การันต์ x วิวาห์ Kookv EP.5

.

.

.

-- 17:02 –

เสียงออดดังขึ้นเหมือนอย่างทุกวัน เด็กๆต่างเก็บของเข้ากระเป๋าและเดินทางกลับบ้าน

วิวาห์ : การันต์! กลับบ้านด้วยกันเถอะ

การันต์ : อืม...

...เวลานี้เขาต้องดีใจที่ได้กลับบ้านไม่ใช่เหรอ ทำไม...

‘อยากอยู่ต่อจัง... อยากอยู่กับวิวาห์’

วิวาห์ : หือ? ทำหน้าอะไรของการันต์อะ

การันต์ : อ...เปล่านี่ มันดูแปลกเหรอ

วิวาห์: อื้อ การันต์ทำหน้าอย่างกับเด็กโดนบังคับกินยาเลย ฮ่าๆๆ

การันต์ : ....

การันต์ยืนมองอีกคนที่ยืนหัวเราะชอบใจอยู่ข้างๆ ‘รอยยิ้ม.. อยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้จัง..’

วิวาห์ : ป่ะ!กลับบ้านกันเถอะ! .ยื่นมือ

การันต์ : .มอง

การันต์ที่เห็นแบบนั้นจึงตีมืออีกคนแรงๆแล้วรีบเดินออกมาจากห้อง

วิวาห์ : อ๊ะ!! เจ็บบบบ อะไรกันเล่าการันต์! รังเกียจมือเราเหรอ .เบะ

การันต์ : ..ไม่

เพราะเขากำลังเขินต่างหาก! ไอ้เด็กบ้านี่ ถึงจะอายุมากกว่าก็ไม่ยอมหรอก

วิวาห์ : การันต์หน้าแดงแล้ววว .ยิ้มแฉ่ง

การันต์ : …หุบปาก

วิวาห์ : การันต์หยาบคาย!

การันต์ : นายมันกวนประสาท .เดินหนี

วิวาห์ : ..ห๊า!..ก็ไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลยนี่!.วิ่งตาม

แสงพระอาทิตย์ส่องกระทบให้เห็นเด็กชายเดินริมสะพานข้ามแม่น้ำอย่างทุรักทุเร เพราะเด็กอีกคนที่คอยหยอกล้อเขาตลอดทางเดิน

วิวาห์ : การันต์ การบ้านวันนี้ยากมากเลย

การันต์ : ไม่เห็นจะยากตรงไหน

วิวาห์ : ก็การันต์เรียนเก่งการันต์ก็พูดได้สิ

การันต์ : ที่ทำได้เพราะฟังครูไม่ใช่รึไง

วิวาห์ : ก็เราไม่ได้ฟังอะ!

การันต์ : แล้วทำไมถึงไม่ฟังเล่า

วิวาห์ : ก็เพราะการันต์นั่นแหละ!

การันต์ : ห๊า? ฉันผิดงั้นเหรอ

วิวาห์ : ก็ใช่น่ะสิ!

การันต์ : ว่าไงนะ ฉันผิดอะไร!

วิวาห์ : ก็การันต์ไม่ยอมคุยกับเราอะ! ถามอะไรก็ไม่ตอบ! การันต์ทำให้เราไม่ตั้งใจเรียน!

การันต์ : เป็นบ้าเหรอ!ประโยคนั้นฉันต้องพูดต่างหาก

วิวาห์ : อะระ! อะระๆๆ

การันต์ : นายไม่ใช่รึไงที่เอาแต่นั่งบ่นนู่นนี่จนฉันไม่มีสมาธิเรียนน่ะ!

วิวาห์ : นี่การันต์หาว่าเราพูดมากเหรอ!

การันต์ : ยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ!

วิวาห์ : การันต์พูด!

การันต์ : ไม่ได้พูดซักหน่อย!

วิวาห์ : พูด!การันต์พูด! การันต์หยาบคาย!

การันต์ : ไม่ได้พูด!

วิวาห์ : ฮื้อออ! การันต์พูด!

การันต์ : ไม่--!?

มือเล็กตะครุบเข้าที่ปากของการันต์ ใบหน้าสีน้ำผึ้งเริ่มแดงระเรื่อ ริมฝีปากเล็กขบเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรง ‘วิวาห์โมโหจนหน้าแดงเลย..’

วิวาห์ : ย..อย่ามาเถียงเรานะ ไม่งั้นเราจะโกรธการันต์

การันต์ : .... .มองมืออีกคน

วิวาห์ : ...แหะ .ค่อยๆชักมือออก

การันต์ : ...แย่แล้ว

วิวาห์ : หือ?

การันต์ : จะหกโมงเย็นแล้ว..

วิวาห์ : ..ล..แล้วไงอะ?

การันต์ : ชิ…วิ่งเร็วเข้า!

ไม่ทันที่วิวาห์จะตั้งตัว มือของเขาก็โดนกระชากให้วิ่งตามโดยคนตัวเล็กกว่า

วิวาห์ :ด..เดี๋ยว เดี๋ยวสิ! ช้าๆได้มั้ยยย

การันต์ : เงียบไปเลย เพราะนายเอาแต่เถียงฉันเราถึงต้องวิ่งแบบนี้!

วิวาห์ : ฮ..แฮ่ก การันต์ก็ด้วยนี่! ย๊าาาาาาา!

การันต์ : น่าไม่อายจริงๆ

วิวาห์ : ..ชิ!

.

.

.

-- ป้ายรถบัส –

วิวาห์ : แฮ่ก..แฮ่ก.. การันต์..เราจะยืนไม่ไหวแล้วนะ..

ใบหน้าแดงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผมหน้าม้าเปียกชื้น ริมฝีปากอวบอิ่มเบ้ออกพลางพร่ำบ่นด้วยเสียงที่แหบพร่าง

การันต์ : ..ทนหน่อยนะ..

วิวาห์ : ฮื้ออออออ เหนื่อยแล้วอะ เหนื่อยยยยยย

การันต์ยืนมองอีกคนที่ทิ้งตัวนั่งเหยียดขาลงบนพื้นแล้วเตะอากาศอย่างหงุดหงิด

การันต์ : ทำอะไรน่ะ.. ลุกขึ้นมาได้แล้ว .ดึงแขนอีกคน

วิวาห์ : ฮือออ ไม่ๆๆๆ ขาเราจะหักอยู่แล้ว .ดิ้น .ทุบขาตัวเองเบาๆ

ไม่นานนักรถบัสก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดข้างหน้าพวกเขา

การันต์ : เฮ้อ.. ลุกขึ้น รถบัสมาแล้ว .ยื่นมือ

วิวาห์ : อะ.. มาแล้วเหรอ .จับมืออีกคน .ลุกขึ้นปัดก้น

ทั้งคู่รีบวิ่งขึ้นรถบัสทันทีที่ประตูเปิด รถบัสที่วันนี้ไม่มีคนเนื่องจากนี่เป็นรถรอบสุดท้ายแล้ว การันต์ตรงเข้าไปนั่งเบาะท้ายสุดเหมือนทุกวัน

วิวาห์ : การันต์ ทำไมถึงไม่นั่งเบาะหน้าล่ะ?

วิวาห์ที่เดินตามหลังมาเอ่ยปากถาม ในเมื่อที่นั่งออกจะเยอะแยะ ทำไมถึงเลือกที่แบบนั้นกัน

การันต์ : ........

ดวงตาสีแดงเหลือบมองอีกคน ก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาอุดหูอย่างไม่ใส่ใจนัก

วิวาห์ : ...ย่าห์!นี่เมินกันเหรอ...ฝากไว้ก่อนเถอะ ฮึ่ยย!

การันต์ : .........

วิวาห์ : ... .เบ้ปาก .เดินไปนั่งข้างๆอีกคน

ตลอดทางบนรถบัส การันต์นั่งฟังเพลงเงียบๆ ในขณะที่อีกคนพูดบ่นเรื่องของตนไม่หยุด แม้จะไม่มีใครโต้ตอบ ก็ดีกว่าให้ทนนั่งเหงาปากนั่นแหละนะ

การันต์ : ........

เวลาผ่านไประยะหนึ่ง เสียงเจื้อยแจ้วข้างตัวการันต์ก็เริ่มแผ่วเบาลง จนมันเงียบไปในที่สุด

ฟุบ..

ร่างกายการันต์นิ่งไปสักพัก เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลงมายังบ่าของตน เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงน่ารำคาญนั่นหลับไปซะแล้ว ให้ตายสิ ขนาดนอนยังเบียดเบียนคนอื่นอีก.. ปากเล็กยกยิ้มบางๆ กระชับเอวอีกคนมาชิดมากขึ้น ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับบทเพลง

.

.

.

Baby, it just took one hit of you

Now I'm addicted

ที่รัก สัมผัสที่คุณสัมผัสฉัน

ตอนนี้ ฉันเสพติดมันแล้ว

You never know what's missing

Till you get everything you needed

คุณไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรหายไป

จนกว่าคุณจะต้องการสิ่งนั้น

.

.

.

มือขาวซีดบีบกระชับมือเล็กของอีกคนไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะหายไป

‘อุ่นจัง....’

.

.

.

I don't wanna run away just wanna make your day

When you feel the world is on your shoulders

ฉันไม่อยากหนีอีกต่อไปแล้ว ฉันแค่อยากทำให้คุณมีความสุข

เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกแบกโลกไว้ทั้งใบ

I don't wanna make it worse just wanna make us work

Baby, tell me, I will do whatever

ฉันจะไม่ทำให้มันแย่ลง ฉันอยากให้เราก้าวผ่านมันไป

ที่รัก บอกฉันมา ฉันจะทำทุกอย่างเลย

.

.

.

เสียงดนตรีที่ดังก้องในหูไม่ได้ทำให้เขาตื่นเต้นได้เท่ากับเสียงลมหายใจของอีกคนเลย... อุณหภูมิในตัวของเด็กชายเริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก สติที่เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทรมาณ... แต่มีความสุขจัง

การันต์ : …It feels like nobody ever knew me until you knew me... (มันเหมือนราวกับว่าไม่มีใครรู้จักฉัน จนกระทั่งได้พบคุณ)

.

:Feels like nobody ever loved me until you loved me

เหมือนกับไม่มีใครรักฉันได้มากเท่าที่คุณรัก

.

การันต์ : Feels like nobody ever touched me until you touched me… (เหมือนกับไม่มีใครเคยสัมผัสฉัน จนกระทั่งคุณได้สัมผัส)

.

.

Baby, nobody, nobody until you…

ที่รัก ไม่มีใครเลย จนกระทั่งได้พบคุณ..

.

.

.

.

“วิวาห์ ต้องลงแล้วนะ...ตื่นเถอะ”

วิวาห์ : อือ...

การันต์ : ตื่นได้แล้ว.. ถึงป้ายรถบัสแล้ว

วิวาห์ :............

การันต์ : ....วิวาห์!

วิวาห์ : กรี๊ด!!!... อ..ก..การันต์

การันต์ : ...ตื่นซักทีนะ ลงได้แล้ว .ดึงอีกคนลงจากรสบัส

รถบัสเคลื่อนออกไปแล้ว เหลือเพียงเด็กสองคนที่ยืนนิ่งอยู่กับที่

วิวาห์ : .... .ขยี้ตา

การันต์ : ตื่นรึยัง

วิวาห์ : อือ.. .พยักหน้า

การันต์ : ถึงบ้านก็อย่าลืมทำการบ้านด้วยล่ะ

วิวาห์ : อือ .พยักหน้า

การันต์ : จำได้รึเปล่าว่าการบ้านมีอะไรบ้าง

วิวาห์ : ...คณิตศาสตร์ แล้วก็..แล้วก็..

การันต์ : ....ภาษาอังกฤษ

วิวาห์ : ..นั่นแหละ! ภาษาอังกฤษไงล่ะ ฮี่ๆ

การันต์ : เฮ้อ... งั้นแยกกันตรงนี้ละกันนะ

วิวาห์ : ..อ..อื้อ .พยักหน้า

ร่างขาวหันหลังและเดินออกห่างจากอีกคน

วิวาห์ : ..การันต์!!!

เสียงใสตะโกนขึ้นทำเอาเจ้าของชื่อรีบหันกลับมามอง

การันต์ : ....

วิวาห์ : ฝันดีนะ ฮี่^^.ยิ้มกว้าง

การันต์ : ..อืม ฝันดี .ยิ้มบาง

.

.

.

การันต์ : ...ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่...

การันต์ยืนมองวิวาห์ที่ตอนนี้อีกคนก็ดูงุนงงเช่นเดียวกันกับเขา

วิวาห์ : ..เอ๊ะ..เอ๊ะ? ...เอ๊ะ!?

เด็กสองคนยืนมองหน้าบ้านของอีกฝ่ายสลับกับบ้านตัวเอง ทำไมมันถึงอยู่ติดกันเลยล่ะ!

การันต์ : ....

“การันต์..”

หญิงสาวผมบลอนด์จับลอนสวยเดินออกมาพร้อมกอดหอมลูกชายอันเป็นที่รัก

ดอกไม้ : กลับมาแล้วเหรอลูก ทำไมวันนี้กลับช้าจังคะ หืม

การันต์: ..พอดีได้ขึ้นบัสรอบสุดท้ายน่ะครับหม่าม๊า

ดอกไม้ : หิวมั้ยคะ ม๊าเตรียมมื้อเย็นอยู่พอดีเลย.. อ่าว หนูเป็นคนที่ย้ายเข้ามาใหม่เหรอจ๊ะ .ยิ้มหวาน

วิวาห์ : ..เอ่อ..ครับ เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวานนี้..

ดอกไม้ : หืม งั้นก็คงอยู่โรงเรียนเดียวกันกับการันต์สินะเนี่ย ชื่ออะไรเอ่ย

วิวาห์ : ครับ!ผมชื่อวิวาห์ เป็นเพื่อนกับการันต์เองครับ ฮี่ๆ

วิวาห์เดินไปกอดคอการันต์พร้อมส่งยิ้มรูปสี่เหลี่ยมให้หญิงสาว

ดอกไม้ : ฮ่าๆๆ ดีจังเลยนะการันต์

การันต์ : ....

วิวาห์ : .หันไปยิ้มให้การันต์

ดอกไม้ : เอาล่ะๆ เด็กๆควรพักผ่อน หนูวิวาห์เข้าบ้านได้แล้วนะ ว่างๆมาเที่ยวเล่นบ้านน้าบ้างนะจ๊ะ

วิวาห์ : ครับ!ไปนะการันต์! .ยิ้มกว้าง .โบกมือให้การันต์

ดอกไม้ : ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ อยู่ข้างๆกันมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะ

วิวาห์ : ขอบคุณนะครับคุณน้า.. ฝันดีนะการันต์!

หญิงสาวยืนมองประตูรั้วปิดลงพร้อมร่างวิวาห์ที่วิ่งเข้าบ้าน ช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดูในสายตาเธอยิ่งนัก

ดอกไม้ : น่ารักนะว่ามั้ย?

ผู้เป็นแม่พูดขึ้นพลางหันไปหาลูกชายตัวเล็ก..

การันต์ : ..ครับ .ยิ้มบาง

ดอกไม้ : หืม...น่ารักเหรอ? .กลั้นขำ

การันต์ : ...!!

การันต์ที่รู้ตัวว่าโดนแกล้งก็รีบหันไปมองคาดโทษกับแม่ของตน ที่ตอนนี้ยืนกลั้นขำจนไหล่โยก

การันต์ : ม๊า..

ปากเล็กเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่เบาๆ ใบหน้าขาวแดงลามไปถึงใบหู ใจสั่นมือสั่นจนทำอะไรไม่ถูก กิริยาตอบสนองของการันต์ยิ่งทำให้ดอกไม้กลั้นขำไว้แทบไม่ได้

ไม่เคยคิดเลยว่าลูกชายเธอจะมีมุมนี้

การันต์ : ม๊า... ผมหิวแล้วนะ..

ดอกไม้ : ฮึก..โอเคๆ ฮ่าๆ เข้าบ้านกันค่ะ .ยิ้มขำ

การันต์ : ....

ทั้งสองคนจูงมือกันเข้าบ้าน ร่วมทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา สนทนาเรื่องราวต่างๆ ภายในคฤหาสน์หรูที่เงียบสงบ...

ในชีวิตการันต์มีพร้อมทุกอย่าง ขาดเพียงแต่ผู้รู้ใจเท่านั้น หากตอนนี้เขาเชื่อว่า...เขาได้เจอคนผู้นั้นแล้ว...

.

.

.

--- จบตอน ---

//อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอโทษที่สาปสูญหายไปนานมากเลยนะครับ หวังว่ายังไม่มีใครติดป้ายไรท์หายใช่มั้ยครับ

ตอนนี้จะเผยให้เห็นว่าการันต์เป็นคนที่แข็งนอกอ่อนในนะครับ แม้จะดูเป็นคนที่แข็งทื่อ แต่ภายในนั้นอ่อนแอมากๆ อย่างที่เนื้อเพลงบอกนะครับว่า It feels like nobody ever knew me until you knew me (มันเหมือนราวกับว่าไม่มีใครรู้จักฉัน จนกระทั่งได้พบคุณ) ท่อนนี้ไรท์นำมาใช้เพื่อสื่อความว่า ไม่เคยมีใครรู้จักการันต์ จนกระทั่งวันที่วิวาห์ได้เข้ามาทำความรู้จักกับการันต์ วิวาห์เลยเป็นคนแรกของทุกเรื่องสำหรับน้องการันต์เลย แน่นอนว่าเรื่องของหัวใจก็เช่นกันครับ

ตอนนี้ไรท์อยากให้ผู้อ่านเปิดเพลงนี้คลอเบาๆนะครับ

https://www.youtube.com/watch?v\=07mXegIHcIs

ลิ้งค์เนื้อเพลงครับ

https://minimore.com/b/uwL0z/13

.

.

เอ็นดูน้องการันต์และวิวาห์เยอะๆนะครับ .ปาดน้ำตา

กว่าต้นฉบับจะอัพ.😂

ต้นฉบับบอกมาไงก็ลองทำตามเนอะๆ.😁😂

(fcต้นฉบับค่ะ.!!💗)

ฮอต

Comments

เลิกนิสัยตอแหลนะพวกแรด🙄🙄🙄🙄

เลิกนิสัยตอแหลนะพวกแรด🙄🙄🙄🙄

แข็งนอกอ่อนในคำนี้มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้นะ😅😅😅

2021-01-04

0

MANOOD😊

MANOOD😊

แอด ต้นฉบับอ่านได้ที่ไหนอ่าาาา😇

2020-12-20

2

เซฮาย

เซฮาย

ลืมเรื่องนี้แล้วแหะ

2020-12-03

2

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!