"ขออีกได้ป้ะ"
เสียงหอบเหนื่อยของทั้งคู่ยังไม่จางหาย
แต่เขายังคงโน้มตัวลงมาด้วยแววตาร้องขอ
มินยิ้มบางๆ พลางดันแผ่นอกของเขาออกเบาๆ
"พอแล้วเราเหนื่อยจริงๆ" เสียงพูดปนเสียงหอบ แต่หนักแน่นพอจะบอกให้เค้าหยุดไว้แค่นี้
ธาร์มหยุดชะงักไปไปเล็กน้อยก่อนจะสบตาเธอ หญิงสาวยกมือขึ้นตบบ่าเขาเบาๆ เพื่อเป็นการยืนยันในสิ่งที่พูดออกไปอีกครั้ง
เธอเลื่อนตัวลงจากเคาน์เตอร์ไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย
เขามองตามหลังเธอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เขายอมเข้าใจไม่ฝืนใจอะไรอีก
เขาลุกขึ้นแต่งตัวอย่างเรียบร้อย แล้วเดินออกมานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ปล่อยเวลาให้ไหลไปช้า ๆ พร้อมรอเธออาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย
บรรยากาศในห้องเงียบสงบ เหลือเพียงเสียงน้ำไหลที่ดังออกมาจากห้องน้ำดังแว่วมา เป็นสัญญาณบอกว่าเธอกำลังพักให้ร่างกายและจิตใจให้ความเหนื่อยล้าจางหายไป
หญิงสาวก้าวออกจากห้องน้ำในชุดสบาย ๆ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ยังติดตามผิว เธอเดินมาที่โซฟาซึ่งเขานั่งรออยู่ เงียบไปชั่วครู่ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
"มึง..." เสียงของเขาทำลายความตึงเครียดที่ก่อตัวขึ้นจากบรรยากาศโดยรอบ
"เรามาทำข้อตกลงกัน...มาเป็นFWBกันไหม" เขาถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แล้วหันไปเหลือบมองคนที่นั่งข้างกันเห็นทำท่าทางกุมขมับแล้วดูท่าคงจะเครียดไม่ต่างจากเขาเลย อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
แม้ใจเธอจะอยากตอบตกลงแต่จิตใต้สำนึกที่ยังทำงานอยู่ปัดตกขอขอที่เขาเสนอมา "แต่มึงมีแฟนแล้วนะ แล้วมุกก็เป็นเพื่อนกูด้วย" เธอทำใจทำร้ายเพื่อนตัวเองไม่ลงไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
"ก็ใช่แต่เราก็เอากันแล้วไง แล้วกูก็ติดใจ..." หันไปมองคนข้างๆก่อนจะพูดต่อ "มึงก็ติดใจไม่ใช่หรอ วิน-วินทั้งสองฝ่ายน่า" แม้จะพูดเหมือนหยอกล้อออกไปแต่เขาก็อยากให้เธอตกลง
แม้ใบหน้าจะยังยิ้มแย้มแต่ในใจกลับวุ่นวายไปหมด หัวแรงระรัวไม่เป็นจังหวะ
"ได้แต่มีข้อแม้" มินตอบตกลง แต่การเจรจาย่อมต้องมีข้อตกลงอยู่เสมอ และมักต่อรองกันได้เพื่อความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย
"ว่ามา" พูดจบเขาก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
"อย่างแรกห้ามไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด และเข้าใจตรงกันว่าเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่แฟน ไม่มีสิทธิ์หึงหวง หรือมาเรียกร้องอะไรเกินตัวไปกว่าการเป็นเพื่อนกัน" เธอเสนอ
ธาร์มประมวลผลแล้วพยักหน้ารับ เป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน
"สองคือคุยกันได้ทุกเรื่องถ้ามีอะไรที่รู้สึกไม่โอเค หรือเริ่มไม่สบายใจ ต้องบอกกันตรงๆ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ให้มันถูกเวลา"
"แล้วนัดกันนอกสถานที่ได้ป้ะ" เขาถาม
"ได้แต่นัดช่วงที่ว่างตรงกันเท่านั้นนะ แล้ววันต่อมาต้องว่างด้วย" บอกพร้อมเสนอเพิ่ม
"แล้วก็สุดท้าย ถ้าวันนึงใครสักคนอยากเลิก หรือมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ต้องหยุดความสัมพันธ์นี้ ต้องบอกลากันด้วยดี ให้ยังมองหน้ากันติดและเป็นเพื่อนกันต่อไปได้"
"ตกลงไหม" มินยื่นมือขวาออกไป
สายตาคมมองมือที่ยื่นมาตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยกมือของตัวเองขึ้นมาจับไว้แน่น
ความอุ่นแผ่วเบาแล่นเข้าสู่ฝ่ามือทั้งคู่
"ตกลง..." คำตอบสั้นๆ แต่ดวงตากลับไหวสั่นไม่แพ้ใจของมิน
ทั้งคู่เงียบไปชั่วขณะ ราวกับต่างคนต่างกำลังทบทวนว่า สิ่งที่เพิ่งพูดออกไป มันไม่ใช่แค่คำพูดเล่นๆ แต่มันคือพันธะสัญญา
มินคลายมือออกช้าๆ แล้วโน้มตัวพิงพนักโซฟา "โอเค...งั้นจากนี้ไปเราก็เหมือนเดิม เป็นเหมือนเพื่อนสนิททั่วไป"
ธาร์มหัวเราะในลำคอเล็กน้อย "เหมือนเดิมที่เพิ่มเงื่อนไขใหม่...ใช่ปะ"
เธอปรายตามองเขานิดๆ เหมือนจะเตือนให้รู้ตัวว่าอย่าล้ำเส้น แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาจางๆ ไม่ได้
บรรยากาศเหมือนจะเบาขึ้น แต่ในใจทั้งสองคนกลับยิ่งมีแรงกดดันมากกว่าเดิม เพราะรู้ว่าจากนี้ไป ทุกการเจอกัน ทุกการสัมผัส จะไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
ธาร์มเอนตัวบ้าง สายตาจับจ้องไปยังเพดานราวกับพยายามซ่อนความคิดบางอย่างที่เอ่ยออกมาไม่ได้
"หวังว่าเราจะไม่เสียเพื่อนกันไปนะ มิน"
หญิงสาวหันไปมองเขานิ่ง ๆ ก่อนตอบเสียงเบา "นั่นแหละที่กูอยากบอกมึงไว้ตั้งแต่แรก..."
ความเงียบเข้ามาแทนที่อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ความอึดอัดเหมือนทีแรก ทว่าคือความเงียบที่เต็มไปด้วยความหมายและคำถามที่ยังไม่มีใครกล้าพูดออกมา
"งั้นกู...กลับก่อนนะ" ธาร์มค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างช้า ๆ
มินหันไปมองแววตาที่ดูเหมือนปกติดี แต่กลับซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ลึก ๆ
“อือ… ขับรถดี ๆ ล่ะ” เธอตอบเสียงเรียบ พลางขยับตัวนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา แล้วเปิดโทรทัศน์หาข่าวดูไปเรื่อย
ธาร์มหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูราวกับลังเลว่าจะออกไปเลยดีไหม เขาหันกลับมามองเธออีกครั้ง ริมฝีปากขยับเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเพียงรอยยิ้มบาง ๆ
“ไว้เจอกัน”
ประตูปิดลงเบา ๆ ทิ้งให้ในห้องเหลือเพียงร่างของมินกับเสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะดูแม้แต่น้อย กลิ่นสบู่อ่อนๆ ยังติดอยู่รอบตัวเธอ แต่บรรยากาศกลับหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
มินทอดสายตามองไปยังประตูที่เพิ่งปิดลง
หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งโล่งใจที่เรื่องคุยจบลงด้วย “ข้อตกลง” และทั้งหนักใจเพราะรู้ดีว่าเส้นบางๆ ที่พวกเขาวางไว้ วันหนึ่งอาจไม่มีใครรักษาได้จริงๆ แม้แต่ตัวเธอเองก็เช่นกัน
"เห้อ..."
เสียงถอนหายใจยาวเหมือนสลัดความคิดวนเวียนในหัวออกไป ก่อนจะลุกจากโซฟา เดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ยังชื้นเล็กน้อยแขวนบนราวไว้ให้เรียบร้อย
เธอหันกลับมามองรอบห้องที่กระจัดกระจายเสื้อที่กองพะเนินในตะกร้า แก้วกาแฟวางค้างอยู่บนโต๊ะเตี้ย ขวดเหล้าที่ใส่ถุงขยะไว้แต่ยังไม่ได้เอาไปทิ้ง
"รกจริง..." เธอบ่นเบาๆ กับตัวเอง พลางเริ่มเก็บโน่นนี่ใส่ถุงดำแล้วมัดจนห้องดูสะอาดตา
ทีวีที่เปิดค้างอยู่เปลี่ยนจากข่าวสถานการณ์บ้านเมืองเป็นช่วงข่าวกีฬา
เสียงผู้บรรยายตื่นเต้นรายงานผลการแข่งขันฟุตบอลที่เพิ่งจบไป "...ทีมเหย้าเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0..." เสียงนั้นลอยแทรกเข้ามาเป็นฉากหลังของการขยับเคลื่อนไหวในห้องเล็กๆ
มินหยุดฟังเพียงแวบเดียวแล้วส่ายหัว บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่กดปิดทีวี
บางทีเสียงของผู้บรรยายที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเธอเลย บางทีคงช่วยทำให้ความเงียบและความคิดที่หนักอึ้งในอกอาจเบาลงเล็กน้อย
มือน้อยๆของเธอเริ่มถือถุงขยะสีดำออกจากห้องลงไปทิ้ไว้ที่ถังขยะใต้คอนโดขอเธอ แล้วกลับมานั่งมองดูโทรทัศน์อีกครั้ง
คราวนี้ไม่รู้ว่าคนมองจอหรือมองคนกันแน่ เพราะความง่วงได้ถาโถมเข้ามาใส่ตัวเธอจนเธอล้มตัวพิงโซฟาแล้วหลับไปเป็นที่เรียบร้อย
.......
.......
.......
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments