• EPISODE 10 •

เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องหอบตัวเองมานอนห้องพี่โฟนเพราะว่าโดนเขายึดห้องนั้นไป แถมเอาของทุเรศนั่นเข้ามาไว้ในห้องฉันอีก และแน่นอนว่าฉันจะไม่อยู่ห้องเดียวกับคนแบบเขาแน่ ๆ!

ฉันเองก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันนะ ว่าจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับฉันนักหนา เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ไม่ดี

ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทันเลย

ห้องเขาก็ออกจะใหญ่กว่าห้องของฉัน สไตล์ผู้ชายเตียงนอนก็ออกจะนุ่ม ไม่รู้ทำไมวุ่นวายกับห้องของฉันจัง หรือชอบห้องนอนของฉัน?

เป็นตุ๊ด?

เอาเป็นว่าฉันนอนในห้องของพี่โฟนได้พักหนึ่ง พี่โฟนก็กลับเข้ามาทางระเบียงทางเดิม ซึ่งฉันถึงกับต้องกรอกตามองบนกับการกระทำของเขา

นี่ไม่คิดจะเหนื่อยเลยหรือไง? ทำแบบนี้สนุกมากเหรอเนี่ย?

“ทำไมไม่นอนห้องแยมต่อละ” ฉันถามพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นจากเตียงของเขาเพื่อเตรียมออกจากห้องนี้ ไม่อยากอยู่ร่วมห้อง

“อยากกลับมานอนห้องตัวเองแล้วอะ ทำไม?”

“พี่ไม่เหนื่อยเหรอปีนไปปีนมาแบบนี้อะ”

“ออกกำลังกาย” พี่โฟนตอบหน้าตายแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

ฉันถอนหายใจยาวเหยียดก่อนทำท่าจะเดินออกมาจากห้องของเขา แต่ก็ไม่วายโดนเขาเรียกเอาไว้ซะก่อน

“อย่าพึ่งไป”

“. . .”

“สังคมมหา'ลัยที่เลือกเข้า.. มันเป็นสังคมของการบูลลี่ ถ้าไม่เจ๋งจริงอยู่ไม่รอดหรอกนะแยม ยิ่งบ้านนอกไม่รู้เรื่องอะไรแบบมึงอีก กูช่วยมึงได้ถ้าเกิดมึงจะย้าย ย้ายตอนนี้ยังทัน” นี่ถึงขั้นเอาเรื่องการบูลลี่มาโกหกกันเลยเหรอพี่โฟน?

อยากจะไล่ฉันออกจากบ้านว่างั้นสิ น่าเสียดายนะที่เอาเรื่องไร้สาระมาโกหกฉัน เรื่องแบบนี้ฉันไม่เชื่อหรอกมันยากที่จะเชื่อ หรือที่เรียกว่าใครเชื่อก็โง่นั่นแหละ

ถ้าเกิดมันเป็นแบบที่เขาพูดจริง ๆ ทำไมเขาถึงยังเรียนต่อตั้งหลายปีล่ะ

“พี่ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้ ยังไงซะแยมก็ไม่ไปรบกวนอะไรพี่หรอก” พูดจบฉันก็รีบเดินมุ่งหน้าไปทางประตูเพื่อที่จะออกจากห้องของเขา เริ่มจะโมโหแล้วนะ

แกร็กกก~

“ชิ!” ฉันสบถออกมาหลังออกมาได้สำเร็จไม่มีเสียงเรียกตามหลัง แต่ก็ต้องมาตกใจสะดุ้งโหย่งเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องของพี่โฟนหน้าตาเฉย แถมมองไปตรงหน้าห้องของแม่ยังมีแม่มองฉันอยู่อีกด้วย

มองฉันที่พึ่งจะออกมาจากห้องของพี่โฟนด้วยสายตามี่ยากจะคาดเดา แล้วแม่ถึงได้เข้ามาหาฉันกระทั่งประชิดตัวฉันได้สำเร็จ

“แยม! ทำไมออกมาจากห้องโฟน!” แม่บีบแขนของฉันเอาไว้แล้วดึงเข้าไปยืนใกล้ ๆ ฟังจากน้ำเสียงที่ดุดันแล้ว คงไม่ต้องเดาเลยว่าแม่กำลังรู้สึกยังไง

“เอ่อ...” จะให้ฉันตอบว่ายังไงล่ะ? บอกว่าเราสองคนเล่นสลับห้องกันไปมาอย่างนั้นน่ะเหรอ หรือจะบอกว่าไปขอยืมอะไรจากห้องพี่โฟนมาดี

แต่เราสองคนก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกันสักนิดเดียว

“ทำอะไรผิดผีกันมาใช่ไหม!!” แม่ทำตาลุกวาวกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา

นี่แม่เห็นฉันเป็นคนยังไง ไม่คิดจะถามหาเหตุผลอื่นเลยหรือไง

“มะ แม่! ไม่ใช่สักหน่อยนะแม่” ฉันรีบปฏิเสธ ส่ายหัวระรัวกับสิ่งที่มันไม่ใช่เรื่องจริงแม้แต่นิดเดียว

ทว่า.. แค่มองหน้าแม่ฉันก็รู้แล้วว่าแม่ไม่มีความเชื่อใจฉัน แม่เริ่มบีบแขนของฉันแรงขึ้นอีกครั้งจนรอบนี้ฉันเจ็บขึ้นมาอีกเท่าตัว

“แยม!!” ผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเบิกตากว้างบังคับจะเอาคำตอบจากฉัน

“โอ้ยยย แม่ ๆ”

“มานี่เลย!”

แม่ลากฉันเข้าไปในห้องทำงานที่มีลุงฟานั่งทำงานอยู่ ลุงฟาหันมามองฉันกับแม่สลับกันทันทีที่ฉันมาถึงในห้อง

“แม่คงต้องบอกเรื่องนี้กับลุงฟา!” สิ้นคำพูดของแม่ลุงฟาก็วางมือจากงานที่ทำมาสนใจเราสองแม่ลูกทันที

ฉันไม่เข้าใจแม่เลยว่าจะทำเรื่องเล็กแค่นี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไหม? จะให้ฉันกับพี่โฟนผิดผีกันให้ได้

“เรื่องอะไรเหรอคุณ? ถึงได้ลากลูกเข้ามาแบบนี้ ใจเย็น ๆ ก่อนก็ได้” ลุงฟาพูดด้วยเหตุผล

“ไม่ได้แล้วค่ะ ลูกฉันทำผิดผี” คำก็ผิดผีสองคำก็ผิดผี แม่จะอะไรนักหนา!

“หืม?”

“ทำไมแม่ไม่ถามแยมก่อนบ้างว่าสิ่งที่แม่คิดน่ะมันใช่แล้วเหรอ!!?” ฉันแกะมือของแม่ที่บีบฉันเอาไว้ออกด้วยความโมโห

“ถามแล้วแกจะยอมรับความจริงไหม!?”

“กะ...” ฉันเก็บคำพูดจองตัวเองกลืนลงคอ รู้ว่าพูดอะไรไปตอนนี้มันก็คงจะฟังไม่ขึ้นสำหรับแม่ แต่ฉันเชื่อว่าลุงฟาเป็นคนมีเหตุผลพอ และคงจะพอที่จะเข้าใจว่าเรื่องนี้ที่แม่พูดไม่เป็นความจริง

“แยมออกมาจากห้องของโฟน ซึ่งฉันไม่ทราบหรอกค่ะว่าเขาสองคนทำอะไรกันในนั้น ก็อย่างว่านะคะหญิงชายอยู่ด้วยกันสองคนในห้อง มันจะคิดเป็นอะไรไปได้ ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องเลย"

“ลุงฟาจะเชื่อแม่เพราะแค่แม่พูดแค่นี้ก็ตามใจนะคะ” ฉันรีบแทรกหลังแม่พูดจบ แม่หันมาแยกเคี้ยวใส่ฉันหันทีแล้วถึงจะหันกลับไปทางลุงฟาเหมือนเดิม

“เชื่อเลยครับ เชื่อเลย”

“ ? ”

ฉันต้องงงเป็นไก่ตาแตกอีกครั้ง เมื่อจู่ ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามาภายในห้อง ซึ่งเขาคนนั้นก็คือพี่โฟน โดยที่ฉันไม่รู้เลยว่าเขามาแอบฟังตั้งแต่ตอนไหน

แล้วมาฟังนานหรือยัง

“ตาโฟน..”

“ทำไมล่ะครับ? ตรงไหนที่เรียกว่าผิดผี? ถ้าเป็นตรงที่ผมกับแยมยังไม่ได้แต่งงานกันแล้วอยู่ห้องเดียวกันเนี่ย.. ไม่น่าจะคิดมากนะครับ เพราะคุณพ่อผม ท่านเป็นคนบอกเองว่านี่น้องสาวผม คงไม่แปลกมั้งที่พี่กับน้องจะเข้าออกห้องนอนของกันและกัน?” ฉันรู้สึกว่าพี่โฟนเป็นฮีโร่ก็วันนี้แหละ พี่โฟนได้พูดสิ่งที่ฉันอยากพูดไปหมดแล้ว “อย่าทำการกระทำที่มันย้อนแย้งคำพูดนักเลยครับ”

“. . .”

“ถ้าไม่มีอะไรมันก็ดี แค่ไม่อยากให้ทั้งสองคนเกินเลยกันและกันเท่านั้นเอง” ทีงี้แม่พูดอ่อนข้อขึ้นมาเชียวนะ

“ครับ ไม่มีหรอก” ตัวร้ายอย่างพี่โฟนหันหน้ามามองฉันพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ท่ามกลางสายตาของลุงฟาและแม่

ฉันว่าท่านทั้งสองคนจะไม่ไว้ใจก็เพราะแบบนี้แหละ!

“กลับเข้าห้องไปแยม ไม่มีอะไรที่ต้องคิดมาก เราเป็นพี่น้องกัน.. ไม่แท้” คำว่าไม่แท้พี่โฟนแค่ขยับปากพูดแต่ฉันพอจะจับใจความได้ว่าเขาพูดว่าอะไร

“ค่ะ” ฉันขานรับและกำลังจะเดินกลับ จังหวะนั้นแม่ก็กระซิบบางคำให้กับฉัน

“ทำอะไรระวังหน่อย แม่เป็นห่วง”

“ค่ะ”

เข้าใจความหวังดีของแม่นะคะ อยากจะให้มันมีเหตุผลมากกว่านี้อีกเสียหน่อยนี่เล่นไม่ฟังกันเลย นั่นแหละ ฉันตอบรับแค่นั้นแล้วก็รีบเดินกลับเข้ามาในห้องทันที

คราวหลังต้องระวังตัวมากกว่านี้แล้ว ใจจริงไม่อยากจะให้พี่โฟนปีนข้ามไปข้ามมาแบบนี้อีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คนอย่างเขามันเอาแต่ใจ

เดี๋ยวนะ! นี่อีพี่โฟนมันยังไม่เอาของ ๆ มันกลับไปอีกเหรอเนี่ย!

ก๊อก ๆ ๆ!

“ใคร?” ฉันหลุดออกจากภวังค์เมื่อมีคนมาเคาะประตู ฉันไม่ไปเปิดก็พอจะรู้ว่าใคร

“กู” ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเขาอย่างที่คิด

“มาก็ดี!” มาเคาะประตูขนาดนี้ก็ควรจะเอาของตัวเองกลับไปซะ “เอาของของพี่กลับไปเลยนะ!” ฉันเดินไปหยิบของ ๆ พี่โฟนที่เอามาวางไว้บนเตียงของฉัน แล้วคืนเขาไป “ของทุเรศ”

“เฮอะ!”

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!