ฉันรู้สึกอารมณ์ดิ่งลงเหวมากกับสิ่งที่พี่โฟนทำกับฉัน กลายเป็นว่าข้าวเช้าที่กำลังกินอยู่มันไม่อร่อยไปเลย พอพี่โฟนเดินออกไปฉันก็นั่งลงตามเดิม เพิ่มเติมคือกำหมัดในมือตัวเองแน่น
ที่จริงแล้วเขาคิดจะทำอะไรกันแน่! แค่อยากให้ฉันกับแม่เลิกยุ่งกับพ่อเขาหรือว่ายังไง ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้
นี่ฉันมีเรื่องต้องปวดหัวแต่เช้าเลยเหรอเนี่ย!!?
ถ้าอยู่ที่นี้นานไป มีหวังสักวันหนึ่งฉันคงเป็นประสาทตามคนบ้านนี้แน่ ๆ คอยดูเถอะฉันจะหาทางทำลายคลิปพวกนั้นออกให้หมด!
เช้าวันนี้ถึงแม้จะเป็นเช้าที่แสนปวดหัว แต่สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องไปมหา'ลัยอยู่ดี แถมยังต้องไปคนเดียวอีกด้วย เฮอะ ก็ดีแหละไม่ต้องเจอหน้าใครบางคนก็ดี มาคนเดียวสบายใจกว่าเยอะไม่เห็นจะต้องง้อเลย!
แต่กว่าจะมาถึงมันก็จะช้าหน่อย เพราะรถติดมาก ฉันมาถึงคนก็เต็มคณะไปหมดแล้วด้วย ฉันเลยได้คิวท้าย ๆ สำหรับการทำกิจกรรมรายงานตัววันนี้
เพื่อนก็ไม่มี อยากจะหาเพื่อนแต่ก็ไม่กล้าทักใครก่อนอีก TT
“อ้าววววว น้องง น้องนี่ใช่คน... นั้นป่ะ” ฉันถูกทักทายเมื่อคิวเข้าแถวลงทะเบียนถึงฉันที่ต้องเซ็นต์ลงทะเบียนพอดี
คนที่ทักคือผู้ชายร่างสูงหนามีหนวดเคราหน้าตาค่อนข้างดี หน้าตาคุ้นอีกต่างหาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพื่อนพี่โฟน.. คนที่คอนโดเมื่อวันนั้น
“. . .” ฉันแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบเซ็นต์ชื่อให้มันเสร็จ ๆ ทว่าปากกาเจ้ากรรมดันเขียนไม่ออกซะงั้น
“ถามไม่ตอบนี่ใช่ใช่ป่ะ?”
เหมือนพี่เขาจะไม่ปล่อยฉันไปง่าย ๆ นะ ขนาดฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะยืมปากกาของใครสักคน พี่เขายังจ้องหน้าฉันอยู่ แถมรุ่นพี่คนอื่นก็พลางจ้องหน้าฉันไปด้วย
“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ พี่คุยกับแยมเหรอคะ?” ฉันก็เลยแสร้งทำหน้าตาไร้เดียงสาใส่พี่เขาซะเลย
“ช่างเถอะ” แล้วพี่เขาก็เดินไป บทจะง่ายก็ง่าย สงสัยจะขี้เกียจอธิบายเต็มทน
“พี่มีปากกาไหมคะ ปากกาแยมไม่ออก”
“อ่ะ” พี่ผู้หญิงคนหนึ่งยื่นปากกามาให้กับฉัน ฉันรีบรับมาเซ็นต์ทันที
วันทั้งวันมันก็เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายของฉันแหละค่ะ ฉันเป็นฝ่ายรอเพื่อนเข้าหา ส่วนทางมหา'ลัยก็ได้แจ้งถึงกำหนดการต่าง ๆ พวกรับน้องอะไรพวกนั้นซึ่งกว่าจะได้เรียนจริง ๆ ก็ใช้เวลาอีกสองถึงสามวันเลยทีเดียว
สรุปเลยวันนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เขาให้ทำอะไรฉันก็ทำแบบนั้น แล้วนี่กลับบ้านไปก็ต้องไปเตรียมตัวมารับน้องพรุ่งนี้อีก ต้องมาทำกิจกรรมสายรหัสอะไรพวกนั้นอีกด้วย
แม้ว่าฉันจะไม่อยากทำ แต่ก็ต้องเพื่อที่จะได้ไม่เป็นการปิดกั้นตัวเองมากเกินไป
“เฮ้ย!” ฉันหันไปตามเสียงตะโกนเรียก ก่อนจะพบเข้ากับใครบางคนที่กำลังคร่อมมอเตอร์ไซต์ราคาแพงอยู่ ไม่ใช่ใครเลยนอกจากคนโรคจิตคนเมื่อเช้า “กลับไง”
“. . .” พี่โฟนถามฉันที่กำลังยืนรอรถอยู่แถวป้ายรถเมล์ ฉันเรียกแท็กซี่ไว้แล้วแหละ ก็เลยไม่อยากตอบเขาเพราะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเขาเลย!
ฉันทำเป็นไม่ได้ยินแล้วรีบหยิบหูฟังมาใส่หูแม้ว่าจะไม่ได้เปิดเพลงก็เถอะ
หมับบบ!!
“นี่!”
“เอ๊ะ!” พอฉันไม่ตอบเขาเขาก็เข้ามาดึงสายหูฟังของฉันออกแล้วจับแขนของฉันแรง ๆ จนฉันเผลอตกใจ
“ลืมเอาปากมาเหรอ?” พี่โฟนถามอย่างยียวนกวนประสาท ยกคิ้วขึ้นข้างเดียวอีกด้วย คิดว่าตัวเองหล่อมากมั้ง!
“เอามา แค่ไม่อยากตอบ”
“เป็นเด็กเป็นเล็กทำเป็นหยิ่งไปได้นะน้องสาว”
“พี่แก่กว่าแยมสักกี่ปีกัน ถึงได้มาบอกว่าแยมเป็นเด็ก ถ้าพี่อยากจะแก่จนตัวสั่นเนี่ยไม่ต้องทำอะไรมากเลยนะ แค่นี้พี่ก็มีงูออกมาบนหัวเล่า!” ไม่ต้องถามหรอกนะว่าฉันกล้าพูดแบบนี้ได้ไง
ที่นี้คนเยอะน่ะค่ะก็เลยกล้าพูด พี่โฟนคงไม่กล้าทำร้ายร่างกายฉันต่อคนมากหน้าหลายตาหรอก
“ฮึ.. จะไปด้วยไหมล่ะ ไม่อยากเห็นเด็กบ้านนอกมายืนตากแดดรอรถ” พี่โฟนว่าแล้วมองไปทางพระอาทิตย์ที่กำลังแดดจ้าเลยค่ะ ตอนนี้ก็ร้อนจริง ๆ น่ะแหละ พึ่งจะสี่โมงกว่าเอง
“ไม่รบกวนดีกว่า แยมเรียกรถไว้แล้ว” ฉันชี้นิ้วไปทางรถแท็กซี่ที่เข้ามาจอดพอดี
“เค๊ แล้วแต่” พี่โฟนไหวไหล่แล้วปล่อยแขนฉันออก ฉันรีบเดินไปขึ้นรถทันทีหลังจากเป็นอิสระ ไม่อยากอยู่กับคนแบบพี่โฟนนาน ๆ ไม่รู้ว่านาทีไหนอารมณ์เขาจะเป็นยังไงบ้าง
ยิ่งกว่าไบโพร์ล่าก็พี่โฟนอะแหละ เหมือนจะดีก็ไม่ดี เหมือนจะไม่ดีก็ดี
ไม่นานฉันก็กลับมาถึงบ้าน และพอมาถึงฉันก็มุ่งตรงกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเองทันที โดยที่พี่โฟนน่าจะถึงบ้านนานแล้ว เห็นรถจอดอยู่
แกร็กก~
“พี่โฟน! มาทำอะไรห้องแยมอีกเนี่ย!?” ฉันวีนขึ้นมาทันทีหลังเปิดประตูห้องแล้วพบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญนอนอยู่บนเตียงของฉัน พร้อมกับมีของวางตรงหน้า
ซึ่งฉันไม่รู้ว่าคืออะไร แต่มันเป็นสีชมพู
“เอาของมาอวดเฉย ๆ ถ้าถูกใจอยากได้ก็เอาไปเลย”
“ของอะไรของพี่ แยมไม่เห็นจะรู้จักเลย?” ฉันว่าพลางเดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อที่จะหยิบมันขึ้นมาดู แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคืออะไร ก็เลยวางมันลงที่เดิมแล้วยืนจ้องหน้าเขาแทน
“ไข่สั่น”
“ห๊า!” เดี๋ยวนะ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง แต่ชื่อของมันฉันพอจะรู้จักอยู่นะเว้ย!
“ทำไม?”
“พี่โฟน! พี่อย่ามาทุเรศกับแยมนะ พี่ออกไปจากห้องแยมได้แล้ว ออกไป! ถ้าไม่งั้นแยมจะเรียกให้คนมาช่วย!”
“บ้าป่ะ ไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย”
“แล้วพี่เอามาอวดแยมทำไมล่ะ!”
“ก็อุตส่าห์ซื้อมา แถมยังไม่ได้อวดใครเลย นึกขึ้นได้ว่ามีน้องสาวเลยเอามาอวด” ความคิดของพี่โฟนนี่สาบานไหมอะว่ากลั่นออกมาจากสมองของเขาแล้ว
“เก็บของพวกนี้กลับห้องพี่ไปนะ” ฉันเท้าเอวมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
“ขอนอนเล่นในห้องนี้ก่อนไม่ได้หรือไง”
“จะมานอนเล่นอะไรในห้องของแยม!” แถมยังเอาของพวกนี้มาอีกด้วย ไม่รู้เลยว่ทพี่โฟนเข้าห้องฉันทางไหน ระเบียงห้องฉันก็มั่นใจว่าตัวเองล็อคแล้วนะ!
“แอร์เสีย”
“มุกเก่า”
“มีคำถาม อยากจะถามว่าน้องเป็นไงบ้างวันนี้ สนุกไหม? มีเพื่อนหรือยัง” มาไม้ไหนของเขาอีกเนี่ย เมื่อเช้ายังอารมณ์ไม่ดีใส่ฉันอยู่เลยนะ อีกอย่างคือ
ปลอม! ดูออก!!
“เฉย ๆ แยมจะมีเพื่อนหรือไม่มีเพื่อนมันเกี่ยวไรกับพี่ล่ะ?” ฉันยอกย้อน
“นอนดีกว่า”
“ไปนอนห้องตัวเองซี้!! จะมานอนที่นี้ทำไมกันเล่า”
“อยากนอนนี่” พี่โฟนพูดอย่างเอาแต่ใจแล้วเก็บของใส่ถุงสีขาว ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงแบบไม่สนโลก
“. . .”
“งั้นแยมไปนอนห้องพี่ก็ได้! ชิ!” แลกห้องกันเลยไหมล่ะ!?
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 39
Comments