P:ขุนพล
“ไอขุนตกลงเย็นนี้มึงจะไปเปล่า” ตุลย์เพื่อนของผมถามขึ้น
“ไม่ว่ะ พรุ่งนี้ไอริณแม้งนัดกูไปดูน้องดาวเดือนแต่เช้าเลย” ผมตอบ
สวัสดีครับผมขุนพล เรียนอยู่วิศวะปีสามเอกอุตสหการครับ ผมค่อนข้างจะไม่สนโลกเท่าไหร่ผมไม่ได้บอกเองนะครับคนอื่นที่เขาเคยเจอผมเขาพูดกันแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เป็นเดือนมหาลัยนะครับ อ่อผมลืมเเนะนำไปนี่เพื่อนผมครับชื่อตุลย์เพื่อนสนิทคนเดียวตลอดสามปีของผมจะว่าไปนิสัยเราก็ไม่คล้ายกันสักนิดแต่ก็คบกันได้เฉยเลย
“เอ่อๆดีเลย พรุ่งนี้เดี๋ยวกูเข้าไปหามึงที่คณะ”
“มาทำเชี้ยไรพรุ่งนี้มีเรียนบ่ายไม่ใช่”
“กูก็อยากรู้จักน้องดาวเดือนบ้างป่ะว้ะไหนๆก็เป็นรุ่นน้องแล้วช่วยกันดุฝูช่วยกันมองไม่เห็นแปลก”
“สัสมึงอย่ามาอ้าง แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วมึงอ่ะ”
“หรอว่ะ ฮ่าๆๆๆ งั้นเจอกันพรุ่งนี้”
“เออ”
มันตบไหล่ผมแล้วเดินจากไป ผมไม่รอช้ารีบเดินไปที่รถของตัวเองทันที
(ห้องขุนพล)
ผมเดินเข้าห้องมาพร้อมกันดูนาฬิกามี่ข้อมือตัวเองเป็นเวลาสามทุ่มผมใช้เวลาขับรถเพื่อกลับมาที่คอนโดครึ่งชั่วโมงได้หลังจากแวะกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งระหว่างทางกลับ ผมไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างตัวก่อนที่จะทำงานะที่กองอยู่บนโต๊ะ
*เสียงโทรเข้า*
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็ได้ยินยินเสียงเรียกเข้าดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนครับเป็นยัยไอริณนี่เอง ผมรู้จักไอริณผ่านๆครับเธอเป็นสาววายที่ชอบจับผู้ชายจิ้นกัน เธอก็เป็นเพื่อนของผมแต่ไม่สนิทเท่าไหร่
//ฮัลโหล//
//รับสายช้าจังพ่อคุณ พรุ่งนี้ห้ามลืมนะคะ//
//เอ่อน่าไม่ลืมหรอก ย้ำมาก//
//ก็แกเป็นคนเเบบนี้ไง ฉันเลยต้องโทรมาย้ำ วั้นแค่นี้แหระจ่ะพ่อคุณไม่กวนแล้ว//
ตู้ดดดด!!!! ว่าเเล้วเธอก็ตัดสายใส่ผมทันที
...-Gend University-...
เช้าวันรุ่งขึ้น............
วันที่สองของชีวิตเฟรสชี่ปีหนึ่งทุกคน ไวท์หนุ่มหล่อน่าใสเดินมาพร้อมกับเพื่อนของเขาทั้งสองคนต้นกล้าและเจมส์ เจมส์และต้นกล้าใส่เสื้อเชียร์ที่รุ่นพี่แจกพร้อมกับแขวรป้ายชื่อไว้ที่คอ ส่วนไวท์ส่วนชุดนักศึกษาเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้าตามที่พี่ไอริณบอก ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปทางห้องเชียร์ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่หน้าหอประชุมของคณะซึ่งใช้เป็นห้องเชียร์นั่นเอง
หญิงสาวที่ใช่ชุดนักศึกษาหน้าตาดีเมื่อเห็นรุ่นน้องที่กำลังเดินมาก็ทักขึ้น
“เอ้ามาพอดีเลยพี่กำลังตะโทรถามว่าอยู่ไฟนะ” ไอริณพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้
“สวัสดีครับพี่” ทั้งสามคนพูดพร้อมกันเป็นเสียงเดียว
“ดีจ่ะ งั้นเราไปกันเลยไหม” ไอริณหันหน้ามาบอกไวท์
“งั้นพวกผมเข้าเชียร์ก่อนนะครับ” ต้นกล้าและเจมส์บอกรุ่นพี่คนสวยก่อนตะเดินเข้าหอประชุมไป
P: ไวท์
“ไปเลยหรอครับ” ผมพูดทักขึ้นเมื่อเห็นพี่ไอริณเดินนำไป
“ใช่จ่ะ ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว”
“แล้วผมไม่ต้องบอกรุ่นพี่ข้างในก่อนหรอคับ” ผมถามด้วยขึ้นเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่โดนรุ่นพี่ว่าทีหลัง
“เรื่องนั้นเราไม่ต้องห่วงพี่แจ้งพี่ๆ เขาไว้แล้ว” พี่ไอริณว่าแล้วก็เดินต่อไป ส่วนผมก็เดินตามเธอไปติดๆ และแล้วเราก็เดินมาหยุดที่รถคันหนึ่ง
“ขึ้นรถไปกับพี่เลยแล้วกัน ขากลับเดี๋ยวพี่ขับมาส่งที่รถอีกที” เมื่อเธอพูดจบก็เปิดประตูฝั่งคนขับขึ้นไปทันที ส่วนผมก็ขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ผมนั่งรถมาสักพักหนึ่งและแล้วรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าคณะบริหารธุรกิจ
“ป่ะ ถึงแล้ว” พี่ไอริณว่าแล้วก็ลงรถ
“ไกลจากคณะเราเหมือนกันนะครับเนี้ย”
“นั่นเป็นเหตุผลที่พี่ขับรถมาไงจ๊ะ”
หลังจากจบบทสนทนาผมก็เดินตามพี่สาวคนสวยเข้ามาในคณะจนมาหยุดที่หน้าห้องใหญ่ๆ ห้องหนึ่ง
(กองประกวดดาวเดือน)
“สวัสดีจ่ะทุกคน” ผู้หญิงที่มากับผมทักทายคนที่อยู่ในห้องด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“มาแล้วหรอคะพี่ริน” เสียงของสมาชิกที่อยู่ในห้องคนหนึ่งตอบรับพร้อมกับเดินเข้ามาหา
“ใช่จ้ะคนสวย” พี่ไอริณตอบ
“ปากหวานตลอดเลยนะคะคนนี้ถ้าหนูไม่ได้ชอบผู้ชายหนูจีบพี่ไปแล้ว”
“ชอบผู้ชายไปเถอะจ้ะพี่เชียร์อยู่”
“ฮ่าๆๆพี่ก็ อุ้ย!!นี่เดือนคณะพี่หรอคะ” สายตาของเขาหันมาที่ผม
“ใช่จ้าเป็นไงสมราคาคุยพี่ไหม”
“ฮื้ม!!! ยิ่งกว่าค่ะหล่อน่ารักแถมหุ่นดีแบบนี้รับรองเป็นตัวท็อปปีนี้เลยก็ว่าได้”
“เว่อร์ไปป่ะเนี้ยตัวเธอ” รุ่นพี่สองคุยกัน พร้อมกับเดินเข้ามาที่เก้าอี้ว่างโดยที่รุ่นพี่ผู้ชายหน้าสวยกอดแขนพาผมเข้ามาด้วย
“โอ้ยมัวแต่คุยพี่ลืมแนะนะตัวเลยสุดหล่อ พี่ชื่อหยกนะ” พี่เขาพูดขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมไวท์ครับ”
“ยินดีมากเลยจ่ะสุดหล่อมามะมานั่งข้างๆพี่” พี่หยกตบที่เก้าอี้ว่างๆข้างๆเขา
หมดกำลังตะนั่งเลยครับแต่ทว่ากลับมีใครบางคนดึงเก้าอี้ไปด้านหลังเสียก่อน ให้ตายเถอะไม่เห็นหรือไงว่ามีคนจะนั่ง ผมมองตามเก้าอี้ไปสายตาไปพบกับหนุ่มในชุดช็อปคณะร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาเอาการเลยที่เดียวครับตาเชี่ยวๆกับจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากที่เข้ารูปทำให้ผมเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้ แต่เรื่องมารยาทนี่คงไม่ต้องพูดถึงแล้วมั้งครับ
“คุณขุนพลคะไม่เห็นหรอว่าน้องกำลังจะนั่ง” พี่ไอริณถามขึ้น
“เห็นแต่ฉันจะนั่งอ่ะ มีปัญหาหรอ” คำว่ามีปัญหาหันมาทางผมพร้อมกลับหน้ากวนบาทาสุดๆนี่จะเอาแบบนี้ใช่ไหม รู้จักผมน้อยไปซะเเล้ว
“ไม่มีครับ อยากนั่งก็เชิญเลยผมไม่ใจร้ายให้คนแก่เป็นโรคกระดูกยืนหรอก” ว่าจบผมก็ยักคิ้วให้อีกฝ่ายหนึ่งที
“มึงว่าใครเป็นโรคกระดูก”
“ผมเปล่าว่าใครพูดลอยๆพี่ร้อนตัวทำไม”
“นี่มึงจะเอาใช่ป้ะ”
“ผมยังไงก็ได้”
“โอ้ยพอเลยทั้งคู่จะตีกันทำไมคะคนกันเองทั้งนั้น”
“หึ”ร่างสูงในชุดช็อปส่งเสียงไม่พอใจ
“แกตัวดีเลย มาทีหลังยังจะมาวุ่นวายน้องอีก นี่น้องเดือนคณะเราน้องไวท์ ไวท์นี่พี่ขุนพลเป็นเดือนมหาลัยปีเดียวกับพี่ อ่อแล้วน้องพี่ถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นดาวคณะเรา” หลังจากพี่ไอริณพูดจบผมก็หันหน้าหนีตานี่ทันที หึเหม็นขี้หน้าชะมัดไม่น่าชมว่าหล่อเลยอันที่จริงผมว่าผมหล่อกว่าเยอะ
“เตี้ยขนาดนี้แถมหน้าตาไม่ได้เรื่องจะชนะหรอ?” เสียงอีกฝ่ายดังขึ้น
“พี่ว่าใคร”
“รู้ตัวจะถามทำไม หาคนใหม่น่าจะดีกว่ามั้งคณะเรามีดีกว่านี้เยอะ” ร่างสูงหันไปบอกเพื่อนสาวที่นั่งอยู่
“อย่ามาเลอะเทอะไม่มีใครเหมาะเท่าไวท์แล้ว พูดมากต่อไปแกก็ดูเเลน้องมันด้วยเพราะฉันจะไปดูน้องดาวเอง ห้ามชวนน้องทะเลาะแล้วก็ดูแลดีๆหล่ะ ถ้าฉันรู้ว่าแกไม่สนใจ แกเตรียมตัวตายเลย” พี่ไอริณว่าแล้วก็เดินไป อีกคนก็กำลังจะเถียงแต่อีกคนไม่สนใจ ส่วนผมคนที่ต้องรับเคราะห์กรรมครั้งนี้ไม่ต้องคิดเลยครับแน่นอนว่าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้เอาไว้หลังเลิกงานแล้วค่อยคุยกับพี่ไอริณเรื่องคนดูและรอบนอกก็ได้ยังไงผมก็ต้องขึ้นรถพี่เขากลับคณะอยู่แล้ว...
ผมนั่งรอคิวเพื่อที่จะถ่ายรูปโปรไฟล์อยู่ โดยมีคนใส่เสื้อช็อปนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย เราทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกัน ผมบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไหร่เลยครับ คอะไรเจอกันครั้งแรกก็ทำตัวไม่น่าประทับใจเอาซะเลย ดูไม่เป็นมิตรกับใครด้วยโดยเฉพาะผม
ผมนั่งไถไอจีดูอะไรไปเรื่อยโดยไม่สนใจใคร ผมเลื่อนไปสักพักจนไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ผมเลยเก็บมือถือลงแล้ววางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปที่รุ่นพี่คนอื่นๆที่กำลังวุ่นๆกับดาวเดือนที่กำลังเช็ตผมและแต่งหน้า และรุ่นพี่ที่ประกบตากล้องเพื่อเช็ครูปน้องๆอยู่
"กูว่าปีนี้คณะวิศวะชวดตำแหน่งแน่เลยหว่ะ" เสียงเข้มของอีกคนดังขึ้น เป็นเสียงของเขาคนนั้น เขาพูดแล้วมองมาที่ผมก่อนจะทำส่ายหน้าใส่ผมสายตาดูถูกเล็กๆ
"พี่รู้ได้ไงว่าผมจะแพ้"
"กูเห็นหน้ามึงกูก็รู็แล้ว"
"งั้นกล้าพนันกับผมไหมล่ะ ถ้าผมชนะพี่จะให้อะไรผม"
"ทำไมกูต้องพนันไร้สาระกับมึงด้วย"
"ก็ถ้าพี่มั่นใจว่าผมจะแพ้ หรือว่าพี่กลัวว่าผมจะชนะขึ้นมาแล้วพี่จะขายหน้า"
"หึ!!! อย่างกูเนี้ยนะกลัวก็ได้กูพนันกับมึงก็ได้"
"ได้ งั้นถ้าผมได้เป็นเดือนมหาลัยพี่จะต้องทำตามาี่ผมขอหนึ่งอย่าง ถ้าผมแพ้ผมพี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง ดีลป่ะ"
"เออ มึงจำได้ด้วยแล้วก็เตรียมตัวได้เลย เพราะว่ามึงไม่มีทางได้เป็นเดือนมหาลัยหรอก" หลังจากเขาพูดจบก็ลุกออกไป
หึคอยดูแล้วกันผมจะพยายามคว้าตำแหน่งมาให้ได้ ผมพูดกับตัวเองในใจก่อนที่จะได้ยินเสียงใสๆของพี่ไอริณเรียกผมไปถ่ายรูป
และแล้วภาระกิจก็เสร็จสิ้นสักที่ ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงแล้ว ทุกคนกำลังเก็บของและเตรียมแยกย้ายกันไปคน ผมที่ยืนรอพี่ไอริณคุยงานกับพี่คนอื่นๆอย่ ก็เดินไปหยิบมือถือตัวเองแล้วกดโทรหาเพื่อนทันที
//ฮะโหล มึงเลิกเชียร์ยัง//
//พึ่งเลิกเมื่อกี้เลยกำลังเดินไปเอารถกับไอเจมส์//
//มึงมารับกูที่คณะบริหารดิ้ รถกูจอดอยู่ที่คณะ//
//หึ มึงบ้าหรอครับคุณไวท์รถกูนั่งได้สองคนครับ ไอเจมส์มันขอติดรถกลับด้วยวันนี้แฟนมันไม่ว่างมารับ มึงไปยังไงมึงก็กลับอย่างนั้นดิ่//
//เออ งั้นไม่เป็นไรกูกับเองก็ได้//
หลังจากที่ผมพูดจบผมก็กดตัดสายทันที ผมมองไปที่พี่ไอริณเธอยังคุยงานไม่เสร็จเลยครับดูท่าแล้วคงอีกนานเลย ตอนนี้ผมอยากกลับจะแย่แล้วครับทั้งเมื่อยทั้งหิวข้าว เฮ้ออออ!!!
P: ขุนพล
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ผมออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกมา ผมมายืนข้างหลังไอรุ่นน้องตัวดีที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ ผมไม่ยินทุกประโยคที่มันพูดตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ แล้วตอนนี้มันก็วางสายไปแล้วแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้สึกตัวว่าผมมายืนอยู่ข้างหลังมันเลยสักนิด
"ฮะฮึ้ม" ผมกระแอมเพื่อให้อีกคนรู้สึกตัว ก่อนที่เจ้าตัวจะสะดุ้งโหย่งเพราะความตกใจ ผมเห็นหน้าเหว่อๆของมันตอนนี้ก็อดตลกและนึกขำขึ้นมาในใจ
"โอ้ยพี่เล่นอะไรของพี่เนี้ย แล้วไม่กลับไปอีกหรอผมนึกว่าทนความหลอของผมไม่ได้แล้วหนีกลับไปซะอีก"
"มึงเพ้ออะไรไม่ทราบ ถึงกูจะไม่ชอบหน้ามึงแต่กูก็มีความรับผิดชอบนะเว้ย" ผมตอบกลับไป อีกฝ่ายกลับไม่พูดอะไรแล้วยักคอ้วพร้อมกับยิ้มมุมปากให้ผมแทน ผมเห็นหน้ามันตอนนี้แล้วอยากจะซัดแม่งสักหมด
หลังจากที่ผมเถียงกับไอเด็กเตี้ยจบผมก็ตะโกนบอกเพื่อนสาวที่กำลังประชุมกับเพื่อนคนอื่นอยู่อีกด้านของห้อง
"ริณเรากลับก่อนนะ"
"เอ้ยเดี๋ยวดิ่ขุนรอแปป" เธอพูดจบก็เดินเข้ามาหาผมทันที
"เราฝากพาน้องไวท์ไปส่งที่คณะหน่อยสิน้องจอดรถไว้ที่คณะ เมื่อเช้ามากับเราพอดีเรายังไม่เสร็จธุระอ่ะ ฝากด้วยนะห้ามตีกันหล่ะ ตีกันมากระวังได้กันเองนะจ๊ะ"
"จะบ้าเรอะ เตี้ยแบบนี้ใครจะเอา" ผมตอบเพื่อนสาวก่อนจะทำหน้าเหย่ใส่คนบางคน
"อ้าวนี่พี่บูลลี่หรอ ผมไม่ได้เตี้ยเว้ย ตัวเองสูงเกินไปแล้วมาว่าคนอื่นเตี้ยประสาท"
"มึงว่าใครประสาท"
"นั่นพูดไม่ทันขาดคำเลย ระวังนะเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นนะ พี่เห็นมานักต่อนักแล้ว" ไอริณพูดขึ้น
"เออไม่คุยกับเธอแล้วฉันกลับก่อนนะ มึงก็เก็บองตามมาแล้วกันช้ากูไม่รอนะเว้ย" ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments