ดับแค้นวันสิ้นโลก ตอนที่3 สัตว์ประหลาด
ปัจจุบัน
ณ สถานที่อันคุ้นเคยในชีวิตก่อน ในชีวิตที่ต้องโดนย่ำยีและโดนเหยีดหยามนั้น ซอกตึกร้างแห่งหนึ่งที่ให้ความรู้สึกปราดเปรียวถ้ามาคนเดียว แต่ตอนนี้มันราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีสางนางไม้อยู่ทีื่นี่แล้ว วิญญาณแค้นยังต้องหลบทาง ยมทูตถึงกับต้องเหลียวมองกับการมาของชายผู้นี้ ที่มากับแรงกดดันอันแปลกประหลาดที่ทวีคูณเพิ่มขึ้นในทุกๆเก้าที่เขาก้าว...
"เฮ้ย!.. นั่นมันไอ้เด็กกระเป๋าเงินเรานี่หว่า"
ชายหนุ่มที่มีหน้าตาเจ้าเหล่และดูแล้วน่าจะเป็นหัวโจกของแก๊งที่นั่งอยู่บนถังขยะสีเขียวในกลุ่มนักเลงพูดขึ้นทันที เมื่อเห็นชายหนุ่ม เพราะทุกๆครั้งที่เขาพบกับชายหนุ่มเขาก็มักจะโฉบเงินชายหนุ่มไม่ให้เหลือทุกครั้งแล้วมาปันแบ่งกับคนอื่นๆ
"วันนี้เอาเงินมารึเปล่าหล่ะ"
ชายหนุ่มที่รูปร่างค่อนข้างผอมพร้อมกับใบหน้าที่เป็นรูปไข่ใส่แว่นดำ ซึ่งชายคนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากชายคนก่อนนักเขาเพราะเขาหวังจะปล้นเงินไม่ต่างจากชายคนเมื่อกี้เลย ซึ่งในกรณีที่ชายหนุ่มไม่ให้มันนี่แหละที่จะเป็นคนเปิดฉากการรุมกระทืบทุกครั้ง
"อยากได้โทรศัพท์อีกสักเครื่องหว่ะทำไงดี"
"มันถือเหล็กมาด้วยหว่ะ คิดจะจัดการพวกเรางั้นเหรอ!?"
"น่ากลัวจัง...
และอีกหลากหลายคำพูดที่เปรียบเสมือนลมปากสำหรับชายหนุ่มได้ดังขึ้นจากคนในแก๊ง ซึ่งคนเหล่านี้สำหรับเขามันก็เหมือนกับเดรัจฉานไม่หยั่งคิดหยั่งทำสำหรับเขาเท่านั้นในขณะนี้ ถึงความแค้นยังคงอยู่แต่ความสุขุมก็ยังตามมา
พวกที่ต้องการอวดเบ่งโชว์เท่เช่นนี้มันมีดีตรงไหน ทั้งการไปกลั่นแกล้งคน ปล้นทรัพย์ จี้ชาวบ้าน ไล่ตะเพิดคน.. หรืออะไรต่่างๆ ซึ่งพวกมันควรคิดได้แล้วกระมั้งว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้พวกมันสูงส่งขึ้นเลย เพียงแต่พาพวกมันลงเหวเท่านั้น ทั้งกฎหมายบ้านเมืองที่จะคอยมาระรานพวกพวกมัน ทั้งสถานพินิจที่รอพวกมันอยู่ ทั้งการตอกย้ำจากสังคม แต่คงไม่จำเป็นที่จะถึงมือตำรวจหรือผู้ใดอีกแล้วในตอนนี้ เพราะตอนนี้ตัวตนที่ราวกับยมทูตได้มาเยือนพวกมันแล้ว...
พวกมันพูดคุยเยาะเย้ยกานต์กันอย่างขบขัน ถึงจะเห็นท่อนเหล็กที่อยู่ในมือ ก็ไม่แม้นจะกลัวเลยแม้แต่น้อย
มันอาจจะเพราะลักษณะที่อ่อนแอของเขาก็เป็นได้ที่ทำให้พวกมันไม่กลัว หรืออาจเป็นเพราะเขาคอยก้มหัวหรือคอยรับใช้พวกมันอยู่ตลอดเลยทำให้พวกมันคิดอย่างนั้น
ในขณะนั้นนั่นเองก็มีชายร่างอ้วนคนนึงก็เดินเข้าไปใกล้ๆกานต์อย่างท้าทายด้วยท่าทีที่เย้ยหยัน
ชายหนุ่มที่เห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจนั่นเข้า เขาก็จำได้ถึงเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์ที่เป็นตราบาปแก่ตัวเขา...
"ฉันขอหล่ะ.. อย่าทำแบบนี้่" เสียงออดอ้อนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ชายร่างอ้วนกดหัวชายหนุ่มที่ร่างเปลือยอยู่นั้นให้กระทบกับผนังของห้องอับๆห้องหนึ่งจากข้างหลัง พร้อมกับมืออีกข้างที่จับที่สะเอวจนเกิดรอยมือแดง"รุมกระทืบฉันดีกว่าถ้าจะทำแบบนี้่.. อ๊ากกกกกก" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นขึ้นด้วยความขมขื่นอันเป็นที่สุด...
นั่นคือตราบาปที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อชีวิตก่อนที่ได้โดนไอ้เวรนี่ทำเอาไว้ หน้าของชายหนุ่มเย็นชาขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับรอบกายที่ปรากฏคลื่นพลังงานบางอย่าง
ชายร่างอ้วนที่เดินมานั้นเขาได้เดินมาหยุดที่ใกล้ๆชายหนุ่มพร้อมกระซิบข้างหูเบาๆ
"หน้าตาแกก็ใช้ได้นี่นา ฉันว่าเสร็จจากตรงนี้ฉันจะจัดให้นายสักน้ำสนป่าวล่ะ ฉันจะให้นายขึ้นสวรรค์เลยนะ..."
เหตุการณ์ คำพูด ท่าทาง สิ่งเหล่านี้เขาจำมันได้เพราะมันวนลูปมาเหมือนเดิมไม่มีผิดและถ้าเขาไม่เปลี่ยนมัน มันก็จะจบลงเหมือนคืนนั้นในห้องที่เหม็นคาวนั่น ความรู้เจ็บ ทรมานและเป็นตราบาปฝังใจนั้นที่ถูกปลดปล่อยแล้วจากการผ่านเรื่องราวการฆ่าล้างซอมบี้กว่าหลายปี แต่ความโกรธแค้นก็ยังอยู่ ศักดิ์ศรีนั้นไม่สำคัญสำหรับเขาและชีวิตที่เขาจะกำหนดมันจะต้องขึ้นอยู่ดับเขาไม่ใช่คนอื่น...
ไม่ทันได้พูดจบเสียงของท่อนเหล็กที่กรีดผ่านอากาศกระทบเข้ากับหน้าก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของชายร่างอ้วนนั้น
"โอ๊ยยยยย..แกนะแก มาทำกับฉันแบบนี้อย่าหวังว่าจะรอดไปได้เลยย! "
เข้าล่มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด พร้อมโอดครวญขึ้นเสียงดังด้วยความแค้น
"แค่นี้มันยังไม่เท่ากับสิ่งที่แก่ทำ!! "
เขาเหยียบไปที่ร่างของมันพร้อมจ้องมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม และคำพูดที่ราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ก็รู้สึกถึงได้ถึงความแค้นที่ปล่อยออกมาผ่านจิตสังหาร
'ในอนาคตแก่ทำฉันเกือบตายหลายรอบแถมยังมีที่แกทำฉันในคืนนั้นอีก ในวันนี้ถ้าแกยังไม่ตายพร้อมพักพวกของแกล่ะก็ฉันคงไม่มีอารมณ์ไปฆ่าพวกซอมบี้ที่กำลังจะมาแน่'
ภาพเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆในชีวิตที่เกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ปรากฏขึ้นในหัวของเขาเต็มไปหมดพร้อมด้วยอารมณ์ความโกรธแค้นที่พุ่งพรวดขึ้นราวภูเขาไฟที่กำลังปะทุ
"ตายซะเถอะ"
เสียงที่ไร้อารมณ์ดังขึ้นพร้อมกับมือทั้งสองที่จับท่อนเหล็กแน่นง้างขึ้นสุดแขนและทำการใส่ไม่หยั่งไปที่หน้าของมัน
"ปล่อยแม่งไว้ไม่ได้แล้ว มันทำร้ายไอ้เหี้ยอ้วน พวกเราจัดการ" อีกด้านหนึ่ง คนที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งตะโกนขึ้นสุดเสียง
เหล่าพักพวกที่เหลือเมื่อเห็นสถานการณ์ข้างหน้า ที่เพื่อนของตนกำลังโดนขี้ข้าที่พวกมันเคยกลั่นแกล้งมาทำร้ายก็เกิดน้ำโหขึ้น พวกมันพุ่งมาทางกานต์ด้วยอาวุธ บางคนก็ไม้หน้าสาม บางคนก็มีดพก พวกมันทุกคนเข้ามาหวังจะทำร้ายให้ปางตายกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
'หึ.. วันนี้จะเป็นวันตายของพวกแก ชีวิตที่ฉันต้องทนใช้อย่างขมขื่นได้เวลาแล้วที่ฉันจะหวนคืนมันกลับให้แก่คนอย่างพวกแก'
กานต์ยังกระหน่ำเหวี่ยงท่อนเหล็กโจมตีอยู่อย่างนั้น แม้หันไปแสยะยิ้มให้กับพวกมันที่เหลือราวกับว่าเขาคือปีศาจที่สุดแสนจะอมหิตที่จ้องมองเหยื่อของมัน พร้อมปลดปล่อยพลังออกมา
เหล่าคลื่นพลังสีขาวห้อมล้อมอาวุธของเขา พร้อมด้วยแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจนสีหน้าของพวกมันที่เข้ามาใกล้เริ่มแย่ลงอย่างน่าประหลาด
"อะไรกัน ความรู้สึกถึงอันตรายนี้"
พวกมันหลายคนเริ่มสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ควรเข้าใกล้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนกระทั่งสายไปซะแล้วไม่มีทางจะหลีกหนี ตอนนี้พวกมันทุกคนได้เข้ามาในรัศมีการโจมตีของชายหนุ่มแล้ว
Noxที่สวมอยู่ก็มีการเพิ่มขึ้นของเปอร์เซ็นต์จาก1%ตอนนี้มีอยู่3%แล้ว
แต่จู่ๆ
หน้าจอของNoxก็ถูกเลื่อนราวกับว่ามีใครไปสัมผัสมัน ในอีกหน้าจอนั้น มันได้ขึ้นเลข0แต่ไม่ขึ้นเปอร์เซ็นต์ และตอนนี้เลข0นั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเลขของมันเริ่มพุ่งขึ้นจากทีแรกที่ขึ้นอย่างช้าๆไปยังเลขหลักสิบตอนนี้มันพุ่งอย่างรวดเร็วไปอยู่ที่หลักร้อยและไปหยุดนิ่งอยู่ที่976และเมื่อตัวเลขหยุดนิ่ง บนจอด้านขวาล่างก็ปรากฏตัวเลข-500ขึ้นตาม
ตามความทรงจำของกานต์ตัวเลขตรงกลางในฝั่งนี้ของเข้าที่ผ่านไปสิบปีมันอยู่ที่หลักล้านซึ่งเทียบไม่ติดเลยกับตอนนี้..
ตุบ.ตุบ.ตุบ..เสียงเหล็กที่กระทบเข้ากับเนื้อดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
"ฉันขอหล่ะปล่อยฉันไปเถอะ" คำโอดครวญที่แสดงถึงความหลาดกลัวอันเป็นที่สุดดังขึ้นในขณะที่ท่อนเหล็กนั้นยังคงกระทบกับเนื้อของเขา
'หึ ในตอนที่พวกแกเป็นฝ่ายลงมือพวกแกยังไม่แม้นจะฟังคำขอของฉันเลย แล้วตอนนี้กลับมาพูดอ้อนวอนงั้นเหรอ ฟันไปเถอะ!! '
เขาง้างอาวุธที่อยู่ในมือสุดแขนพร้อมฟาดลงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าไปในอีกศึกนึงที่ต้องเผชิญ คือกลุ่มของพวกมันที่กำลังวิ่งกรูกันเข้ามาพร้อมกับอาวุธเตรียมสู้..
พวกมันหลายคนที่ตอนแรกมีใจฮึดเหิมด้วยความโกรธ ตอนนี้เกิดมีความกลัวมาครอบง่ำจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ นี่อาจจะไม่ใช่แค่ความกลัวก็เป็นได้ มันอาจจะเป็นอำนาจบางอย่างของพลังในตัวชายหนุ่มก็เป็นได้ที่ได้ทำให้พวกมันเป็นเช่นนี้
เพื่อนๆเริ่มโดนทุบตีไม่หยั่งเริ่มล่มลงไปทีละคนๆ บางคนก็เริ่มสำนึกผิดและทำการโอดครวญขอร้องทั้งน้ำตา แต่ก็สายไปสะแล้วเพราะตอนนี้คนตรงหน้ามาเพื่อคิดจะฆ่าโดยเฉพาะไม่ได้มาเพื่ิอจะให้อภัยแต่อย่างไร
พื้นที่ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นกลับถูกย้อมด้วยเลือด ผนังที่เคยมีสีสันจากพวกกราฟิตี้ที่มาพ้นสีเล่นก็โดนแทนที่ด้วยสีของโลหิต
นักเลงอีกสองสามคนที่ล้าถอยออกมาก็เริ่มตัวแข็ง พวกมันยืนมองเหล่าเพื่อนพ้องที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยเลือดที่ชุ่มตัวกับขี้ข้าตรงหน้าที่แปรเปลี่ยนเป็นอสูรกายบ้าเลือด
"พะ.. พะ.. พวกเรายอมแล้ว ปล่อยเราไปเถอะ" พวกมันอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีกจนกระทั่งเหล่าเพื่อนๆที่โดนทุบก็แน่นิ่ง
พวกมันแน่ใจเลยว่าเขาได้ตายไปแล้ว ตายเพราะน้ำมือของคนที่พวกมันเคยปล้น เคยกลั่นแกล้ง และเคยทำให้เขาต้องทรมาน
ตอนนี้ความรู้สึกสำนึกผิดก็ฝังลึกเข้าไปในก้นบึ้งของจิตใจแล้ว
ท่อนเหล็กที่ถูกย้อมด้วยโลหิตหยุดลงมือ กานต์ที่ตอนนี้ได้ระบายความรู้สึกที่สั่งสมมานานก็เริ่มรู้สึกว่าตนเป็นคนที่เลวทรามมากที่ทำแบบนี้ลงไป
แต่แล้วยังไงล่ะ เมื่อพวกซอมบี้เริ่มมาระรานพวกมันก็ใช้ผู้คนธรรมดามาเป็นโล่ให้ซอมบี้กัดกินแล้วตัวเองก็หนี แถมยังคร่าชีวิตมนุษย์ด้วยกันเองนับสิบนับร้อยเพื่อปล้นอาหารมาเป็นของตัวเอง
ถึงเขาจะเลวทรามต่ำช้ายังไงเขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้คนพวกเวรนี่รอดไปได้หรอก เพราะแค้นนี้ต้องชำระ..
ตอนนี้หัวใจของเขาเย็นช้าจนถึงขีดสุดแล้ว เขาโยนท่อนเหล็กที่ถืออยู่ทิ้งไป เหล่าพลังเริ่มห้อมล้อมที่มือของเขา
เขาทำการเจาะกระโหลกพวกมันทีละคนๆ จากนั้นก็หยิบสิ่งนึงออกมาจากกระโหลกและทำการกินมันด้วยหน้าตาที่ไร้อารมณ์ของเขา ใช่แล้วหล่ะมันคือสมอง
สามคนที่เห็นการกระทำของกานต์ก็ฟุบลงกับพื้นทันใดและมองบุคคลตรงหน้าที่ทำการกินสมองของเพื่อนตนเอง
ราวกับพวกเขากำลังมองซอมบี้ที่หิวโหยทำการกินซากศพมนุษย์ที่ตายแล้วอย่างมูมมาม
เสียงของหัวใจที่เริ่มสั่นระรัว เม็ดเหงื่อผุดพราย ดวงตาเบิกกว้าง
"นี่มันสัตว์ประหลาด.. นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ"
ตอนที่4 ผู้ที่ถูกย้อนเวลากลับมาอีกคน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments