สาวอัศวินขอผมเป็นนายท่านของเธอ!?
" เอาละท่านผู้มีเกียรติ ขอยินดีต้อนรับสู่พิธีการแต่งตั้งอัศวินของเราได้เริ่มขึ้นแล้วขอรับ "
" เฮ่!!! "
" ย่าฮู้!!!! "
" เย้ๆ แปะ แปะ แปะ "
เสียงผู้ประกาศกล่าวเปิดงานนั้นเริ่มดังไปทั่วพิธี เหล่าชาวเมืองผู้ร่วมงานนับหมื่นก็พากันเฮส่งเสียงดังก้องไปทั่วเมือง ชาวบ้านบางคนพากันร้องไห้ฟูมฟายอย่างกับพึ่งถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง
" โอ้พระเจ้า ฉันไม่ไหวแล้ว!!! ฉันขอพ่นน้ำมูกใส่เสื้อนายหน่อยสิ "
" เห้ย จะบ้ารึยังไงฟะ! หยะแหยงเป็นบ้า "
ท่ามกลางเสียงวุ่นวายนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าที่เดินตรงเข้ามาทางเวทีพร้อมกับเสียงเหล็กที่กระเทาะกันดังเป็นจังหวะอย่างพร้อมเพรียงกัน นั่นคือเสียงของเหล่านักรบผู้กล้าหาญกำลังเดินผ่านเหล่าประชาชนที่กำลังร้องเรียกลูกหลานของเขาพร้อมกับหลั่งน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจที่ลูกๆ กำลังจะถูกแต่งตั้งเป็นอัศวินอันทรงเกียรติ หากมองนักรบแต่ละคนก็บอกได้เลยว่าสวยหล่อทุกคนกันจริงๆ อย่างกับมาเดินแบบ แต่ทว่าเหล่าหนุ่มสาวพวกนั้นก็ยังไม่เด่นเท่า..
" ทั้งหมด! ทำความเคารพแด่ท่านราชา ฮึบ! "
แสงตะวันอันเจิดจ้าส่องประกายไปที่อัศวินสาวผู้หนึ่งที่มีสีผมสีม่วงอ่อนอมชมพูนิดๆ เหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืนตามภาพวาดและยังมีหน้าตาที่สวยและออกไปทางหล่อในเวลาเดียวกัน จึงไม่แปลกหากจะมีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ แทนที่จะส่งเสียงนั้นให้ชายหนุ่มแต่กลับให้เธอแทน รวมถึงชายหนุ่มด้วยเช่นกันที่ก็ส่งเสียงให้กับเธอ
" แต่งงานกับกระผมด้วยนะครับคุณอัศวิน ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดีเลย!! "
" ไม่! เธอต้องแต่งงานกับฉันต่างหากค่ะ! ฉันจะเป็นภรรยาที่ดีและจะคอยนวดหลังให้ทุกวันเลยค่ะ อึ๋ย~~ "
" ทุกคน.. เงียบ! "
เสียงตะโกนจากชายแก่ผู้นึงแทรกขึ้นมาบนบัลลังค์ที่กำลังสวมผ้าคลุมขนาดใหญ่สีแดงดูน่าเกรงขาม กล่าวสั่งชาวเมืองทุกคนให้ฟังคำสั่งของตน เสียงนั้นเปรียบได้ดั่งสิงโตเจ้าป่าที่คำรามสั่งสัตว์ป่าทุกตัวในบริเวณอาณาเขตของตนให้เชื่อฟัง
" ณ บัดนี้ ข้าในนามของกษัตริย์แห่งไบรกิ้นซ์ ขอแต่งตั้งนักรบผู้กล้าหาญชาญชัย ผู้ฝักใฝ่ในความเท่าเทียม ซื่อสัตย์ และยอมที่จะเสียสละเพื่อบ้านเมืองของเราแต่งตั้งให้มาเป็นอัศวินอันทรงเกียรติอย่างเป็นทางการ! "
เมื่อราชากล่าวจบ เหล่าชาวเมืองจึงพากันเฮสุดเสียง
" ตื่นได้แล้วครับคุณอัศวิน!!! "
" งืม.. "
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังฝันหวานอยู่บนเตียงเช่นนั้นก็ถูกเสียงของพี่ชายปลุกตั้งแต่เช้ามืด
" เห้อ ตื่นสักทีนะ รีบๆ ลุกแล้วไปหยิบธนูมาได้แล้ว เดี๋ยวจะรออยู่หน้าบ้านนะ "
" อึก.. นี่เนื้อที่ตากแห้งไว้เมื่อวานมันหมดแล้วหรอ.. "
" ก็เอ้อน่ะสิ เมื่อคืนเธอไม่เฝ้าอาหารไง มันเลยโดนพวกหมาป่าขโมยกินจนหมดนั่นน่ะ "
" อ๊ะ.. จริงด้วยนะฉันเผลอหลับไปหรอเนี่ย.. "
" เห้อ ก็เป็นซะแบบนี้จะไปเป็นอัศวินได้ยังไงกัน กับอีแค่เฝ้าเนื้อตากแห้งไม่พ้นจากหมาป่ายังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับการเฝ้าประตูเมืองจากพวกไอ้หนวด "
" นี่! อย่ามาดูถูกกันนะ ก็ไม่ช่วยไม่ได้นี่ฮึ่ม! "
" อ่าๆ ครับคุณอัศวินผู้ทรงเกียรติหรือคนขี้เกียดก็ไม่รู้แหละ แต่ไปล่าสัตว์กันเถอะ เราจะไม่มีกินกันแล้วนะ "
" อื้อ.. ก็ได้.. "
แม้ว่าเธอจะทำแก้มป่องพยายามทำหน้างอนพี่ชายสุดขีดให้ง้อเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ก็ไม่เป็นผล ดูเหมือนว่าวันนี้พี่ชายเองก็จะโดนคุณแม่ดุมาเช่นกัน เธอเองเห็นพี่ชายไม่ง้อเช่นนั้นก็เข้าใจสถานการณ์ทันที แล้วก็รีบลุกไปหยิบธนูกับลูกศรตามพี่ชายไป
∆
ทั้งคู่เดินมาถึงป่าซึ่งอยู่ไกลจากบ้านพอสมควร หากเป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาที่อยู่ตามเมืองหลวงก็คงจะกลัวจนร้องเรียกหาคุณแม่คุณพ่อกันเสียแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กสองคนนี้หรือเด็กในหมู่บ้านของพวกเขาเพราะว่าหมู่บ้านของพวกเขาตั้งอยู่ใกล้กับป่าเรียดได้ว่าห่างไกลความเจริญสุดๆ ถ้าเกิดกลัวแล้วไม่เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ก็คงมีแต่ต้องอดตายไปในที่สุด เช่นนั้นเหล่าเด็กๆ จึงถูกสั่งสอนและฝึกมาเป็นอย่างดีเพื่อให้สามารถล่าสัตว์ได้
" นี่ ท่านพี่.. "
" มีอะไรงั้นหรอ "
" พี่คิดว่าแปลกๆ มั้ยที่เราเองก็เข้ามาในป่าลึกขนาดนี้แต่ก็ยังไม่มีสัตว์ป่าสักตัวโผล่มาเลยน่ะ "
" ก็คงจะถูกพวกหมาป่าล่าละมั้ง ในเขตที่เราอยู่น่ะหมาป่าเยอะจะตายไป ก็คงไม่แปลกที่พวกสัตว์อย่าง กวาง อะไรทำนองนี้จะหลบซ่อนจากพวกหมาป่าไปกันหมด "
" แล้วถ้างั้นทำไมพวกเราถึงไม่ย้ายไปที่อื่นกันล่ะ ทำไมเรายังอยู่ที่นี่ ที่ที่แทบจะไม่มีอาหารให้เรากินเลย.. "
" มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ การย้ายบ้านไปในที่ต่างๆ น่ะ หรือกระทั่งจะย้ายหมู่บ้านก็ทำไม่ได้ มันไม่มีอาณาจักรไหนคิดจะต้อนรับกลุ่มคนเร่ร่อนยากจนหรอกนะ ถึงจะย้ายไปได้ก็คงจะถูกรังเกียจจากคนท้องถิ่นอยู่ดี "
" ก็จริงอย่างท่านพี่ว่า.. "
ได้ยินพี่ชายกล่าวเช่นนั้นเธอก็คอตกไปพรางทำหน้าตาเศร้าสร้อย พี่ชายเองก็เหลือบมามองน้องสาวแล้วก็ทำหน้าตาเศร้าสร้อยเช่นกัน เพราะจริงๆ พี่ชายเองก็ไม่อยากจะอยู่ในนรกบนดินนี้ต่อ ยิ่งถ้าหนีไปกับน้องสาวได้ก็คงดี เพราะแม่เองก็ไม่ใช่แม่แท้ๆ เป็นเพียงแค่คนที่เจอทั้งคู่แล้วรับมาเลี้ยง.. เอาตามจริงจะเลี้ยงก็ไม่เชิง เรียกว่าถูกใช้งานเป็นหมาล่าเนื้อถูกกว่า เพราะในทุกวันๆ ถ้าเกิดอาหารหมดทั้งคู่ก็ต้องไปล่าสัตว์ หากไม่ทำก็จะถูกเฆี่ยนตีอย่างแรงหรือแม้กระทั่งหาจนสุดกำลังแต่หาไม่ได้เลยก็จะถูกเฆี่ยนตีอยู่ดี แม้จะคิดหนีไปก็จะถูกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านออกตามหา(ตามล่า)อยู่ดี และก็จะไม่ได้ถูกแค่คุณแม่เฆี่ยนตี แต่ก่อนจะถึงมือคุณแม่ก็จะถูกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเฆี่ยนตีอยู่ดี และถึงแม้จะหนีไปได้ พวกเขาเองก็ยังไม่รู้จักกับโลกภายนอกและถูกสอนมาว่าข้างนอกนั้นมีแต่พวกสัตว์ดุร้าย จึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง และจึงต้องยอมทนต่อไปแม้นี่ก็คงเป็นอีกวันที่จะต้องโดน..
" พี่จ๋า นี่มันก็ใกล้มืดแล้ว เรายังหาอาหารไม่ได้เลย เราจะทำยังดีพี่จ๋า.. หนูกลัว.. หนูไม่อยากโดนคุณแม่ตี.. ไม่อยากโดนอีกแล้ว.. หนีไปด้วยกันเถอะนี่พี่จ๋า หนูขอร้อง "
" ... "
มันช่างน่่ารำบากใจเสียเหลือเกินสำหรับเด็กหนุ่มคนนึงที่อายุเพียงแค่ 16 ขวบ ที่ต้องตัดสินใจและปกป้องน้องสาวที่อายุเพียงแค่ 14 ขวบ ซึ่งเขาเองก็อยากจะหนีไปจากที่นี่ แต่เขาก็.. ทำอะไรไม่ได้..
" แม่จ๋า! หนูเจ็บ! อ๊ะ- "
" เจ็บแค่นี้มันยังไม่พอหรอก! ฉันน่ะหิวมาก ทรมานกว่าพวกแกเสียอีก! "
ระหว่างที่น้องสาวกำลังถูกเฆี่ยนตีอยู่นั้นเอง พี่ชายที่พึ่งโดนก็มาก็ทำได้แค่ยืนมองอยู่ห่างๆและได้แค่คิดรู้สึกผิด
' พี่ขอโทษ ขอโทษด้วยจริงๆ พี่มันแย่ที่สุดที่ปกป้องน้องสาวเอาไว้ไม่ได้้.. ถ้าเกิดตอนนั้นฉันพาเธอหนีก็คงจะดี แต่ฉันไม่กล้า ฉันเองก็กลัว.. '
∆
เมื่อความทรมานสิ้นสุดลง พี่ชาจึงพาน้องสาวเข้ามาในห้องนอนของทั้งคู่แล้วเดินไปตักน้ำมาล้างแผลให้น้องสาว
" เจ็บ! "
" อดทนหน่อยนะ ถ้าแผลมันติดเชื้อมันจะแย่กว่าเดิม "
" อื้อ.. แล้วพี่ล่ะ พี่ไม่ล้างแผลสักหน่อยหรอ "
" อื้ม ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ล้างแผลของพี่เอง "
แม้คนพี่จะพูดเช่นนั้นน้องสาวก็ไม่ฟังแล้วเดินไปข้างหลังของพี่ชาย สิ่งที่แอกเนสได้เห็นนั้นคือแผลเหวอะหวะ เลือดอาบยิ่งกว่าของตัวเองอีก เพราะก่อนหน้านี้พี่ชายเป็นคนไปขอให้คุณแม่มาลงโทษตนเองแทน แทนที่จะไปลงโทษน้องสาว แม้ว่าคุณแม่จะตอบตกลงแต่สุดท้ายกลายเป็นว่าโทษของน้องสาวก็ยังเท่าเดิมแต่ของพี่ชายกลับมากขึ้นเสียอย่างนั้น
" โอ๊ย! เจ็บ- อุบ "
" อย่าเสียงดังสิพี่ หนูเข้าใจนะว่ามันเจ็บ.. แต่อดทนไว้นะคะ "
" อ..อื้ม "
เธอค่อยๆ ราดน้ำไปที่แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยแผลของพี่ชายและนี่แหละคือชีวิตประจำวันของพวกเขา มันช่างน่าหดหู่ใจยิ่งนักที่ทั้งคู่จะต้องวนมาเจอแบบนั้ซ้ำๆ ในแต่ละวัน แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับวันนี้...
' ฉันพอแล้ว ฉันจะไม่ทนอีกต่อไป ทุกอย่างมันต้องจบที่นี่.. '
" อ๊ะ พี่จะไปไหน หนูยังล้างแผงไม่เสร็จเลย- "
" ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่มา พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน "
หลังจากที่พี่ชายคิดในใจเสร็จนั่นเองก็รีบรุกออกจากห้องไป เธอเองจึงสงสัยของการกระทำแปลกๆ ของพี่ชายที่ปกติจะไม่ได้เป็นเช่นนี้ เขามักจะเป็นคนที่คอยร่าเริงอยู่เสมอต่อหน้าน้องสาว แต่สำหรับวันนี้คงจะไม่ใช่..
" ตุบตับ กรี๊ด!! ..."
" อ๊ะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ.. ฮึก!? "
เมื่อนั้นก็มีเสียงที่รุนแรงขึ้นข้างนอกประตู เป็นเสียงการต่อสู้จากนั้นก็มีเสียงกรี๊ดของหญิงสาวที่คล้ายจะเป็นเสียงของคุณแม่และมันก็เงียบไป แอกเนสเองที่กำลังสงสัยและกำลังจะลุกออกไปดูก็พบว่าที่พื้นใต้ประตูนั้นมีเลือดไหลเข้ามาในห้องมหาศาล
" เร็ว! รีบไปกันเถอะพวกเราไม่มีเวลาแล้ว! "
พี่ชายรีบเปิดประตูอย่างแรงเข้ามาหาเธอและจูงมือน้องสาววิ่งออกไปนอกห้อง เมื่อเธอได้ออกมาจากประตูก็พบกับข้าวของที่เละเทะ ข้าวของหรือโต๊ะก็ร่วงล้มหมด เมื่อเธอมองดูไปเรื่อยๆ ก็พบกับคุณแม่ที่นอนชักดิ้นชักงอกำลังเอามือปิดคอที่เลือดกำลังพุ่งกระฉูดอยู่ มันช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา แต่เธอกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดนึงปนกับความสุขนิดๆ ที่ไม่รู้ทำไมถึงมีความรู้สึกเช่นนั้น และระหว่างที่ตนกำลังครุ่นคิดอยู่เช่นนั้น
" ฟิ้ว~ ฉึก "
" อึก.. "
" พี่จ๋า!!! "
ลูกศรพุ่งเข้ามาปักเข้าที่กลางท้องเข้าข้างหลังอย่างจัง เด็กหญิงตัวน้อยที่เห็นพี่ชายเป็นเช่นนั้นจึงร้องเรียกและพยายามจะพยุงพี่ชายไปด้วย แต่พี่ชายเองก็เป็นเพียงแค่เด็ก โดนลูกศรปักเข้าท้องขนาดนี้ไม่ว่าจะใครก็คงไม่น่าไปต่อไหว จึงได้ผลักน้องสาวด้วยแรงเฮือกสุดท้ายเข้าพุ้มไม้ไป
" อ๊ะ! "
หญิงสาวตัวน้อยล้มลงไปในพุ่มไม้จากนั้นก็พยายามจะลุกขึ้นแล้วหันหลังกลับไปมองพี่ชาย จึงได้เห็นฉากที่ไม่อยากจะเห็นเป็นที่สุด พี่ชายนั้นถูกผู้ใหญ่คนหนึ่งเอาขาขวาเหยียบกดลงไปที่พื้น เสียงร้องของเด็กชายร้องลั่นสุดเสียง แต่เสียงนั้นก็ได้หายไปตลอดกาล...
" พี่จ๋า.. "
หญิงสาวตัวน้อยพบเห็นกลับฉากที่พี่ชายถูกเคียวตัดหัวทิ้งแต่สายตายังมองมาที่น้องสาวสุดที่รักอยู่ เธอที่ได้เห็นฉากนั้นก็ช็อคสุดขีดแต่ทว่า
" เห้ย มันยังเหลือเด็กอีกคนนึง ไปจับกลับมา! "
" ครับหัวหน้าหมู่บ้าน! "
แม้ตนจะช็อคแต่จังหวะนี้ต้องวิ่งต่อเพื่อเอาตัวรอด แอกเนสนั้นวิ่งสุดชีวิตไปพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอจึงพยายามเช็ดน้ำตาออกและพยามยามจะวิ่งต่อไป เธอนั้นเป็นเด็กที่วิ่งเร็วมากๆ จึงทำให้เสียงของพวกผู้ใหญ่ที่ตามไล่ล่าเธอเริ่มค่อยๆ เบาลง เธอเริ่มทิ้งระยะห่างจากพวกนั้นไปไกลเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่หยุดวิ่ง เพราะในหัวนั้นยังนึกถึงแต่พี่ชายที่หัวขาดต่อหน้าต่อตาของเธอ
' ทำไม '
' ทำไม ทำไม ทำไม '
' ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม!!!!!!! '
เธอกรีดร้องอยู่ภายในใจ มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานเป็นที่สุดที่ต้องเสียพี่ชายที่เธอรัก เธอทั้งโศกเศร้า ทั้งโกรธและเครียดแค้นสุดขีด มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานใจเกินจะบรรยาย จนเธอวิ่งไปและไม่ได้ดูทาง
" อ๊ะ!? "
เธอล้มลงไปกับพื้นแล้วหัวก็ได้ฟาดเข้าที่หินจึงทำให้ภาพตัดไปในที่สุด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments