นักบุญไร้นาม
ซากปรักหักพังของโบสถ์แห่งหนึ่ง ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ ที่ทรุดโทรม กำแพงพื้นปูนแตกหักและเต็มไปด้วยรอยร้าว รูปปั้นขนาดใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านภายในโบสถ์ รูปของบุรุษที่ไร้หัว เปลือยกาย บุคคลผู้หนึ่ง ยืนอยู่ใต้หน้ารูปปั้นบุรุษไร้หัว
เขาสวมชุดเหมือนนักบวช มีผ้าคลุมหัวปกปิดใบหน้า เขายืนตรงต่อหน้ารูปปั้นบุรุษไร้หัว มือทั้งสองที่เรียวยาวประสานกันตรงอก เปล่งสวดภาวนาต่อหน้ารูปปั้น
เสียงของเขานั้นนุ่มนวล ไพเราะ และน่าหลงใหล
“แด่เทพผู้ชี้ความจริง แด่เทพผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ แด่เทพผู้ไร้หน้า โปรดชี้นำเส้นทางของความจริงและถูกต้องแก่ลูกด้วยเถิด ข้าคาลิปโซ่ ขอสาบานต่อหน้าเทพไร้นามในฐานะสาวกหนึ่งเดียวของท่าน ข้าจะค้นหาและความจริงของเดอะ ซิตี้ เพื่อท่านเทพไร้นาม”
กล่าวจบ คาลิปโซ่หันหลังให้รูปปั้น เดินออกจากซากโบสถ์เก่าด้วยท่าทางที่สงบมีเพียงแค่เสียงเท้าที่กระทบกับพื้นเท่านั้นที่คอยเปล่งเสียงออกมา
เมื่อคาลิปโซ่เดินออกมาจากโบสถ์ นางหยุดเดินตรงหน้าทางเข้าและออกของโบสถ์ก่า ภายนอกนั้นโบสถ์นั้นเต็มไปด้วยเศษซากอาคาร ไร้ซึ่งชีวิต คาลิปโซ่มองดูภาพที่ปรากฏหน้าด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ก่อนคาลิปโซ่ก้าวเท้าเดินทางต่อ
คาลิปโซ่เดินผ่านซากเมืองบรรยากาศ ท้องฟ้ามืดมัว ไร้ชีวิต ชีวา
ในที่ขณะคาลิปโซ่กำลังเดินทางนั้น กลุ่มคนในเครื่องแบบทหารพร้อมรบที่ลํ้าสมัยเต็มอัตราศึกปรากฏตัวขึ้นจากซากปรักหักพัง ยืนเล็งปืนชี้ไปยังคาลิปโซ่ ในระยะห่างสิบเมตร
ทหารนายหนึ่งกล่าวเปล่งเสียงที่ดุร้าย
“หยุด! อย่าขยับ! ยกมือขึ้น!”
คาลิปโซ่ไม่ได้แสดงสีหน้าตกใจ เขาตามทำสิ่งที่ทหารพูด เขายกมือเหนือศีรษะ
เมื่อทหารเห็นว่าคาลิปโซ่ยกขึ้น ทหารนายหนึ่งก็เดินเข้ามาตรวจสอบ ในมือทหารนั้นถือปืนเล็งไว้ตลอดเมื่อมาในระยะที่มองได้ชัดขึ้นทหารที่เข้ามาตรวจสอบได้สั่งคาลิปโซ่ให้ปิดเครื่องปกปิดใบหน้า
“ปิดเครื่องปิดบังใบหน้าออก เพื่อแสดงตัวตน!”
คาลิปโซ่ พูดตอบกลับทหารรนายนั้นด้วยเสียงที่ปกติแต่แฝงไปด้วยเยือกเย็นด้วยความจริงใจ
“ข้าไม่ได้มีเครื่องปกปิดใบหน้า ข้าเป็นเพียงนักบวช”
เมื่อทหารนายนั้นได้ยินสิ่งที่คาลิปโซ่พูด เขาเข้ามาประชิดตัวทหารนายนั้นเก็บอาวุธและเริ่มตรวจสอบร่างกายคาลิปโซ่คั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อตรวจสอบแล้วว่าคาลิปโซ่ไม่ได้เป็นภัยอันตราย ทหารนายนั้นเดินถอยห่าง โบกมือสัญญาณปลอดภัยให้คนอื่นๆรู้
เมื่อทหารนายอื่นๆเห็นทุกอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงลดอาวุธลง
คาลิปโซ่เห็นว่าสถานการณ์ปลอดภัยกับเขา เขาจึงลดมือลง
ทหารที่เข้าตรวจสอบได้พูดขอโทษด้วยเสียงที่ให้ความเคารพและสุภาพกับคาลิปโซ่ว่า
“พวกเราต้องขอโทษกับการกระทำที่เสียมารยาทด้วยคุณนักบวช ในพื้นที่เขตสงรามนี้เราจึงต้องตรวจสอบผู้ต้องสงสัย”
คาลิปโซ่พูดตอบกลับทหารนายนั้นโดยไม่ได้ใส่ใจกระทำของพวกเขาก่อนหน้านี้ คาลิปโซ่เข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะถูกปฏิบัติแบบนี้เพราะตัวเขาอยู่ในเขตสงคราม
“ว่าแต่คุณนักบวชมีเหตุผลอะไรถึงมาอยู่ที่เขตสงคราม?”
ทหารได้กล่าวถามด้วยสงสัย
“ข้าเพียงแค่มาทำภารกิจของศาสนจักรแห่งแสงในการช่วยเหลือเหล่าผู้ไร้ศรัทธาที่กำลังหลงทางในความมืดเท่านั้น”
เมื่อทหารรู้เหตุผลของคาลิปโซ่ที่มายังเขตสงคราม เขาจึงไม่ได้สงสัยคาลิปโซ่อีกต่อไป ในเขตสงครามไม่ได้มีแค่ทหารเท่านั้นแต่ยังมีประชาชนธรรมดาที่รับผลกระทบทางสงคราม ไม่เว้นแต่ทหารก็ยังได้รับผลของสงคราม สภาพจิตใจของพวกเขาเหล่านั้นยํ่าแย่ หากไม่ได้รับการเยียวยาใจ พวกเขาเหล่านั้นจะจมลงในความมืดและถูกความมืดกลืนกินจนไม่สามารถเยียวยาได้อีกต่อไป การมีนักบวชอยู่ในเขตสงครามจะช่วยให้คนพวกเหล่านั้นมีจิตใจที่มั่นคงไม่ถูกความมืดจนจิตใจสลายไป
“ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ทอดทิ้งพวกเรา โปรดตามพวกเรามาด้วยท่านนักบวชอยู่ที่นานเกินไปจะอันตรายต่อท่านได้ ก่อนที่พวกมันจะมา”
ทหารนายนั้นพูดเสียงสุภาพและจริงจัง
คาลิปโซ่พยักหน้าและตามเหล่าทหารไปยังที่แห่งหนึ่ง
ในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังจุดหมาย หนึ่งในนายทหารได้กล่าวถามกับคาลิปโซ่ ถึงสิ่งที่คอยปกปิดใบหน้าของคาลิปโซ่ว่ามันคืออะไร
“คุณนักบวชผมขอถามเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ”
คาลิปโซ่ทำท่าทางคิดก่อนตอบกลับไป
“โปรดกล่าวข้อสงสัยของคุณมา”
“สิ่งที่คอยปกปิดใบหน้าของท่านคืออะไรครับ?”
“มันคือพรที่ข้าได้รับจากเทพ”
“พร!”
เมื่อเหล่าทหารรู้ว่าสิ่งที่ปกปิดใบหน้า นั้นคือพรปฏิกิริยาของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที ด้วยอาการที่ตกใจ คำพูดและท่าทางของพวกเขาให้เคารพมากขึ้น
เหตุผลที่พวกเขาตกใจและเปลี่ยนท่าทีนั้นเพราะนักบวชที่ได้รับพรนั้น เปรียบเสมือนว่าบุคคลเหล่านั้นได้รับการคุ้มครองจากพระผู้เป็นเจ้าที่ตนนับถือ และกลายเป็นบุคคลสำคัญที่เทียบเท่า ดัชเชสส์
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่วิ่งสี่ขาขนดำสนิทปกคลุมทั้งตัว ดวงตาสีแดงเลือด สูงสามเมตร
พุ่งเข้ากระโจนโจมตีใส่กลุ่มทหาร พวกเขาไม่ได้ทันได้ตั้งตัวทหารนายหนึ่งถูก
ปีศาจหมาดำใช้ฟันที่แหลมคมที่ถูกอาบไปด้วยเลือด กัดและกระชากเข้าที่คอทหารนายนั้น
“หมาป่าดำ!!!”
“ยิงมัน!!”
“ปกป้องท่านนักบุญ!”
เหล่าทหารที่เหลือยิงกระหน่ำใส่หมาป่าดำ พร้อมกับปกป้องคาลิปโซ่
กระสุนนับไม่ถ้วนจากปืนพุ่งกระหน่ำใส่หมาป่าดำ แต่กระสุนเหล่านั้นกลับไม่สามารถที่จะเจาะผิวหนังของหมาป่าดำได้เลยแม้แต่น้อย
“แม่งเอ๊ย กระสุนยิงไม่เข้า”
หมาป่าดำคำรามเสียงดังด้วยความดุร้ายและโกรธ ก่อนที่พวกมันพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
“ระวัง! มันพุ่งเข้าแล้ว”
“หลบ!”
เหล่าทหารหลบการโจมตีหมาป่าดำได้อย่างเฉียดฉิว
ทหารคนหนึ่งจับคาลิปโซ่หลบการโจมตี
“หยิบระเบิดออกมา!”
ทหารนายหนึ่งหยิบระเบิดออกมาจากชุดเกราะ ขว้างไปยังหมาป่าดำ
ระเบิดถูกขว้างไปยังหมาป่าดำ
ตู้ม!
หมาป่าดำถูกระเบิดเข้าใส่เต็มๆ
แรงระเบิดทำให้หมาป่าดำได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ถึงกระนั้นหมาป่าดำยังคงไม่ตาย
หมาป่าดำเปล่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง แต่ในรอบนี้มีบางเปลี่ยนไปมันไม่ได้คำรามเพื่อขู่แต่มันกำลังเรียกฝูงของมัน
“ชิบหายแล้ว มันกำลังเรียกพวกมาที่นี้!!"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments