พวกเราที่ถูกบังคับเทเลพอร์ตมายังลานกลางเมืองซึ่งเป็นจุดสตาร์ทของเกมนั้นเมื่อมาถึงก็พบว่ามีผู้เล่นหลายพันคนกำลังยืนอยู่ที่นี่เช่นกันและค่อนข้างจะไม่พอใจเป็นอย่างมากมีเสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นระยะ
จนกระทั่ง
"อ๊ะ! ดูข้างบนสิ!" อยู่ๆก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมา ทำให้เพลย์เยอร์ทุกคนหันไปมองตามที่บอก ซึ่งบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยคำว่า warning นั้นก็ปรากฏร่างในชุดผ้าคลุมสีแดงขึ้น
'เพลย์เยอร์ทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่โลกของฉัน'
'ชื่อของฉันคือคายาบะ อากิฮิโกะ เป็นมนุษย์คนเดียวที่สามารถควบคุมโลกใบนี้ได้'
'คงจะรู้เเล้วว่าปุ่มล็อกเอาท์ได้หายไปจากเมนเมนู แต่ว่านี่ไม่ใช่บัคแต่อย่างใด'
'ขอย้ำว่านี่ไม่ใช่บัค แต่เป็นจุดมุ่งหมายดั้งเดิมของ Sword Art Online'
'เพลย์เยอร์ไม่สามารถล็อกเอาท์ออกไปได้ เช่นเดียวกันคนภายนอกก็ไม่สามารถถอดเครื่องได้ และถ้าหากมีการละเมิดกฎนี้ คลื่นไมโครเวฟที่ติดตั้งไว้ที่เนิร์ฟเกียร์จะถูกส่งเข้าไปทำลายสมองของทุกท่านและจบชีวิตลง'
เมื่อเขาเอ่ยจบมีเพลย์เยอร์หลายคนที่ไม่เชื่อเเละคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นจึงพยายามจะออกไปจากลานกว้างนี้ แต่ก็ไม่สามารถออกไปได้เพราะเมื่อพยายามจะออกไปก็มีกำแพงใสๆกั้นเอาไว้
'เป็นที่น่าเสียดายที่ครอบครัวของเพลย์เยอร์บางคนละเมิดกฎและถอดเนิร์ฟเกียร์ออกโดยไม่ยั้งคิด ผลคือทำให้เพลย์เยอร์ 213 คนหายไปจากไอน์แครดและโลกแห่งความเป็นจริงชั่วนิรันดร์'
'อย่างที่ท่านเห็น โลกแห่งความจริงกำลังเป็นข่าวใหญ่รวมถึงรายงานข่าวการเสียชีวิตจะกล่าวว่าการดึงเนิร์ฟเกียร์ออกเป็นอันตรายต่อชีวิตก็ไม่ผิด'
ขณะที่เขากำลังเอ่ยประโยคนั้น ก็มีรูปภาพรายงานข่าวของโลกความเป็นจริงขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของผู้เล่น หรือภาพครอบครัวของผู้เสียชีวิต
'ดังนั้นจึงขอให้ทุกท่านเคลียร์เกมส์ได้อย่างสบายใจ และขอบอกเอาไว้อีกอย่างว่าระบบฟื้นคืนชีพไม่มีผลอีกต่อไป กล่าวคือทันทีที่ HP เหลือ 0 อวตารของทุกท่านจะหายไปและสมองก็จะถูกทำลาย'
'วิธีที่ทุกท่านจะออกไปได้มีเพียงทางเดียวคือเคลียร์เกมส์ให้ได้ก็พอหรือก็คือไปให้ถึงชั้นที่ 100และกำจัดเฟลอร์บอสให้ได้นั่นเอง'
'สุดท้ายนี้ฉันได้เตรียมของขวัญไว้ให้ทุกท่านเเล้ว สามารถเช็คได้ที่ช่องเก็บของของทุกท่าน'
ซึ่งหลังจากที่ซายะหยิบออกมาแล้ว ก็มีแสงมีฟ้าเเสบตาคลุมรอบตัวเหมือนกับที่เพลย์เยอร์คนอื่นๆเป็น ต่างแค่ว่าเธอไม่ได้ส่งเสียงร้องตกใจเลยแม้เต่น้อย
เกิดใหม่น่าตกใจกว่าอีกจ๊ะ!
เมื่อซายะลืมตาขึ้นอีกครั้ง เเสงสีฟ้าก็ได้หายไปแล้วพร้อมกับใบหน้าของคนรอบตัวที่ได้เปลี่ยนไป
"ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคิริโตะ ซายะ" ไคลน์เอ่ยทักจากด้านหลัง
"นายเป็นใครน่ะ...ซายะ! ทำไมหน้านาย..."
คิริโตะถามคนที่ทักเขาก่อนที่จะไปหาเพื่อนของตน เขาพบว่าใบหน้าของซายะเปลี่ยนไปจากอวตารและกลับไปเป็นหน้าเดิมของตน
"!!!" เขาจึงลองมองที่กระจกของตนเอง ก่อนที่จะรู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาเองก็เปลี่ยนไปเช่นกันงั้นก็แปลว่า...
"นายคือไคลน์เหรอ!"
"นายคือคิริโตะเหรอ!" ทั้งสองคนเอ่ยพร้อมกัน
"แล้วทำไมซายะถึงเป็นผู้หญิงกันล่ะ!!"ทั้งสองคนเอ่ยพร้อมกัน
คิริโตะถามอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานานเป็นผู้หญิง ซึ่งคำพูดนั้นส่งผลให้ซายะรู้ตัวว่าเธอนั้นได้เปลี่ยนเป็นร่างจริงแล้ว
"ค คือว่าตอนเด็กฉันชอบแต่งชายนะ นายเลยเห็นแต่ตอนที่ฉันแต่งชายนะ แหะๆ"ซายะบอกความจริงกับคิริโตะทั้งหมด
เรื่องที่ซายะเล่าให้คิริโตะฟังทําให้คิริโตะจิตตกเลยทีเดียว
คนรอบข้างที่เห็นซายะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น่ารักสุดๆ" แต่ซายะไม่ได้สนใจรอบข้างเลยไม่ได้ยินที่คนอื่นพูด
"แต่ว่าทำไมถึง..." คิริโตะพึมพำเบาๆแต่ก็ไม่อาจพ้นหูผีของซายะได้
"แสกนยังไงล่ะคิริโตะ" ซายะเอาหน้าเข้าไปใกล้คิริโตะแล้วตอบ
คิริโตะเริ่มหน้าขึ้นสีเพราะความน่ารักของซายะ
"จ จริงสิ! เนิร์ฟเกียร์สามารถครอบคลุมทั้งหัวได้ดังนั้นจึงสามารถแสกนใบหน้าออกมาได้แต่ว่าเรื่องส่วนสูงล่ะ...."
"ตอนที่ใช้เนิร์ฟเกียร์ครั้งแรก มันมีให้ทำไอนั่นไม่ใช่เหรอไอที่ให้จับส่วนต่างๆของร่างกายน่ะ" ไคลน์เอ่ยพลางจับตัวไปด้วย
"อย่างนี่เองสินะ"
"ต แต่ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย!"ไคลน์เอ่ยอย่างหัวเสียและดูหมือนว่าร่างในผ้าคลุมจะรับรู้ถึงคำพูดนั้น เขาจึงเอ่ยออกมาว่า
'ตอนนี้ทุกท่านคงกำลังคิดสินะว่าทำไม...ทำไมผู้พัฒนาเนิร์ฟเกียร์กับ Sword Art Onlineถึงได้ทำเเบบนี้'
'บัดนี้เป้าหมายของฉันได้บรรลุเเล้ว ซึ่งก็คือการแทรกแซงโลก'
'และขอจบการอธิบายเบื้องต้นของ Sword Art Online แต่เพียงเท่านี้'
'ขอให้ทุกคนโชคดี'
ทันทีที่เขาเอ่ยจบ ร่างนั้นก็หายไปและท้องฟ้าก็กลับมาเป็นเช่นเดิมทิ้งให้เพลย์เยอร์ทุกคนงุนงงกับการหายไปก่อนที่จะเริ่มโวยวายกัน
แต่ในขณะนั้นเองซายะและคิริโตะจึงฉวยโอกาสจับมือไคลน์ให้ออกมาด้านนอกลานกว้าง เมื่อเห็นว่ากำเเพงใสที่กั้นไว้ได้หายไปแล้ว
"ฟังให้ดีนะ พวกฉันจะไปที่หมูบ้านต่อไปนายเองก็มาด้วยกันสิ" คิริโตะเอ่ย
"อ เอ๊ะ"
"ถ้าเรื่องที่หมอนั่นพูดเป็นความจริง สิ่งเดียวที่พวกเราต้องทำคือเเข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น"คิริโตะพยายามอธิบายให้ไคลน์ฟัง
ในขณะที่ซายะรู้อยู่เเล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงและซายะไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงมันจึงไม่ได้พยายามที่จะโน้มน้าวไคลน์
"เงินกับค่าประสบการณ์ใน MMORPG น่ะมีจำกัด ที่เมืองเริ่มต้นน่ะอีกสักพักคงโดนล่าจนหมดเเน่ เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งกันดังนั้นการไปอีกหมู่บ้านจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พวกฉันรู้เส้นทางและจุดที่อันตรายทั้งหมดแล้ว ถึงเป็นเลเวล 1 ก็ผ่านได้อย่างสบายเลยทีเดียว"
"แต่ว่านะ...ฉันกับเพื่อนต่อเเถวกันทั้งคืนเพื่อพยายามซื้อเกมส์นี้มา พวกนั้นต้องอยู่ที่ลานกลางแน่ๆดังนั้นฉันทิ้งพวกเขาไม่ได้หรอก"
"..."
"โทษที คงจะรบกวนพวกนายไปมากกว่านี้ไม่ได้เเล้วล่ะนะ...ฉันเองในเกมส์ก่อนหน้าก็เป็นหัวหน้ากิลด์เชียวนะ! เดี๋ยวก็คงจะใช้เทคนิคที่นายสอนมาใช้ประโยชน์ได้เองแหละ!"
"...งั้นเหรอ งั้นก็โชคดีนะ" คิริโตะหันหลังให้กับเขาก่อนที่จะเดินออกมาถึงแม้ว่าไคลน์จะไม่เห็นเเต่เธอเห็นเต็มตาเลยล่ะ
ความเจ็บปวดของคิริโตะน่ะ
"คิริโตะ!"
"หืม?" คิริโตะหันกลับมาพร้อมกับปกปิดความรู้สึกไว้
"นายเองก็น่ารักนะเนี่ยสเป็คเลย แล้วก็ซายะหลังจากนี้ถ้าเจอกันอีกเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเอง" ไคลน์เอ่ยเเซวคิริโตะเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปบอกกับซายะ
"หึ หน้านักรบเถื่อนเเบบนี้เองก็เหมาะกับนายกว่าเป็นสิบเท่าเลยล่ะนะแล้วก็ฉันไม่อนุญาตให้นายพาซายะไปไหนทั้งนั้นละเฟ้ย!" ทันทีที่คิริโตะเอ่ยจบก็รีบวิ่งออกไปทันที
ซายะที่วิ่งตามไปและหยุดชะงักเมื่อพี่หันมามองจุดที่ไคลน์เคยยืนอยู่ คิริโตะสบถออกมาเบาๆก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปอย่างไม่ลดละจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้
คงเพราะถ้าไคลน์ที่เป็นเพื่อนของคิริโตะตาย คิริโตะคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ
"คิริโตะ หยุดเถอะ" ซายะเอ่ยเมื่อคิริโตะวิ่งนำเธอพร้อมกับกำจัดมอนสเตอร์ทุกตัวที่ขวางหน้าออกไปจนเธอไม่ต้องทำอะไรเลย
"..." แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ฟังเธออยู่ดี
"คิริโตะ! พอได้แล้ว!" เเละในที่สุด เขาก็หยุดวิ่งเสียทีพร้อมกับหันมามองเธอ
"ฉันรู้นะว่านายรู้สึกยังไงแต่ว่าถ้านายยังดึงดันที่จะวิ่งแบบบ้าดีเดือดแบบนี้มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะคะ!" ซายะตะโกนใส่หน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนของตนก่อนที่จะร้องไห้ออกมา
ถึงเธอจะรู้อยู่เเล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ขึ้นเเต่พอมาได้เห็นของจริงเเล้วมันอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
"อื้อ ฉันขอโทษนะซายะ" คิริโตะเมื่อฟังคำพูดของซายะก็มีสติขึ้นมาและยกมือปลอบซายะให้หายร้องไห้
"ฮึก! ถ ถ้านายทำอย่างนั้นอีกไม่ต้องมาคุยกับฉันเลยน่ะ!"ซายะพูดขึ้นอย่างคาดโทษก่อนที่จะเช็ดน้ำตาที่ไหลอออกมาให้หมด
"อื้อ ฉันสัญญา"คิริโตะเริ่มหน้าขึ้นสีเพราะตอนที่ซายะร้องให้นั้นมันน่ารักมากเลย
'ฉันหวังว่าจะได้อยู่กับเธอตลอดไปน่ะ"คิริโตะเอ่ยพร้อมกับหน้าขึ้นสี
"สัญญาแล้วนะ! ถ้าไม่ทำตามห้ามคุยกับฉัน10ปีน่ะ!"
หลังจากนั้นพวกเธอจึงรีบเดินทางต่อ ต่างกันเเค่ครั้งนี้ไม่ได้มีเเค่คิริโตะที่วิ่งนำหน้าคนเดียวแต่เป็นสองคนและช่วยกำจัดมอนสเตอร์ที่ขวางทางอยู่ด้วยกันทำให้ประหยัดแรงและเวลาไปได้มาก
และในที่สุดพวกเราก็มาถึงเมืองต่อไปเสียที
"คิริโตะนายเลือกที่พักได้รึยัง"ซายะเอ่ย
"อืม เลือกได้แล้วล่ะแต่มันมีห้องเดียวนี่สิ"คิริโตะเอ่ยพร้อมทําสีหน้าเจ้าเลห์แต่หารู้ไม่ว่าซายะเป็นคนใสซื่อตั้งแต่เด็ก
"โอเค งั้นเอาห้องนี่แหละ"ซายะเอ่ย
เช้าวันต่อมา(คิริโตะไม่ได้ทําอะไรซายะทั้งนั้นจงหยุดความคิดชั่วร้ายนั้นซะ//ไรท์)
นับจากวันเริ่มเกมส์ตอนนี้ก็ผ่านมาเดือนนึงแล้ว คนก็ตายไปเกือบจะ 2,000 คนแล้วแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถเคลียร์ชั้นแรกได้เลย
และวันนี้ก็คือวันที่พวกเราจะประชุมเรื่องการจัดการบอสชั้นที่ 1
พวกเราสองคนเดินออกมาจากที่พักก่อนที่จะเดินไปยังสถานที่ที่นัดประชุมไว้ และพวกเราก็ตัดสินใจนั่งที่ชั้นบนของที่นั่งเพื่อที่จะได้เห็นรอบๆได้สะดวกและทุกคนก็ได้จ้องมองมาที่ฉัน
"เอาละครับบบ จะขอเริ่มประชุมเเล้วนะครับบบ" ชายผมสีฟ้าตะโกนขึ้นมา
"ผมชื่อเดียเบลล์ ส่วนอาชีพ...ถ้าตามความรู้สึก คือ อัศวินครับ!"ชายคนนั้นเอ่ยอย่างติดตลกเล็กน้อย แต่ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากเพลย์เยอร์หลายๆคนได้
ใบหน้าที่ดูขี้เล่นในตอนเเรกนั้นเปลี่ยนไปจริงจังก่อนที่จะเอ่ยออกมา
"ในตอนนี้ปาร์ตี้ของผมพบห้องบอสเเล้ว และเราจะกำจัดบอสของชั้นนี้เพื่อขึ้นไปยังชั้นต่อไป สักวันพวกเราก็จะเคลียร์ไปจนถึงชั้นที่ 100 ได้"
"และนั้นคือหน้าที่ของพวกเรา! ใช่มั้ยล่ะทุกคน!" สิ่งที่เขาเอ่ยขึ้นมาสามารถปลุกใจและเรียกเสียงตบมือจากเพลย์เยอร์ทุกคนได้ไม่น้อย
นับได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
และเธอคิดว่าบางทีถ้าเขาไม่ตายก่อน อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปในทางที่ดีขึ้นก็เป็นได้ดังนั้น...
ภารกิจเเรก : ช่วยคุณเดียเบลล์!
เธอหมายมั่นในใจว่าจะทำแบบนั้น ก่อนที่จะหันไปฟังที่เขาพูดต่อ
"งั้นก่อนอื่น....ขอให้ทุกคนจับปาร์ตี้ราวๆ 6 คนกันก่อนเลย" เขาเอ่ย ซึ่งพอเขาพูดจบทุกคนก็จับปาร์ตี้กันเกือบจะหมดเเล้ว เหลือเเค่พวกเธอกับอาสึนะที่อยู่ในชุดผ้าคลุมเท่านั้น
"คิริโตะ เราไปชวนเขากันดีมั้ย" ซายะกระซิบกับคิริโตะเบาๆและคิริโตะก็หน้าขึ้นสีเช่นเคย
"อ อื้อ นั่นสินะ...เธอเองก็โดนเเยกอย่างนั้นเหรอ" เขาเขยิบเข้าไปใกล้ๆเธอ ก่อนที่จะเอ่ยถาม
"ไม่ได้โดนแยก แต่ทุกคนดูเหมือนจะเป็นพวกเดียวกันต่างหากก็เลยเกรงใจก็เท่านั้น"
"โซโล่เพลย์เยอร์งั้นเหรอ?...งั้นมาร่วมปาร์ตี้กับพวกฉันมั้ย?"
"...." อาสึนะแอบมองพวกเราจากใต้ผ้าคลุมอย่างไม่แน่ใจเล็กน้อย
"มาร่วมปาร์ตี้กันเถอะ! ยังไงคนเดียวก็จัดการบอสไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ สามหัวดีกว่าหัวเดียวนะ!"
เธอเอ่ยสนับสนุนพร้อมกับพยายามทำท่าทางน่ารักให้มากสุดๆ
และเหตุนั้นทําให้ทั้งสองคนอยากเก็บซายะไว้คนเดียวไม่อยากให้คนอื่นแย่งไป
"นั่นสินะ ยังไงโอกาสก็มีมากขึ้นใช่มั้ยล่ะ"
"...." อาสึนะเงียบไปสักพักก่อนที่จะพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตกลงหลังจากนั้นคิริโตะจึงกดชวนให้เข้าปาร์ตี้
"เอาล่ะทุกคนคงจับปาร์ตี้กันหมดแล้วสินะ งั้นก็..." เดียเบลล์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนดูจะจับปาร์ตี้กันได้ครบทุกคนแล้ว ก่อนที่จะโดนแทรกด้วยเสียงของชายคนหนึ่ง
"รอเดี๋ยวก่อน!"
และจู่ๆชายคนนั้นก็กระโดดมาจากชั้นบนสุดของที่นั่งมายังชั้นล่างสุดที่เดียเบลล์ยืนอยู่
ฉันคือคิบะโอ ก่อนที่จะสู้กับบอสฉันมีอย่างนึงที่อยากจะพูด! ในที่นี้น่ะอาจจะมีคนที่ต้องขอโทษเพลย์เยอร์ที่ตายไปกว่า 2,000 คนอยู่นะ" เขาเอ่ยออกมาก่อนที่จะชี้นิ้วไปมั่วๆ
ซึ่งคำพูดนั้นทำให้คิริโตะรู้สึกผิดเป็นอย่างมา
"...คิริโตะไม่เป็นไรน่ะนายยังมีฉันอยู่น่ะ"เธอเอ่ยพลางลูบหัวคิริโตะให้กำลังพี่ชายของตนเบาๆและทำให้คิริโตะรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยและก็ทําให้คิริโตะหน้าขึ้นสีอีกเช่นเคย
'นี่แหละเหตุผลว่าทําไมฉันชอบเธอ'คิริโตะเอ่ยในใจ
"ขอบคุณนะซายะ"
"คุณคิบะโอ คนที่คุณพูดถึงคือ...คนที่เคยเป็นเบต้าเทสเตอร์?"
"มันเเน่อยู่เเล้ว! เจ้าพวกเบต้าน่ะ...ตั้งแต่ที่เกมส์นี้เริ่มขึ้นพวกมันก็ทิ้งบีกินเนอร์และหายหัวไปรวมทั้งเอาจุดล่าเเละเควสง่ายๆไปด้วย! นอกจากนั้นก็ไม่สนใจอะไรเลย!"
"ในที่นี้น่ะจะต้องมีอยู่เเน่! จะต้องลากคอพวกมันมาขอโทษและให้ส่งไอเท็มเเละเงินมาให้หมดล่ะนะ! ในฐานะคนที่ร่วมปาร์ตี้เดียวกัน ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด!"
ถึงเธอจะดูในอนิเมะมาเเล้ว แต่พอมาเจอฉากนี้กลับรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมากจนอยากจะตอกหน้ามันเลยทีเดียว!
และจากที่เธอเป็นฝ่ายปลอบคิริโตะ ก็กลายเป็นว่าเขาต้องมาทำให้เธอหัวเย็นลงก่อนที่จะเดินลงไปอัดหน้าเจ้าคิบะโอเสียได้
"ขอพูดหน่อยได้มั้ย..." เขายืนขึ้นจากที่นั่งก่อนที่จะเดินไปยืนด้านหน้าของคิบะโอ และเอ่ยต่อว่า
"คุณคิบะโอ สิ่งที่คุณอยากจะสื่อคือการที่พวกเบเต้าเทสเตอร์ไม่มาดูเเลทำให้เพลย์เยอร์จำนวนมากต้องตายสินะ เพื่อเป็นการรับผิดชอบจะต้องขอโทษและชดใช้สินะ"
"ช ใช่สิ!"
"ไกด์บุ๊คเล่มนี้นายก็ได้สินะ ยังไงมันก็เป็นของแจกฟรีในร้านค้าอยู่เเล้วนี่" เอกิลเอ่ยก่อนที่จะหยิบสมุดสีน้ำตาลเล่มเล็กๆออกมา
"ก ก็ได้อยู่นะ! แล้วมันทำไมเล่า!"
"ไกด์บุ๊คเล่มนี้ถูกจัดทำโดยเหล่าเบต้าเทสเตอร์ยังไงล่ะ" หลังจากที่เขาพูดจบก็อธิบายเรื่องต่างๆให้ฟังและบอกให้สนใจในการหารือเรื่องการล่าบอสเสียดีกว่า
ซึ่งการที่เขาพูดอย่างนั้นทำให้เจ้าคิบะโอทำหน้าหง่อยๆ (แต่เธอไม่สงสารหรอกนะ สมน้ำหน้า!) และกลับไปนั่งที่ตามเดิม
เมื่อเดียเบลล์เห็นว่าสถานการณ์สงบลงเขาจึงเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการล่าบอสในครั้งนี้ และเมื่ออธิบายเสร็จพวกเขาก็นัดพวกเราที่นี่ตอน 10 โมงเช้าเพื่อไปล่าบอสกัน
ก่อนที่จะเเยกย้ายกันไปในที่สุด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จบตอนที่2
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments