การอยู่อาศัยของพ่อมด

"คุณยูกิครับ...ผมขออยู่กับคุณที่นี่ได้ไหมครับ"หลังจากที่ซันเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา ฉันก็นิ่งไปพักหนึ่งพร้อมกับสมองที่หยุดทำงานชั่วคราว

เมื่อตั้งสติได้เเล้ว ฉันก็ตอบเขากลับไปสั้นๆ

"ไม่..." คำเดียวเท่านั้นล่ะ เหมือนหมอนั่นจะชะงักแล้วหงอยไปวูบหนึ่งนะ

"เอ๋ ทำไมล่ะครับ ผ...ผมทำอะไรได้หลายอย่างเลยนะครับ"ซันรีบละล่ำละลักตอบฉัน เขาพยายามขอร้องให้ฉันเปลี่ยนใจ "ไม่ว่าจะทำความสะอาดหรือดูเเลบ้าน ผมก็จะทำให้ได้หมดเลยนะครับ"

"ขอร้องล่ะครับ"ซันก้มลงไปคำนับฉันอีกครั้ง

ถึงจะน่าสงสารก็เถอะ เเต่ว่า...ฉันไม่ใช่องค์กรการกุศลนะ เเล้วฉันก็ชอบใช้ชีวิตคนเดียวด้วย ให้มีคนมาอยู่ด้วยงั้นเหรอ

ไม่เอาอะ...

เเถมตอนนี้เเอร์ (ไดฟุกุ) กับตู้เย็น (โมจิ) ก็มาจากไปอย่างน่าเศร้าอีก ไม่นับไทยากิที่นายหล่นมาทับจนเเหลกอีกนะ วันนี้ชีวิตฉันเจอเรื่องวุ่นวายมาพอเเล้ว เพราะงั้นไม่เอาด้วยหรอก...

ซันที่อ่านใจฉันได้ ก็เริ่มรู้ว่าฉันจะปฏิเสธเขาเเน่ ๆ เขาเลยคิดหาวิธีต่าง ๆ ไปมาในหัว

ดูเหมือนว่าฉันจะอ่านใจเขาไม่ได้เหมือนที่เขาอ่านใจฉัน เเต่อย่างน้อยก็พอจะรับรู้อารมณ์ความรู้สึกเเบบหยาบ ๆ ได้เเหะ

"เอ่อ คุณยูกิ ตู้เย็นกับเเอร์เสียใช่ไหมล่ะครับ งั้นเอาเเบบนี้ไหมครับ"

ซันหันไปพึมพำด้วยภาษาเเปลก ๆ อีกครั้ง ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะ ปล่อยละอองเเสงออกมา " Snow atmosphere (บรรยากาศหิมะ) "

ห้องของฉันที่ร้อนจัดจากความร้อนของเดือนเมษาเริ่มกลายเป็นเย็นฉ่ำขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกหนาวๆ เหมือนอยู่ในห้องเเอร์ที่เปิดอุณหภูมิ 25 องศา

อืม....ไม่เลว

"นอกจากนี้ผมยังสามารถใช้เวท Frozen ในการเเช่เเข็งเพื่อถนอมอาหารได้ด้วยนะครับ น้ำเเข็งที่เเช่เเข็งอาหารจะไม่ละลายได้ง่าย ๆ ด้วย"

อืม...

เมื่อเห็นว่าฉันยังคงลังเล ซันก็รีบโฆษณาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ "ผมยังทำความสะอาดเก่งมาก ๆ เลยนะครับ รับรองว่าห้องของคุณยูกิจะเหมือนใหม่เลยล่ะครับ"

"นอกจากนี้ถ้าคุณยูกิมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยก็สั่งผมมาได้เลยนะครับ"

" ใช่แล้ว ได้ยินว่าโลกของคุณยูกิมีอาชีพพ่อบ้านอยู่ใช่ไหมครับ ผมขอทำงานนั้นเองครับ"

ฉันเหล่สายตามองไปรอบๆ ห้อง... อืมก็รกอยู่เเหะ

ซันที่เห็นว่าฉันเริ่มคิดก็เริ่มขอร้องหนักขึ้น " เพราะงั้นได้โปรดให้ผมอยู่ด้วยเถอะนะครับ! "ซันเงยหน้าขึ้นมามองฉันก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับมองฉันด้วยประกายตาวิงวอนเหมือนลูกแกะที่ออดอ้อน

ตอนที่ซันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ดูเหมือนว่าเสื้อคลุมจอมเวทของเขาจะคลุมส่วนหัวของเขาเอาไว้ ทำให้ฉันมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าด้วยความสงสัยหรือว่าอะไร มันทำให้ฉันตัดสินใจดึงฮูดที่คลุมผมของซันลง

"ผึ่ง! "ราวกับฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดีดตั้งขึ้นมา

หมอนี่....มีหูแกะด้วย? ฉันคิดในใจด้วยความสงสัย เพราะว่าหูที่ฉันเห็นอยู่บนหัวอีกฝ่ายมันเป็นหูของสัตว์ตระกูลเเกะหรือเเพะ หูกลม ๆ ที่ฉันเห็นบ่อยๆ ตามการ์ตูนหรือสารคดีสัตว์โลก

"เอ่อ ใช่ครับผมมีหูเเยกต่างหากน่ะครับ มันเอาไว้สดับกระเเสเวทมนต์น่ะครับ"ซันตอบฉันพร้อมกับก้มหน้าลงไป ดูเหมือนว่าหน้าของเขาจะเเดงนิดหน่อย เเถมทั้งหูจริงเเล้วก็หูแกะสีขาวของเขาก็เริ่มมีสีเเดงฝาดปรากฏขึ้น

//เกิดอะไรขึ้น//... ฉันถามในใจด้วยความสงสัย

"คือ เอ่อคือ ผมไม่รู้ว่าโลกนี้มีธรรมเนียมยังไง เเต่ว่าที่อาณาจักรไวท์คาสเซิลของผมน่ะครับ หูก็เหมือนกับของลับที่ต้องปกปิดไว้ จะเปิดให้เห็นได้เฉพาะคนในครอบครัวหรือว่าคนที่เเต่งงานกันเเล้วเท่านั้น"

"เอ่อ การเปิดใบหูข้างบนให้เห็นกัน มันเฉพาะ...เอ่อ เฉพาะ..คนรักกันเท่านั้นน่ะครับ"ซันก้มหน้าลงด้วยความเขินหน่อย ๆ หน้าของเขาเริ่มกลายเป็นสีเเดงอ่อน ๆ

พอเขาเป็นเเบบนี้ฉันก็ชักจะเขินตามไปด้วยเเล้วสิ

เอาไงกับหมอนี่ดีนะ...ฉันไม่ชอบความวุ่นวายซะด้วยสิ

"ผมสัญญาครับคุณยูกิ ว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายให้คุณยูกิเเน่นอน ผมจะอยู่อย่างเรียบร้อยเลยครับ..."

"เพราะงั้น...คุณยูกิครับ"

"ได้โปรดรับผมไปอยู่ด้วยเถอะนะครับ"ซันขอร้องฉันอีกครั้ง เขาช้อนสายตาขึ้นมองฉัน พร้อมกับกระดิกหูข้างบนไปมา เหมือนสุนัขที่เฝ้ารอให้เจ้าของพาออกไปเดินเล่นสักที สายตาของซันเต็มไปด้วยความวิงวอนอยู่ในที

อืม ทำไมพอฟังเเล้วรู้สึกเหมือนกับว่าฉันไปล่อลวงนายมา ก็เลยต้องรับผิดชอบเลยล่ะ...

สาวอายุยี่สิบกว่าๆ กับเด็กหนุ่มมอปลาย...ตะเเคงมองยังรู้สึกเลยว่าคุกเเน่ๆ

เห้อ เอาไงดีนะเรา

"1 ปี"ฉันเอ่ยคำพูดขึ้นมา....เห้อ สุดท้ายก็เเพ้สายออดอ้อนของหมอนี่เเหะ

ไม่ใช่ว่าฉันชอบแกะน้อยหรือว่าอะไรหรอกนะ...

"ฉัน ให้ อยู่ เเค่ 1 ปี " ฉันเอ่ยย้ำทีละคำกับเขา

//หลังจากนั้นนายต้องจากไป หรือถ้านายอยากจะอยู่ต่อ ก็ต้องไปหาที่อยู่เอาเอง เข้าใจไหม// ฉันพูดต่อในใจ

"ขอบคุณครับ! "ซันเอ่ยขอบคุณฉันก่อนจะเงยหน้าขึ้น หูของเขากระดิกไปมาอย่างถี่รัว ประกายตาสีฟ้าครามของเขาส่องความสดใสออกมาไม่หยุด

อา เเสบตาจังเเหะ นายมันพวกมนุษย์จากดาวสดใสใช่ไหมเนี่ย

"หืม ผมมาจากอาณาจักรไวท์คาสเซิลครับคุณยูกิ"

//นี่ขอล่ะ... ช่วยเลิกอ่านใจฉันสักทีได้ไหม// ฉันเริ่มจะหงุดหงิดกับความรู้มากของเขา ทำไมการคิดในใจที่ควรจะเป็นความลับของฉันถึงได้ไม่เป็นความลับอีกต่อไปนะ //นายทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้เหรอ ซันชายน์//

"คือ เอ่อต้องขอโทษด้วยนะครับ"ซันก้มหัวขอโทษฉันอีกครั้ง

"พอดีว่าคาถานี้มันเป็นมนต์ระดับสูงน่ะครับ การจะถอนคาถานี้ออกมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยน่ะครับ เเต่ผมคิดว่าอนาคตถ้าคุณยูกิฝึกฝนเรียบเรียงความคิดดี ๆ ก็น่าจะสามารถปิดกั้นความคิดไม่ให้ผมรู้ได้นะครับ"

"ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ"ซันก้มหน้าเป็นแกะหงอยพร้อมกับหูแกะของเขาที่ลู่ลงไป

"เห้อ" ช่างมันเถอะ อะไรที่มันทำไม่ได้ก็ให้มันผ่านไปเเล้วกัน..ว่าเเต่ "นาย หิว ไหม"ฉันเอ่ยถามซัน ดูเเล้วเขาน่าจะยังไม่ได้กินอะไร

"เอ่อ ก็หิวนิดหน่อยครับ..."ซันก้มหน้าลงลูบท้องตัวเองอย่างเขินๆ

อืม งั้นเดียวฉันไปเวฟข้าวให้เเล้วกัน

ฉันลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปดูข้าวของที่ฉันซื้อมา อืมม เพราะว่าโมจิเสีย ฉันเลยซื้อของเเช่เเข็งมาเเค่สองกล่อง ที่เหลือก็พวกขนมปังประทังชีวิตจริงๆถ้าฉันอยู่คนเดียวก็คงอยู่ได้อีก 2-3 วัน แต่ถ้าเพิ่มหมอนี่มาด้วยก็ไม่น่าพอ สงสัยพรุ่งนี้ต้องให้กวินท์ โทรเรียกช่างมาซ่อมให้เเล้วล่ะ ไม่งั้นฉันอดตายก่อนเเหงๆ

ไม่สิ เเต่ว่าเราทำหมอนั่นโมโหอยู่นี่นา ช่วงนี้คงต้องหลบหน้าหมอนั่นก่อนดีกว่า อย่าโทรไปเลย

เเต่เราจะเอายังไงดีนะ สงสัยต้องไปค้นเบอร์ช่างเอาเองเเล้วเเหะ

"ให้ผมช่วยนะครับ! "ซันตะโกนออกมา ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน

"เรื่องเเอร์น่ะไม่เป็นไรหรอกครับ คาถา snow atmosphere น่ะ ผมสามารถคงมันไว้ได้ตลอดเวลา มันเป็นเเค่คาถาระดับหนึ่ง เพราะงั้นไม่มีปัญหาเลยครับผม ส่วนเรื่องของเเช่เย็น ผมสามารถใช้เวท Frozen คงสภาพความเย็นเฉียบเอาไว้ให้ภายในตู้เย็นของคุณยูกิ และคงสภาพความเย็นเอาไว้แบบนั้นได้น่ะครับ"

อืมม ไม่เลว ดูเหมือนนายก็พอมีประโยชน์อย่างที่นายโฆษณาเเหละนะ งั้นสองสามวันนี้ก็คงต้องพึ่งนายไปก่อนเเล้วกัน จนกว่าฉันจะโทรเรียกช่างมาน่ะนะ

"เชื่อมือผมได้เลยครับ คุณยูกิ"ซันยิ้มร่า ดูเหมือนว่าเขาจะดีใจที่ตัวเองพอจะทำประโยชน์ได้บ้าง

ความรู้สึกของลูกเเกะที่กลัวถูกเจ้าของทิ้งมันคงประมาณนี้หรือเปล่านะ...

ฉันหันไปมองหน้าของซันที่ยังคงฉีกยิ้มอย่างใสซื่อ

"คุณยูกิ อยากจะเเช่เย็นกล่องไหนก่อนดีครับ เดียวผมเอาไปเเช่ให้"ซันยื่นมือมาหาชั้นอย่างกระตือรือร้น

งั้นนายเอาข้าวผัดปู ไปเเช่ไว้ก่อนเเล้วกัน บ่ายนี้เราจะกินที่เหลือกันไปก่อน เเล้วเดี๋ยวตอนเย็นถ้าไม่พอเดี๋ยวค่อยโทรสั่งเอาเเล้วกัน

"ครับผม! "ซันตอบรับพร้อมกับกระดิกหูเเกะของเขาสองที

//ไหนนายบอกว่า ไม่ควรเปิดหูให้คนอื่นเห็นกันล่ะ นี่ตั้งนานสองนานเเล้ว ฉันยังไม่เห็นนายเอาเสื้อคลุมมาปิดไว้สักที//

"เอ่อ คือ"ซันหน้าเเดงหน่อย ๆ ก่อนจะเอามือเกาเเก้ม

"ก็...คุณยูกิไม่ใช่คนอื่นเเล้วนิครับ"ซันเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอียงคอมองหน้าฉัน "ผมเปิดหูให้คุณยูกิเห็น...ไม่ได้หรือครับ"ดวงตาของซันทอประกายใสซื่อออกมา

อืม...นายน่าจะมาจากมนุษย์ดาวโลกสวยจริงๆ นั่นล่ะ ทำไมถึงได้ดูใสซื่อได้ขนาดนี้นะ

"เห้อ" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ

//นายจะทำอะไรก็ตามใจนายเถอะ ตราบใดที่ไม่มากวนวิถีชีวิตคนขี้เกียจของฉันน่ะ//

"รับทราบครับผม"ซันยิ้มร่าออกมาด้วยดวงตาเป็นประกายก่อนจะเดินเอาข้าวผัดปูไปเเช่ตู้เย็นไว้ เเละริมฝีปากเล็กของเขาก็เริ่มพึมพำร่ายคาถาใส่โมจิ (ตู้เย็น)

"Frozen! "ซันตะโกน ก่อนที่เเสงสีขาวสว่างจะพุ่งออกจากฝ่ามือของซันไปที่ตู้เย็น

เมื่อฉันเดินมาดูก็พบว่า ความเย็นของมันได้เเผ่ออกมาจากตัวโมจิไม่หยุด

อืม...ก็สะดวกดีเเหะ น่าจะประหยัดค่าไฟได้พอสมควร

ไม่เลวๆ ...ตอนเเรกคิดว่าพอเริ่มเดือนเมษาค่าไฟจะพุ่งทะลุเพดานซะเเล้ว ถ้าเป็นเเบบนี้ก็น่าจะพอไหว

//ฉันกาเครื่องหมายบวกคะเเนนให้กับซันในใจ//

"ขอบคุณนะครับ"ซึ่งซันที่รับรู้ได้ก็หันมาขอบคุณชั้น

//นายเข้าใจคำว่าในใจไหม ในใจน่ะ...//

"ข..ขอโทษครับ"

//เอาเถอะ เดียวฉันเวฟ ข้าวผัดกุ้งก่อนเเล้วกัน//

//ปกติฉันกินไม่เยอะอยู่เเล้ว เดี๋ยวฉันเเบ่งข้าวผัดกุ้งบางส่วนมากิน ส่วนขนมปังนายก็กินไปก็เเล้วกันนะ//

"ครับผม"

ฉันเดินไปหา โดรายากิ (ไมโครเวฟ) เปิดฝาหน้าออกมา ก้มหัวทักทายกันเล็กน้อย ก่อนจะยื่นข้าวผัดเข้าไปปิดฝาเเล้วก็หมุนสวิตตั้งเวลา

ฝากด้วยนะ ฉันบอกโดรายากิในใจ

...เเต่มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา

...อย่าบอกนะว่า

ฉันพยายามหมุนไปมาเสียบปลั๊กเข้าออกหลายๆ ครั้งเเต่ก็ไม่ได้ผล

นายเองก็จากไปในสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้กับเหล่าพวกพ้องของนายสินะ...

ลาก่อนนะ โดรายากิ..

เเล้ว? ฉันจะทำกับข้าวยังไงล่ะเนี่ย... หรือจะต้องอดตาย? อดตายตอนอายุไม่ถึงเลขสามนี่ไม่ตลกเลยนะ

จะทำยังไงดีนะ

//นายเป็นพ่อมดนิ มีวิธีไหมซัน...// ฉันหันไปมองที่ซันอย่างมีความหวัง เเต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเเบบนั้น เพราะซันทำหน้าหงอย ๆ ใส่ฉันเเทน หูของเขาตกลู่ลงไปหมด

"คือว่า ผมไม่มีคาถาที่เกี่ยวกับเเสงสว่างหรือความร้อนหรอกครับ"

"อาณาจักรไวท์คาสเซิลของผม ไม่มีเเสงเเดด เเล้วก็ไม่มีความร้อนด้วย คาถาที่เกี่ยวข้องกับเปลวเพลิงมักจะใช้ยาก เเล้วก็เเทบจะไม่ได้ผลเท่าไหร่เลยครับ"

"ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณยูกิผิดหวัง"ซันก้มหัวลงไปอีกครั้งหูของเขาตกลู่ลงไปอีก

อืม ช่างเถอะ ฉันยกมือขยี้หัวของเขาเบาๆ เป็นเชิงว่าไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัว โดยที่ฉันไม่ได้สังเกตเห็นเเก้มของซันที่เเดงขึ้นมาอีกครั้งจากการถูกลูบหัว

เอาเป็นว่า ผัดโดยใช้กระทะเอาเเล้วกัน ฉันนึกขึ้นได้ว่าตัวฉันเองมีกระทะไฟฟ้าที่ทอดโดยไม่ใช้น้ำมันที่ได้ตอนจับรางวัลจากงานอะไรสักอย่างทางออนไลน์

ห้องของฉันมีเตาไฟฟ้าสำหรับทำความร้อนอยู่เเต่นาน ๆ ถึงจะได้มาใช้สักที

ใช่นานมาก ๆ จนฉันเเทบจะลืมไปเเล้วว่ามีมันอยู่ในห้อง

อืม เอาล่ะ เอาไงต่อดี ฉันมองกระทะไฟฟ้าในมือ เตาไฟฟ้าตรงหน้า เเละข้าวผัดที่ถือไว้เเละกะว่าจะผัด

มันไม่น่าจะมีอะไรยากมาก ก็เเค่เปิดเตาไฟฟ้า ตั้งกระทะเเล้วก็เทข้าวผัดลงไปผัดๆ ก็น่าจะจบ เเต่ตัวฉันเองรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถในการทำอาหารขนาดนั้น

ใช่ เเค่ผัดอย่างเดียวฉันว่าก็เป็นเรื่องยากสำหรับฉันอยู่ดี

ทำไมสกิลการเอาตัวรอดของฉันถึงได้ติดลบขนาดนี้นะ...

"ให้ผมทำให้ไหมครับ คุณยูกิ"ซันที่ยืนอ่านใจอยู่ข้างๆ ฉันมาสักพักเอ่ยขึ้น

นายทำอาหารเป็น? ฉันหันไปมองซันอย่างจับผิด

"ครับ ที่อาณาจักรไวท์คาสเซิลผมอยู่ตัวคนเดียวน่ะครับ ก็เลยต้องทำอะไรกินเองตลอด ก็เลยพอจะทำอาหารเป็นน่ะครับ"

เเต่นายบอกว่าโลกของนายไม่มีคาถาไฟไม่ใช่เหรอ เเล้วนายทำได้?

"อืม จริงๆ ก็คือไม่มีคาถาไฟ เเต่ไม่ใช่ว่าไม่มีอุปกรณ์จุดไฟนิครับ เเค่มันยุ่งยากพอสมควร"

อ่า...ฉันก็ลืมคิดไปว่า ต่างโลกอาจจะไม่ได้โบราณขนาดนั้นก็ได้

งั้นคงต้องฝากนายเเล้วล่ะนะ

"รับทราบครับผม"ซันยิ้มร่าก่อนจะเดินเข้ามาเเทนที่ฉัน ฟังฉันอธิบายถึงวิธีใช้ต่าง ๆ ตามที่เขียนเอาไว้ในคู่มือ ก่อนที่ซันจะถลกเเขนเสื้อยาว ๆ ของเขาขึ้นเเละเตรียมจะผัด

"เดี๋ยว ก่อน" ฉันเอ่ยห้ามซันเบา ๆ ทำให้เขาหันมามองฉันอย่างสงสัย

"เปลี่ยน ชุด" ฉันชี้ไปที่ชุดคลุมจอมเวทเเสนรุ่มร่ามของเขา ถ้าเกิดมาผัดตอนนี้ ชุดคลุมของนายก็อมควันกันพอดี

ฉันเดินไปรื้อ ๆ เสื้อผ้าในตู้ก่อนจะค้นเจอ เสื้อผ้ที่ไม่ได้ใส่มานานเเล้ว ฉันเดินเข้ามาหาซันก่อนจะยื่นส่งเสื้อกับกางเกงขาสั้นฟรีไซส์ ให้เขา "ใส่ ซะ"

"จริงๆ เเล้ว ผมมีเวททำความสะอาดเสื้อผ้าอยู่ เเต่ขอบคุณนะครับ ผมจะรักษาอย่างดีเลย"ซันรับเสื้อผ้าของฉันมาก่อนจะเดินเข้าไปทางห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด

อืม...ก็เด็กจริงๆ ล่ะนะ ฉันมองซันที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่ฉันยื่นให้

ใบหน้าเรียวเล็กของเขาเหมือนหลุดมาจากภาพวาดหรือหนังเเฟนตาซีสักเรื่องใบหน้าที่ดูดีเเบบนี้มันน่าจะมีเเต่ในนิยายเท่านั้นเเหละมั้ง

เส้นผมสีดำสนิทของเขาล้อไปกับเเสงไฟในห้อง หูเเกะของเขาก็เป็นอะไรที่เด่นซะจนไม่อาจละสายตาได้ รอยยิ้มไร้เดียงสายังคงฉายชัดอยู่ที่มุมปาก

ดวงตาสีฟ้าครามก็ยังเป็นอะไรที่ดึงดูดสายตาได้เสมอ เป็นเเววตาใสซื่อที่ดูบริสุทธิ์ซะเหลือเกิน

ที่ผ่านมาซันใส่ชุดคลุมพ่อมดของเขามาตลอด ทำให้ไม่ได้เห็นรูปร่างจริง ๆ ของซัน เเต่พอเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเเล้วก็เห็นได้ชัดเจนว่าเขาก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไร

หน้าตา รูปร่างของเขาดูยังไงก็เด็กมอปลาย

จะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ไหมนะ...สมองของฉันคิดอะไรไปเรื่อย ก่อนที่ฉันจะสะบัดหัวตัวเองไปมาเพื่อไล่ความคิดไร้สาระ

นายดูอายุยังน้อยทำไมพ่อกับเเม่นายถึงปล่อยให้นายเดินทางข้ามมิติเล่นกันล่ะ...

"พ่อกับเเม่ของผม ท่านจากไปทั้งคู่เเล้วล่ะครับ"ซันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ

ขอโทษที

"ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ ท่านจากไปอย่างสงบทั้งคู่ มีเพียงเเค่ความฝันของท่านเเม่เท่านั้นที่ผมอยากจะทำให้เป็นจริง ผมเลยดั้นด้นมาที่นี่"

"มาสัมผัสกับโลกใบนี้ที่ท่านเเสนจะคิดถึง" ซันยิ้มขึ้น ใบหน้าของเขาคงจะกำลังนึกถึงคำพูดของเเม่ของเขา ตอนที่เล่าเรื่องราวของโลกนี้ให้เขาฟัง

นายมาจากโลกที่สดใสจังนะ ฉันไม่เคยเห็นใครมีรอยยิ้มได้บริสุทธิ์เท่าเขามาก่อน...ยกเว้นเด็กตัวเล็ก ๆ น่ะนะ

ก็เเหงล่ะ โลกใบนี้มันโหดร้ายนี่นา... ฉันคิดอะไรไปเรื่อยถึงความบ้าบอ ๆ ของโลกใบนี้ โดยที่พยายามคิดเบา ๆ เพื่อหวังว่าซันจะไม่ได้ยิน

"เอาล่ะครับ คุณยูกิ เรามาทำอาหารกินกันดีกว่า"ซันยิ้มด้วยใบหน้าอ่อนโยน พร้อมกับเดินเข้าไปทางโซนครัวของห้อง ซึ่งก่อนหน้านี้มันถูกเรียกว่าโซนเก็บของนั่นเเหละ

ซันลงมือทำอาหารอีกครั้ง จริง ๆ ก็เเค่ผัดข้าวผัดนั่นล่ะ

เครื่องปรุงมากมายถูกซันใส่ลงไป จริง ๆ ฉันก็ซื้อติด ๆ ไว้งั้น ๆ เเหละ เพื่อให้รู้ว่ามันมีอยู่ เเต่ก็ไม่เคยคิดจะใช้มันหรอก

ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้ใช้

อืม..ก็ดูมีมาดอยู่นะ ฉันมองซันที่กำลังทำอาหารด้วยสีหน้าจริงจังผิดกับหน้าซื่อ ๆ ที่เขาชอบเเสดงออกมา

ลีลาการผัดข้าวผัดของเขาไม่เลวเลย สุดท้ายข้าวผัดที่ถูกอุ่นจนร้อนก็ได้ที่ เเละถูกยกลงมาเสิร์ฟตรงหน้าของฉัน

อืม....

หน้าตา 7 คะเเนน กลิ่น 7 คะเเนน รสชาติ...เอาเต็มสิบไปเลย ฉันคิดในใจหลังจากที่ตักข้าวผัดคำเเรกเข้าปาก ก็เเค่ข้าวผัดที่เอามาอุ่นกับใส่เครื่องปรุงนิดหน่อยเเท้ ๆ ไหงอร่อยได้ขนาดนี้กันนะ ฉันคิดในใจพร้อมกับตักข้าวผัดเข้าปากไปเรื่อยๆ

รสมือคนนี้เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลยนะ

ถ้าเป็นเราทำเองน่าจะได้ก้อนอะไรดำ ๆ มาสักก้อนมากกว่า สุดท้ายฉันก็เริ่มตักเเบ่งข้าวผัดใส่จานให้กับซันเเละตัวฉันเอง

ขนมปังถูกเเบ่งออกมา ก่อนจะทาเเย้มส้มรสอร่อยที่ฉันชอบกิน

"ทานล่ะนะครับ"ซันก้มหัวคำนับอย่างมีมารยาทก่อนจะเริ่มตักอาหารเข้าปาก

//อืม...ทำไมนายทำอะไรก็ดูมีมารยาทไปซะหมดเลยล่ะ// ฉันเอ่ยถามซันในใจ

"มันไม่ใช่สิ่งที่โลกนี้เขาปฏิบัติกันเหรอครับ"ซันเอียงคอถามฉันด้วยใบหน้าสงสัย

//ในประเทศอื่นฉันไม่รู้หรอกนะ เเต่ที่ประเทศไทย การกราบหรือคารวะน่ะ มีเเค่สำหรับพระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นล่ะ เพราะงั้นนายไม่ต้องทำเเบบนั้นกับฉันหรอกนะ//

//ฉันก็เเค่คนธรรมดาที่ฝันอยากจะใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้านเเล้วก็ตายจากไปเท่านั้นเอง//

"คุณยูกิไม่คิดอยากจะออกไปไหนบ้างเหรอครับ โลกใบนี้ผมว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจเยอะเเยะเลยไม่ใช่หรอครับ"

"ไม่ อ่ะ..."

"ขี้ เกียจ"

"เอ๋ ทำไมล่ะครับ"ซันทำหน้าเหลอหลาพร้อมกับมองฉันด้วยความไม่เข้าใจ

ก็ไม่ทำไม ก็เเค่ขี้เกียจเท่านั้นเเหละ ฉันชอบความสงบน่ะ เเล้วก็ชอบอยู่คนเดียวด้วย เเถมฉันไม่อยากพูดกับใครเท่าไหร่ สำหรับฉันผู้คนน่ะ...เป็นเรื่องน่ารำคาญ

เเล้วโลกใบนี้ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับฉันน่ะ

"ยังงั้นเหรอครับ..."ซันทำหน้าคิดนิดหน่อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน

เเววตาสีฟ้าครามของเขาทอประกายมุ่งมั่น

"ถ้าอย่างนั้น ตอบเเทนที่คุณยูกิช่วยเหลือให้ที่อยู่ผม ผมจะช่วยคุณยูกิเองครับ"

"อะไร" ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไรสักหน่อย

"ท่านเเม่ของผมน่ะ บอกผมว่าการต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวน่ะเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ๆ เลยนะครับ เพราะฉะนั้นให้ผมช่วยคุณยูกิเถอะนะครับ"

"ผมจะอยู่เป็นเพื่อนกับคุณยูกิเอง เเล้วก็จะพาคุณยูกิไปสัมผัสโลกใบนี้ด้วยกันกับผมนะครับ"ซันดึงมือฉันมากุมเอาไว้พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายจนฉันเเสบตา

"เรามาออกเดินทางไปด้วยกันดีกว่าครับ มาสัมผัสกับโลกใบใหญ่ที่เเสนน่าตื่นเต้นกันดีกว่าครับ"

ไม่อะ ไม่ได้สนใจเลยสักนิด นายอยากไปไหนก็ไปเถอะ อย่าลากฉันไปมาก็พอ ฉันขออยู่อย่างสงบดีกว่า ฉันคิด

ในใจเเบบนั้น เเต่พอเงยหน้าขึ้นไปสบตากับดวงตาใสซื่อที่ทอประกายสีฟ้าครามออกมา ฉันก็รีบปัดความคิดนั้นออกไป เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้

สุดท้ายฉันก็ไม่ได้ตอบรับหรือพยักหน้าอะไรไป ซึ่งฉันได้เเต่ทำเนียนมองเขาด้วยใบหน้านิ่งๆ ที่ไม่ไหวติงของฉันต่อไป

ปฏิเสธก็ไม่อยาก จะให้ตอบรับก็ไม่เอาด้วยหรอก...ควรทำยังไงดีนะ

.

.

.

พระเจ้า..... บอกวิธีปฏิเสธดวงตาคู่นี้ให้ฉันทีสิคะ...

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!