ตอนที่ 2 บีโบ้

หยดน้ำจำนวนมากหยดใส่ร่างกายอันสะบักสะบอมของเด็กสาวตัวน้อยแต่กลับไม่ได้ทำให้เด็กน้อยของเราสดชื่นขึ้นมาสักนิดเดียว

' ถ้าความทรงจำนั้นหายไปหรือไม่ก็ตายไปซะมันก็คง.. จะดี.. '

เธอหวังให้ตอนที่หัวฟาดลงหินไปทำให้เธอความจำเสื่อมเป็นที่สุด แต่มันดันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยังไงก็ตามตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่จะมาตาย

" ฮึบ.. "

เธอพยายามเอามือทั้งสองที่แทบจะไม่มีแรงแม้แต่น้อยดันตัวอันหนักอึ้งของเธอขึ้นเพื่อที่จะลุกขึ้นยืน และเมื่อยืนขึ้นสำเร็จเด็กสาวตัวน้อยจึงได้ลุกขึ้นมองไปรอบๆ เธอจึงเบิกตาโพลงขึ้นในทันที รอบตัวหญิงสาวมันนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่เต็มไปทั่วป่าและได้พบกับเห็ดสีฟ้าที่เกาะตามต้นไม้มันช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งเพราะเห็ดเหล่านั้นมันเป็นเห็ดสีฟ้าเรืองแสงแถมยังอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ และระหว่างที่ตัวเธอกำลังชมความงดงามของธรรมชาตที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่นั้นเอง

" อืดดดด...~ "

" หิวเหลือเกิน.. "

ด้วยความที่เธอนั้นพึ่งจะเหนื่อยล้าและบาดเจ็บจากการวิ่งหนีเข้ามาในป่าลึกมันทำให้ร่างกายของเธอเรียกหาพลังงานที่จะมาเติมเต็มเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเธอก็ยังไม่คิดจะกินเห็ดที่เรืองแสงน่าดึงดูดเหมือนกำลังเรียกหาเธออยู่และกำลังพูดว่า ' เจ้าหนู~ มากินฉันสิ~ รสชาติของฉันมันอร่อยกว่าเนื้อตากแห้งที่เธอกินมาเป็นที่สุดเลยนะ~ คิกคิก ' แต่เห็ดนั่นมันไม่ได้พูดอย่างนั้นจริงๆ แค่เป็นจินตนาการของนางเองที่กำลังเพ้อเพราะความหิว

เมื่อนั้นเธอจึงตั้งสติและออกเดินทางไปข้างหน้าต่อ แต่มันก็แปลกมากเพราะยิ่งเดินไปนานเท่าไหร่ยิ่งเจอกับเห็ดสีฟ้าเยอะขึ้นเรื่อยๆ มันเยอะซะจนแทบจะบดบังต้นไม้ใหญ่ที่เห็ดสีฟ้าเกาะอยู่ไปจนสิ้น มันแปลกเสียจนอยากจะอุทานว่า

" ฉันคงจะำะไม่รอดแล้ว- "

" บีโบ "

" เอ๊ะ "

เห็ดสีฟ้าขนาดเท่ารองเท้ากระโดดมาที่ข้างหน้าของเธอแล้วร้องเสียงที่ทุ้มต่ำอย่างมากออกมา

" บีโบ "

" ... "

เธอยืนอึ้งไปสักพักก่อนที่จะนั่งยองและเอามือยื่นไปจิ้มๆ ดู

" นุ่มนิ่มจัง "

สัมผัสที่เธอรู้สึกนั้นเรียกได้ว่านุ่มนิ่มเหมือนพุดดิ้งเลยแถมยังรู้สึกอบอุ่นมาก ซึ่งขัดกับสีบนตัวมากที่เป็นสีฟ้า ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงจะเอาไปกอดเป็นแน่

" บีโบ "

" อ๊ะ เดี๋ยวก็สิ จะไปไหนน่ะ "

ทันใดนั้นเจ้าเห็ดสีฟ้าก็กระโดดไปข้างหน้าของเธอ เธอจึงเลือกที่จะเดินตามไปในทันที แม้จะไม่รู้ว่ามันจะไปที่ไหนก็ตามเพราะสถานการณ์ในตอนนี้หากมีเพื่อนที่แม้จะเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้อยู่ด้วย มันก็คงจะดีกว่าต้องอยู่คนเดียวในป่าใหญ่นี้

เมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ ตามเจ้าเห็ดสีฟ้ามาภาพตรงหน้าที่เธอเห็นมันเริ่มสว่างจ้ามากขึ้นหลังกลุ่มต้นไม้ข้างหน้าของเธอ

" ว้าวว.. นี่คือโลกข้างนอกหรอ "

ใช่แล้วเจ้าหนู มันคือโลกข้างนอกที่เด็กน้อยผู้น่าสงสารไม่เคยเห็นมาก่อน แสงแดดจ้าจนแสบตาสะท้อนลงไปที่ใบหญ้าอันเขียวขจีบนพื้น รอบๆ ตัวเธอนั้นมันเป็นที่ราบโล่งกว้างที่เต็มไปด้วยหญ้าต้นเล็กๆ จำนวนมหาศาลบนพื้น แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีกลุ่มต้นไม้ปนอยู่ด้วยไกลๆ และมีภูเขาขนาดใหญ่ข้างหน้าของเธอ มันช่างเป็นภาพที่งดงามตา นี่น่ะหรือคือสิ่งอันตรายที่เขาว่ากัน จังหวะนี้เป็นใครก็น้ำตามไหลเป็นน้ำตกแน่นอนและใช่เธอก็ไม่ต่างกัน

" ถ้าเกิดพี่จ๋าอยู่ข้างๆ หนูแล้วได้เห็นภาพตรงหน้าด้วยกัน.. ก็คงจะดีไม่น้อย.. "

ช่างน่าเสียดาย.. แต่ถึงกระนั้นก็มีแต่ต้องสู้ไปข้างหน้าต่อเพียงเท่านั้น อดีตมันก็เป็นเพียงแค่อดีตไปเสียแล้ว ในตอนนี้เธอเลือกจะเข้มแข็งและเดินตามเจ้าเห็ดสีฟ้าต่อไป

" แล้วเป็นยังไงต่อหรอครับ! "

" โอ้ เดี๋ยวพึ่งสิพี่ยังเล่าไม่เสร็จเลย "

" อะ ขอโทษด้วยขอรับ! "

" ฮะ ฮะ ไม่เป็นไรๆ เอาเป็นว่าต่อจากนั้นนางก็มาเจอหมู่บ้านของเราและได้พบกับพี่น่ะแล้วก็เจอกับแม่พี่ด้วย พวกเราก็เลยรับนางมาเป็นครอบครัวเดียวกันในที่สุด อ้อๆ รวมถึงเจ้าบีโบ้ด้วยนะที่เป็นเห็ดนั่นน่ะ แล้วก็พวกเราตั้งชื่อให้เธอด้วยว่า โคชิดะ แอกเนส พวกเราให้เธอใช้นามสกุลของครอบครัวโคชิดะเรา "

" เด็กผู้หญิงคนนั้นก็คือท่านพี่แอกเนสอยู่สินะคะ! "

" ใช่แล้วๆ ฮึ ฮึ แล้วตอนนั้นแทนที่เธอจะเรียกพี่ว่า มาโคโตะ เธอกลับเรียกพี่ว่า- "

" มาคุง!!! "

" เฮือก! "

ระหว่างที่มาโคโตะกำลังเล่าเรื่องราวของแอกเนสให้กลุ่มเด็กๆฟังอยู่นั้นเองเจ้าของเรื่องก็ทำการกระโดดเข้าไปกอดใส่ริโตะผู้น่าสงสารจนทั้งคู่ล้มไปกับพื้นทำเอาฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว

" น..นี่ นี่เธอก็ไม่ใช่ว่าจะตัวเล็กๆ เหมือนเมื่อก่อนนะ! โตจนอายุ 20 แล้วแท้ๆ... อะ "

มาโคโตะต่อว่าแอกเนสพร้อมทำคิ้วขมวดเพราะถูกกระโดดใส่เต็มแรงแถมยังหนักอีก แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงนุ่มนิ่มกำลังอัดแน่นอยู่บนท้องของเขารวมถึงที่ตักของเขาด้วยเช่นกัน มันช่างเป็นสัมผัสที่ชายหนุ่มหลายๆ คนก็คงจะฟินไม่น้อย รวมถึงมาโคโตะในตอนนี้ก็ด้วยเช่นกัน แต่เขาเองก็จะมารู้สึกแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะทั้งคู่ในตอนนี้มีสกุลโคชิดะอันเดียวกันอยู่

' แล้วยังไงเธอก็จะไปเป็นอัศวินให้ได้ ก็คงจะไปเจอหนุ่มหล่อในวงอัศวินพวกนั้นอยู่ดีนั่นแหละ.. แต่เฮ้ย จะนานเกินไปแล้วนะ! ถ้าอยู่ในท่านี้นานฉันแบนแหง!!'

" นี่! เมื่อไหร่จะลุกสักทีน่ะ "

" ก็แหม~ ฝึกมาเหนื่อยๆ ก็แค่อยากจะกอดพี่ชายให้ชื่นใจสักหน่อยแค่นั้นเองนี่~ "

แอกเนสลุกขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวของมาโคโตะพลางยิ้มอ่อนๆ พร้อมกับเหงื่อเต็มตัวที่ได้มาจากการฝึก

" จ้าๆ คุณน้องสาวแต่ลุกเถอะขอร้องล่ะ เธอน่ะหนักยิ่งกว่าทั่งตีเหล็กเสียอีก "

" เสียมารยาท! บังอาจมาพูดถึงน้ำหนักของผู้หญิงแบบนี้ เดะก็โดนต่อยเข้าเบ้าหน้าเสีย!! "

" อย่า อย่าเลยจ่ะพี่ขายขอร้อง พี่ชายคนนี้ผิดไปแล้วจ่ะ "

เป็นใครก็กลัวเพราะเธอนั้นใส่เสื้อสั้นๆ เป็นเหมือนเสื้อกล้ามที่ปิดแค่ช่วงอกแต่โชว์ให้เห็นหน้าท้องและแขนชัดเจนและบนร่างกายของเธอก็ประดับไปด้วยซิกแพคและกล้ามแขนอันงดงามและดุดันที่ได้มาจากการฝึกอย่่างหนักในแต่ละวัน

" พูดได้ดี ถ้าพูดอีกฉันจะต่อยพี่จริงๆ แหละ แต่ยังไงก็ตามวันนี้ต้องง้อฉันด้วย ชิ "

" จ้า~ "

แอกเนสทำหน้างอนๆ แก้มป่องๆ ลุกจากมาโคโตะแล้วกลับไปที่สนามฝึกทันที

" พี่เป็นผู้ชายที่น่าไม่อายเสียจริงๆ "

" ไม่ได้เสียจริงเลยค่ะ "

" พี่ต้องไปง้อเธอเดี๋ยวนี้เลย! "

" ไปง้อ! ไปง้อ! ไปง้อ! "

กลุ่มเด็กๆ พากันส่งเสียงอย่างพร้อมเพรียงกันสั่งให้มาโคโตะไปง้อแอกเนสในทันที

" จ้าๆ เดี๋ยวพี่จะไปง้อเดี๋ยวนี้เลย พี่เองก็พูดไม่ดีจริงๆ งั้นไว้เจอกันใหม่นะ "

" คร้าบบ/ค่าา "

มาโคโตะบอกลากับเด็กๆ และเดินตรงไปที่สนามฝึกพลางคิดว่าจะง้อเช่นไรดี จึงจะทำให้เธอหายโกรธ ควรกล่าวขอโทษตรงๆ หรือง้อด้วยขนมดี หรือทำทั้งคู่ไปเลย? สุดท้ายคงต้องเป็นเรื่องของหน้างานอยู่ดีและอาจจะต้องลองถามเธอตรงๆ ว่าอยากให้ทำอะไรให้มั้ยมาโคโตะคิดเช่นนั้น และเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแอกเนสที่นั่งอยู่บนกองฟางกำลังลูบหัวเจ้าบีโบ้ตัวน้อยอยู่ที่ในตอนนี้ขนาดก็ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนนิดนึงตัวเท่าแมวอ้วนๆ มาโคโตะเห็นเช่นนั้นก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าไม่น่าใช่แค่เรื่องที่ไปปากเสียใส่เมื่อกี้แน่ๆ เลยทำหน้างุนงงสงสัยเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินเข้าไปทักเธอ

" นี่ คิดถึงเรื่องเก่าๆ อีกแล้วหรอ ถึงได้ทำท่าทางเป็นหมาหงอยแบบนั้น "

" ดูออกด้วยหรอ แต่ก็ไม่เชิงหรอกฉันทำใจกับเรื่องนั้นไปได้แล้วล่ะ "

" แล้วปัญหาจริงๆ ของเธอมันคืออะไรเล่่าฉันฟังได้นะถ้าต้องการ "

เขามองไปที่ใบหน้าของเธอที่ต่างจากตะกี้สุดขั้ว เธอดูหงอยสุดๆ และเอาแต่ก้มหน้ามองบีโบ้ที่กำลังหลับอยู่บนตักของเธอ

" มันก็ไม่ได้มีอะไรมากนักหรอก ก็แค่ฉันยังกลุ้มใจเรื่องที่ฉันมีนามสกุลโคชิดะตระกูลช่างตีเหล็กทั้งๆ ที่ก็อยากจะเป็นอัศวิน "

" หืม? เธอก็เป็นทั้งคู่ได้ไม่ใช่หรอ? "

" มันก็ใช่ แต่ถ้าฉันเป็นอัศวินเมื่อไหร่ก็คงไม่มีเวลามาตีเหล็กแบบที่เราทำกันประจำหรอก.. "

" ก็จริงนะ เธออยากเป็นอิศวินนี่เนาะ.. "

ทั้งคู่ต่างก็กำลังรำบากใจอยู่เช่นเดียวกัน เพราะในสักวันก็คงต้องจากกันเป็นแน่ แม้มาโคโตะจะค่อนข้างไม่อยากจากกันกับแอกเนสก็ตาม แต่เขาเองก็ไม่อยากจะขัดความฝันของเธอที่ต้องการจะเป็นอัศวินอันทรงเกียรติตามที่เคยพูดกับพี่ชายที่ตายไปแล้วในอดีต และเขาเองก็ไม่สามารถจะเป็นอัศวินได้เพราะเป็นเพียงแค่ช่างตีเหล็กที่ต้องสืบทอดวงตระกูลต่อไป

' ถ้าฉันเกิดเป็นกษัตริย์ได้ละก็ มันก็คงจะดีไม่น้อยที่มีองครักษ์ข้างกายเป็นเธอ.. '

ระหว่างที่มาโคโตะกำลังคิดเช่นนั้น แอกเนสก็ยื่นมือมาจับมือของมาโคโตะเอาไว้และยิ้มเบาๆให้กับมาโคโตะ เพราะตนก็รู้เช่นกันว่ามาโคโตะเองคงจะไม่อยากจะจากกับตนเช่นเดียวกับตนที่ก็ไม่อยากจะแยกจากมาโคโตะ

" เอาหน่า ในตอนนี้เราก็ยังอยู่ด้วยกันนะตาทึ่ม ดูทำหน้าหงอยเสียยิ่งกว่าชั้นอีก ฮึๆ "

" นี่ฉันทำหน้าหงอยจนคุณอัศวินมองออกเบยหรอขอรับ "

" อย่ามาพูดอะไรตลกๆ น่า ฮะๆ คอตักซะขนาดนั้นเป็นใครก็ดูออกทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะฉันที่ก็อยู่นายมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งนอนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน- "

" เดี๋ยวสิ ไอาบน้ำด้วยกันมายังไงฟะ! "

" เอ๋~ เขินหรอ คิดภาพตามอยู่ล่ะสิ "

" บ้าบอ ฉันไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้นหรอกน่า! "

แม้ตัวเองจะพูดเช่นนั้นออกไปแต่ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำขนาดนั้นมันบอกทุกอย่่างหมดแล้ว และเอาจริงๆ มาโคโตะก็คิดตามนั่นแหละ แต่เขาก็ไม่ยอมรับอยู่ดี

" แล้วนี่ยังโกรธเรื่องนั้นอยู่รึป่าว "

" หืม เรื่องไหน? อ้อ ฉันหายโกรธแล้วละ ' แค่ได้นั่งคร่อมบนตัวนายก็พอใจแล้ว ' "

" ห้ะ เมื้อกี้ว่าไงนะ "

" ป่าวนิ ฉันแค่บอกว่าเห็นนายล้มฝุ่นตลบไปขนาดนั้นก็พอใจแล้ว เอาเป็นว่าฉันเข้าบ้านดีกว่าจะมืดละ "

" เห้! เดี๋ยวสิ โกหกกันชัดๆ บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าพูดอะไรไปน่ะ! "

" ไม่บอกจ้า~ "

จากนั้นทั้งสองคนก็ได้เดินออกไปจากสนามฝึกแล้วเข้าบ้านของทั้งคู่กัน

" อ้าวๆ หนุ่มสาวเข้าบ้านพร้อมกันเลย ไปทำอะไรกันมาเนี่ย "

" ก็คงไม่ใช่ความคิดสกปรก สกปรกอย่างที่พ่อคิดหรอก "

" เสียดายจังเลยนะ เห้อ~ อดมีผู้สืบทอดตระกูลรุ่นต่อซะแล้วสิ~ "

" อย่าหวังเลยตาแก่ "

" แต่แม่เห็นด้วยกับคุณพ่อนะ แม่เองก็อยากจะมีหลานสักคน~ "

" เพี้ยนกันทั้งคู่เลย พวกเราขึ้นห้องไปกันดีกว่าเนาะแอกเนส ไปกันเถอะ "

" อ.. อื้อ.. "

มาโคโตะนั้นหน้าแดงแจ๋เพราะทั้งฉุนปนเขินที่ถูกพ่อแม่สุดเพี้ยนของตัวเองพวกเช่นนั้นใส่ แต่แอกเนสที่ถูกเขาจับมือตามหลังพาขึ้นไปบนห้องอยู่ด้วยนั้น หน้าแดงก่ำเลยแต่กรณีนี้เขินล้วนๆ

" แม่ว่าเราควรตามไปล็อคห้องนะ- "

" อย่าเลยจ่ะ วัยรุ่นแบบนี้สักวันเดี๋ยวก็คงมีหลานสมใจอยากเองแหละ "

" ก็จริงอย่างที่พ่อว่ามานะ ทำเอาคิดถึงสมัยที่เราจีบกันแรกๆ เลย "

" นั่นสินะ ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน "

จากนั้นคุณพ่อกับคุณแม่มาโคโตะก็พากันไปหวานกันต่อนอกบ้านยามค่ำคืน

' ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดี.. เดี๋ยวสิ นี่ฉันคิดอะไรอยู่ฟะเนี่ยยยย '

มาโคโตะกำลังครุ่นคิดอย่างหนักกับเรื่องที่พ่อแม่พูดเมื่อตะกี้ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แอกเนสอาบน้ำเปลี่ยนชุดจนเสร็จแล้วเดินตรงเข้ามาในห้องและนอนลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากจนมาโคโตะเองก็มองไปทางแอกเนสที่นอนคลุมโปงอยู่ จากตอนแรกที่กำลังคิดเรื่องที่พ่อแม่หันกลับมาคิดเรื่องแอกเนสที่ทำตัวแปลกโดยทันที ' สาวแกร่งเขาอาบน้ำกันไวแบบนี้เลยหรอ.. ' แม้ว่าแอกเนสจะเป็นคนที่อาบน้ำไวอยู่แล้วแต่วันนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่าวันที่ผ่านๆ มา

" แม่กับพ่อเนี่ยชอบพูดอะไรแปลกๆ แบบนี้ตลอดเลยเห้อ เนาะแอกเนส? "

" อ.. อื้ม "

' หืม? นอนไวจังแฮะ วันนี้ก็คงเหนื่อยแหละเพราะฝึกหนักมานี่ แต่ทำไมวันนี้ถึงนอนคลุมโปงกันนะ '

แม้แอกเนสจะตอบเช่นนั้น แต่สิ่งที่มาโคโตะเห็นคือตัวเธอนั้นกำลังนอนคลุมโปงอยู่ มาโคโตะเองที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมนอนไวจัง ถ้าเป็นใครต่อใครเห็นก็คงพากันตะโกนใส่มาโคโตะว่า " ซื้อบื่อ!!! " เป็นแน่ โดยเฉพาะบีโบ้เองที่นอนอยู่บนเตียงก็อยากจะทำเช่นนั้นและทำหน้าผิดหวังสุดๆ เพราะในตอนนี้เอาจริงๆ แอกเนสนั้นก็กำลังเขินอยู่จึงคลุมโปงเพื่อไม่ให้มาโคโตะเห็นว่ากำลังเขิน

' ยังไงก็เถอะ คงถึงเวลาที่ต้องนอนบ้างแล้วล่ะ พรุ่งนี้ฉันเองก็ต้องจัดการงานที่ค้างไว้ต่อล่ะนะ '

แต่ไม่ใช่อย่างที่เจ้าตัวคิดเลยแม้แต่น้อย แอกเนสยังนอนขดตัวเขินอยู่เลย แต่มันก็ปนเศร้าไปเล็กๆ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า

' ฉันเองก็ต้องไปเป็นอัศวิน.. เมื่อนั้นเธอเองก็คงจะเจอคนดีๆ เข้ามาสืบทอดตระกูลต่อ.. '

ความเขินเริ่มเปลี่ยนเป็นความเศร้าไปทีละนิด และแม้เธอจะคิดเช่นนั้นเอง

' แต่คงจะดีถ้าคนคนนั้นเป็นฉัน.. '

ในเช้าวันต่อมาเองนั้นมาโคโตะก็กำลังทำงานอย่างขมักเขม้นโดยในมือนั้นกำลังถือค้อนอันใหญ่ทุบลงไปบนเหล็กแดงร้อนๆ ตรงหน้าของเขา

" นี่! มาโคโตะคุง! "

" โอ้ ว่าไงสุมะ "

ทันใดนั้นเพื่อนสนิทของเขาก็เดินมาทัก มาโคโตะที่ตีเหล็กให้เป็นแผ่นได้จนเสร็จพอดีก็เดินออกจากร้านไปหาเพื่อนของเขา

" วันนี้นายไม่ไปเก็บดอกไม้ที่สวนหรอ "

" ฮ่าๆ ฉันน่ะนะเก็บเสร็จไปเรียบร้อยแล้วล่ะ "

" ไวแท้ ทำำำไมคุณพี่เก็บเสร็จเร็วเช่นนี้หรอขอรับ "

" ก็กระผมตื่นแต่เช้าไงล่ะขอรับคุณมาโคโตะ "

" เช่นนั้นหรือขอรับ ช่างเป็นชายหนุ่มที่ขยันเสียจริง โฮๆ "

" ท่านเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรอขอรับ โฮๆ "

" พอๆ เดี๋ยวพวกเราก็โดนพวกขุนนางที่ผ่านไปมาในหมู่บ้านเราไปฟ้องกษัตริย์หรอก "

" นั่นสินะๆ "

" นั่นสินะอะไรกัน นายเองไม่ใช่หรอที่เริ่มก่อน? "

" หือ ไม่ใช่สักหน่อย นายเองไม่ใช่หรอที่ขำออกมาว่า ' โฮๆ ' น่ะ "

" แต่นายพูดกระผมก่อนไม่ใช่หรอ "

" เออ น่าๆ ก็จะได้ฝึกไปด้วยไงเผื่อสักวันจะได้เข้าเมืองหลวง "

" แถอะไรของนายเนี่ย.. โครตไม่เนียน "

" เฮ้ๆ ดูนั่นสิ "

" หืม? "

จู่ๆ เจ้าสุมะก็สกิดมาโคโตะแล้วชี้ไปทางกลุ่มสาวๆ สวยๆ ที่กำลังเดินคุยกันขำคิกคัก พวกเธอสวมชุดฝึกซ้อมประจำหมู่บ้านอยู่ โดยท่อนบนจะเป็นเกราะเหล็กที่ปิดแค่ช่วงอกกับหน้าท้องแต่จะเปิดไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้อยู่ ส่วนกางเกงที่พวกเธอใส่นั้นเป็นกางเกงขายาวแบบรัดรูปสีดำบอกได้เลยว่างามตาเหล่าชายในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

" นี่ มาโคโตะ เหมือนฉันว่าฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของต้นขาแน่นๆ นั่นจากการโดนบีบอัดอยู่เลย.. "

" ห๋า! นายนี่นะโรคจิตชะมัดเลย ...แต่มันก็ดูแน่นจริงๆ นั่นแหละ "

มาโคโตะต่อว่าเพื่อนของเขาแต่สุดท้ายเขาเองก็ไม่ได้ต่างกับเพื่อนของเขาสักเท่าไหร่ ผู้ชายอ่ะหนอ

" นี่! พวกนายกำลังทำอะไรอยู่น่ะฮิฮิ "

" เฮือก! "

" อ..อ้อ ป๊าวพวกเราแค่กำลังยืนคุยกันเรื่องท้องฟ้าน่ะ วันนี้สวยจังเนาะมาโคโตะ "

มาโคโตะกระตุกแก้มทันทีเหมือนพยายามจะบอกเพื่อนตัวเองว่า ' แถโครตไม่เนียนเลยวะเพื่อนรัก ' และเพื่อนสาวที่มากอดคอทั้งคู่ก็ทำหน้าเช่นนั้น เธอสวมชุดฝึกซ้อมประจำหมู่บ้านมีผมสีส้มมัดทรงหางม้าทั้งสองข้าง

" ว่าแต่วันนี้ทำไมนักรบถึงมาเดินเล่นกันในเวลานี้ล่ะสุสุกิ "

" ก็นะ วันนี้พอดีครูฝึกเขากำลังไปคุยกับทางแม่ทัพในเมืองหลวงเรื่องจะส่งนักรบในหมู่บ้านไปเป็นอัศวินน่ะ "

" งั้นหรอ "

" โอ๊ะโอ่ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้น่าสงสารกำลังจะเฉาตายเสียแล้วทำหน้าหงอยเชียว- อึก.. เจ็บนะ! "

ทันใดนั้นสุเมธก็ถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดเข้าไปที่กลางหลังอย่างจัง

" สมควรแล้วละที่ต้องเจ็บน่ะ! พูดซ้ำเติมมาโคโตะเขาทำไมเล่า! "

" ฉันขอโทษนะมาโคโตะ ฉันพูดไม่ได้คิด กะว่าจะแค่พูดแซวเล่นๆน่ะ "

" ไม่เป็นไรหรอก.. มันก็จริง ฉันเองก็คงเฉาตายจริงๆ.. "

"..."

"..."

บรรยากาศเงียบบไปในทันทีเมื่อมาโคโตะกล่าวจบ ก่อนจะทำหน้าเศร้าๆ ซึมๆ ไปมากกว่าเดิม

" เอาหน่านะมาโคโตะ แม้ว่าแอกเนสจังจะไปเป็นอัศวินแต่ก็ยังมีโอกาศได้พบเจอกันอยู่นะ ไม่ใช่ว่าจะไม่เจอกันเลยสักหน่อย บางทีถ้าเกิดเธอต้องซ่อมอาวุธก็อาจจะมาหานายเพื่อให้นายซ่อมให้ก็ได้นะ "

" แต่ในเมืองหลวงก็คงจะมีช่างตีเหล็กอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรอ.. "

"...ก็จริงแฮะ "

แม้สุสุกิจะพยายามปลอบมาโคโตะเพียงใดก็เหมือนจะไม่ได้ผลเลยสักนิดเดียว ตัวเขาในตอนนี้เแรียบได้ดั่งต้นไม้ใกล้ตายที่รดน้ำเพียงใดก็ไม่สดใสสักที

" เน่ๆ สุสุกิไปฝึกร่างกายกันระหว่างที่อาจารย์ไม่อยู่เถอะ- อ้าว พวกนายทำอะไรกันตรงนี้หรอ "

" จึ๋ย.. "

" เฮือก!? "

" อ๋า~ ไม่มีอะไรมากนักหรอกๆ แค่หนุ่มๆกำลังดูสาวสวยน่ะ~ "

' ยัยบ้า!!! นี่เธอรู้ได้ยังไงฟะเนี่ย!! '

" ...งั้นหรอ "

จริงๆ แล้วสุสุกิไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแค่ตั้งใจจะพูดเล่นๆ แต่มันดันตรงกับสิ่งที่สองคนนี้กำลังทำพอดี ทำเอาตอนนี้สุมะกับมาโคโตะเหงื่อท่วมกันเลยทีเดียว

" ม..ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ส..สุสุกิเองก็พูดไปเรื่อยเลย~ "

" แล้วทำไมนายถึงรนรานขนาดนั้นล่ะ? "

"..."

"..."

แอกเนสยืนกอดอกแล้วยักคิ้วข้างนึงพร้อมหน้าตาที่น่ากลัวสุดๆ ทำเอาสุมะกับสุสุกิก็เงียบกันทั้งคู่เพราะผวาในออร่าที่ดูดุของแอกเนสที่แผ่ออกมารอบๆ ตัว

" ป..ป่าวสักหน่อย ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นสักหน่อยฉันจะรนรานได้ไง เนาะสุมะ ..สุมะ? "

มาโคโตะหันไปหาเพื่อนรักของเขาแล้วก็พบว่าเพื่อนรักของเขาได้หายไปเสียแล้วเหลือแต่ความว่างเปล่าและเมื่อมองไปทางสุสุกิเองก็หายไปเช่นกัน จังหวะนี้ทั้งคู่เลือกที่จะขอไม่เกี่ยวโดยทันทีและรีบชิ่ง ปล่อยให้มาโคโตะยืนค้างอยู่อย่างนั้นไม่รู้จะเอายังไงต่อ

" เอาเถอะ ไปฝึกร่างกายกับฉันมั้ยมาโคโตะ? ไหนๆ เราก็อยู่กันแค่สองคนแล้ว "

" เอ๊ะ? ฉันนึกว่าเธอจะต่อยฉันซะอีก.. "

" เดี๋ยว นี่มองฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย.. ไปกันได้แล้ว "

" รับทราบขอรับ! "

" ไม่ต้องพูดว่าขอรับก็ได้นะนายน่ะ เดี๋ยวก็โดนต่อยจริงๆ หรอก "

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปที่สนามฝึกแต่ระหว่างทางนั้นเอง

" โห.. นั่นชุดเกราะอะไรกันเนี่ยเซ็กซี่เป็นบ้า.. "

" ผู้หญิงคนนั้นก็สวยโครตเข้ากับชุดเลย! "

คนรอบๆ ตัวของทั้งคู่นั้นต่างก็จับจ้องไปที่ชุดของแอกเนสที่สวยจนพวกผู้ชายรอบตัวต้องมอง

เธอนั้นสวมชุดเกราะเหล็กบนตัวโดนเป็นชุดเกราะที่เด่นกว่าชุดเกราะฝึกประจำหมู่บ้านทั่วๆ ไป โดยที่หน้าอกนั้นเปิดให้เห็นร่องอกและช่วงหน้าท้องก็เปิดให้เห็นซิกแพคอันงดงามของเธอ แล้วตัวชุดเกราะนั้นเองก็มีผ้าที่ยาวไปเลยลงไปใต้เข่า โดยปิดปิดบั้นท้ายรวมถึงหว่างขาทั้งหน้าและหลัง แต่ก็ยังเปิดให้เห็นเอวที่บางสุดๆ รวมถึงขาอันเรียวยาวและงดงามอย่างยิ่ง

ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำชุดนี้ให้เธอก็คือช่างตีเหล็กตระกูลโคชิดะนั่นเองทว่านั่นไม่ใช่มาโคโตะแต่เป็นพ่อกับแม่ของมาโคโตะที่ออกแบบแล้วตีขึ้นมาให้ ในตอนนี้หัวของมาโคโตะมีรูปพ่อกับแม่ฉบับจิบิที่โชว์นิ้วโป้งส่งให้ทั้งคู่

' เพี้ยนกันทั้งคู่จริงๆเลยนะ.. ทำชุดแบบนี้ออกมาให้แอกเนสใส่ทำไมฟะเนี่ย!!!! ถึงชุดนี้มันเองก็..จะเซ็กซี่แล้วสวยสุดๆ ก็เถอะนะ.. '

ส่วนในหัวของแอกเนสนั้นเธอกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และขอบคุณพ่อกับแม่อย่างสุดซึ้งที่ทำชุดนี้ออกมาให้เพื่อเธอจะได้ใส่ชุดนี้ให้มาโคโตะเห็น ซึ่งก็เป็นไปตามที่ทั้งสามคนต้องการเพราะมาโคโตะเองก็เห็นแล้วก็อึ้งไปในตอนแรก จนตอนนี้ก็ยังรำบากสุดๆ เพราะแทบจะละสายตาจากหน้าอกและต้นขานั่นไม่ได้เลยแต่เขาก็พยายามสู้ชีวิตในการที่จะไม่มองตรงส่วนนั้น

" นี่ มองตรงส่วนไหนอยู่น่ะ "

" เห๋!? ป่าวๆ แค่มองพื้นไปเฉยๆ น่ะ ไม่มีอะไรหรอก "

" เอาแต่แถแยู่นั่นแหละนายน่ะ ตาจ้องซะขนาดนั้น "

" แค่เผลอมองไปบ้างเองนี่! อีกอย่างนะ ชุดเธอมันก็โครตจะเด่นเลยแถมยังเซ็กซี่เกินไปด้วย! "

" หวงหรอ~ "

" หึ ไม่ได้หวง แต่คนรอบๆ ตัวเอาแต่มองมาที่เธอไม่หยุดเลย เธอไม่อึดอัดบ้างหรือยังไงกัน? "

" หืม.. ก็ไม่นะ ฉันไม่ได้สนใจพวกเขาสักหน่อย ' ฉันสนใจนายอยู่ต่างหาก ' "

" เอ๊ะ เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะ? "

" ฉันก็แค่พูดว่า คนจะมองยังไงฉันไม่แคร์หรอกเพราะฉันอยากใส่เอง "

' กระผมแน่ใจนะว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้พูดยาวขนาดนี้.. '

" เฮ้อ~ ในที่สุดเราก็ถึงสนามฝึกสักทีนะ~ "

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยอยู่นั้นเองพวกเขาทั้งคู่ก็มาถึงสนามฝึกซ้อมจนได้ จากนั้นทางแอกเนสจู่ๆ ก็ถอดเสื้อเกราะแล้วลงไปนอนกับพื้นเตรียมจะซิทอัพ

" เน่ๆ มาช่วยจับขาฉันไว้หน่อยสิ "

" คร้าบๆ~ "

มาโคโตะลงไปนั่งและจับขาทั้งสองของแอกเนสเอาไว้ติดกันอย่างมั่นคง เมื่อนั้นแอกเนสก็เริ่มซิทอัพโดยทันที

' การที่ต้องมาจับแบบนี้เอาไว้ก็แอบน่าเบื่อนะ.. แต่ว่าก็คงไม่ขนาดนั้นมั้ง.. '

สายตามาโคโตะในตอนนี้แม้จะพยายามละสายตาจากหน้าอกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วแต่พอแอกเนสถอดเกราะออกจนเห็นเสื้อกล้ามอันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ยิ่งทำให้เขาเห็นสัดส่วนของร่างกายอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งหน้าท้อง ทั้งหน้า ที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อมันจึงอดไม่ได้ที่จะมอง ซึ่งเจ้าตัวที่ถูกมองก็รู้ตัวดีว่าอีกฝ่ายกำลังมองอยู่ก็รู้สึกเขินขึ้นมาแล้วเริ่มซิทอัพเร็วขึ้นเรื่อยๆ พลางกรีดร้องไปในใจ

' ตาบ้า!!!! บ้าที่สุดเลย!!! เอาแต่จ้องฉันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ!! ถึงมันจะไม่อายสักเท่าไหร่หรอกที่ตอนนั้นน่ะเพราะสวมชุดเกราะอยู่แต่ตอนนี้พอฉันถอดเกราะ นายก็เอาแต่จ้องฉันไม่หยุดเลย!!! มันอายน๊ะ!!!!!!!!!!!! '

" เห้ เดี๋ยวสิเป็นอะไรไปเนี่ย! ช้าลงหน่อย! ได้ยินฉันมั้ยเนี่ย!? "

ทันใดนั้นเมื่อความเร็วเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไปทุกที มาโคโตะเองนั้นก็จับเอาไว้ไม่อยู่จนได้

" ตุบ!! "

" เฮือก! "

หัวของแอกเนสพุ่งเข้าไปชนกับหัวของมาโคโตะอย่างจัง

" เอ๊ะ!? มาโคโตะโอเครึป่าว? เห๋!? "

เมื่อแอกเนสได้สติจึงรู้ตัวว่าตนนั้นได้เอาหัวแข็งๆ ของตนกระแทกเข้ากับหัวของอีกฝ่ายอย่างแรงและเมื่อมองลงไปที่พื้นก็เห็นมาโคโตะที่กำลังนอนสลบเลือดอาบเพราะหัวแตก

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!