เหตุการณ์วุ่นวายเมื่อเช้านี้ทำให้บรรยากาศในจวนฉินอ๋องเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากความเงียบสงบที่น่าขนลุก กลายเป็นความระแวงที่เข้มข้นขึ้น
ชิงเหยาและเสี่ยวเยว่ได้รับอนุญาตให้ดูแล ลุงฟู่ พ่อบ้านชราในเรือนที่อยู่ห่างจากห้องหอของอ๋องไม่มากนัก เรือนแห่งนี้แม้จะดูสะอาด แต่ก็ขาดอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับแพทย์สมัยใหม่
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องทรงอนุญาตให้คุณหนูใช้สมุนไพรและเครื่องมือได้ตามต้องการแล้วเจ้าค่ะ แต่...ดูเหมือน องครักษ์หลิ่งเฟิง จะไม่วางใจเลย” เสี่ยวเยว่กระซิบด้วยความกลัวขณะบดสมุนไพร
ชิงเหยาไม่แปลกใจ หลิ่งเฟิง คือองครักษ์ผู้จงรักภักดีที่สุดของหลี่จ้าน ความระแวงของเขาคือเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุดของท่านอ๋อง
“ไม่จำเป็นต้องให้เขาไว้ใจ แค่ทำให้เขาไม่มีข้อโต้แย้งก็พอ” ชิงเหยาตอบอย่างใจเย็น
เธอใช้ความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบันในการจัดยาที่เหมาะสมสำหรับลุงฟู่ และที่สำคัญที่สุดคือ การฆ่าเชื้อ ชิงเหยาพยายามอธิบายหลักการเรื่อง 'เชื้อโรค' ให้เสี่ยวเยว่เข้าใจอย่างง่ายที่สุด โดยใช้น้ำร้อนและไฟในการต้มและฆ่าเชื้อผ้าพันแผลและเครื่องมือที่เธอประดิษฐ์ขึ้นอย่างเร่งด่วน
“เสี่ยวเยว่ เจ้าจำไว้ให้ดี” ชิงเหยาสั่งอย่างจริงจัง “สิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้อันตรายยิ่งกว่านักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่เสียอีก ก่อนจะแตะต้องบาดแผลใดๆ ต้องล้างมือด้วยน้ำต้มสุกเสมอ”
หลิ่งเฟิงซุ่มอยู่บนหลังคาเรือนนั้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น ดวงตาคมกริบของเขาสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของชายา ไม่ว่าจะดื่มน้ำสักจิบ หรือเดินไปที่มุมใดของห้อง ทุกอย่างอยู่ภายใต้การจับตามองของเขา
สิ่งที่หลิ่งเฟิงเห็นคือความผิดปกติ
จ้าวชิงเหยา ไม่ได้สวดมนต์บูชาเทพเจ้า ไม่ได้ใช้หลักการแพทย์โบราณ แต่ใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘การฆ่าเชื้อ’ และคำสั่งที่แปลกประหลาด
ทำไมต้องต้มน้ำจนเดือดซ้ำ ๆ เพื่อล้างมือ?
ทำไมต้องนำเข็มเย็บผ้าไปเผาไฟจนแดง?
ในสายตาของหลิ่งเฟิง การกระทำเหล่านี้คล้ายกับ พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ มากกว่าการรักษา แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่กล้าลงมือขัดขวาง คือ บาดแผลของลุงฟู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่ผ่านไปหนึ่งวัน อาการไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว บาดแผลที่ศีรษะไม่มีหนอง และข้อเท้าดูมั่นคงขึ้น
ขณะที่ชิงเหยากำลังผสมยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง เธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองอยู่บนหลังคา
เขาคงตามดูมานานแล้วสินะ
ชิงเหยาตัดสินใจที่จะไม่สนใจ แต่กลับใช้โอกาสนี้ในการ สร้างความเชื่อใจ อย่างมีชั้นเชิง
“เสี่ยวเยว่” ชิงเหยาพูดเสียงดังพอที่คนบนหลังคาจะได้ยิน “บาดแผลของลุงฟู่รักษาไม่ยาก ที่ยากกว่าคือ การบาดเจ็บเรื้อรังที่ไม่ได้รักษาแต่เนิ่นๆ”
เธอหยุดมือที่กำลังบดยา และมองไปยังประตูหน้าต่าง “เช่น... บาดแผลเก่าที่ถูกเย็บอย่างลวกๆ และทิ้งหนองไว้ใต้ผิวหนัง ร่างกายถูกทำลายจากภายในอย่างช้าๆ คนไข้จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างเรื้อรังและอาจติดเชื้อได้ทุกเมื่อ”
คำพูดนี้มุ่งเป้าไปที่ หลิ่งเฟิง โดยตรง เพราะเมื่อวานเธอเห็นแผลเป็นที่ไม่สมบูรณ์ของเขา
บนหลังคา หลิ่งเฟิงถึงกับตกใจ ใบหน้าเย็นชาของเขาสั่นไหวเล็กน้อย เขาลูบไปที่แผลเป็นที่ไหล่... นั่นคือบาดแผลเก่าจากการทำภารกิจเมื่อห้าปีก่อนที่เขาคิดว่าไม่มีใครเคยเห็น ช่างน่าประหลาดที่ชายาผู้นี้มองเห็นความเจ็บปวดที่เขาซ่อนไว้ได้อย่างง่ายดาย
ชิงเหยาเห็นความเคลื่อนไหวเล็กน้อยบนหลังคา เธอยิ้มในใจ แต่ภายนอกยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“ข้ารู้ว่าการเชื่อใจใครสักคนในจวนนี้เป็นเรื่องยาก” ชิงเหยาพึมพำกับเสี่ยวเยว่ แต่เสียงก็ดังพอให้องครักษ์ได้ยิน “แต่ถ้าต้องการปกป้องผู้มีพระคุณจริง ๆ จงเชื่อในหลักการ และ ผลลัพธ์”
บ่ายวันนั้น ชิงเหยาตัดสินใจที่จะ ประดิษฐ์เครื่องมือการแพทย์ที่จำเป็น อย่างจริงจัง เธอสั่งให้เสี่ยวเยว่ไปหา ไม้ไผ่ที่บางและแข็งแรง และ สายไหมที่แน่นที่สุด
ในห้องที่เต็มไปด้วยแสงสลัว ชิงเหยาใช้เวลาหลายชั่่วโมงในการลับคมไม้ไผ่ให้กลายเป็นเข็มขนาดต่าง ๆ สำหรับการฝังเข็มและการสะกิดแผล เธอใช้หลักการของแพทย์แผนจีนที่เธอเคยศึกษาควบคู่ไปกับความรู้ด้านเส้นประสาทของตนเอง
เข็มฝังเข็ม สำหรับกระตุ้นเส้นประสาทที่อ่อนแอของหลี่จ้าน คือสิ่งที่จำเป็นที่สุด
ขณะที่เธอกำลังจดจ่ออยู่กับการลับคมไม้ หลิ่งเฟิงก็เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบโดยไม่เคาะประตู
“ชายา” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าและแข็งกร้าว “ท่านอ๋องสั่งให้ข้าดูแลความปลอดภัยของเจ้า และมอบหมายให้ข้าเป็นผู้จัดหาสิ่งของที่เจ้าต้องการ”
ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วห้อง เห็นเข็มไม้ไผ่และเส้นไหมที่กองอยู่บนโต๊ะ
“ข้าต้องการผ้าพันแผลสะอาด... และเหล็กกล้าที่ดีที่สุดที่พอจะนำมาลับให้แหลมได้” ชิงเหยาตอบอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้าจะใช้ไม้ไผ่แทน”
หลิ่งเฟิงรู้สึกว่าถูกยั่วโมโห แต่เขากลับสงบสติอารมณ์ “ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าต้องทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ด้วยเครื่องมือที่ดูน่าขันเช่นนี้”
ชิงเหยาสบตากับเขาอย่างตรงไปตรงมา เธอรู้ว่านี่คือโอกาสที่จะทำลายกำแพงความระแวงขององครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ผู้นี้
“ท่านอ๋องบาดเจ็บที่ระบบประสาทส่วนปลาย ทำให้ขาไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่” ชิงเหยาอธิบายอย่างใจเย็น “การรักษาแบบโบราณเน้นที่ยาบำรุง แต่ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ ข้าต้องใช้ เข็มที่ละเอียดอ่อนที่สุด ในการกระตุ้นจุดที่ถูกต้อง”
เธอชี้ไปที่เข็มไม้ไผ่ “ถ้าข้าใช้เข็มที่หยาบไป ท่านอ๋องอาจพิการถาวร และท่านก็คงไม่อยากเห็นท่านอ๋องเป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่?”
หลิ่งเฟิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คำพูดของชายาทำให้เขานึกถึงความสิ้นหวังของท่านอ๋องที่ลองรักษามาทุกรูปแบบแต่ไม่เคยเห็นผล
“บาดแผลเก่าของข้า” หลิ่งเฟิงถามเสียงเบา “เจ้ามองเห็นมันได้อย่างไร”
ชิงเหยายิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่ได้ใช้ดวงตา แต่ใช้ความรู้ของข้า ร่างกายของคนเราคือสมุดบันทึกที่ซ่อนความเจ็บปวดไว้ การเย็บแผลที่ไม่สะอาดทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคใต้ผิวหนัง มันทำให้ท่านปวดร้าวมาโดยตลอดใช่หรือไม่? มันทำให้ท่านเหนื่อยล้า... และ มันอาจส่งผลต่อการปกป้องท่านอ๋องได้”
คำพูดสุดท้ายของชิงเหยาแทงใจดำหลิ่งเฟิงอย่างจัง
“ข้าจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ” หลิ่งเฟิงพูดเสียงเครียดและหมุนตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุด ชิงเหยาก็ได้ ‘โรงหมอลับ’ ของตนเองในจวนฉินอ๋อง เธอได้รับเหล็กกล้าคุณภาพดีที่หลิ่งเฟิงจัดหามาให้อย่างเงียบๆ และเริ่มประดิษฐ์เครื่องมือสำคัญชุดแรกสำหรับการผ่าตัดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมพร้อม ทันใดนั้น หลี่จ้าน ก็ถูกเข็นเข้ามาในเรือนอย่างเงียบเชียบโดยไม่มีผู้ใดตามมา มีเพียงองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ภายนอกเท่านั้น
“เจ้าจะทำอะไรกับของพวกนี้?” หลี่จ้านถามเสียงเรียบ ดวงตาของเขามองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเข็ม เหล็กกล้า และสมุนไพรแปลกตา
ชิงเหยารีบลุกขึ้นยืน “ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ”
“ไม่ต้องมากพิธี” หลี่จ้านโบกมือ “เมื่อวานเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้าเพื่อช่วยลุงฟู่ และวันนี้... เจ้ากำลังเตรียมเครื่องมือที่ดูแปลกประหลาดเหล่านี้ จ้าวชิงเหยา เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่?”
ชิงเหยาหันกลับไปหยิบเข็มไม้ไผ่ที่เธอเพิ่งลับคมเสร็จ แล้วยื่นไปทางเขา
“ข้ามาที่นี่เพื่อทำตามสิ่งที่ข้ากล่าวไว้เพคะ” ชิงเหยาตอบอย่างมั่นคง “เพื่อเป็นเบี้ยที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมนี้ และเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของท่านอ๋อง”
“ข้าไม่เชื่อ” หลี่จ้านตอบด้วยความเย็นชา “ข้าเชื่อแค่ว่าเจ้ากำลังพยายามเข้าใกล้ข้าตามคำสั่งของศัตรู”
ชิงเหยาส่ายหน้าเล็กน้อย “ถ้าข้าคือศัตรู... ข้าคงใช้ยาพิษที่หามาได้ง่ายดายกว่านี้ แต่ข้าคือแพทย์”
เธอเดินเข้าไปใกล้หลี่จ้านอีกก้าวหนึ่ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความท้าทาย
“สิ่งที่ข้าจะทำ ไม่ใช่แค่การให้ยา แต่เป็นการ รักษาจากภายในสู่ภายนอก หากท่านไม่เชื่อใจ... ก็จงให้ ร่างกายของท่าน เป็นพยาน”
ชิงเหยาจ้องมองไปที่ขาที่ไร้ความรู้สึกของเขา นี่คือการเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด อำนาจ และ การแพทย์ กำลังต่อสู้กันอย่างเงียบ ๆ ในห้องที่คับแคบแห่งนี้
“ข้าต้องการเวลา... วันนี้ข้าขอแค่ ฝังเข็ม เพื่อกระตุ้นจุดเลือดลมเบื้องต้น และ วินิจฉัยอาการบาดเจ็บทางระบบประสาท ของท่านอย่างละเอียด” ชิงเหยาเสนออย่างเด็ดขาด
หลี่จ้านนั่งนิ่ง... ความเยือกเย็นของเขาเริ่มสั่นคลอน เขากลัว ว่าจะถูกหลอกลวงอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความหวัง เล็กๆ ที่ถูกจุดประกายขึ้นมา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments
Khansarila Adisoga
สุดยอดเลยครับ รออ่านต่อไป
2025-10-09
0