากที่สุด และฉันคิดว่าโอกาสนี้แหละ! เป็นโอกาสดีที่ฉันควรจะถามเขา นั่นก็คือคำถามนี้

“รอยสักพี่มีความหมายอะไรไหม?” เป็นความสงสัยตั้งแต่ครั้งก่อน ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไมเขาต้องสักคำว่าดราก้อนเอาไว้ด้วย ฉันแค่รอโอกาสดี ๆ ที่จะถามเขาเท่านั้น

“ก็มังกรไง” พี่โฟนตอบในทางที่ค่อนข้างกวนประสาท เออฉันก็รู้แล้วม่ะว่ามัรแปลว่ามังกรน่ะ

“มากกว่านั้นอะ แบบสักเพราะไร ชื่อใคร หรือพี่ชอบมัน”

“เรื่องที่กูไม่บอกก็ไม่ต้องรู้”

“ชิ... ถามแค่นี้ก็ไม่ได้...” ฉันจิปากเล็กน้อยที่พี่โฟนไม่ยอมตอบมัน ทั้งยังทำหน้าตาเหมือนปวดท้องไม่ได้เข้าห้องน้ำมาสองสามวันแหน่ะ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ฉันไม่ได้เป็นเด็กดื้อสักหน่อย ออกจะฟังคำของเขา

“แล้ว... พี่เคยมีแฟนไหม” ฉันคิดว่านี่จะเป็นคำถามสุดท้ายจากปากฉันนะ

ช่วยไม่ได้ คนมันอยากรู้นี่!

“อืม” คนข้างกายตอบเสียงนิ่ง นั่นยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ว่าตอนพี่เขามีแฟน นิสัยจะเป็นยังไงจะอบอุ่นไหม หรือจะป่าเถื่อนแบบนี้เหมือนเดิม

“ทำไมเลิกกันล่ะ?”

“. . .” พี่โฟนเงียบ

“เพราะพี่เจ้าชู้สิท่า...” ฉันที่เห็นว่าเขาเงียบเลยคิดไปเอง ก็ท่าทางพี่เขามันดูแบดอะ อาจจะเป็นฝ่ายทำให้ผู้หญิงคนนั้นเสียใจจนต้องเลิกกันก็ได้

“. . .” และยังคงเงียบ...

“หรือเพราะ..”

“เงียบ!!” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อกำลังจะสันนิษฐานถึงสาเหตุต่อไป แต่พี่โฟนตะคอกใส่ฉันเสียงดังลั่นรถซะก่อน เป็นใคร... ใครก็คงตกใจ

“มึงจะอะไรนักหนา มันใช่เรื่องของมึงไหม?” พี่โฟนยังคงถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เล่นเอาฉันถึงกับไปต่อไม่เป็นเลย

ก็ก่อนหน้านี้ยังดี ๆ อยู่... ทำไมอารมณ์เปลี่ยนไวจังละ หรือฉันไปสะกิดอะไรในใจเขา

“อะ อืม.. ขอโทษ” ฉันพูดเสียงเบาแล้วเงียบตลอดทาง แม้ว่าจะกลับมาถึงบ้านแล้วฉันก็ยังคงเงียบ

แม่แค่มองฉันที่เดินเข้าบ้านมากับพี่โฟน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ฉันเองก็สงสัยนะว่าแม่ทำไมไม่ซักไซ้... ช่างเถอะ ยังไงก็แล้วแต่เพราะว่าฉันไม่สน แล้ว ฉันอยากขึ้นไปอาบน้ำแทบแย่

และตั้งแต่เมื่อกี้.. ฉันกับพี่โฟนก็ไม่พูดกันอีกเลย

เช้าวันต่อมาฉันก็ออกไปเรียนตามปกติ แต่ที่แปลกคือฉันไม่รอพี่โฟน เพราะฉันนั้นไม่อยากเจอหน้าเขา ชีวิตตัวคนเดียวในรั้วมหา'ลัย มันก็คงไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่หรอกมั้ง

“เธอ.. กลัวคนไม่รู้เหรอว่าทำอะไรมาอ่ะ” ฉันที่เดินเข้าห้องน้ำเพราะถึงเวลาพักเบรกหยุดชะงัก เมื่อโดนเพื่อนร่วมคลาสทักทายด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างรังเกียจ ทั้งสีหน้าท่าทางและสายตา

“อะไรเหรอ?” ฉันถามกลับอย่างไม่เข้าใจแล้วเดินไปส่องกระจกมองหาความผิดปกติของร่างกาย ก่อนจะเห็นว่าคอของฉันมันมีรอยแดงสองสามจุดติดอยู่

ไม่ต้องถามก็รู้ว่ารอยอะไร?

“เฮ้อออ โดนนินทาอีกแหงเลย” ฉันพูดกับตัวเองในกระจก ก่อนจะปล่อยผมลงเพื่อบดบังสิ่งที่พี่โฟนทำไว้

ล้างหน้าทำธุระส่วนตัวเสร็จ ฉันก็ออกมาจากห้องน้ำ เพื่อนเรียนต่อ และมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่โฟนเดินมาทางห้องน้ำกับผองเพื่อนเขา

ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขานะ!!

พี่โฟนจ้องหน้าฉันนิ่งแล้วเดินเข้ามาหาเรื่อย ๆ ฉันเลยเลือกที่จะหลบหน้าเขาโดยการที่เดินกลับเข้าไปในห้องน้ำหญิงใหม่อีกครั้ง เพื่อรอให้เขาเดินผ่านไป

ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกนอยด์เขาจัง น้อยใจที่เขาตะคอกใส่ฉันเมื่อวาน ฉันก็แค่ถามเองนะไม่อยากบอกก็ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลย

ความน้อยใจของฉัน มันยิ่งทำให้ฉันไม่อยากเจอหน้าเขา..

ก็คนมันนอยด์!!

______________________________________________

กดไลค์ คอมเม้นต์ให้กำลังใจเเอดด้วยนะคะ🥺💕✨

ฮอต

Comments

ไข่หวาน🕷🕸

ไข่หวาน🕷🕸

เมียเลยหรอ😐

2024-04-24

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!