พลังลมปราณจุดระเบิดเซวียและตันเถียนหรือ ทุ่งหญ้าเส้นลมปราณแผ่คลุมไปทั่วทุกส่วนของร่างกายเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวทั้งภายนอกและภายในจุดเซวียกระจายอยู่ตามตำแหน่งต่างๆของเส้นลมปราณ
ตันเถียนหรือทุ่งฝึกมีอยู่ 3 แห่งด้วยกันคือที่ตรงกลางระหว่างเส้นทาง (ตันเถียนบน) ตรงกลางหัวใจ (ตันเถียนกลาง) และตรงท้องน้อย (ตันเถียนล่าง)
เมื่อผ่านจุดตันเถียนแล้ว ระดับพลังของนางก็ขึ้นมาที่ขั้นต้น 3 (ระดับขั้นมี ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นบรรลุ ขั้เทพ ขั้นเทพเซียน แล้วแต่ละขั้นมี 9 ระดับ)
อืม!ชิงเยียนพยักหน้าอย่างพอใจ อย่างน้อยๆนางก็เอาตัวรอดได้ แต่ยังเหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ ต้องอยู่ที่ขั้นบรรลุ ถึงจะทำได้ "เฮ้อ! ตั้งแต่มายังไม่ได้กินอะไรเลย หาอะไรกินดีกว่า" ว่าแล้วนางก็เดินทางออกจากวัดร้างไปที่ป่าเดินไปเรื่อยๆก็พบแม่น้ำ นางจึงนึงถึงข่ายเพื่อเอามาวางดักปลา
เป็นดังใจคิดปลาติดเต็มข่ายตัวใหญ่ๆทั้งนั้น "พี่อร ข้าจับปลาได้เยอะมากท่านเอาไปทำใส่ตู้เย็นไว้หน่อย"
"พี่รู้แล้ว เพื่อนที่ทำงานเจ้าโทรฯมา เมื่อกี้บอกว่าชื่อเจนนี่ ใช่คนนี้ไหม!" เจี่ยอินในร่างอรอุมาถาม
"ใช่! แต่ว่าก็แล้วแต่พี่นะว่าเอายังไงกับเธอ ฉันน่ะจะทำทางนี้ให้ดีที่สุด อ้อ!มีหนังสือส่วนหนึ่งที่วัดพี่ไปอ่านได้นะเกี่ยวกับการแพทย์ แล้วก็ฉันรับปากพี่หมอนาทเอาไว้นะ อิอิ"
"ไม่ต้องเลย...นี่คิดอะไรอีกล่ะเราน่ะ" อรอุมากล่าว
"ป่าววว....แค่คิดว่า...พี่หมอก็เป็นคนดีนะคะพี่สาวววว"ชิงเยียนกล่าว
"แล้วทำไมไม่เลือกเขาล่ะ"อรอุมาตอบกลับไป
"ก็ตอนนั้นพี่เขาไม่คุยกับน้องนี่คะ เอาแต่หลบหน้า ใครจะไปรู้ล่ะ"
"จร้าๆ เดี๋ยวพี่ทำปลาไว้ให้ถ้าอยากกินก็เอาไปกินแล้วกัน" อรอุมาในคราบเจี่ยอินกล่าว
"พี่เรียกฉันว่าชิงเยียนนะจะได้ชิน ฉันก็จะเรียกพี่ว่าพี่อร เหมือนกัน ok?" จางชิงเยียนบอก
"อืม! ก็ดีจ๊ะ อ่ะ...ok ok"อรอุมากล่าวขึ้น
หลังจากกินอาหารที่ อรอุมาทำแล้ว จางชิงเยียนก็เดินทางไปที่จวนเจ้าเมือง แถมพาคนในระแวกนั้นไปด้วย โดยเล่าเรื่องราวแบบไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ให้ฟัง คนที่อยากรู้อยากเห็นจึงตามนางมา
ไป๋เจี่ยอินมี อายุ 15 ปีแล้ว พร้อมอรอุมา ที่นี่ถือว่าสามารถถือครองสินเดิมของมารดาได้แล้วเพื่อเอาไว้แต่งงาน นางจึงไปขอคัดเอกสารสินเดิมมารดาจากที่ว่าการอำเภอแล้วจึงเดินทางไปที่จวนท่านเจ้าเมือง
เมื่อไปถึงก็ลงมือตีกลองหน้าจวนเพื่อร้องเรียน ผู้คนต่างมามุงดูกันล้นหลาม "ข้าขอร้องเรียนๆๆ"
เมื่อทหารมาเปิดประตูก็ต้องตกใจ "คุณหนูห้า ท่านทำไมมาอยู่ที่นี่"
ท่านเจ้าเมืองเมื่อมีคนมาตีกลองก็แต่งตัวเดินออกมา ก็ตกใจไหนฮูหยินบอกว่านางตายแล้วนี่นา "เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่ นี่มันเรื่องอันใดกัน เข้ามาคุยข้างใน!" น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่พอใจนั้นทุกคนฟังแล้วก็ปวดใจแทนนาง
"ข้าอยากให้พวกเขาเป็นพยานให้ข้า ดังนั้นข้าคุยที่นี่ดีกว่า ท่านเจ้าท่านเจ้าเมือง"
"เจ้าเป็นใครกันแน่! ทำไมถึงมาร้องเรียน" ท่านเจ้าเมืองทำว่าไม่สนใจ ถึงแม้นจะหน้าเหมือนกันแต่นิสัยไม่เหมือนกันต้องไม่ใช่บุตรสาวของตนแน่
"ข้ามีนานว่า ไป๋เจี่ยอิน ข้าต้องการสินเดิมของมารดาข้าจากท่านพ่อและฮูหยินท่านพ่อคืน ซึ่งรายการสินเดิมนั้นมีตามเอกสารที่ว่าการอำเภอ และข้าได้ไปขอคัดมาแล้ว ในนั้นยังมีของพระราชทานในการสมรสด้วย ดังนี้ ปะการังแดง 1 ต้น ผ้าไหม 3 พับ เครื่องประดับอัญมญี 1 หีบ เงิน 3 หีบ ทอง 2 หีบ ที่ดินฝั่งริมแม่น้ำหนานเป่ย 2 ห้อง ร้านขายผ้า 1 ร้าน ส่วนสินเดิมติดตัวมาจากเมืองหลวงมี เงิน 50,000 ตำลึง ทอง 1 หีบเล็ก ผ้า 5 พับ ที่ดินในเมืองหลวง 2 ห้อง ร้านขายผ้า 1 ร้าน และร้านขายเครื่องประดับอีก 1 ร้าน ไม่ทราบว่า ท่านเจ้าเมืองจะว่าเช่นไร" จางชิงเยียนกล่าว
"ลูกสาวข้าได้ตายไปแล้วเจ้าจะมาแอบอ้างได้เช่นไรกัน ทหารคุมตัวนางไปขังรอลงโทษ" หึ! เจ้าคิดจะมาทวงเอาของคืนรึไม่มีทางหรอก
"ข้ามีจี้หยกประจำตัวและมีตราพระราชทานสมรสระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่เป็นหลักฐานแสดงตน" ไป๋เจี่ยอินก็ล้วงเอาหลักฐานออกมา
ที่จริงนางได้ยินมาว่าผู้แทนพระองค์มาตรวจราชการที่นี่ ดังนั้นนางจึงมาวันนี้
แล้วก็เป็นตามทึ่นางคิด ผู้แทนพระองค์เดินทางมาถึงก็เห็นเหตุการณ์แต่นิ่งดูอยู่ และให้คนไปสืบเรื่องราว
"รายงานท่านอ๋องหก นางเป็นบุตรสาวท่านเจ้าเมืองจริงพะยะค่ะ แต่เมื่อเดือนก่อนท่านเจ้าเมืองประกาศว่านางตายไปแล้ว ก่อนหน้านั้น มารดาของนางได้สมรสพระราชทานมาที่เมืองนี้ แต่ท่านเจ้าเมืองนั้นมีภรรยาอยู่ก่อนแล้วแต่ขัดพระราชองค์การไม่ได้ เมื่อแต่งงานได้ 6 ปี ฮูหยินถึงได้ตั้งครรภ์บุตรสาว 1 คน คือนางพะยะค่ะ แต่ฮูหยินอยู่เลี้ยงบุตรสาวได้เพียง 8 ขวบปีก็เสียขีวิตโดยท่านเจ้าเมืองอ้างว่านางป่วย จึงเหลือแค่บุตรสาวพะยะค่ะ...เออ แต่เมื่อสองเดือนที่แล้วได้ข่าวว่านางไปไหว้พระและทำบุญให้มารดา แต่ก็หายสาบสูญไป จนเมื่อเดือนที่แล้วท่านเจ้าเมืองบอกว่าบุตรสาวคนที่ห้าได้ตายแล้วพะยะค่ะ" องค์รักษ์ที่ไปสืบข่าวมารายงาน
ท่านอ๋องหก เมื่อได้ฟังก็เข้าใจทันทีว่าคนในจวนคงไม่มีที่ให้นางจึงลวงนางไปฆ่าในป่าตอนไปทำบุญ "ไปช่วยนางเถอะ พานางกลับเมืองหลวงไปหาท่านราชครู"
"เจ้านังมีหน้ามาหลอกลวงอีกรึ เจ้าคงแอบไปเอาของจากบุตรสาวข้าตอนที่ตกหน้าผามาแน่ๆ" ท่านเจ้าเมืองยังยืนกร้านว่าเจี่ยอินมิใช่บุตรสาวตน
ท่านอ๋องจึงกล่าวขึ้นว่า "นางคือบุตรสาวตัวจริงนั่นแหละ ถ้าไม่เชื่อท่านทดสอบสายเลือดดูสิ"
เมื่อทุกคนได้ยินจึงหันไปตามเสียง ไม่เว้นแม้แต่ท่านเจ้าเมือง ทุกคนต่างก็ตกใจ
"ท่านอ๋องหก มาได้เช่นไรพะยะค่ะ เรื่องนี้ข้าว่า...."
"เราไปสืบมาแล้ว ท่านจะคืนนางหรือจะให้ข้าทำมากกว่านี้ล่ะ" ท่านอ๋องเดินมากระซิบข้างหู
ท่านเจ้าเมืองได้ยินเช่นนั้นก็ตัวแข็งทื่อ "พ่อบ้านหลี่ ไปเตรียมของให้คุณหนูห้า" พูดจบก็เดินตามท่านอ๋องไป
"ขอบคุณท่านอ๋องเพคะ"เจี่ยอินกล่าวตามธรรมเนียมผู้ดี
"เจ้าตามข้าเข้ามา" ท่านอ๋องหกกล่าวกับเจี่ยอิน
เจี่ยอินเดินตามเข้าไปที่ห้องโถงรับรอง พร้อมกับทำความเคารพ
"เจ้าสนใจจะไปเมืองหลวงหาท่านตาเจ้าหรือไม่" ท่านอ๋องมองเจี่ยอินอย่างพินิจ
แต่เจี่ยอินได้ทำตัวมอซอและตัวยังผ่ายผอมอยู่ผิวกร้านมองดูไม่มีเสน่ห์แม้เพียงนิด "หม่อมฉันขอท่านอ๋องหนึ่งสิ่งเพื่อสิ่งนี้หม่อมฉันจะส่งคืนตราสมรสพระราชทานแก่ท่านอ๋องเพคะ"
"อืม!...ว่ามาสิถ้าเราทำได้เราจะช่วย"ท่านอ๋องกล่าว
"หม่อมฉันต้องการออกจากการใช้แซ่ไป๋เพคะ แล้วใช้แซ่จางท่านยายแทนเพคะ"
"เจ้าจะตัดขาดกับบิดาเจ้าเชียวรึ คิดให้ดีๆนะ"
"หม่อมฉันคิดดีแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวใดๆกับคนแซ่ไป๋เพคะ"
"ในเมื่อเจ้ายืนยันเช่นนั้น.....ท่านเจ้าเมืองส่าเช่นไร"ท่านอ๋องหะฝันไปถามท่านเจ้าเมือง
"แล้วแต่นางเทิดพะยะค่ะ กระหม่อมก็ไม่สนิทใจว่านางเป็นบุตรสาวกระหม่อม"
"เช่นนั้นก็เอาเอกสารมาลงชื่อทั้งสองคน แล้วลบชื่อ ไป๋เจี่ยอิน ออกจากแซ่ไป๋ ในเมื่อเจ้ามีที่ดินและทรัพย์สินแล้วก็จดชื่อแซ่ใหม่ลงไปเสีย"
"เพคะ ข้าขอใช้แซ่จาง ชื่อชิงเยียน จางชิงเยียนเพคะ"
ท่านอ๋องมองนาง คิดในใจว่า "นางช่างเด็ดขาดเสียจริงๆ พร้อมกับเตรียมตัวมาอย่างดีทีเดียว"
"ต่อไปนี้พวกเจ้าก็มิมีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันอีก"
อรอุมาในร่างเจี่ยอินกับชื่อใหม่ชิงเยียนจึงล้วงเข้าไปเอาตราสมรสพระราชทานส่งคืนแก่ท่านอ๋อง พร้อมทำความเคารพแล้วก็ออกไปตรวจสอบสินเดิม เมื่อครบแล้วนางก็นำเข้าไปไว้ในแหวนมิติทันที"
การกระทำของนางนั้นทำให้คนตกใจยิ่ง นางมีแหวนมิติด้วยรึ
คนที่ทนไม่ได้คือบุตรสาวคนที่สองของท่านเจ้าเมือง "เจ้ามีแหวนมิติด้วยรึ เจ้าใึกวรยุทธ์ได้แล้วรึ..เป็นไปไม่ได้ๆๆ....เจ้าถูก....อู้ๆๆๆๆ"พูดไม่ทันจบก็ถูกมารดาของนางเอามือมาปิดปากไว้
"ใช่ข้าฝึกวรยุทธ์ได้แล้ว..อ้อ!ยาพิษของพวกเจ้ามีคนถอนให้ข้าแล้วสอนวรยุทธ์ให้ข้าด้วย เสียใจด้วยนะที่ข้าไม่ตาย หึ" กล่าวจบนางก็เดินจากไปทันที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 39
Comments