ดิ่งลึกพิชิตเบื่อ: ภารกิจคู่หูสุดเร้า ในห้างบาดาล
บทนำ : กระต่ายเบื่อนำสู่อนาคตที่เดาไม่ได้
เสียงหวีดของรถไฟความเร็วสูงกรีดผ่านความมืด สะท้อนก้องในอุโมงบทนำ : กระต่ายเบื่อนำสู่อนาคตที่เดาไม่ได้ิค์ก่อนโผล่สู่ทุ่งกว้างที่ไร้ผู้คน ท้องฟ้าค่ำคืนปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบ มีเพียงแสงไฟริมทางถอยหลังเป็นเส้นสายสีส้มพร่า ราวกับเวลาไหลย้อนกลับอย่างบ้าคลั่ง
ด้านในโบกี้ ผู้โดยสารมีเพียงไม่กี่คน ต่างแยกย้ายกันนั่งเงียบ ๆ บางคนงีบ บางคนใส่หูฟังปล่อยตัวไปกับความมืด มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ต่ำ ๆ และเสียงล้อเหล็กครูดรางเป็นจังหวะที่คอยตอกย้ำว่าขบวนนี้ยังคงวิ่งไปข้างหน้า
ริวมันนั่งเหยียดตัวเอนข้างหน้าต่าง ดวงตาสีแดงสดสะท้อนแสงไฟไหววูบเหมือนเปลวไฟที่ยังไม่ดับ เขากำลังเคี้ยวของเล่นยางรูปกระดูกอย่างไร้สาระ เสียงแกรก ๆ ของยางในปากไม่เข้ากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เผยออกมาเลยแม้แต่น้อย บอกชัดว่า…เขากำลังตื่นเต้น
ข้าง ๆ กัน ไทมันนั่งหลังตรงเหมือนรูปปั้น มือกดเลื่อนหน้าจอแท็บเล็ตเงียบ ๆ แสงจอสะท้อนตาสีส้มที่ยังคงนิ่ง หูจิ้งจอกบนหัวกระดิกเล็กน้อยตามเสียงรางรถไฟ แต่ไม่มีแม้สัญญาณความสนใจต่อคู่หูข้างตัว
“ไทมัน—แน่ใจนะ ว่าที่เรากำลังจะไป…มันไม่ใช่งานบ้าน่าเบื่ออีก?”
เสียงริวมันดังขึ้นพร้อมการยิ้มกวนประสาท
“…ขึ้นอยู่กับว่านายจะทำให้มันน่าเบื่อรึเปล่า”
เพื่อนร่วมทางตอบสั้น ๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ
ริวมันหรี่ตา ยกยางรูปกระดูกจ่อหน้าคนข้าง ๆ “เอ๊ะ เดี๋ยวนี้ปากเก่งนะ อยากลองโดนก้านคออีกสักทีมั้ย?”
ไทมันปัดยางออกโดยไม่มอง “ลองดูสิ…คราวนี้ฉันอัดแกก่อนแน่”
เสียงหัวเราะกวน ๆ ของริวมันกลบความเงียบชั่วคราว ก่อนภาพก็ตัดย้อนกลับ—
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้
ห้องเช่าขนาดเล็กและรกพอตัวเป็นที่พักพิงชั่วคราวของทั้งคู่ ริวมันพุ่งตัวลงบนเตียงอย่างแรงจนที่นอนสั่น หูกระต่ายฟุบกับหมอนอย่างหมดแรง
“แม่ง…งานพวกนี้มันโง่ชะมัด โลกนี้น่าเบื่อจะตายห่า”
เขาพึมพำทั้งที่ยังเคี้ยวของเล่นยางในปาก
ไทมันเหลือบตามอง เห็นห้องรกขึ้นทุกครั้งที่ริวมันทิ้งงานกลางคัน แต่แทนที่จะบ่น เขากลับเปิดแล็ปท็อปเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเก่า ๆ
“ฉันได้งานแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้นายตายคาห้องไปเฉย ๆ …ลองหาด้วยกันไหม”
ริวมันหันขวับ หูกระต่ายกระดิก “งานที่ว่า…มันมีของกินฟรีมั้ย?”
“……ไม่ใช่ร้านบุฟเฟต์”
ไทมันตอบเรียบ ๆ แต่สายตาเต็มไปด้วยความระอา
ริวมันทำหน้าลังเล แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ อย่างกับกลัวถูกทิ้ง “ก็ได้ ๆ…แต่อย่าเอางานน่าเบื่อมาอีกนะเว้ย”
ขณะนั้นเอง ความคิดถึงเพื่อนเก่า ๆ ผุดขึ้นมาในหัว—คัสซี กับ วอลริ…สองคนที่หายไปนานตั้งแต่วันบอกลา “จะไปตามทะเล” แล้วก็หายเข้ากลีบคลื่น
ริวมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากรอกเบอร์ที่แทบจะเลือนหายไปแล้ว สัญญาณดังอยู่หลายครั้ง …ก่อนจะมีเสียงรับสาย
“ฮัลโหล?”
เสียงทุ้มต่ำติดพร่าของคัสซีดังลอดมา พร้อมเสียงคลื่นน้ำกระทบเบา ๆ และเสียงก้องประหลาดบางอย่าง—เหมือนอยู่ในที่ปิดทึบ
“ไอ้เจลลี่! อยู่ไหนของแกวะ?”
ริวมันทักทันทีด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย
“ฮะ ๆ …นึกว่าจะไม่โทรมาอีกแล้ว มีปัญหาเลยโทรมาแบบนี้ล่ะสิ ตอนนี้ฉันอยู่นี่—ห้างคาเรียม”
“…ห้างอะไรนะ?” ไทมันที่นั่งฟังอยู่ขมวดคิ้วทันที
คัสซีหัวเราะ “ห้างใต้ทะเล เมืองท่าปลายสุดที่นายแทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ… พวกเรามาทำงานที่นี่ กำลังขาดคนอยู่พอดี”
ริวมันเด้งตัวขึ้นราวกับได้ยินแจ็กพ็อต “โอ้ย เหมาะเลย! รับฉันกับไทมันด้วย!”
“เดี๋ยว ๆ ไม่ใช่ว่าจะรับใครก็ได้… ที่นี่ไม่เหมือนห้างบนดินนะ กะพริบตาทีอาจเห็นอะไรที่นายไม่อยากเห็น”
น้ำเสียงคัสซีคราวนี้เปลี่ยนไป แฝงความเหนื่อยล้าและจริงจัง
ทันใดนั้นเอง มีเสียงวอลริแทรกเข้ามาในสาย ห้าว ดุ แต่แฝงรอยยิ้ม
“เฮ้ย! ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่อยู่ในสายตาใช้มั้ย!! ถ้ากล้ามา ก็มาเลย! จะได้รู้ว่ากระต่ายบ้านั่นวิ่งหนีหรือสู้จริง ๆ”
ริวมันหันขวับไปทางไทมัน ดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่
“…ไปเลย!!!”
ไทมันหลับตาลง ถอนหายใจยาว "...ก็รู้ว่าแกจะพูดแบบนี้"
และนั่นคือที่มาของการจองตั๋วรถไฟด่วนที่สุดไปยังเมืองท่าปลายทางในคืนนั้น—เพื่อกำจัดความเบื่อหน่ายที่กัดกินพวกเขามานาน
———
END
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments