แอนดรอยด์

"น้ำ!! โทรศัพท์ฟ่าง" ฉันหันไปพูดกับน้ำ ซึ่งเหมือนว่าตอนนี้น้ำไม่ได้ฟังฉันพูดอะไรเลยสักนิด นอกจากจะไม่ฟังแล้วยังนั่งยิ้ม ชายตามองไอร้บ้านั่นที่เดินกลับไปบนเวทีแบบเดิม

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆจนตอนนี้จะ 4 โมงเย็นแล้ว ฉันรู้ได้ยังไงน่ะหรอ ก็เพราะว่าเอาโทรศัพท์น้ำมาดูยังไงล่ะ ความเบื่อที่ฟังไม่รู้เรื่องค่อยๆเพิ่มขึ้นมาทีละนิด จนตอนนี้กระดาษติวที่ค่ายแจก

ยับยู้ยี่เป็นรูพรุนเพราะรอยปากกาที่ฉันจิ้มๆกดๆลงไปเพื่อคลายความเบื่อหมดแล้ว

"เมื่อกี้โทรศัพท์ใครที่สายฟ้ามันเอาไป" ฉันเงยหน้าฟังเสียงพี่ไนท์ถามน้ำ คนหน้าสวยทำหน้างงๆ ก็แหง่ล่ะเล่นไม่สนใจเลยนิตอนไอร้บ้านั่นมาคงมัวแต่มองหน้าไม่มองดูสิ่งที่หมอนั่นทำสินะ

"เอ่อ โทรศัพท์ใครหรอค่ะพี่ไนท์" น้ำถาม

"เคสลายฉลามสีดำ ของเราหรือปล่าวสายฟ้ามันบอกว่ายึดมาจากโซน A5 แถวน้ำนิ"

"ฉลามสีดำ?" น้ำหันมามองฉัน "เอ่อ...ของฟ่างนิ ใช่ไหมฟ่าง"

"อือ" ฉันตอบน้ำ

"สายฟ้ามันบอกว่าจบงานไปเอาคืนอยู่ที่ห้องสตาฟ มันจะรออยู่ที่นั่น" น้ำทำตาโตก่อนจะหันมาหาฉันอีกรอบ ตาใสๆคู่นั้น สื่ออะไรได้เป็นอย่างดี

"ฟ่างไม่ว่าง ฟ่างรีบกลับให้น้ำไปเอาแทนได้ป่ะ" ฉันว่าก่อนจะเก็บปากกาใส่กระเป๋า

"ไม่ได้ มันบอกว่าเจ้าของโทรศัพท์ อีกอย่าง นอกจากจะใช้คนอื่นไปจ่ายเงินให้แล้ว ขนาดโทรศัพท์ของตัวเองแท้ๆยังจะให้เพื่อนไปอีกหรอ" พี่มันว่า

"น้ำไปได้ค่ะพี่ไนท์" คนตัวเล็กรีบตอบ

"ได๊ น้ำจะกลับพร้อมพี่เปลวใช่ไหม เดี๋ยวฟ่างไปเอาเอง" ฉันมองดูหน้าที่สุดแสนจะกวนตีนของพี่มัน คนหน้าหล่อคลี่ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะบอกว่าห้องสตาฟอยู่ไหน

ตอนนี้ 5 โมงกว่าแล้วเจ้าของค่ายและพี่สตาฟกล่าวปิดค่ายและบอกลาเด็กๆที่มาในวันนี้ สรุปสั่นๆนะวันนี้ที่มาฉันไม่ได้ประโยชน์หรือสาระอะไรเลย นอกจากเสียเวลา โทรศัพท์ก็โดนยึด

ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

ฉันแยกทางกับน้ำก่อนจะออกมาจากห้องติว เพื่อไปเอาโทรศัพท์คืนที่ห้องสตาฟ จากที่พี่ไนท์บอกห้องสตาฟอยู่หลังเวทีพอดี เดินเข้าไปได้เลย แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว ค่ายพึ่งเลิกถ้าหากว่ามีคนดังมาอย่างที่น้ำบอก ก็ปกติที่จะมีคนรุมไปขอถ่ายรูปขอลายเซ็นต์หลังจบงาน

ไปหาอะไรกินก่อนดีไหมนะนี่ก็เย็นมากละ แต่จะไปได้ยังไง รออีกสักหน่อยค่อยไปละกัน แต่ถ้ารอก็กลับบ้านเย็นอีก ความคิดในสมองของฉันเริ่มตีกันเรื่อยๆ จนตอนนี้ขาก็ก้าวมาถึงหน้าห้องสตาฟแล้ว

ไม่เห็นมีคนอย่างที่คิดเลยนิ ฉันค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องก่อนจะมองไปดูรอบๆว่ามีคนอยู่ไหม พี่มันหลับอยู่หรอเนี่ย ฉันมองดูคนไร้มารยาทที่ดึงเอาโทรศัพท์คนอื่นไปอย่างหน้าตาเฉย หลับอย่างสบายใจบนโซฟาในห้อง

เดินเข้าไปดูใกล้ๆหน่อยละกันว่าหลับจริงหรือปล่าวซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปดูทำไมก็แค่คนนอนปกติดูไร้พิษภัยดีนะต่างจากตอนอยู่ข้างนอกโดยสิ้นเชิง ปลายผมสีดำสนิทปลิวไหวไปตามแรงพัดลมคิ้วสวยๆคู่นี้ดูเข้ากับโครงหน้าหล่อๆของเค้า แต่ไร้มารยาทไปนิด

เดี๋ยวนะฟ่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการมานะเธอต้องหาโทรศัพท์สิ ไม่ใช่มามองผู้ชายนอน ฉันสลัดความคิดทั้งหมดออกจากหัวก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมองหาโทรศัพท์ของฉันที่โต๊ะวางของภายในห้อง

บนโต๊ะมีโทรศัพท์ใครบ้างไม่รู้ที่โดนยึดมาวางเต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ใช่ของฉัน แล้วถ้าไม่ได้อยู่บนโต๊ะแล้วอยู่ที่ไหนล่ะ อยู่กับพี่มันหรอ

ฉันเดินวนกลับมานั่งจ้องที่คนหน้าหล่อแบบเดิมก่อนจะเริ่มมองว่าพี่แกจะเอาโทรศัพท์ของฉันไว้ที่ไหน กระเป๋าเสื้อช็อปก็ไม่มี กระเป๋ากางเกงทั่งสองข้างก็ดูเหมือนจะ แต่เดี๋ยวนะนี้เข้าข่ายลวนลามไหมอะ ช่างเถอะ รีบเอารีบกลับก่อนพี่มันจะตื่นละกัน

"จะลวนลามหรอ"

"เชี่ย" แขนของฉันโดนกระชากเข้าไปหาอย่างแรงจนตอนนี้ร่างของฉันนอนทับพี่มันอยู่ ฉันพยายามจะดึงแขนออกจากมือใหญ่ๆนั้นแต่ดูเหมือนว่ามันจะกำแน่นเกินไปจนไม่สามารถกระดิกได้

"ก็นอนดูอยู่ตั้งนานว่าจะทำอะไร"

"โทรศัพท์อยู่ไหน"

"รู้ไหม ว่าการที่เค้าจ้างพี่ไปออกงานชั่วโมงละเท่าไหร่ ถึงได้เข้าใกล้ได้ขนาดนี้" พี่มันว่าเบาๆ ทั้งๆที่ตายังคงหลับอยู่

"ปล่อย มันเจ็บ" เหมือนประโยคเมื่อกี้มันจะไม่ผ่านหูของพี่มันเลยแม้แต่น้อย "ถ้าคนมาเห็นเขาจะเข้าใจผิด" ตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยลืมขึ้น ก่อนที่คนหน้าหล่อจะค่อยๆปล่อยมือ

"แล้วทำไมยังไม่ไปอีก" พี่มันว่า

"โทรศัพท์"

"สักเครื่องบนโต๊ะก็ไม่มีหรอ"

"ไม่"

"อ๊อ งั้นคงเป็นเครื่องนี้ เครื่องที่มันไม่เหมือนคนอื่น" ว่าจบพี่แกก็ล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ของฉันออกมา

"ทำไม" ว่าจบฉันก็เดินเข้าไปหยิบเอาโทรศัพท์มาจากมือของพี่มัน แล้วเดินออกไปที่หน้าประตู

"จะไม่ฟังคำตอบก่อนหรอ"

"แล้วทำไมก็พูดมาดิ" จะพูดก็ไม่พูดฉันชักเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว

"ก็เพราะมันเป็น แอน ดรอยด์" พี่มันย้ำลงตรงสองคำสุดท้าย อย่างชัดๆ

แอนดรอยด์งั้นหรอแล้วมันแปลกตรงไหน นี้บูลลี่โทรศัพท์คนอื่นหรอ ฉันไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่หันหน้าไปมองพี่มัน แล้วเดินออกมาจากห้อง

ฉันเดินกลับมาที่รถที่จอดไว้หน้าคณะ อย่างหัวเสียเพราะนี้มันก็เย็นมากแล้ว ข้าวก็หิว ใช้เวลาเปลืองทิ้งอีกแล้วสินะ

" I'm ready to play ใต้ฝุ่นคิมสัน" ฉันป้อนคำสั่งพิเศษให้กับคิมสันมองเผินๆมันอาจจะเป็นแค่รถธรรมดา แต่ฉันเอาคิมสันไปปรับแต่งที่ต่างประเทศตั้งหลายรอบ เลยได้ลูกเล่นใหม่ๆมา รวมทั้งคำสั่งเสียงสตาร์ทรถแบบไม่ต้องมีกุลแจ แค่อยู่ใกล้โทรศัพท์ที่ลงคำสั่งไว้

มันเลยง่ายมากๆแม้ฉันจะปากุลแจรถทิ้งที่ไหน ก็สตาร์ทรถติด เสียงเพราะๆของฉลามเยียวยาจิตใจฉันได้มาก ฉันค่อนข้างจะคลั่งเสียงเครื่องยนต์มาตั่งแต่เด็กแล้ว

ในที่สุดเช้าวันเปิดเรียนก็มาถึง ฉันมองดูตัวเองในกระจกอยู่หลายรอบกับตัวเองที่ใส่ชุดนักศึกษาเรียบๆ มันก็ถือว่าใช้ได้อยู่นะเนี้ยสำหรับคนที่ไม่ได้หน้าตาดีมากอย่างฉัน ก็ยังโชคดีอยู่มากที่พ่อให้ความสูงมาเยอะ แต่แม่นี้ให้ความสวยมาน๊อยเหลือเกินแต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะฉันรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยที่สุดก่อนจะออกจากหอพัก เพราะไม่อยากวิ่งตาเหลือกกลับมาเอาของ ถึงจะเจอเรื่องแย่ๆบ่อย แต่ประสบการณ์เปิดเรียนวันแรกก็ต้องดีที่สุด

มหาลัยฉันมันเป็นมหาลัยที่ใหญ่ที่สุดในอีสานแล้วล่ะแต่ละคณะนี้ก็ใหญ่อย่างกับหมู่บ้านหนึ่งเลยแหละดีที่ศึกษาเส้นทางมาดี เข้าประตูทางนี้ก็ต้องผ่านคณะพยาบาลแล้วก็แพท...

ปรี๊กๆ!!!!

"เชี่ย"

โคร่ม~~

อ่ะ....เจ็บๆๆลุกไม่ขึ้นเลยหนักเกินไปแล้วนะคิมสัน

"ใต้ฝุ่นคิมสัน Not play" ฉันเอ่ยปลดล็อคคำสั่งเครื่องยนต์ของฉลามอย่างน้อยมันก็ทำให้โครงรถล้อหน้ามันหันตรงในทางที่มันจะอยู่ไม่ทับขาฉันมากจนขนาดที่ฉันจะลุกขึ้นไม่ไหว

"เป็นอะไรหรือปล่าวคุณ" เจ้าของรถคู่กรณีที่ขับรถเกือบชนฉันเมื่อกี้เดินลงมาดูฉัน ที่สภาพตอนนี้โดนคิมสันทับขาไว้จนกระดิกไปไหนไม่ได้

"มาผมช่วย"

"อย่าๆ เจ็บ"

"คุณ ถ้าผมไม่เอารถออกมันก็ทับอยู่แบบนี้"

"อือ.." ฉันตอบเสียงสั่นๆเพราะตอนนี้ฉันปวดขามาก

"ลุกไหวไหม"

"ไหว" ฉันค่อยๆลุกขึ้นเท่าที่แรงจะมี แต่มันก็ลุกไม่ขึ้นขาที่ปวดอยู่เหมือนจะปวดขึ้นมากอีก

"มาผมช่วย" ว่าจบหนุ่มคู่กรณีก็ทำท่าเหมือนจะมาอุ้มฉัน

"หยุดๆ หยุดตรงนั้นหละ โทรเรียกคนมาช่วยไม่ดีกว่าหรอ" คนหน้าหล่อทำหน้านิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเดินไปที่ประตูคนขับ ฉันได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์เบาๆ จับใจความได้ว่ารถเกิดอุบัติเหตุอยู่ตรงที่ไหน เพราะตอนนี้ฉันใส่หมวกกันน็อคอยู่

แต่คุยนานไปไหมฉันปวดขามากๆเลยนะถึงจะเป็นตอนเช้าแต่นั่งตากแดดอยู่ตรงนี้นานๆ มันร้อนนะเว้ย ดีที่ตรงซอยนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาไม่อย่างนั้น คงมีคนมามุงกันเต็มแน่ๆเลย

"เอาหละเรียบร้อย เดี๋ยวเอารถไว้นี้ล่ะเดี๋ยวมีคนมาจัดการ ส่วนเราพี่ดูออกแหละว่าลุกไม่ขึ้น จะให้พี่พะยุงดีๆหรือให้อุ้ม" แทนตัวเองว่าพี่อย่างนั้นหรอ

"พ...พะยุง"

"อืม" พี่มันว่าก่อนจะเดินเข้ามาช่วยพะยุงฉัน แต่เพราะขาที่ปวดมากมันเลยเป็นไปอย่างทุลักทุเล

"ขี่รถคันโตแบบนี้ กลัวเจ็บด้วยหรอ"

"ไม่ได้กลัว"ฉันตอบเสียงสั่นๆ

"ไม่กลัวแต่ร้องไหร้หรอ" เจ็บขนาดนี้เป็นใครใครก็ร้อง แต่ฉันใส่หมวกกันน็อคอยู่นะรู้ได้ยังไงว่าฉันร้อง ใช้แม่ซื้อหรอ

"อิงรถพี่ไว้ก่อนแปปหนึ่ง" พี่มันว่าก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออกจากตัวฉันแล้วเดินวนกลับไปที่ประตูฝั่งคนขับแบบเดิม

"จะเดินไปหรอ" ฉันเจ็บขนาดนี้ยังจะให้เดินหรอ ฉันคิดว่าพี่มันจะให้ใครมารับหรือเรียกรถพยาบาล

"อืมใช่ เดี๋ยวก็มีคนมาเอารถไปละ ส่วนเราอะถือนี้ไว้" พี่มันยื่นเสื้อกาวน์มาให้ฉัน เสื้อกาวน์นี่แสดงว่าคงเป็นคณะแพทย์สินะ ฉันพยักหน้าเบาๆก่อนจะรับเอาไว้

"ทีนี้ก็... ฮึบ" พี่มันอุ้มฉันขึ้นมาอย่างง่ายดาย ทั้งที่ฉันก็ไม่ใช่คนตัวเล็กขนาดนั้นนะถ้าเทียบกันจริงๆก็ตัวเกือบจะเท่าๆกันเลยนะเว้ย

"เห้ยพี่ทำอะไรของพี่ มันเจ็บนะ" ฉันว่าก่อนจะเริ่มดิ้น

"เจ็บนิอย่าดิ้น ส่วนเสื้อก็เอามาคลุมขาไว้ ย้ำอีกข้ออย่าดิ้นมันหนัก ถ้าดิ้นพี่โยนทิ้งตรงนี้ล่ะ"

"..."

"พูดง่ายดีนิ"

ฉันถูกพี่มันอุ้มมาที่ห้องทำแผลของตึกคณะแพทย์ ถึงจะในตอนเช้าคนจะไม่ค่อยเยอะมาก แต่มันก็ดึงดูดความสนใจของคนในตึกได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ก็ผู้หญิงล่ะนะเห็นวิ่งตามกันมาเป็นแถบๆ ตอนนี้ก็เกาะประตูห้องทำแผลเหมือนตุ๊กแกที่เกาะตามฝ่าหรือผนังบ้านไม่มีผิด จนอาจารย์ที่ดูแลห้องทำแผลต้องออกไปห้ามไม่รู้กี่รอบกัน

ฉันเกียจกลิ่นห้องทำแผลเป็นที่สุด กลิ่นสำลี กลิ่นน้ำยาล้างแผล หรือแม้แต่เสียงเครื่องมือต่างๆ เพราะตอนเด็กฉันเป็นเด็กที่จะเรียกว่าซนก็คงจะไม่ผิด เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น

"สวัสดีครับ...น้อง?"

"ฟ่างค่ะ" ฉันตอบหนุ่มหน้าหล่อที่เดินถือถาดอุปกรณ์ล้างแผล ที่มีสำลีชิ้นเล็กชิ้นน้อย แอลกอฮอล์ล้างแผล มายืนที่ปลายเตียงผู้ป่วยที่ฉันนั่งอยู่

"ครับน้องฟ่าง พี่ชื่อเกมส์นะเดี๋ยวพี่จะล้างแผลให้" เกมส์หรอชื่อเหมือนน้องหมาที่บ้านน้ำจัง แต่เป็นเวอร์ชั่นคนที่หล่อละมุนนะ

"มีแค่ล้างแผลใช่ไหมคะ ขานิวไม่ได้หักหรือเป็นอย่างอื่นใช่ไหม" ฉันถาม

"ต้องรอ"

"กระดูกร้าวนิดหน่อยตรงข้อต่อเท้าไม่ได้ดูแย่มาก แต่ก็คงต้องเข้าเฝือกอ่อนๆ" พี่เกมส์ยังพูดไม่จบ พี่มันก็เดินถือภาพเอ็กซเรย์เท้าฉันเข้ามาในห้องสะก่อน

"ไม่เอาอะ เข้าเฝือกขับรถไม่ได้" ฉันว่าต่อ

"เกมส์เดี๋ยวมึงออกไปดูเคสที่ตึกcnให้กูก่อนที เดี๋ยวนี้กูจัดการเอง"

"แหม๋ เพื่อนครับร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยสนใจกะอีแค่เรื่องล้างแผล ทำไมวันนี้มาแปลกครับเพื่อน" พี่มันว่าก่อนจะเดินไปหยิบเอาแฟ้มงาน

"อ้อจัดการfcมึงด้วยนะครับเพื่อน"ว่าจบพี่เกมส์ก็เดินออกไปจากห้อง

ใส่เฝือกหรอแล้วฉันจะขับรถยังไง จะเดินยังไงใช้ไม้ค้ำหรอ อาบน้ำล่ะ แค่คิดก็ยากไปหมด วุ้นวายไปหมด แล้วถ้าตอนถอดเฝือกล่ะจะเอาออกยังไง

"หมวกจะถอดออกได้หรือยัง"

"ม...หมวกหรอ อ่อ"

"พี่ชื่อไนล์แพทย์ปี4" ไนล์หรอชื่อแปลกดีนะ

"อ้อชื่อ" หมวกบ้านี้ถอดออกยากจัง ปกติออกแปปเดียวนิ

"มาพี่ช่วย"

"อืม" ฉันเอียงหัวให้พี่ไนล์ช่วยถอดหมวก เหมือนมันจะหลุดง่ายกว่าเมื่อกี้เลยแหะ

"ฟ่างปี1" พี่ไนล์ยืนถือหมวกกันน็อคแล้วยืนนิ่งไม่พูดไม่จาไปพักหนึ่ง

ทำไมนิ่งไปแบบนั้น หน้าฉันมีอะไรติดหรอ บ้าน่าเมื่อเช้าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนะ

"พี่ไนล์" ฉันเอ่ยปากเรียกอีกครั้ง

"ห...หะ"

"ไม่ใส่เฝือกได้ไหม ฟ่างต้องขับรถมาเรียนเอง"

"เอ่อ..."

"ได้ไหม" ฉันถามย้ำคนหน้าหล่ออีกครั้ง

"อืม งั้นล้างแผลแล้วกัน" ฉันพยักหน้าตอบพี่มันเบาๆ

ฉันเอนตัวนอนลงบนเตียงอย่างช้าๆเพราะนอกจากเท้าแล้วศอกฉันยังถลอก ถึงมันไม่ได้ใหญ่มากแต่มันก็มากพอให้เลือดกระซิบออกมา พอมาโดนผ้าปูเตียงหยาบๆที่ห้องทำแผล ความแสบจึงเพิ่มได้ดีกว่าที่ควร แค่ล้างแผลเองหรอแล้วที่ข้อเท้าเคล็ดล่ะ เดี๋ยวนะตะกี้มันเคล็ดหรือมันแตกกันนะ

"งั้นหลับตา" พี่มันเดินมาบอก

"หลับทำไมไม่ได้จะนอน..."

"งั้นก็"

ก็อก~

"โอ้ยยยยยย" ฉันตะโกนออกมาอย่างสุดแรงที่จะมีได้ พี่มันหักข้อเท้าฉันงั้นหรอ

"บอกให้หลับแล้วนะ"

"เบาพี่เบา"ฉันว่าก่อนจะขยับเท้าหนีมือพี่มันไปมา

"จะขยับอีกนานไหม"

"ก็มันเจ็บ" ฉันตอบ

"ไม่เจ็บ อยู่นิ่งๆลองดู..." พี่มันว่าเสียงอ่อนทำให้เท้าที่ขยับไปมาของฉันเริ่มจะอยู่กับที่ขึ้นมาบ้าง

เป็นใครใครก็ระแวงแหละ เล่นมาหักเท้ากันแบบนี้ พี่มันค่อยๆเอาผ้าก็อดมาพันเท้าฉันอย่างเบามือ ไม่เจ็บแล้วจริงๆด้วย มือเบาเหมือนกันนะเนี่ยพ่อคนนี้

"เรียบร้อยละ" พี่มันว่าก่อนจะคีบสำลีที่เปื้อนคราบยาล้างแผลออกจากศอกฉัน มือเบาไปหมดเลยนะเนี้ยแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าทำแผลอยู่

ฉันพยักหน้าตอบเบาๆก่อนที่พี่มันจะเดินเอาอุปกรณ์ไปเก็บ เเขนเสื้อพี่มันเปื้อนเหลือดนิ หรือเพราะตอนที่อุ้มฉันมาที่นี้นะ

"มองอะไรขนาดนั้น" พี่มันว่า

"เสื้อ..."

"อ่อ คงตอนอุ้มเรามา" นั่นไงจริงๆด้วย "ทำไมหรอ จะซักคืนหรือไง ไม่เป็นไรหรอกพี่เกือบชนเราเองล่ะ"

ลืมเรื่องรถไปสะสนิท ป่านนี้จะเป็นไงบ้างละเนี้ย

"อ่อ พี่ลืมถามรถเรามันสตาร์ทไม่ติด น้ำมันอะไรก็ไม่ได้หมดไม่รู้เป็นอะไร" แหง๋ละก็แม่มันอยู่นี้ลูกมันจะติดได้ยังไง

"อ่อ พี่ช่วยโทรหาคนที่เอาไปซ่อมให้ทีได้ไหม"

"ได้ แปปนะ" พี่มันเดินไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะยื่นเอามาให้ฉัน

: ตูด ตูด

: (สวัสดีครับคุณหนู)

: เอ่อคือสวัสดีคะหนูเจ้าของรถเองนะคะ

:(อ่อ สวัสดีครับ รถมันสตาร์ทไม่ติดครับลุงเชคดูหมดแล้ว ไม่มีส่วนไหนเสียหายครับ)

: ลุงช่วยเดินไปใกล้ๆรถได้ไหมคะ

: (ได้ครับ สักครู่ครับ)

: (อยู่ตรงรถละครับ)

: ลุงเปิดลำโพงมือถือด้วยนะ

: (ได้ครับ)

: I'm ready to play ใต้ฝุ่นคิมสัน

: บรื่น~ (โอ้ ติดละครับคุณหนู)

ฉันยื่นโทรศัพท์คืนพี่ไนล์ คนหน้าหล่อยืนมองก่อนจะรับโทรศัพท์ไป

"ใต้ฝุ่นคิมสัน?" พี่มันว่าเบาๆ

"หื้ม"

"ปล่าว เสร็จแล้วเราจะไปคณะเลยไหม พี่จะได้ให้ลุงแกเอารถมาให้"

"รถ อ่อไป ตอนนี้กี่โมงแล้วหรอ"

"จะ5โมงเช้าแล้ว จะไปกินข้าวก่อนไปไหมล่ะ ถือสะว่าพี่เลี้ยงขอโทษ"

เลี้ยงข้าวไถ่โทษแล้วฉันหายเจ็บไหมล่ะ ถึงจะเป็นคนที่กลัวการเจ็บตัวมากแต่แผลแค่นี้ก็ยังน้อยกว่าตอนที่...

"ว่ายังไงจะไปไหม" พี่ไนล์ทำเสียงแข็งถามย้ำอีกรอบ

"ป...ไป"

ฉันนั่งเงียบตั่งแต่ออกมาจากห้องทำแผลแล้วเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี สำหรับคนแปลกหน้าแค่นั่งรถมาด้วยก็แปลกพอมากแล้ว พี่มันขับรถมาที่ร้านข้าวของทางตึกวิศวะ เพราะพี่แกบอกว่ากินเสร็จฉันจะได้เข้าตึกเรียนเลย

"ลงมาได้แล้วนั่งนิ่งนานไปไหม กลัวพี่หรือไง" พี่มันว่า ลงไปตอนไหนกันฉันส่ายหัวตอบคนหน้าหล่อที่ยืนเปิดประตูรถให้ฉันอยู่

"กลัว fcพี่มากกว่า ดูสิพูดยังไม่ทันขาดคำหันมากันหมดละ" ฉันดึงเอาเสื้อกาวน์ที่พี่ไนล์ถืออยู่มาคลุมหัว

"ไม่ต้องกลัวหรอก พี่ทำแบบนี้เป็นคนแรก" พี่มันว่าเบาๆ

"หื้ม?"

"ไปกินข้าว เดี๋ยวพี่เลี้ยง" ว่าจบพี่ไนล์ก็ถือวิสาสะจูงมือเดินนำฉันมาที่ร้านอาหาร

"เห้ย เจ็บอย่าดึง" พี่มันลืมไปหรือไงว่าฉันเจ็บเท้าอยู่ ลากอย่างกับจูงหมาไปเดิน

คนแรก กับคนที่พึ่งเจอกันนี้นะละนี้ปี4ละไม่ใช่หรอ ใครเชื่อก็เด็กน้อยแล้ว แถมจับมือชาวบ้านมั่วซั่วแบบนี้ยังไงก็โกหกชัวๆ

"รออยู่นี้ล่ะ พี่จะไปสั่งข้าวมาให้" พี่มันว่าเบาๆก่อนจะเดินไป

ละนั้นมองอะไรกันนักหนาละเนี้ย บรรดาสาวๆที่นั่งกินข้าวกันอยู่ใกล้ๆ ต่างหันมามองฉันและหันไปซุบซิบกัน อะไรมีขี้ติดหน้าฉันหรอ กี่โมงกันละนะป่านนี้น้ำคงกลายร่างเป็นช้างตกมันไปแล้วแน่ๆอุส่านัดไว้ตั้งแต่เช้าที่คณะ จนตอนนี้ยังไม่ได้โทรไปบอกเลย

ก่อนที่จะเดินเข้ามาร้านฉันเห็นรถฉันจอดอยู่ข้างหน้าคุณลุงคนนั้นคงจะเอามาไว้ให้แล้วฉันเลยคุ้ยหาโพสอิทในกระเป๋าแล้วเขียนข้อความบอกสั้นๆ ว่า "ขอบคุณแต่มีธุระ" ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเสื้อกาวน์ของพี่มัน

ฉันเดินออกมาจากร้านก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้ำอย่างน้อยก็บอกคงพออภัยโทษได้บ้าง(T.T)

:(ฮัลโหลน้ำ)

:\[ฟ่างหายไปไหนมาน้ำรออยู่ที่คณะไม่เจอเลย\]

:(ฟ่างเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะเอาไว้เดี๋ยวเล่านะ) ฉันรีบวางหูโทรศัพท์ทันทีเพราะถ้าขืนฟังต่อน้ำได้เทศบทสวดให้ฉันฟังแน่นอน

"อ้าวน้องฟ่างนิ"ฉันหันมองตามเสียงเรียก พี่ไนท์เดินเข้ามาทักฉันพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบาๆเท่านั้น "มากินข้าวหรอปี1นี้เค้านะแนวเสร็จเร็วจริ้ง"

"ปล่าว" ฉันตอบ

"ละนี้แขนขาไปโดนอะไรมา ไปฟัดกับหมามาหรอ" คนหน้าหล่อทำหน้ายิ้ม อยากจะตบปากให้ฟันหลุดออกมาซักซี่สองซี่จริงๆเลยนะ

"หมาในปากพี่นั้นล่ะ ขอตัวนะรีบ"

"เจอกันทีไรรีบตลอดเลยนะเรา" ฉันไม่พูดอะไรแล้วรีบเดินออกมา อยู่นานกว่านี้พี่ไนล์ออกมาก็เห็นกันพอดี

ที่จริงจะว่ารีบก็รีบจริงๆแหละเจอพี่มันทีไรต้องมีปัญหามาอีกแน่ๆ ฉันรีบวิ่งมาที่รถก่อนจะเชคว่ามีอะไรเสียหายมากไหม ส่งไปเมืองนอกแต่ละทีเสียหายเยอะเลยนะเนี้ยโถ่คิมสันลูกแม่

ดูเหมือนว่าตรงกาบข้างหน้าจะมีรอยนิดหน่อย แต่สเปรย์ทีดำที่ฉีดกรบนี้คนละโทนสีกันเลยนะเนี้ย เหล็กตรงล้อก็เบี้ยวอีกอะไหล่ที่ใช้กับคิมสันที่ติดประกันก็อยู่เมกานี้ต้องส่งไปอีกแล้วหรอ

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถามบริษัทเรื่องการส่งรถไปกลับว่าขอเวลากลับให้ด่วนกว่าปกติได้ไหม รอบที่แล้วปาไปสองเดือน แค่ไฟหน้าแตกนี้ทั้งกาบทั้งล้อคงเป็นชาติ

"ฟ่าง ทำไมไม่ไปที่คณะน้ำรอตั้งนานละที่ว่าอุบัติเหตุคืออะไร" น้ำที่ไม่รู้ว่ามาตอนไหนยืนกอดอกมองฉันอยู่ คนหน้าสวยทำหน้าไม่พอใจหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายขนาดนั้นแก้มป่องๆนั้นทำให้มันดูน่ารักสะมากกว่า

"โดนรถเฉี่ยวนิดหน่อยน่ะเลยล้ม ว่าจะส่งคิมสันเข่าอู่วันนี้เลย กว่าจะได้ก็คงอีกเดือนสองเดือน แย่สุดคงสักสาม" ฉันตอบน้ำ

"ส่งไปนอกอีกแล้วหรอ"

"ใช่อะไหล่มันดีกว่าที่ไทยนิ ขนาดสียังคนละเฉด" ฉันว่าก่อนจะส่งยิ้มให้น้ำ

"ก็เพราะสีรถของเรามันหายากนิ"ฉันหันมองตามเสียงพี่ไนล์เดินมาพร้อมกับพี่เกมส์ ชิบหายแล้วเราทิ้งพี่แกไว้ร้านข้าวนิ "พี่ก็บอกแล้วว่าต้องรอสักอาทิตย์ กะว่าจะสั่งสีมาให้เราก็รีบ" บอกตอนไหนวะ

"อ้าวสองคนนี้รู้จักกันแล้วหรอ" น้ำถามก่อนจะเดินไปหาพี่เกมส์

"ไม่/ใช่" คนหน้าหล่อยิ้ม

"งั้นแนะนำให้รู้จักเลยนะ นิวนี้พี่เกมส์แฟนน้ำเอง ส่วนนี้พี่ไนล์เพื่อนพี่เกมส์" แฟนน้ำมีแฟนตอนไหน แล้วเมื่อวานตามหวีดสายฟ้าอะไรนั้นล่ะ ฉันมองหน้าเพื่อนสาวอย่างงงๆแต่ก็แค่พยักหน้าไป

"งั้นนั้นคงน้องฟ่างเพื่อนน้ำสินะคะ"พี่เกมส์ว่าก่อนจะหันมายิ้มใส่ฉัน "ไปทานข้าวกันหน่อยไหมค่ะสาวๆเมื่อกี้ไนล์มันพาสาวมาทานข้าวแต่สาวก็หนีมันไปสะก่อน แหม๋คนแรกก็แห้วสะละ"

"พี่ไนล์พาสาวมาด้วยหรอ ไหนพี่เกมส์บอกว่าพี่ไนล์ไม่เคยสนใจสาวๆนิค่ะ" น้ำหันไปถาม เออๆถ้าจะถามกันไปย้ำกันมาขนาดนี้นะ

"ก็..."พี่มันลากเสียงยาวๆก่อนจะหันมาที่ฉัน "สรุปน้องฟ่างจะไปไหม" ฉันยิ้มแห้งๆไปทีหนึ่งก่อนจะใช้โอกาศที่สามคนนั้นหันไปคุยกันวิ่งออกมาอย่างสุดแรงเกิด

ว่าก็ว่าเถอะต่อให้ขาจะเป๋ทั้งสองข้างหรือขาขาดฉันก็จะใช้มือตะเกียกตะกายออกมาจากตรงนั้นให้ได้มันก็ไม่ได้อะไรมากหรอกแต่ยังไม่อยากไปไหนกับใครแม้แต่น้ำ ไม่งั้นคงไม่วิ่งตาเหลือกไม่สนรถที่จอดอยู่ที่นั้นแบบนี้หรอก

อืดๆ~~ \[น้ำชา\]

น้ำโทรตามฉันอย่างนั้นหรอปิดเครื่องเลยละกัน เดี๋ยวนะถ้าปิดเครื่องเรื่องมันก็จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ไหมนะ แต่ฉันอยากจะอยู่คนเดียวนิ ฉันเถียงกับจิตสำนึกตัวเองซ้ำๆจนสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะปิดมือถือ

ทิ้งรถไว้ที่นั้นสักพักละกันตอนเย็นค่อยไปเอาคงไม่เป็นไรหรอกถ้าคุณเป็นฉันคุณก็คงทำแบบเดียวกันนั้นแหละ นี้ก็พึ่งจะเที่ยงนิไว้ค่อยกลับมาเอาตอนเย็นๆก็แล้วกัน

ไปหาที่อยู่เงียบๆดีไหมนะ ถึงจะพึ่งเปิดเรียนแต่ฉันก็ไม่ได้โง่ขนาดไม่มีความคิดว่าห้องสมุดน่าจะอยู่ที่ไหน ก็เล่นแขวนป้ายบอกทางอันใหญ่อันโตขนาดนั้น

ฮึบ

ฉันหย่อนก้นลงนั่งที่โต๊ะมุมในสุดของห้องสมุดอย่างช้าๆก่อนจะจัดแจงหนังสือเล่มโตที่ไปหยิบมาจากโซนเคมีเพื่อมาทำเป็นหมอน ถึงจะแข็งไปหน่อยแต่ก็พอใช้ได้แหละ แต่แผลที่แขนนี่จะแสบไปไหนนะเลือดซิบละเนี้ยแต่ก็ช่างเถอะอย่างน้อยก็ได้นอนแล้ว งีบสักหน่อยละกันค่อยกลับไปเอารถ

ฉันหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าตื่นมาอีกทีก็ตอนที่อาจารย์ที่ห้องสมุดมาบอกว่าจะออกเวรแล้วถึงห้องสมุดจะเปิด24ชั่วโมง แต่สำหรับปี1อย่างฉันมาสิงอยู่ที่นี้คนเดียวที่นี้มันอันตรายไปหน่อย

ป่านนี้อีตานั้นคงไปละมั้ง

ฉันค่อยๆบิดขี้เกียจเบาๆเพราะเหมือนว่าความรู้สึกชาที่นอนฟุบกับโต๊ะจะเริ่มแสดงอาการแล้ว แต่แอะศอกฉันผ้าพันแผลที่พี่ไนล์ติดให้กลับกลายเป็นพลาสเตอร์รูปดาวสะอย่างนั้น บ้าน่าหรือว่าเราคิดไปเอง หรือพี่มันก็ติดพลาสเตอร์อยู่แล้วนะ ช่างเถอะตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วเอาหนังสือไปเก็บแล้วรีบกลับดีกว่า

"เชี่ย"

ฉันสบถออกมาเบาๆกับภาพตรงหน้าคือพี่มันยืนจิ้มโทรศัพท์พิงรถของตัวเองที่จอดอยู่ข้างๆรถฉัน คนหน้าหล่อหันมามองด้วยท่าทางที่เป็นมิตร แต่ทำไมฉันรู้สึกผิดจังล่ะ

"มาแล้วหรอ" พี่มันว่า

"อือ"

"น้ำบอกว่าถึงเราจะไปไหนแต่เราก็ไม่เคยทิ้งรถพี่เลย...รอ" รออย่างนั้นหรอนี้อย่าบอกนะว่ารอจนถึงสามทุ่มเนี้ยนี้บ้าหรือซื่อบื้อ

ฉันไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ค่อยๆเดินเข้าไปหารถเท่านั้น พี่ไนล์ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเปิดประตูรถแล้วหยิบเอาหมวกกันน็อคของฉันออกมา

"จากที่น้ำพูดเราหวงรถมากเลยนิ แต่ทำไมถึงวิ่งไปแบบนั้นล่ะ พี่รู้ว่าเราเริ่มต้นกันไม่ดีที่พี่ขับรถเกือบชนเราแต่ทำไมถึงหนีแบบนั้นล่ะ" เอาแล้วฟ่างทำลูกเขารู้สึกผิดแล้ว

"คือไม่ใช่อย่างนั้น คือฉัน... เอ้ยคือฟ่าง"

"อืมไม่เป็นไรพี่เข้าใจ พี่อาจจะทำเกินไปหน่อย แต่ทีหลังไม่ต้องหนีแล้ว พี่จะไม่ว่าอะไรเราแค่เราบอกมาตรงๆ" คนหน้าหล่อพูดอย่างสุภาพก่อนจะค่อยๆเดินเอาหมวกกันน็อคมาให้ฉันแล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่รถของตัวเอง

พี่ไนล์ไม่ได้ว่าอะไรต่อเพียงแค่หันมามองฉันแล้วขึ้นรถขับออกไป หรือว่าฉันทำเกินไปจริงๆนะไว้วันหลังจะไปขอโทษแล้วกันแต่วันนี้ขอกลับห้องก่อนก็แล้วกันนะ

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!