เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น
> “ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด…”
มือของไอเช็นยื่นออกมาปิดมันช้า ๆ เขามองเวลาแล้วเบิกตากว้าง
> “นี่มัน... แปดโมงครึ่งแล้วเหรอ!?”
เขารีบลุกขึ้นจากเตียงจนผ้าห่มปลิวไปอีกทาง ผมดำยุ่งเหยิงแทบไม่ทันจัด เสื้อยังไม่ทันติดกระดุมครบด้วยซ้ำ
เสียงของแม่ดังมาจากห้องครัว
> “คาสึโตะ! วันนี้แม่จะพาเนเนะไปโรงเรียนก่อนนะ! รีบกินข้าวหน่อยสิลูก!”
> “ครับแม่!”
เขารีบวิ่งไปหยิบข้าวปั้นที่แม่ห่อไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมโรงเรียนแล้วออกจากบ้านแทบจะพร้อมเสียงประตูปิด
ระหว่างทางไปโรงเรียน
ลมหายใจของเขาแรงขึ้นเล็กน้อยจากการวิ่ง แต่สีหน้าไม่หงุดหงิดเหมือนเมื่อก่อน
> เฮ้อ… แค่วันเดียวเองที่พลาด ตื่นสายได้ไงนะเรา...
เขาหยุดอยู่หน้าประตูโรงเรียนมองนาฬิกาอีกที — ยังพอเข้าเรียนได้ทันคาบสอง
ห้องเรียน A
เสียงครูดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด
> “คาสึโตะ ... มาสายนะวันนี้”
เด็กหนุ่มยืนตรง พลางโค้งศีรษะ
> “ขอโทษครับ ผมตื่นสาย”
ครูพยักหน้าเบา ๆ
> “คราวหลังระวังหน่อยล่ะ”
เขาเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง สายตาหลายคู่มองมาอย่างแปลกใจ
เพราะเมื่อก่อน “คาสึโตะ ไอเช็น” จะเถียงกลับทันที แต่ตอนนี้ เขาเพียงยอมรับผิดอย่างสงบ
มิซึกิ ที่นั่งข้างหน้า เอียงตัวมากระซิบ
> “นายโอเคไหม? ปกติไม่เห็นนายมาสายนี่นา”
“นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย”
(จริงๆดูอนิเมะไปถึงตี1)
“ฮ่า ๆ นายเนี่ยจริงจังขึ้นเยอะเลยนะ”
ไอเช็นยิ้มบาง ๆ
> “ เดี๋ยวฉันช่วยติวให้เอาไหมพรุ่งนี้
ดีหรอ
ดีสิเอาไหม
ฝากด้วยนะไอเช็น
ช่วงพักกลางวัน
แสงแดดตอนเที่ยงลอดผ่านต้นซากุระข้างสนาม ม้านั่งไม้เดิมที่พวกเขาเคยนั่งเมื่อวานยังคงอยู่
ก่อนพักเที่ยง ไอเช็นหันไปบอกเพื่อน
> “มิซึกิ นายไปนั่งรอที่ม้านั่งเมื่อวานก่อนนะ ฉันจะไปซื้อของที่โรงอาหารแป๊บเดียว”
“ได้เลย อย่าหายไปนานล่ะ ”
ไอเช็นพยักหน้า แล้วเดินไปทางอาคารโรงอาหารซึ่งเต็มไปด้วยนักเรียนแน่นขนัด
โรงอาหาร
กลิ่นข้าวกับอาหาร ผสมกับเสียงจอแจของนักเรียนดังทั่วบริเวณ
เขาก้าวเข้าแถวซื้อขนมปังกับน้ำผลไม้เงียบ ๆ แต่เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
> “อ้าว ๆ นี่ไม่ใช่คาสึโตะ ตัวปัญหาหรือไง?”
(อะไรของพวกนี้วะ รำคาญ)
เขาหันไปเห็นกลุ่มนักเรียนชายสามคน ยืนหัวเราะเยาะ คนหนึ่งย้อมผมน้ำตาลแดง สวมต่างหู
> “ได้ข่าวว่านายแกล้งทำตัวดีช่วงนี้เหรอ? ฮ่า ๆ เหมือนหมาใส่ปลอกคอเลยนะ”
เสียงหัวเราะดังรอบข้าง
ไอเช็นไม่ตอบ เขาหยิบขนมปังจากถาด จ่ายเงินอย่างสงบ แล้วหันจะเดินผ่านพวกนั้นไป
แต่เด็กชายคนนั้นขยับมาขวางทาง แล้วใช้ไหล่ชนเข้ากับเขาแรง ๆ
ถุงขนมปังในมือไอเช็นเกือบหล่น
> “ขอโทษที~ ไม่เห็นนะ” น้ำเสียงเย้ยหยันจงใจ
“…”
ทนไม่ไหวแล้ววะ กูต่อยมันได้ไหมเนี้ย (เสียงในหัว)
ไอเช็นยังนิ่งอยู่ เขามองคู่กรณีด้วยสายตาเย็นสงบ
แต่เมื่ออีกฝ่ายผลักหน้าอกเขาอีกครั้ง เสียง “ปึ๊ก” ดังสะท้อนในโรงอาหาร
> “อย่าคิดว่าทำตัวดีแล้วจะมีใครยอมรับนายง่าย ๆ เลยนะ คาสึโตะ”
ตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มคนนั้นพยายามจะคว้าเสื้อเขา —
แต่ก่อนที่มือจะถึง ตัวของไอเช็นขยับเพียงนิดเดียว
มือของเขาจับข้อมืออีกฝ่ายแน่น แต่ไม่ถึงกับทำร้าย
แรงเพียงเล็กน้อยจากการบิดข้อมือกลับ ทำให้อีกฝ่ายทรุดเข่าลงโดยอัตโนมัติ
> “อ๊ะ... เฮ้ย!”
เสียงอุทานดังขึ้น พวกเพื่อนอีกสองคนถอยไปหนึ่งก้าว
ไอเช็นพูดเสียงเรียบ
> “ฉันไม่อยากมีเรื่อง... แต่ถ้านายจะขวาง ก็เตือนแค่นี้พอ”
เขาปล่อยมือทันที อีกฝ่ายลูบข้อมือแล้วมองอย่างไม่เชื่อสายตา
แรงเพียงเล็กน้อยของเขา กลับควบคุมสถานการณ์ได้หมดจด
ไอเช็นหยิบขนมจากพื้นขึ้นมา ปัดฝุ่น แล้วหันหลังเดินออกจากโรงอาหาร
เสียงซุบซิบของคนรอบข้างดังตามหลัง
> “นั่นเหรอ... ไอเช็น?”
“เขาไม่ได้ลงมือแรงเลยนะ แต่หมอนั่นทรุดแทบจะทันที...”
“น่ากลัว... แต่เหมือนเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ”
ที่ม้านั่งหลังโรงเรียน
“นายไปนานจัง ฉันนึกว่านายโดนคนแย่งของในโรงอาหารซะแล้ว”
มิซึกิพูดติดตลกเมื่อเห็นไอเช็นกลับมา
ไอเช็นวางขนมปังบนโต๊ะแล้วยิ้มบาง ๆ
> “เกือบไปเหมือนกัน ”
“หา? หมายความว่าไง?”
“แค่มีคนหาเรื่องเล็กน้อยน่ะ”
“แล้ว... นายไม่ต่อยใช่ไหม?”
> “ไม่หรอก ฉันแค่... เตือนเขาเบา ๆ”
คำพูดเรียบง่ายของไอเช็นทำให้มิซึกิถึงกับขำ
> “เบา ๆ ของนายคงหมายถึงอีกฝ่ายทรุดแน่ ๆ ใช่ไหม?”
“อาจจะ”
ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ ขณะกินขนมปัง
บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงเสียงใบไม้สั่นไหวกับลมเย็นพัดผ่าน
> “นายรู้ไหมไอเช็น ฉันคิดว่านายไม่ใช่คนเลวเลยนะ” มิซึกิพูดขึ้น
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
“เพราะคนเลวจริง ๆ ไม่มีวันยอมเปลี่ยนตัวเองหรอก”
ไอเช็นมองหน้าเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเบา ๆ
> “...ขอบใจนะ”
หลังเลิกเรียน
ตอนเย็น แม่ส่งข้อความมาบอกว่า
> “วันนี้แม่จะไปรับเนเนะเองนะลูก พักผ่อนบ้างนะ”
ไอเช็นมองข้อความแล้วพิมพ์ตอบกลับสั้น ๆ
> “ครับแม่ ขอบคุณครับ”
เขาเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า แล้วเดินออกจากโรงเรียน
แต่ยังไม่ทันพ้นประตู ก็มีเสียงทักคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
> “เฮ้! ลูกพี่!”
เสียงเข้มปนหัวเราะของชายสองคนดังลั่น
เสียงนั้นก็คือ วาตารุ ไอจิ
อีกคนคือ อาคิโตะ ไดกิ
ทั้งคู่ใส่ชุดนักเรียนคนละโรงเรียน แต่สไตล์นักเลงเต็มตัว
> “ลูกพี่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน! ไม่ได้ไปรับน้องเหรอ?”
“อืม
ไอจิหัวเราะ
> “ฮ่า ๆ ลูกพี่นี่พูดเหมือนคนแก่เลยนะ! ไปเดินเล่นกันหน่อยไหม? มีร้านขนมใหม่แถวนี้ด้วย!”
“ ไม่ใช่ไปมีเรื่องนะ”
> “เอ้า ของแบบนั้นไม่มีหรอกลูกพี่! แค่เดินคุยกันเฉย ๆ เอง” ไดกิพูดยิ้มกว้าง
``เอาสิฉันก็ไม่ได้ไปเดินเล่นกับพวกนายนานละ”
ทั้งสามเดินไปตามถนนเลียบสวนสาธารณะ พูดคุยเรื่องสัพเพเหระ
แล้วพวกนั้นเป็นไงบ้าง
ก็ปกติ ลูกพี่ก็ไปหาพวกเขาบ้างนะ
เดี๋ยวหาเวลาไป
ทั้งสองคนก็พากันดีใจ
ครับ
แล้วพวกเขาก็พากันยิ้ม ไอเช็นที่มองเห็นก็แค่หัวเราะเบาๆ
เสียงหัวเราะดังสลับกับลมยามเย็น — เป็นบรรยากาศที่แปลกสำหรับคนอย่างไอเช็น
> “รู้ไหม พวกฉันยังพูดถึงลูกพี่อยู่เลยนะ ว่าถ้าไม่มีลูกพี่ตอนนั้น เราคงแย่” ไดกิพูดจริงจัง
“พอแล้วฉันอาย
ลูกพี่… ถึงจะพูดงั้น ฉันก็ยังเคารพอยู่นะ” ไอจิพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ
นี่ไม่มีใครบอกหรอตอนนายยิ้มมันหน้ากลัว
จริงหรอครับ
พูดเล่น
แต่ในอีกมุมหนึ่ง...
นักเรียนหญิงสองคนที่ผ่านมาพอดี
เห็นภาพ “คาสึโตะ ไอเช็น” เดินกับชายผมทองและผมม่วงหน้าดุ
> “เฮ้ นั่นมันไอเช็นไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่... แล้วคนพวกนั้นดูไม่ใช่เด็กดีแน่ ๆ”
“อย่าบอกนะว่าเขากลับไปคบพวกเก่าอีกแล้ว?”
มือถือถูกยกขึ้น — แชะ!
ภาพนั้นถูกแชร์ในกลุ่มนักเรียนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า
> สุดท้ายก็แค่แสดงเองสินะ”
ค่ำวันเดียวกัน
ไอเช็นกลับถึงบ้าน เขาเปิดโทรศัพท์ดู เห็นข้อความในกลุ่มโรงเรียน
โพสต์นั้นเด้งขึ้นพร้อมคอมเมนต์มากมาย
> “ว่าแล้ว... คนแบบนั้นไม่มีวันเปลี่ยนหรอก”
“ปลอมตัวดีได้ไม่นานหรอก”
“สงสารคน ที่ไปคุยด้วย…”
เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเงียบ ๆ
แสงไฟในห้องสะท้อนใบหน้าสงบ แต่ในแววตานั้นมีบางอย่างที่สั่นไหว
> “อะไรวะเนี่ยกูแค่ไปเดินเล่น :-:
เขาหลับตา สูดลมหายใจยาว แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง
พรุ่งนี้จะทำไงดีวะ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอีกครั้งในเช้าวันใหม่
วันนี้ไอเช็นตื่นตรงเวลา — เขาเดินลงบันได เห็นแม่กำลังเตรียมข้าวเช้าให้เนเนะ
> “เช้านี้ตื่นเร็วดีนะลูก”
“แค่ไม่อยากให้สายอีกครับ”
“ดีแล้วล่ะ”
เนเนะยกกล่องนมขึ้นแล้วพูดเสียงใส
> “พี่ไอเช็น วันนี้อย่าลืมยิ้มด้วยนะ!”
ไอเช็นหัวเราะเบา ๆ
> “รู้แล้วน่า เจ้าตัวเล็ก”
เขาหยิบกระเป๋า แล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
โรงเรียน
เมื่อมาถึง เสียงซุบซิบเบา ๆ ดังขึ้นรอบตัว
> “นั่นเขาจริง ๆ เหรอ?”
“ฉันเห็นรูปในกลุ่มชัดเลย เดินกับพวกนั้นจริง ๆ”
“แหะ... แค่เห็นก็น่ากลัวแล้ว”
แต่ไอเช็นยังคงเดินเข้าห้องอย่างสงบ ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ
เขาวางกระเป๋า นั่งลงที่โต๊ะตามปกติ
มิซึกิ มองหน้าเขานิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดเบา ๆ
> “ไอเช็น... ข่าวลือที่คนพูดกัน—”
> “อ๋อ เรื่องเมื่อวานน่ะเหรอ?” เขาตอบเรียบ ๆ พลางหยิบสมุดออกมา
“พวกนั้นเป็นเพื่อนฉันน่ะ เราแค่ไปเดินเล่นกันเฉย ๆ ไม่มีอะไร”
> “อืม...” มิซึกิพยักหน้า
“งั้นฉันก็ไม่ถามต่อแล้ว นายพูดแบบนั้น ฉันเชื่อก็พอ”
ไอเช็นเลิกคิ้วเล็กน้อย
> “นายเชื่อฉันง่ายจัง”
เดี๋ยวก็โดนหลอก หรอกสักวันอะ
“ฉันเชื่อนะว่าที่นายเป็นตอนนี้มันไม่ใช่ภาพหลอกตา... ฉันก็ไม่จำเป็นต้องสงสัย”
เขายิ้มบาง ๆ ก่อนตอบ
> “ขอบใจนะ”
พักเที่ยง
เขาที่กำลังเดินไปชื้อน้ำเปล่ากับมิชึกิที่โรงอาหารทุกสายตาจองมองมาที่เขาหลังจากนั้นก็ได้ยินข่าวของเขา
``นั้นไงมาละ``
``สุดท้ายก็แค่แสดงเองสินะ```
``มิชึกิพูดนายเนี่ยดังจังนะ คนถ่ายรูปไปเดินเล่นก็เป็นข่าวลือละ
``เขาหัวเราะเบาๆ``
ขณะที่เดินไปเพื่อชื้อน้ำ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งทำของหล่น เขาเห็นก็เลยรีบเพื่อไปคืนให้ หลังจากนั้นก็มีเสียง
ดูนั้นสิจะขโมยของคนอื่นละ เดี๋ยวฉันจะไปฟ้องอาจารย์
เขาพูด นี่เธอ คนนั้นอะ ผู้หญิงคนนั้นหยุดแล้วก็ยืนตัวสั่นๆ ก่อนจะหันมา พร้อมเสียงสั่นๆ
คคคะ มีอะไรกับฉันหรอคะ พร้อมแววตาตาที่พร้อมจะร้องไห้
แบมือมาหน่อย
คะๆ พร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลนิดๆ
หลังจากนั้นเขาจะใส่ของที่คนนั้นทำหล่นไป
ก่อนจะเดินจากไป
หลังจากนั้นเธอก็ได้ลืมตาขึ้นมาเอ้านี่ของฉันนี่นา
ฉันคิดว่าเขาจะรังแกฉัน นี่เป็นของสำคัญของฉันเลย ยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย เธอที่กำลังมองหาไอเช็นแต่ก็ไม่เห็น
ทุกสายตาจองมองที่เธอ
หน้ากลัวรีบไปก่อนดีก่อนเดี๋ยวไปหาตัวเขาเพื่อขอบคุณเขา
มิชึกิพูดทำไมนายไม่บอกว่าของหล่นละ ทำให้แบมือทำไม
ฉันกลัวว่าเธอจะร้องไห้ก่อนอะดิ (อันที่จริงไม่มีอะไรหรอก555แค่คิดว่ามันแท้ดี บอกมิชึกิไปแบบนี้โดนมองว่าบ้าแน่)
หลังเลิกเรียน
เสียงกริ่งบอกเลิกเรียนดังขึ้น
ไอเช็นและมิซึกิเก็บของแล้วตรงไปที่ห้องสมุด โรงเรียนเงียบลงตามเวลายามเย็น
แสงแดดส่องลอดกระจกลงบนโต๊ะอ่านหนังสือที่ทั้งสองนั่งอยู่
> “วันนี้อาจารย์ให้แบบฝึกหัดคณิตมาเยอะเลย นายช่วยติวหน่อยได้ไหม?” มิซึกิถาม
“แน่นอน”
เขาเปิดสมุด พอเห็นโจทย์ปุ๊บก็ตอบแทบจะทันที
> “ข้อนี้ใช้สูตรนี่นะส่วยตรงนั้นใช้แบบผสม ลองแยกตัวแปรตรงนี้ก่อนสิ”
“เดี๋ยว ๆ เดี๋ยว นายดูโจทย์แค่แวบเดียวเองนะ…”
“ก็เพราะมันง่ายน่ะ”
“ง่าย? อาจารย์ยังบอกว่านี่ยากสุดในชุดนี้เลยนะ!”
ไอเช็นยิ้ม
> “อาจารย์น่าจะตั้งโจทย์แบบนี้เพราะอยากให้เรารู้จักมองข้ามจุดที่ซับซ้อน ”
> “พูดเหมือนนายเป็นคนออกข้อสอบเองเลยนะ”
ไอเช็นหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนพูดต่อ
> “ฉันแค่เคยเรียนกับครูสอนพิเศษมาก่อนตอน ม1 เลยจำได้”
มิซึกิมองเขาอย่างอึ้ง ๆ
> “นายเคยตั้งใจเรียน? ไม่เห็นเข้ากับภาพลักษณ์นักเลงเก่าเลยนะ”
“มันแค่โดนบังคับเรียนเอง ”
ขณะที่ไอเช็นพูดเสร็จ มิชึกิ ก็กำลังจะพูดบางอย่าง ไอเช็นก็ได้พูดไปก่อน
อย่าถามว่าทำไมถึงโดนบังคับเรียนหรอ ฉันไม่อยากเล่า หลังนั้นมิชึกิก็พูด
ป่าวนายเนี้ยหล่อจังนะ เหมือนนักแสดงที่ฉันเคยดูตอนเด็กเลย ถ้าได้จัดชงผมดีๆ ก็หน้าจะหล่อกว่านี้ หลังจากนั้น ไอเช็นก็พูด
``มิชึกิ
``อะไรหรอ
นายเป็นเกหรอ
ไม่ใช่เว้ยย
บรรยากาศในห้องสมุดเริ่มเงียบลง มีเพียงเสียงปากกาขีดเขียน
บางครั้งไอเช็นก็เอื้อมมือชี้จุดในหนังสือให้มิซึกิดู
สายตาของทั้งสองสบกันบ้างเป็นระยะ
> “ไอเช็น...” มิซึกิพูดขึ้นเบา ๆ
“ฮึ?”
“นายเนี้ยดูบ้ากว่าที่ฉันคิดนะ”
“นายก็ด้วยหรอ เนี้ยที่พูดแบบนี้”
ทำไมหรอ
ป่าวๆ
คำตอบนั้นทำให้มิซึกิ มองหน้าไอเช็น ก่อนจะยิ้มอ่อน ๆ
(เกป่ะเนี่ย)
หลังติวเสร็จ ทั้งสองเก็บของเดินออกจากห้องสมุด
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากส้มเป็นน้ำเงิน
> “ขอบใจนะ ไอเช็น วันนี้เข้าใจขึ้นเยอะเลย”
“ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจอีก ก็มาถามได้ตลอด”
“งั้น…พรุ่งนี้เจอกันนะ”
ไอเช็นพยักหน้า มองตามแผ่นหลังของมิซึกิที่เดินจากไป
ลมเย็นพัดผ่านอย่างเงียบงัน
> “ต่อให้คนอื่นจะพูดยังไง... แค่คนที่อยู่ใกล้เชื่อใจเรา ก็พอแล้ว”
คำพูดอย่างกับพระเอกในหนังเลย555
เขาเก็บมือไว้ในกระเป๋าเสื้อ ก้าวเดินกลับบ้านอย่างสงบ
ตอนต่อไป
ไปเที่ยวเล่นกับเนเนะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments