" กรี๊ดดดดด!!!!!!! แมล๊งงงง!!!!!! "
[ เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ]
" นี่ ไม่ต้องกลัวหรอกน่า~ นึกถึงเรื่องเงินเงินทองทองไว้สิ " แอกเนสพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและยิ้มให้สุสุกิ
" จังหวะนี้จะเงินหรือทองก็ไม่เอาแล้วฮืออออ!! " สุสุกิที่ขี่คอแอกเนสอยู่เองนั้นก็ตัวสั่นกลัวเป็นเจ้าเข้าแบบสุดๆ พลางน้ำตาไหลแทบจะร้องไห้
" น่าๆ ท่องไว้ เราจะรวย เราจะรวย เราจะรวย! "
" ร..เราจะรวย.. เราจะ..รวย เราจะ...- "
" โอ้.. " แอกเนสยืนช็อคทันทีเมื่อเห็นว่าข้างหน้านั้นเป็นถ้ำขนาดใหญ่มาก ทำเอาสุสุกิที่ขี่หลังแอกเนสอยู่ก็หน้าซีดเผือกในทันที
" ยังไงเราก็คงจำเป็นจะต้องเข้าไปอยู่ดีแฮะเพราะไหนไหนก็เข้ามาแล้วอ่ะ.. "
" ... เอาอย่างงั้นก็ได้.. "
ทั้งคู่มุ่งหน้าเข้าไปในตัวถ้ำโดยสุสุกิเองก็โรยผงแป้งเอาไว้ไปด้วยตามทางเพื่อที่ตอนกลับจะได้ไม่หลง
" เอาตามจริงมันควรจะมีใยแมงมุมในนี้นะ แต่มันไม่มีแล้ว "
" ห๋า? เธอรู้ได้ยังไง? "
" ก็เพราะฉันเองเคยมาที่นี่กับครอบครัวน่ะ "
" ช่างตีเหล็กเขาลงดันเจี้ยนกันเป็นด้วยเนาะ "
" แหม่ ก็มันจำเป็นต้องหาแร่ดิบไปหลอมนี่ ไม่หาก็ไม่มีอะไรไปขายนะ "
" ก็ถูกของเธอ "
ทั้งคู่ต่างพากันเดินลึกเข้าไปในถ้ำที่มืดมิดและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะทางที่เดินโดยที่ยังไม่พบอะไรสักอย่างเลย
" โอ๊ะ นี่มันอะไรอ่ะ "
" ก้อนอะไรใหญ่จังแฮะ " ข้างหน้าของทั้งคู่คือก้อนบางอย่างสีขาวหน้าตาคล้ายไข่ ขนาดของมันเทียบเท่ากับถังไม้ ( ถังไม้ เช่น ถังเก็บไวน์สมัยยุคกลางนั่นเอง✨ )
" เดี๋ยวก่อนนะนั่นเสียงอะไร "
" ห้ะ เธอได้ยินอะไร? "
" ลองฟังดูสิ " ทั้งคู่ต่างเงียบเพื่อจะลองฟังเสียงแปลกๆ ที่ได้ยินอยู่รอบตัว เสียงนั้นมันเหมือนตัวอะไรบางอย่างมีหลายขาและมีกันเยอะมากๆ กำลังเดินล้อมรอบมาหาทั้งคู่
" ..ฉันว่าเรารีบกลับกันดีกว่ามันแปลกๆนะแบบนี้น่ะ.. "
" น.. นั่นสินะ กลับกันก่อนดีกว่าค่อยมากันอีกที 4 คน.. " แอกเนสเดินหันหลังกลับและทันใดที่ยื่นไฟไปข้างหลังก็พบเห็นหัวมดขนาดยักษ์ยื่นจ้องทั้งคู่อยู่
" โอ้พระเจ้า.. "
" .... " แอกเนสยื่นขาไปข้างหลังเตรียมจะถอยหนี
" หยุด.. "
" ท.. ทำไมอ่ะ "
" ข้างหลังก็มี.. "
" ... " แอกเนสรู้อย่างงั้นจึงค่อยๆ ย่อลงและเตรียมที่จะ
" กระโดด!!! "
" กรี๊ดดดดด!!!!!!! แมล๊งงงง!!!!!! " สุสุกิกรี๊ดสุดเสียงข้างหูแอกเนส ทำเอาแอกเนสเองก็ปวดหูไม่น้อยแต่ก็รีบกระโดดเหยียบหัวมดยักษ์ข้างหน้าแล้ววิ่งสุดชีวิตไปทางออก
" เดี๋ยวสิมันไม่ได้มีแค่ 2 ตัว!!!! มันมากันเต็มเลยค่า!!!! "
" ก็เพราะเธอกรี๊ดเสียงดังยังไงล่ะคะคนสวย!! หนูจะกรี๊ดหาอะไรเล่า!! "
" หาแม่ค่า!!!! ฮือออ~~ "
" มันไม่ใช่เวลามาตบมุขนะคะ!!!! " แอกเนสวิ่งไปสติก็จะแตกไปเพราะยิ่งวิ่งเท่าไหร่ก็เหมือนจะได้เสียงพวกมดยักษ์วิ่งไล่ตามเป็นร้อยตัวเลยและเข้าใกล้ทั้งคู่เรื่อยๆ
" ย..แย่แล้วค่า!!! ผงแป้งมันหายไปไหนแล้ว! " แอกเนสที่ตอนแรกก็ตั้งใจมองผงแป้งอยู่แต่สักพักก็ดันวิ่งหลุดเส้นทางไปเพียงเพราะเผลอคิดเรื่องมดที่ไล่หลังมา
" ทางนั้นๆ!! เหมือนฉันจะเห็นแสงสว่างมาจากช่องนั้นนะ! " สุสุกิจับหัวของแอกเนสแล้วหันไปทางถ้ำช่องเล็กๆที่มีแสงสว่างลอดออกมา
" งั้นก็เข้าไปก่อนเลย!!! "
" เอ๊ะ เดี๋ยว!!?- " สุสุกิถูกจับออกจากหลังแล้วโยนออกไปข้างหน้า ตัวสุสุกิกลิ้งหลุนหลุนเข้าไปในช่องเล็กๆแบบลูกโบว์ลิ่ง แอกเนสเองก็วิ่งตามแล้วสไลด์เข้าไปข้างในเช่นกัน
" เห้อ.. รอดสักที แต่ทำไมพอเข้ามาแล้วไม่ได้เสียงมดพวกนั่นแล้วอ่ะ? "
" นี่!! จับฉันกลิ้งแบบนั้นเพื่ออะไรกันเนี่ย!? "
" เดี๋ยวสิ เงียบก่อน! "
" อุบ- " สุสุกิถูกแอกเนสจับกดกับพื้นโดยที่ถูกนั่งคร่อมอยู่บนตัว มือข้างนึงปิดปากของเธอเอาไว้แน่นส่วนมืออีกข้างรวบแขนทั้งสองข้างของสุกิประกบกันแน่น " อย่าขยับ.. " ในวินาทีนั้นทั้งคู่จึงสบตากันทำให้เห็นใบหน้าของแอกเนสที่แดงและเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัว "..." แอกเนสก้มลงไปใกล้ๆ เสียงลมหายใจที่ถี่และเร็วกระตุ้นให้ใบหูของสุสุกิเริ่มร้อนขึ้นมา
" ต้องอย่างงี้สิ..เด็กดี~ " แอกเนสชมอีกฝ่ายพลางยิ้มอ่อนๆให้กับเพื่อนรักของเธอ(ที่กำลังถูกคร่อม) ก่อนจะคลายมือที่ปิดปากสุสุกิเอาไว้ไปลูบหัวของนางเบาๆ
" ไม่ต้องกลัวนะและอย่าส่งเสียงดังเผื่อข้างในนี้จะมีตัวอะไรอีก "
" ค..ค่ะ... " สุสุกิตอบรับอย่างเชื่อฟังเหมือนหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์ ในตอนนี้หัวของนางมีแต่ฉากที่ไม่ควรกล่าวเป็นอย่างมาก แต่แอกเนสนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นเลยก็แค่จะทำให้เพื่อนตั้งสติไม่ให้แตกตื่น
" เอาล่ะไปกันต่อเถอะนะ ไม่งั้นคงติดอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไปแน่ " แอกเนสจับมือของสุสุกิลุกขึ้นแล้วพาเดินตามหาทางออกกัน
' ติดอยู่ในนี้ตลอดไปก็เลวนะคะะ!!!! ' ในหัวของสุสุกิคิดเช่นนั้นระหว่างที่เดินจับมือกับ(เพื่อน)ของเธอ
∆
' ใยแมงมุมเยอะอยู่นะ แต่แมงมุมไปไหนหมดกันนะ? ' ทั้งคู่เดิมตามทางไปโดยที่รอบๆ เองก็มีแต่ใยแมงมุมแต่ไม่มีแมงมุมเลยสักตัว แอกเนสจึงครุ่นคิดอย่างหนัก
' เอาตามจริงฉันว่าฉันควรจะกลัวนะอะไรแบบนี้ ' ระหว่างที่แอกเนสกำลังครุ่นคิดก็ลองหันไปมองเพื่อนที่เดินตามมา
' ทำไมเหงือแตกขนาดนั้นน่ะ.. ทั้งๆที่ก็ไม่ได้วิ่งเลยแถมอยู่บนหลังมาตั้งแต่แยกทางกับสองคนนั้นแล้ว? ' แอกเนสยักคิ้วข้างนึงสงสัยกับเพื่อนตัวเองที่ในตอนนี้หน้าแดงก่ำและเหงื่อแตกชุ่มไปทั้งตัว ' ถ้ำเปล่าๆอ่ะเนาะมันก็คงจะร้อนอยู่แหละ ไม่เหมือนพวกโบราณสถานเย็นๆ ที่มีมานาลอยไปลอยมาคอยสร้างความเย็น ' แต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่แอกเนสคิดแม้แต่น้อย นางแค่อารมณ์ค้างจากเหตุการณ์เมื่อกี้ก็เท่านั้น
' ...จะว่าไปสองคนนั้นจะเป็นยังไงกันบ้างนะ? '
∆
" ไหงประตูเป็นรูปมังกรแต่มีใยแมงมุมเต็มเลยฟะเนี่ย!? " ข้างหน้าของสุมะคือโบราณสถานที่เต็มไปด้วยใยแมงมุมยั้วเยี้ยเต็มไปหมดบางอันเล็กบางอันใหญ่โตสุดๆ
" น่าๆ ตั้งแต่เข้ามาก็ยังไม่เห็นมอนสเตอร์เลยนี่จะกลัวทำไม " มาโคโตะทุบชุดเกราะและเศษเหล็กให้กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้วใส่กระเป๋าอันใหญ่เบิ้มของสุมะพลางพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรมากกับใยแมงมุมที่สุมะระแวงอยู่
" แล้วนายไม่กลัวหรือยังไงกันฟะ!? แมงมุมเลยนะเห้ย!? "
" ฉันเองก็พึ่งรู้ตัวนี่แหละว่าไม่ได้กลัวแล้วแมงมุมน่ะ อาจจะเพราะเคยเจอมาก่อนแล้วไรงั้นมั้ง " มาโคโตะมัวแต่ทุบเหล็กต่อไปเรื่อยๆ ส่วนเพื่อนของเขาก็มองนู่นมองนี่รอบๆ เพราะกำลังระแวงอยู่
" เอาล่ะ เก็บเสร็จเรียบร้อยละเราไปชั้นสองของโบราณนี้กันดีกว่าตรงระเบียงตรงนั้นอ่ะ " มาโคโตะชี้นิ้วไปทางกำแพงที่มีเสาและระเบียงขนาดใหญ่ลวดลายสวยงามลายมังกรแต่มีใยแมงมุมเกาะอยู่เต็มไปทั่วกำแพง
" ระเบียงนั่นเหมือนเปิดต้อนรับนักผจญภัยให้ไปเป็นอาหารของตัวอะไรสักอย่างเลย.. " สุมะทำหน้าเจื่อนๆ แบบไม่อยากไปสุดๆ
" น่าเหล็กที่ต้องการมันก็ยังไม่พอ ถ้าไม่ได้เหล็กไปครบฉันก็คงจะถูกฆ่าโดยลูกค้าแน่นอน.. "
" แต่แบบนั้นมันก็ดีกว่าถูกตัวอะไรจับกินมั้ยอ่ะ? "
" นะค้าบบบ ลูกพี่สุดหล่อ~ " มาโคโตะทำตาออดอ้อนตาแป๋วๆ เหมือนลูกแมวใส่สุมะ
" ..อี๋ หยะแหยงวะ.. แต่จะไปก็ไปก็ได้ "
" ลูกพี่ใจดีที่สุดเลยค้าบบบบบ~ " มาโคโตะทำท่ากระโดดดีใจแบบสุดๆ จากนั้นทั้งคู่ก็พากันไปที่ใยแมงมุม
" แล้วเราจะปีนขึ้นไปยังไงอ่ะ.. มันเหนียวไม่ใช่หรอ.. "
" นี่ไงเพื่อนรัก ใช้แป้งทาตัวสิขอรับใยแมงมุมจะได้ไม่ติด " มาโคโตะยื่นแป้งให้สุมะ
" อ๋า ฉลาดจัด "
" แน่นอน เพราะฉันน่ะกินปลาประจำ "
" ห้ะ แล้วไปกินปลาตอนไหนวะ- ช่างมันเดี๋ยวค่อยถามตอนออกจากดันเจี้ยนละกัน " สุมะงุนงงกับสิ่งที่มาโคโตะพูด ว่ามันเป็นมุขหรือเรื่องจริงกันแน่เพราะเขาก็ไม่เคยเห็นมาโคโตะกินปลาเลย
" เอ้า ฮึบ! เร็วๆ หน่อยสิสุมะ!!! นายช้าอย่างกับคนแก่เลย " มาโคโตะกระโดดขึ้นมาถึงที่ระเบียงพร้อมกับแบกกระเป๋าที่ใส่เหล็กมา แต่สุมะนั้นกำลังพยายามปีนอย่างเหน็ดเหนื่อย
" ก็แกเล่นกระโดดสูงขนาดนั้นฉันจะไปตามทันได้ยังไงฟะ!? ตรูไม่ได้ฝึกทรงตัวมานะเห้ย! "
| 1 ปีผ่านไป | (ล้อเล่นมันแค่ 10นาที)
" เฮ้อ.. เฮ้อ.. กว่าจะถึงไอบ้า! " สุมะนั่งหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการปีนอย่างยากรำบากทำเอาเหงื่อท่วมตัวเต็มไปหมด
" เอ้าว่าฉันทำไมอ่ะ "
" ก็นายทำไมไม่มารับฉันล่ะวะ!!!! "
" จะได้ฝึกร่างกายไงเพื่อนรัก ฮุฮุ "มาโคโตะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนสุมะก็กำลังหัวอุ่นปุดๆ
" ไอ*** "
" ฮะฮะฮะ เอาเถอะพวกเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า "
" เออๆ ไปกันต่อก็ได้มาขนาดนี้ละ "
" ดีมากเพื่อน!!! " มาโคโตะยิ้มกว้างและโชว์นิ้วโป้งให้สุมะที่กำลังทำหน้าเซ็งๆ ประมาณว่า ' ทำไมตรูถึงมีเพื่อนเป็นไอห่านี่วะ.. '
ทั้งคู่เดินเข้ามาข้างในและพบเห็นกองชุดเกราะ ดาบ และอาวุธมากมาย พร้อมทั้งสมบัติที่กองอยู่ตรงหน้าของพวกเขาและมีที่เกาะอยู่ตามใยแมงมุมรอบๆ
" เชี่ยย... คุ้มแล้ววะงานนี้ "
" เป็นไงเป็นไงฉันบอกแล้วเราควรขึ้นมา "
" จ้าๆ ขอโทษที่ไม่ฟังแต่แรกจ้า "
สุมะและมาโคโตะเดินไปหยิบจับข้าวของที่กองกันอยู่เต็มทีละชิ้นและเลือกแต่เหล็ก
" เห้ยๆ ฉันเจอเหล็กตรงนี้วะเพียบเลย!! "
" ฉันเองก็เจอ!! " ทั้งคู่นำของที่เป็นเหล็กมากองรวมกันแยกออกจากทอง
" สุมะ เดี๋ยวนายโยนเหล็กมาให้ฉันนะแล้วเดี๋ยวฉันทุบ "
" ได้เลย อ่ะงั้นรับนี่ " สุมะโยนของที่เป็นเหล็กไปให้กับมาโคโตะทีละชิ้น โดยเสียงทุบเหล็กก็ดังเป็นงหวะไปเรื่อยๆ
" แจ่มมากเลยเพื่อนแบบนี้เราก็จะได้ไปเจอกับสองคนนั้นได้เร็วขึ้นสักที! "
" นั่นสินะ จะได้ออกไปหาอะไรกินสัก- "
" ช่ายย อ้าว สุมะนายหยุดทำไม? สุมะ?? " มาโคโตะหันมาอีกทีก็พยว่าเพื่อนของเขาหายไปแล้ว เขาเองนั้นมองไปรอบๆ พยายามตามหาเพื่อนของเขา ' นางคงมาแล้วสินะ.. '
" สวัสดีค่า~~ "
ทันใดนั้นก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมาจากหลังกองทองเพียงท่อนบนเท่านั้น เธอมีผมสีขาวและดวงตาสีฟ้าที่เปร่งประกายสวมใส่เสื้อคลุมสีขาวโดยมีขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ
" เหงามั้ยเอ่ย? "
" อ๋า~ นิดหน่อยค่ะแต่พอมีมาคุงแวะมาบ้างก็ไม่ได้เหงาเท่าไหร่แค่ช่วงนี้ไม่เห็นพี่ชายเลย~ ก็เลยเหงามากเลยค่ะ~ " เธอทำหน้าหงอยๆ ดูเศร้าสร้อยหลังจากพูดจบ
" พี่ต้องขอโทษด้วยนะ พอดีช่วงนี้ยุ่งๆ น่ะ "
" นั่นเสียงมาโคโตะหรอ!!! ช่วยด้วยย!!! อุบ!- " สุมะที่ฟื้นได้สติแล้วได้ยินเสียงของมาโคโตะก็รีบตะโกนเรียกสุดเสียง แต่ก็ถูกใยแมงมุมปิดปากเอาไว้โดยทันที
" คือว่าเขาเป็นเพื่อนพี่น่ะน้องมาเรียช่วยปล่อยเขาได้ไหมครับ? " มาโคโตะกล่าวด้วยความสุภาพขอร้องให้อีกฝ่ายปล่อยเพื่อนของเขาแต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ตกลง
" ไม่ค่ะ ฮิฮิ " เธอลุกขึ้นมาด้วยขาทั้งแปดขาของเธอที่โผล่ขึ้นมาทำให้เห็นว่าท่อนล่างของเธอนั้นเป็นครึ่งคนครึ่งแมงมุม
" ถ้าคุณน้องว่าเช่นนั้นผมก็จะให้ครับ!! " มาโคโตะกำค้อนในมือแน่นตั้งท่าเตรียมต่อสู้
" ได้เวลาเล่นสนุกกันอีกแล้วสินะคะ~ ฮิฮิ" ทันใดนั้นเธอก็ทุบลงไปที่พื้นทำให้รอยแยกพุ่งไปหาอย่างรวดเร็ว
" ท่านี้อีกแล้วหรอเนี่ยคิดถึงจังฮะฮะ " มาโคโตะคุงกระโดดหลบพลางพูดไปขำไปเล็กน้อยเหมือนกำลังเล่นสนุกอยู่
" มันเป็นท่าเรียกน้ำย่อยนะค่ะของจริงอยู่ในนั้นต่างหาก "
" เอ๋? " มาโคโตะมองไปที่รอยแยกก็เห็นใยแมงมุมจำนวนมากพุ่งขึ้นจากรอยแยกตรงไปมาหาเขา เขาจึงใช้ค้อนหมุนเป็นลูกข่างกลางอากาศเพื่อปัดใยแมงมุมพวกนั้นจนแทบทั้งหมดนั่นลงไปปักบนพื้น
" นี่คุณเธอทำใยแมงมุมแบบแข็งได้แล้วหรอเนี่ยสุดยอดเลย! " มาโคโตะกล่าวชมอีกฝ่ายและยกนิ้วโป้งให้ ทำอีกฝ่ายหน้าแดงเขินอายที่มาคุงชมตน
" แหม่พี่ก็~ มันก็ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย~ >< " เธอเอามือปิดหน้าตัวเองพร้อมกับทุบพื้นไปด้วยความเขินอายสุดๆ มาโคโตะเองก็กระโดดหยองๆ หลบรอยแยกที่แตกออกไปด้วย
" อุบๆ!! อ้าวเห้ย!!! เล่นสนุกอะไรกันฟะเนี่ย!! ยัยเด็กบ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!! เฮือก! " สุมะพยายามเอาใยแมงมุมออกจากปากได้สำเร็จจึงมองไปทางแมงมุมสาว(สุดสวย)แล้วต่อว่าเธอโดยเรียกเธอว่า ' เด็กบ้า ' ทันใดนั้นภายในไม่กี่วินาทีแมงมุมสาวก็พุ่งมามองหน้าสุมะ สิ่งที่สุมะเห็นคือหน้าตาอันน่ากลัวของแมงมุมสาวที่มองด้วยสายตาเกลียดชังสุมะแบบสุดๆ พร้อมเอาหอกมาจี้คอ
" ปากแบบนี้คงจะอยากโดนแทงไส้ไหลสินะ "
" อ๊ะ มาเรียใจเย็นๆ ก่อน! พี่รู้ว่าหนูเป็นคนอ่อนโยนและใจดี ถ้าทำแบบนั้นมาเรียน้อยจะกลายเป็นปีศาจนะครับ!! "
" ... " ทันใดนั้นนางก็วางหอกลงตรงหน้าสุมะที่กำลังผวาแล้ววิ่งเข้าไปกอดมาโคโตะคุงแน่น
" ฮืออออ~~ หนูไม่ใช่เด็กบ้าและหนูก็ไม่ใช่ปีศาจนะฮืออ~~~ " มาเรียร้องไห้น้ำตาไหลเป็นน้ำตกพลางกอดมาโคโตะแน่น มาโคโตะเองก็คอยเช็ดน้ำตาให้
" ไม่เป็นไรนะๆ โอ๋ๆๆ มาเรียไม่ใช่ปีศาจหรือเด็กไม่ดีอย่างที่สุมะว่าเลย มาเรียน่ะน่ารักที่สุดเลยย " มาโคโตะหันมองไปทางสุมะที่กำลังทำหน้างงกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตกใจอยู่ จากนั้นมาโคโตะก็ทำปากพูดออกไปแบบไม่มีเสียง ' พูดแบบนั้นเองอยากตายรึยังวะ ' สุมะที่เห็นก็ส่ายหน้าประมาณว่า ' ไม่ฉันไม่อยากตาย ' มาโคโตะที่เห็นก็พูดแบบไม่เสียงว่า ' งั้นก็อย่าหาทำอีกนะคุณพรี่ ' สุมะก็ทำมือรูป ' ok ' แบบเข้าใจแล้ว
∆
" มาเรียต้องไม่ฆ่าคนโดยไม่มีเหตุผลนะครับ! แล้วก็ต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่ชายนะ "
" เข้าใจแล้วค่ะ ฮือ~ " มาเรียนอนตักร้องไห้อยู่ข้างๆ มาโคโตะ เขาเองก็คอยลูบหัวเธอไปด้วย
" แล้วนี่มาเรียอายุเท่าไหร่หรอมาโคโตะ? " สุมะเห็นมาเรียที่ดูจะเป็นเด็กผู้หญิงจึงสงสัยแล้วถามออกไป
" มาเรียอายุ 1600 ปี น่ะ "
" ห๊ะ??? ทำไมเด็กจังฟะ "
" ตกใจอะไรขนาดนั้น มันปกติจะตายไปที่สัตว์ระดับหัวหน้าดันเจี้ยนจะอายุขนาดนี้นะ แถม 1600 ปีนี่ยังเด็กไปด้วยซ้ำน่าจะเทียบเท่าอายุคนแค่ 16 เองมั้ง "
" แล้วถ้างั้นอายุแค่นี้พ่อกับแม่ของเธอไปไหนล่ะ เพราะถ้าเป็นระดับบอสดันเจี้ยนก็น่าจะเกิดแบบต้องพึ่งพาหรือกายภาพนั่นแหละ "
" ... ฉันก็ไม่รู้จะเล่าดีมั้ยแฮะ..- "
" ถ้าคุณอยากรู้หนูจะเล่าให้ค่ะ! " มาเรียลูกพรวดจากตักขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าสุมะอยากฟังเรื่องราวของตน
" หายโกรธสุมะเขาแล้วหรอ? "
" ไม่หรอกค่ะ! แต่ว่า.. ถ้าเป็นเพื่อนของคุณมาโคโตะจะยกโทษให้เป็นการพิเศษละกันค่ะ " มาเรียทำหน้ายิ้มแย้มดูสดใสแบบมากๆ สุมะที่เห็นก็ทำหน้ากลัวนิดๆ กลัวจะโดนนางพุ่งมากระโดดกัดคอมาก ' เพราะตะกี้นางยังจะเอามีดจี้คออยู่เลย.. เป็นใครใครก็กลัว.. '
" ถ้างั้นช่วยเล่าให้เขาฟังหน่อยสิ "
" ได้ค่ะ! "
" คือว่านะ.. "
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments