ณ ตำหนักของชินอ๋อง เขาทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความโกรธจนแน่นไปทั้งตัว ความจริงแล้วเขาคิดผิดหรือคิดถูกที่ให้หานเสี่ยวหลานไปอยู่ที่ตำหนักนั่น ฉางเสี่ยวฉินชอบใช้ที่นั่นเป็นที่ดูเล่นและเอาไว้นึกถึงผิงเยว่ฉี กระดาษใบนั้นที่วาดมาเป็นปีกลับถูกคนที่ไหนไม่รู้ว่าจุ้นจ้านไปได้
เขามองดูไป๋ไป๋ที่ยืนก้มหน้างุดรอรับใช้อยู่ตรงหน้า
"โถ่เว้ย!" ฉางเสี่ยวฉินโมโหจนควันออกหูเมื่อได้เห็นใบหน้าของพวกคนแพศยาเช่นนี้ เขาถอดรองเท้าออกก่อนจะโยนมันลงกับพื้น ไป๋ไป๋ที่ยืนนิ่งตกใจเล็กน้อย
"เอามันไปเช็ดถูให้ข้า! อย่าหวังว่าข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าได้ใจ" เขาพูดก่อนที่จะมีใครสักคนเดินเข้ามา ชายชุดดำที่จับตัวพวกเขาไปตั้งแต่วันแรกที่เข้าวังตามคำสั่งของชินอ๋อง คือเขานั่นเอง
"โม่สิน เจ้ามีเรื่องอะไรมาอีก" เมื่อเห็นเช่นนั้นฉางเสี่ยวฉินก็รีบเดินเข้าไปหา
"คำนับท่านอ๋อง มีรายงานมาจากกองกำลังทหารชั้นนอกที่ประจำการอยู่เขาซีเหนียน ในจดหมายบอกว่ามีโจรบุกลุกเข้ามายังเหมืองแร่ของพวกเราพะยะค่ะ" โม่สินพูดก่อนจะยื่นแผนที่ให้ เขากวาดสายตามองยังตัวหนังสือและแผนที่บนแผ่นกระดาษ
"หม่อมฉันคิดว่ามันจะไม่เป็นการดี ทหารที่นั่นน้อยนิด ถ้าเราถูกขโมยและถูกโจมตีคงไม่ดีนัก เหมืองแร่ตอนนี้ก็ทำให้เราอยู่เหนือกว่าเมืองอื่นๆในการค้าขายมาหลายปีแล้ว ถ้าเราต่ำลง อาจจะโดนโจมตีก็เป็นได้" โม่สินพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างฉะฉาน
"ส่งทหารออกไปเพิ่ม จับหัวหน้าโจรได้เมื่อไหร่ นำตัวมันมาประจานรอบหมู่บ้านและตัดหัวทิ้งซะ!" เขาพูดด้วยความโมโหก่อนจะยัดกระดาษแผ่นนี้ให้คนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ในเมื่อมีแต่เรื่องเกิดขึ้นเช่นนี้ จวิ้นอ๋องต้องหาทางเล่นงานเขาอยู่แน่ๆ
"รับทราบท่านอ๋อง" เขาคำนับพร้อมกับเดินออกไป แต่ทว่าไป๋ไป๋เองกลับมองเขาไปสุดสายตา
"ขัดรองเท้าไป มันคือหน้าที่ของเจ้า!" ดวงตาคมเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทรงตรัสออกมา ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งด้วยความตกใจต้องก้มทำสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
"รูปภาพของผิงเยว่ฉี เจ้าเอาไว้ที่ไหน" ชินอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งอย่างแม่น้ำในลำธาร มันเหมือนการให้โอกาสเธอถ้าหากเธออะไรผิดไป คงหนีไม่พ้นสิงโตที่ดุร้ายอย่างเขา
"คือว่า..." ไป๋ไป๋พูดเมื่อบรรยากาศเงียบลงซึ่งตนคิดนานไปแล้ว ทว่าสายตาของชินอ๋องกลับจ้องไปยังเธอดูกริยาอริยาบทของหญิงสาว มันทำให้เธอเกร็งไปหมด ในหัวของเธอกลับนึกขึ้นมาได้ตอนนี้ เธอลืมไปได้ยังไงกัน
"หม่อมฉันลืมไว้ที่หน้าตำหนักของพระชายาเพคะ.." เธอพูดจาอย่างระมัดระวังและพลอยรู้สึกผิดไปด้วย
"มีบางอย่างบอกข้าว่ามันหายไปแล้ว" ฉางเสี่ยวฉินพูด นัยน์ตาดำขลับนิ่งมองไปยังเธอ ทำให้ใครก็ตามที่ได้มองดูต่างก็ต้องรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นน่ากลัวน่าเกรงขาม
"หม่อมฉันจะไปตามให้.." เธอพูด
"นั่นเท่ากับว่าปล่อยเหยื่อออกนอกถ้ำ เจ้ามีหน้าที่สำนึกโทษ!" ชินอ๋องพูดก่อนจะนั่งลงด้วยท่าทีกระวนกระวาย ต้องยั้งชั่งใจ ถ้าฆ่าไปได้เขาคงฆ่าเธอไปแล้ว
"คำนับท่านอ๋อง" ขันที เดินเข้ามาทำลายบรรยากาศเช่นนี้ลง
"ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ท่านอ๋องเข้าพบพะยะค่ะ" เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไป ทิ้งไว้เพียงข้อสงสัยของชินอ๋อง
"เจ้าอยู่ที่นี่ ทำความสะอาดที่นี่ซะ! เตรียมอาหารให้ข้า ถ้าข้ากลับมาทุกอย่างต้องเรียบร้อย" ชินอ๋องพูดก่อนจะแย่งรองเท้าที่เธอกำลังเช็ดอยู่มา และสวมมัน ก่อนที่เขาจะเดินออกไป
ไป๋ไป๋เดินวนไปวนมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายออกไปแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกสบายอกสบายใจเลยที่ไม่มีใครจับตามองแล้ว เธอเพียงแค่คิดว่า คุณหนูของเธอจะอยู่ยังไง ยิ่งที่เห็นตอนนี้ชินอ๋องก็อย่างกับเป็นไบโพล่าร์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
"ไป๋ไป๋" เสียงปริศนาดังขึ้นจากข้างหลัง เธอไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ที่นี่จึงรีบหันไปมอง
"หานหลินฮั่ว! เจ้ามาได้ยังไงกัน!" ไป๋ไป๋วิ่งกรูเข้าไปกอดแน่น
"จุ๊ๆ เบาๆหน่อย" เขาใช้มือซ้ายอุดปากหญิงสาวไว้
"จริงสิ ข้าลืมไปเลย ทหารข้างนอกเยอะมาก" ไป๋ไป๋พูดก่อนจะผละกอดและจับแขนหลินฮั่วเอาไว้ก่อนจะพาไปยังบานหน้าต่างเพื่อดูคนด้านนอก
"ที่ข้ามา หานเสี่ยวหลานเรียกข้ามา พี่สาวเล่าทุกอย่างให้ข้าฟัง ตอนนี้เขาให้ข้ามาตามดูเจ้ากับท่านอ๋อง" เขาพูดก่อนจะรีบปิดหน้าต่างและเดินเข้าไปยังกลางห้อง
"ข้าอยากให้ท่านเอาน้ำเอาข้าวไปให้นาง ได้หรือไม่?" ไป๋ไป๋ถาม
"ข้าเกรงว่าพี่สาวจะไม่กิน พี่ท่านชอบอยู่ในความถูกต้อง คำไหนคำนั้น" หลินฮั่วพูดจบ ไป๋ไป๋ก็ทำหน้ายู่ทันที มันไม่มีทางช่วยเธอออกมาได้จริงๆ ไม่กินข้าวกินน้ำสิบวันคงตาย
"เจ้าจงทำตามที่ท่านอ๋องสั่งเสียเถิด ข้าจะติดตามเขาไป เจ้าไม่ต้องห่วง" เขาพูดก่อนจะกุมมือของนาง เพื่อให้นางไว้ใจและไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ
"เจ้ารู้ได้ยังไงว่าท่านอ๋องสั่งอะไรข้า หรือว่าเจ้ามาฟังก่อนหน้านี้แล้ว" ไป๋ไป๋ถาม
"ใช่ ข้ามานานแล้ว" หลินฮั่วตอบก่อนจะแปลงเป็นนกพิราบ
"มาไวไปไวจริงๆ โชคดีล่ะ!!" เธอพูดก่อนที่จะโบกมือลา และเปิดหน้าต่างเพื่อให้นกอย่างเขาออกไปได้ง่าย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments