03

นอกจากเจเล่แล้วตอนนี้กลุ่มเรามีสมาชิกเพิ่มมาอีกสองคนชื่อส้มกับกุ๊ก ฉันพยายามเปิดใจรับสังคมใหม่ แต่ก็ไม่ได้ให้ใจใครจนหมดเพราะก็ยังฝังใจกับความหลัง ในคณะมีผู้ชายมากกว่าที่ฉันคิดไว้ บางส่วนก็ไม่แท้ บางส่วนก็แท้แต่ชอบผู้ชาย แต่อย่าเพิ่งคิดว่าหญิงแท้อย่างเรา ๆ จะไม่มีที่ยืนนะ เพราะคนชอบผู้หญิงก็ยังมีอยู่ แต่ตรงนี้ฉันก็ไม่ได้แคร์อะไร ฉันเข้าไปส่องเฟซพี่เคเพราะสงสัยว่าเขาทำไมมาเรียนไกลแบบนี้ เลยได้เรื่องว่าเขาเพิ่งซิ่วมาจากมอใกล้บ้านมาต่อที่นี่ สถานะกับแฟนก็ยังคงขึ้นอยู่แบบนั้น

“พวกแกเลือกชมรมกันหรือยัง” กุ๊ก สาวเปรี้ยวระดับมะนาวทั้งสวน รูปร่างดีเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ ผิวสีแทนจากความชอบส่วนตัวจนลงทุนไปทำให้มันแทน ผมสั้นเสมอหูตามกระแสนิยม และนมขึ้นเขียงก่อนจะมาเรียนมหาลัยขนาดเท่าหัวเด็ก แถมใส่เสื้อรัดติ้วจนกระดุมแทบกระเด็น ฉันเห็นมันเพิ่งแชร์เรื่องชมรมอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด

“ยังเลย ฉันว่าฉันจะเข้าชมรมนักเขียน อยากเขียนหนังสือสักเล่มก่อนจบ” ฉันตอบมันไป ฉันอยากเขียนระบายประสบการณ์เฮงซวยของตัวเอง เผื่อไว้เป็นบทเรียนให้คนอื่น ๆ

“ส้มว่าส้มจะเข้าชมรมรักษ์ธรรมชาติ”

“หล่อนอยากเข้าเพราะประธานชมรมใช่ไหม” เจเล่จีบปากจีบคอถาม คนถูกถามก็อายบิดจนตัวจะเป็นเกลียว ส้มเป็นสาวเรียบร้อยกระโปรงยาวคลุมทั้งขา ตัวเล็ก ผมหงิกธรรมชาติแต่เป็นลอนสวย

“ใครวะ เห็นหงิม ๆ แบบนี้เข้ามาก็แอ๊วผู้เลยเหรอ” กุ๊กร้องถาม ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใคร แต่ก็อย่างที่รู้กันผู้หญิงทุกคนมีสิทธิจะแรดทั้งนั้นแหละ ต่อให้เรียบร้อยอย่างกับกุลสตรีก็เถอะ มันเหมือนเป็นสัญชาตญาณดิบที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน

“พี่โอ๊คไง เนี่ยคนนี้” เจเล่พูดพร้อมกับโชว์รูปในไอจีของพี่เขาให้พวกเราดู

“ก็ดีอยู่นะ” ฉันพูดไปตามเนื้อผ้า แต่ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ดูติ๋ม ๆ หงิม ๆ สักเท่าไหร่ มันไม่น่าอร่อย

“แล้วมึงล่ะเจเล่ มีเป้าหมายหรือยัง” กุ๊กถามต่อ

“กูว่าจะไปกับอีส้มมันอะ ผู้ชายเยอะดี”

“เหรอๆๆ กูไปด้วย อยากไปหาผู้ชาย” แล้วสามคนก็พากันหัวเราะคิกคัก มีแต่ฉันสินะที่ไปชมรมนี้คนเดียว แต่ก็ช่างเหอะ ให้ฉันไปบุกป่าฝ่าดงฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก อีกอย่างผู้ชายมีอยู่ทุกที่อยู่แล้ว อยู่เฉย ๆ ก็เจอได้ เยอะซะยิ่งกว่าแมลงหวี่แมลงวัน ถ้าเปรียบความรักเป็นผีเสื้อ ฉันคงกำลังยืนอยู่ในแก่งกระจานในช่วงเดือนเมษา

“มิแกไม่ไปกับฉันจริงเหรอ” กุ๊กหันมาถามอีกครั้ง ฉันพยักหน้าตอบ

“ไปเถอะ ถ้าฉันไปด้วย พวกแกอาจจะอดกันหมดก็ได้นะ” ฉันเลยแกล้งหยอกพวกมันไป เจเล่กับกุ๊กเบ้ปากมองบนกันสุดฤทธิ ฉันก็ได้แต่หัวเราะกับท่าทางที่เพื่อนตอบกลับมา

“เกรงใจนมกูด้วยมิ แหมมม”

“นมใหญ่ไม่ได้แปลว่าเด็ดนะกุ๊ก” ฉันยังคงต่อล้อต่อเถียง

“ไม่มีผู้ชายมาจีบฉันบ้าง ก็ให้มันรู้ไป ลงทุนไปอัพไซส์ถึงเกาหลีหวังจะมาเป็นของดีมหาลัย”

“โอ๊ยไปเถอะค่ะ จะเข้าไหมชมรมน่ะ แล้วเจอกันนะอีมามิ” เจเล่โบกมือบ๊ายบายก่อนจะเดินไปกับสองคนนั้น พวกมันเดินมาส่งฉันที่ห้องชมรมนักเขียน จากนี้ฉันก็เดินต่อเข้ามาเองตามป้ายจนถึงห้องที่ว่า

“ขอโทษนะคะ มาสมัครเข้าชมรมค่ะ” ฉันเคาะประตูก่อนจะบอกกับคนที่นั่งอยู่ในหองเพียงคนเดียว

“กรอกใบสมัคร แนบเอกสาร แล้วก็เอาวางไว้ในตะกร้าสมัคร” เขาตอบมาทั้งที่ไม่เงยหน้ามองฉันด้วยซ้ำ ฉันแอบชะเง้อดู เห็นว่าอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่ คงจะเป็นประธานชมรมหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ สมัครให้มันจบ ๆ จะได้ไป ๆ ฉันจัดการกรอกใบสมัครแล้วก็ยื่นส่งไปที่ตะกร้า จากนั้นก็เดินออกมาเลย ไม่มีเรียนแล้วโทรหาไอ้เอ็กซ์ดีกว่าไม่รู้มันว่างหรือยัง

“อยู่ไหน” มันไม่ได้ตอบ แต่ฉันได้ยินเสียงเหมือนมันกำลังอยู่ในคลาส สงสัยจะยังไม่ว่างแน่เลย โอ๊ยกลับหอก็ไกลจะเดินก็ไม่ได้ เสียค่าวินกลับสักวันก็แล้วกัน อยากกลับไปนอนเมื่อคืนเพลียมาก

ฉันตัดสินใจเดินจากตึกชมรมมาจนถึงหน้ามอ ว่าจะหาวินกลับแต่ก็ยังไม่เห็นสักคัน

“ไปไหนอะ” ฉันหันไปมองคนถาม เป็นพี่ในคณะชื่อพี่แบงค์ คนนี้ก็เคยมาขอไลน์ฉันอยู่นะ แต่ฉันรู้สึกว่าเขาทำลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนกลัวแฟนเห็น ก็เลยไม่ยุ่ง

“ไปเซเว่นตรงนี้เองค่ะ” ฉันเลยรีบตอบดักไว้ก่อนกลัวจะชวนไปด้วยกัน

“ไปกับพี่ไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะข้ามถนนก็ถึงแล้ว”

“เฮ้ยไม่เป็นไร ให้พี่ไปส่งดีกว่านะ” พี่แบงค์เอื้อมมือมาคว้าแขนฉันฉุดให้ขึ้นรถ แต่ฉันพยายามสะบัดออก พี่เขาก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น

“ปล่อยนะ!!” คนเดินไปเดินมาตั้งเยอะแต่ไม่มีใครคิดจะช่วยฉันสักคน เห็นมอง ๆ แต่ก็ไม่ช่วย

“ทำไรวะ” ไม่รู้สวรรค์เห็นใจหรือกลั่นแกล้งกันแน่ เมื่อคนที่เดินเข้ามาหวังว่าคงจะช่วยดันเป็นพี่เค เขาเดินตรงเข้ามาแกะมือพี่แบงค์ออก แล้วดึงฉันไปหลบข้างหลัง

“มึงใครวะ กูจะพาน้องเขาไปส่งห้อง” พี่แบงค์พูดหน้าด้าน ๆ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น แล้วก็ไม่ได้ขอให้ไปส่งสักหน่อย

“นี่แฟนกู มึงอะไร” พี่เคชี้หน้าบอกกับพี่แบงค์

“ไหนวันนั้นบอกไม่มีแฟนไง ตอแหลนี่หว่า” ฉันไม่เคยบอกแบบนั้น เพราะพี่เขาไม่เคยถาม สังคมนี้มันน่ากลัวกว่าที่คิดไว้จริง ๆ ผู้ชายก็ตอแหลใช่ย่อย

“วันไหนโสดกูไม่รู้ ตอนนี้ไม่โสดน้องเขาแฟนกูมึงไปเลยนะ” พี่เคตะหวาดลั่น คนมองกันเยอะขึ้นจนฉันเริ่มรู้สึกอาย

“เดี๋ยวรับน้องเราได้เห็นดีกันแน่” พี่แบงค์ชี้นิ้วขู่ฉันก่อนจะขับรถออกไป

“เป็นไรหรือเปล่า” พี่เคหันมาถามพร้อมกับจับดูที่แขน ฉันส่ายหัวแทนคำตอบ จริง ๆ ก็เจ็บนะ ไอ้บ้านั่นมันกระชากซะแรงเลย

“ขอบคุณนะพี่” ฉันขอบคุณพี่เคแล้วตั้งใจจะเดินข้ามถนนหนี

“อะไร ขอบคุณแค่นี้ไม่หายหรอก” พี่เครีบคว้าแขนฉันไว้ หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่านะแบบนี้

“อะไรอีก”

“เลี้ยงน้ำปั่นพี่แก้วนึง” ฉันถอนหายใจด้วยความเอือมระอา คนอะไรขี้ตื้อฉันรู้ว่านี่เป็นมุกถ่วงเวลาให้ได้อยู่กับฉันต่อ แต่ก็เพื่อตอบแทนที่มาช่วยไว้ก็ต้องทำ

“ไอ้ดำเมื่อกี้นี่พี่ในคณะเหรอ เห็นมันบอกรับน้องเจอกัน” พี่เคหันมาถาม เรานั่งกินกันที่ร้านเพราะพี่เคไม่ยอม ชวนแต่ให้นั่งคุยกันก่อน

“อืม” ฉันตอบส่ง ๆ

“ระวังไว้บ้างนะ พวกนี้มันไว้ใจไม่ได้”

“แก้มรู้ดี เพราะเคยเกือบจะโดนพ่อพี่ข่มขืนมาแล้ว” ฉันเลยหันไปว่า พี่เคทำหน้าไม่ดีนัก ไม่รู้ว่าฉันพูดแรงไปหรือเปล่า

“พี่ขอโทษแทนพ่อพี่ด้วยนะ เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมแม่แก้มถึงเลิกกับพ่อพี่”

“อืม”

“ที่แก้มไม่ยอมให้พี่จีบ ก็เพราะเรื่องนี้เหรอ”

“เปล่า เพราะพี่มีแฟนแล้ว และแก้มก็ไม่อยากยุ่งกับคนมีแฟนแล้ว”

“แล้วถ้าพี่เลิกกันล่อะ” พี่เคยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“พี่คบกับเขามาตั้งนาน อีกอย่างแก้มไม่อยากแย่งแฟนใครหรอก”

“พี่ชอบแก้มจริง ๆ นะเว้ย” พี่เคยังคงยืนยันหนักแน่น ฉันเข็ดว่ะ ครั้งพี่บูมมันจำฝั่งใจเป็นปมติดตัวเลย

“พี่เค พี่เองไม่ใช่เหรอที่เคยบอกแก้มว่าถ้าเขาทิ้งแฟนเขามาเอาเราได้ วันหนึ่งเขาก็ต้องทิ้งเราไปหาคนอื่นได้เหมือนกัน” ฉันตัดสินใจพูดไปชัด ๆ แรง ๆ เพราะไม่อยากยุ่งกับพี่เขาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีแต่ไม่ชอบมันก็คือไม่ชอบ ยิ่งเขามีแฟนแล้วก็ยิ่งไม่ชอบ มันเข็ดจริง ๆ นะ ฉันเดินออกจากร้านมาโบกแท็กซี่กลับห้อง ขอนอนพักหน่อยเถอะวันนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เลย

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!