Stories 18 จากปากนิทาน
ตอนนี้นิทานได้เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับหมอณัฐ นิทานได้เห็นว่ามี รุ้งดาว อาทิตย์ และเอมที่ได้ยืนรอคอยนิทานด้วยใจเป็นห่วง “นิ…เดี๋ยวฉันไปส่งแกที่บ้านเองนะ” เอมได้ออกตัวว่าจะพานิทานกลับไปส่งที่บ้าน “นิ…มึงให้คนขับรถบ้านไอแชมป์มารับกลับเถอะ” หมอณัฐได้บอกกับนิทาน “ฉันจะดูแลนิเอง…ไม่ต้องยุ่ง!” เอมได้หันกลับไปตอบหมอณัฐด้วยท่าทีที่หวงในตัวของนิทาน “คุณนิครับ…คุณรามให้ผมมารับคุณนิกลับบ้านครับ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นแทรกทุกบทสนทนา ชายคนนั้นได้ก้มศรีษะเพื่อเป็นการเคารพในตัวของนิทาน “แล้วพี่ปกรณ์ไปไหนคะอาภพ” นิทานเธอได้ถามชายคนนั้นที่ชื่อภพ นิทานเธอเองก็รู้สึกได้ว่าถ้าตอนนี้เธอเลือกที่จะกลับกับเอมหรือรุ้งดาว ถ้าเลือกใดทางหนึ่งมันจะต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อมีคนกลางที่เข้ามาแบบนี้นิทานเธอจึงได้รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เพราะนิทานเธอกลัวว่าตัวเธอจะไปทำร้ายความรู้สึกของรุ้งดาวหรือเอมเข้า “ปกรณ์กลับไปหาคุณรามแล้วคุณรามก็ส่งผมมาแทนครับ” ภพได้บอกให้นิทานรับรู้ถึงสถานการณ์ “นิ…เธอกลับไปกับคนขับรถเถอะ! เดี๋ยวพี่ดูแลน้องสาวพี่เอง” อาทิตย์ได้บอกให้นิทานกลับบ้านไปกับคนขับรถ เพราะเหมือนว่าอาทิตย์เองก็มองออกว่านิทานลำบากใจ
“อาภพ…หนูรบกวนอาภพไปเอารถของหนูกลับมาที่บ้านได้มั้ยคะ” นิทานได้ถามภพผู้เป็นคนขับรถของบ้านวิริยเทพา “เดี๋ยวพี่เอาไปให้เอง…กุญแจรถเราอยู่กับพี่” อาทิตย์ได้บอกกับนิทาน ส่วนรุ้งดาวก็ได้แต่มองนิทานด้วยความห่วงใยและความรู้สึกผิดแต่ก็พูดอะไรไม่ออก “กลับกันเถอะครับคุณนิ” ภพได้เชิญให้นิทานนั้นไปกับเขา “ดาว…” นิทานเธอได้เรียกชื่อของรุ้งดาว “พรุ่งนี้เจอกันนะคะที่รัก” รุ้งดาวเธอได้พูดแทรกนิทานก่อนที่เธอจะเดินจากนิทานไปพร้อม ๆ กับอาทิตย์
“นิ…ฉันขอไปส่งแกที่บ้านนะ” เอมเธอยังคงเป็นห่วงและขอร้องนิทาน “คุณเรมบอกว่าให้คุณนิไปรอที่บ้านครับ…คุณเรมกับคุณวันรักกำลังมาครับ” ภพได้บอกกับนิทาน “เอม…เราโอเค! แกกลับบ้านเถอะ…เดี๋ยวเราต้องคุยกับพ่อแม่ต่ออ่ะ” นิทานเธอได้ปฏิเสธเอมอย่างที่พยายามจะรักษาน้ำใจของเอมไปด้วย เมื่อนิทานเธอพูดจบนิทานเธอก็ได้เดินจากไปกับภพ โดยที่มีหมอณัฐยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ก็ได้เหลือเพียงแต่เอมที่ยืน เสียใจ เจ็บใจ และอีกหลากหลายความรู้สึกอยู่คนเดียว หมอณัฐที่เห็นเอมเป็นแบบนั้นเขาก็สงสารเอม แต่หมอณัฐเขาขอยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ ดีกว่า จากนั้นเอมเธอก็ได้เดินจากไปเหลือแต่หมอณัฐที่ยืนส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความหน่ายใจอยู่คนเดียว “กูไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของพวกมึงสองคนยังไงจริง ๆ ว่ะ” หมอณัฐเขาได้บ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่หมอณัฐจะหันกลับไปทางห้องฉุกเฉินและเดินกลับเข้าไปทำงานของตัวเองต่อไป
เมื่อภพได้มาส่งนิทานจนถึงบ้านแล้วเขาก็ได้ขับรถกลับออกไป นิทานเธอได้เดินเข้าบ้านที่ดูเงียบเหงาของตัวเอง นิทานเธอได้เดินมานั่งที่โซฟากลางบ้านพร้อมกับคิดหลาย ๆ เรื่องไปด้วย “ปี๊บ ปี๊บ” เสียงแจ้งข้อความโทรศัพท์ของนิทานได้ดังขึ้น นิทานเธอจะได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู นิทานเธอก็ได้เห็นว่าข้อความนั้นเป็นของน้องชายตัวแสบของเธอ “เจ้โอเครึเปล่า!” นิทานเธอได้อ่านข้อความของแชมป์ “ฉันตอบกลับแกไม่ได้…แกจะรู้ได้ไงล่ะไอน้องบ้า” นิทานเธอได้บ่นกับตัวเองเบา ๆ ด้วยท่าทีเหมือนจะนอยด์ ๆ
นิทานเธอได้ยินเสียงรถที่มาจอดยังหน้าบ้านของเธอ นิทานเธอเดาได้เลยว่าคนที่มาจอดหน้าบ้านของเธอน่าจะเป็นเรมและวันรักพ่อแม่ของเธออย่างแน่นอน สักพักเสียงประตูก็ได้ดังขึ้นพร้อมวันรักที่เดินเข้ามา “นิทานลูกแม่” วันรักเธอได้วิ่งเข้าไปมาหานิทานด้วยความเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่เป็นดั่งกล่องดวงใจของเธอ โดยที่มีเรมเดินตามหลังเข้ามา “เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวคนเก่งของพ่อกันเนี้ย” เรมเขาได้ถามนิทานด้วยความเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
“เรื่องมันยาวมากเลยค่ะพ่อแม่” นิทานได้พูดกับเรมและวันรัก “พ่อกับแม่มีเวลาฟังหนูเล่าได้ทั้งคืนอ่ะเล่ามาเถอะลูก” เรมเขาได้บอกกับนิทาน “พ่อแม่จำรุ้งดาวเพื่อนสมัยเด็กของหนูได้มั้ยคะ?” นิทานเธอได้ถามเรมกับวันรัก “ที่ย้ายบ้านไปตอนหนูสิบขวบอ่ะเหรอ?” วันรักเธอได้ถามนิทานกลับไป “ใช่ค่ะแม่! หนูหาตัวดาวเจอแล้วนะคะแม่” นิทานเธอได้บอกกับวันรัก “แล้วที่บอกว่าเรื่องมันยาวนี่คือยังไงล่ะลูกแม่?” วันรักเธอได้ถามนิทาน โดยที่มีเรมยืนฟังสองคนแม่ลูกคุยกันอยู่เงียบ ๆ
นิทานเธอได้นิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนที่นิทานเธอจะเริ่มเปิดปากเล่าเรื่องของรุ้งดาวให้กับวันรักและเรมได้ฟัง “หนูได้ไปฝึกงานที่สถาบันจิตเวชศาสตร์มาค่ะ! หนูได้ไปเจอกับดาวที่นั่นในฐานะคนไข้จิตเวชที่รักษาตัวมานานกว่าแปดปี ดาวเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตา ดาวเลยช็อกจนสติหลุดจากนั้นดาวก็เลยกลายเป็นหนึ่งในคนไข้ที่รับมือด้วยยากที่สุด แต่ตอนนี้หนูรักษาดาวได้แล้วนะคะแม่” เรมที่ยืนฟังอยู่ก็ได้ตั้งคำถามกับนิทาน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ลูกถูกทำร้าย?”
นิทานเธอได้นิ่งเงียบอีกครั้งก่อนที่เธอจะตอบเรม “มันมีคนจะมาทำร้ายดาว! หนูก็ไม่รู้เหตุผลของคนพวกนั้น แต่หนูเอาตัวเข้าไปปกป้องดาว สภาพก็เลยเป็นอย่างที่พ่อกับแม่เห็นนี่แหละค่ะ” วันรักเธอได้ลูบหัวนิทานอย่างทนุถนอม “พ่อกับแม่ไม่โทษดาวหรอก…ลูกสบายใจเถอะนะ” วันรักเธอได้ปลอบนิทาน “เอายังไงกันต่อดีคะคุณ” วันรักเธอได้หันไปถามเรม “เราต้องหาตัวคนที่มันร้ายลูกเรามาให้ได้ก่อน…จากนั้นพวกเราถึงจะได้รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร?” เรมเขาได้ตอบกลับวันรัก
นิทานเธอได้จับมือของวันรักที่กำลังลูบหัวของเธอ “จะอ้อนอะไรแม่คะลูก” วันรักเธอได้ถามนิทาน “หนูรักพ่อกับแม่นะคะ” นิทานเธอได้บอกรักเรมและวันรัก “จะเอาอะไรว่ามาลูกพ่อ?” เรมเขาได้ได้ถามนิทานกลับไปทันที “หนูอยากจะพาดาวกลับไปอยู่บ้านเก่าของเราน่ะค่ะ” นิทานเธอได้บอกความต้องการของเธอให้กับเรมและวันรักได้รับรู้ “แม่เข้าใจแล้วจ่ะ…ถ้าหนูตัดสินใจดีแล้วแม่ก็เคารพการตัดสินใจของหนูนะ! แล้วคุณล่ะคะ?” วันรักเธอพูดกับนิทานพร้อมหันไปถามเรม “คุณว่ายังไงผมก็ว่าแบบนั้นแหละ” เรมตอบกลับวันรักอย่างเข้าใจ
“แม่ลูกคุยกันไปดูแลกันไปนะ…เดี๋ยวผมขอไปที่บ้านวิริเทพาหน่อย! ผมจะไปเอาคำตอบจากพี่รามเรื่องลูกของเราหน่อย…เดี๋ยวผมกลับมา” เรมได้บอกกับวันรักและนิทาน “อย่าฝืนร่างกายนะคะคุณ…ฉันเป็นห่วงค่ะ!” วันรักเธอได้บอกกับเรมด้วยความเป็นห่วง “ขอบคุณครับ…รักคุณกับลูกนะครับ” เมื่อเรมพูดจบเรมเขาก็ได้เดินจากไปและปล่อยให้สองแม่ลูกได้คุยกันแบบผู้หญิง ๆ
“หนูอยากแต่งงานกับดาวมั้ยลูก” วันรักเธอได้ถามนิทานพร้อมกับยังคงลูบหัวของนิทานอยู่ “งั้นหนูแต่งนะคะ” นิทานเธอได้พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “จ่ะ” วันรักเธอเพียงสั้น ๆ พร้อมกับดึงนิทานเข้ามากอดด้วยความรัก ความเอ็นดู ในตัวของลูกสาวตัวเอง “ขอบคุณนะคะแม่” นิทานเธอพูดออกมาจากในอ้อมกอดของวันรัก “แค่หนูมีความสุขพ่อกับแม่ก็ดีใจแล้วล่ะ” วันรักเธอพูดไปพร้อมกับที่กอดนิทานไปด้วย
เมื่อทั้งสองคนได้ปล่อยอ้อมกอดออกจากกันแล้ววันรักเธอจึงถามหาแชมป์กับนิทาน “แล้วแชมป์ไปไหนเหรอลูก…เห็นตัวติดกันออกปานนั้น” วันรักเธอได้ถามนิทานด้วยความสงสัย “น้องหนีออกจากบ้านค่ะแม่…หนูว่าแม่น่าจะเดาได้นะคะว่าทำไม?” นิทานได้บอกพร้อมกับถามวันรักกลับไป “แล้วน้องได้ติดต่อมาหาหนูมั้ย?” วันรักเธอได้ถามนิทาน “ติดต่อมาอยู่บ้างค่ะแม่…แต่น้องบอกว่าถึงเวลาน้องจะกลับมาหาหนูแน่นอนค่ะ” นิทานได้นำคำพูดของแชมป์มาบอกกับวันรัก “ชวนน้องไปอยู่ที่บ้านด้วยกันสิลูก…เดี๋ยวพ่อกับแม่ช่วยดูแลให้เอง” วันรักเธอได้เสนอกับนิทาน “เอาไว้หนูจะลองคุยกับน้องดูนะคะ” นิทานเธอได้ตอบรับข้อเสนอของวันรักด้วยความเต็มใจ
ณ บ้านวิริยเทพา
เรมเขาได้เดินเข้ามาในบ้านวิริยเทพาเพื่อไปหารามพี่ชายของเขาเพื่อที่จะถามเรื่องของลูกสาวคนเดียวอย่างนิทาน เรมได้เดินตรงไปหารามที่ห้องทำงาน ในขณะที่รามเองก็รู้อยู่เหมือนกันว่าเรมน้องชายของเขาจะต้องมาคาดคั้นเรื่องของนิทานแน่ ๆ เมื่อเรมเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานเรมก็ได้เห็นว่ารามนั่งอยู่ในห้องทำงานราวกับว่ารามนั้นกำลังรอเรมอยู่ “ผมขอคำอธิบายเรื่องนิทานหน่อย?” เมื่อเรมเจอหน้ารามเรมก็ได้ถามเรื่องของนิทานกับรามทันทีโดยไม่ได้มีแต่คำทักทายกัน “นี่แกไม่คิดจะทักทายพี่ชายของตัวเองหน่อยเลยรึไง?” รามเขาได้ตั้งคำถามกับเรม
เมื่อเรมได้ฟังแบบนั้นแล้วเขาจึงเดินไปที่เก้าอี้และนั่งลงที่เก้าอี้ “ผมได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจพี่สะดุดนี่…มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?” เรมเขาได้ถามกับรามด้วยความสงสัย “เพราะไอลูกทรพีของฉันไง” รามได้สบถคำพูดออกมาด้วยความโกรธ “เกิดอะไรขึ้น?” เรมเขาได้ตั้งคำถามกับราม “ไอลูกทรพีมันหนีออกจากบ้านไป” รามได้กัดฟันพูดด้วยความโกรธ “ว่าไงนะ!” เรมเขาได้อุทานออกมา “นี่แกไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้?” รามเขาได้มองหน้าเรมและตั้งคำถามกับเรม “นิทานไม่ได้เล่าอะไรให้ผมฟังเลย…ผมเองก็เพิ่งรู้จากปากพี่ หรือพี่คิดว่าผมกำลังให้ท้ายหลานงั้นเหรอ?” เรมเขาได้ตั้งคำถามกับรามด้วยความตกใจ “เอาเถอะ…ครั้งนี้ฉันจะเชื่อแกก็ได้ ส่วนเรื่องนิทานฉันกำลังให้ปกรณ์สืบอยู่ ถ้าได้เรื่องอะไรเดี๋ยวฉันบอกอีกทีก็แล้วกัน” รามเขาตอบกลับเรม
เรมที่ฟังรามพูดจบแล้วเขาก็ได้ถามราม “พี่จะทำยังไงกับลูกพี่?” รามได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรเรม “ผมขอนะพี่…ถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง พี่ก็ปรับเข้าใจกันเถอะ…อย่าไปเผด็จการกับลูกพี่อีกเลยไม่ว่าจะแชมป์หรือเอิร์ธก็ตาม” เรมเขาก็เข้าใจสถานการณ์บ้านของรามดี เรมเขาจึงไม่อยากให้รามทำผิดพลาดไปมากกว่านี้ “ฉันตั้งใจว่าจะให้ไอแชมป์มันมาบริหารธุรกิจต่อจากฉัน…เพราะมันต้องเป็นเสาหลักต่อจากฉัน เพราะแบบนี้มันถึงต้องเดินบนเส้นทางที่ฉันปูทางเอาไว้ให้” รามเขาได้ตอบกลับเรม
เรมเขารู้ตัวแล้วว่าต่อให้เขาจะพูดอะไรไปรามก็คงไม่เปลี่ยนความคิด เรมเขาจึงทำได้แต่แอบสงสารแชมป์อยู่ในใจเพียงเท่านั้น “เออเรม…นิทานได้เล่าอะไรให้แกฟังบ้าง?” รามเขาได้ตั้งคำถามกับเรม “นิทานปกป้องเพื่อนสมัยเด็กเอาไว้…เห็นว่าเป้าหมายของคนพวกนั้นมันไม่ใช่นิทานแต่แรก” เรมได้บอกเล่าให้รามได้ฟัง “ออกตัวรับแทนงั้นสินะ” รามได้บ่นออกมาเบา ๆ “ใช่พี่…แล้วจะได้ตัวพวกมันมามั้ย?” เรมได้ตั้งคำถามกับราม “เรื่องนั้นฉันจะจัดการให้แกเอง” รามได้ตอบกลับเรม
“อ่อ…ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้! ฝากบอกนิทานด้วยนะว่าให้ไอลูกทรพีนั่นมันกลับบ้านมาทำหน้าที่ของมันได้แล้ว เพราะถ้าฉันหมดความอดทนเมื่อไหร่ชีวิตมันจะไม่ได้มีอิสระอะไรอีกเลย” รามได้บอกกับเรม เพราะรามรู้ดีว่าแชมป์นั้นต้องติดต่อกับนิทานอย่างแน่นอน เพราะสองคนพี่น้องคู่นี้รักกันออกปานนั้นยังไงทั้งสองคนก็ตัดกันไม่ขาด เรมที่ฟังรามพูดจบแล้วก็ได้แต่คิดสงสารแชมป์ สงสารที่แชมป์ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เรมจึงได้คิดว่าปล่อยให้แชมป์หนีไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เมื่อเรมออกมาจากบ้านวิริยเทพาแล้วเรมจึงได้โทรบอกกับวันรักว่าตอนนี้เขากำลังจะกลับไปหาวันรักและนิทานที่บ้าน วันรักเธอก็ได้รู้แล้วว่าสามีของเธอกำลังจะกลับมาบ้าน ในขณะที่นิทานก็เกะติดกับวันรักไม่ปล่อย “เข้านอนได้มั้ยแล้วลูก?” วันรักเธอได้ถามนิทานด้วยความเป็นห่วง “หนูขอรอพ่อกลับมาก่อนนะคะแม่” นิทานเธอได้ตอบกลับวันรักด้วยความเป็นห่วงเรม วันรักและนิทานยังคงนั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางบ้านเพื่อรอการกลับของเรม
“ยังเจ็บแขนยู่มั้ยลูกสาวแม่?” วันรักเธอได้ถามถึงอาการของนิทาน “ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยค่ะแม่…แต่หนูยังสบายดีอยู่ แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ” นิทานเธอได้ตอบกลับวันรักอย่างมีกำลังใจ “จากที่ลูกเล่ามา…แม่ว่าชีวิตของดาวน่าสงสารมากเลยนะลูก” วันรักเธอได้พูดถึงรุ้งดาวกับนิทาน “ตอนนี้หนูไม่สงสารหรอกค่ะ…แต่หนูรักของหนูมากกว่า” นิทานเธอได้ตอบวันรักอย่างมีความสุข ในขณะที่วันรักเองก็เข้าใจในความรู้สึกของนิทานเป็นอย่างดี
และแล้วเรมก็ได้กลับมาถึงบ้าน เมื่อเรมเดินเข้ามาในบ้านเขาก็ได้เจอกับคำถามของวันรักทันที “ไปคุยกับพี่รามได้เรื่องอะไรบ้างมั้ยคะคุณ?” เรมเขาได้ยืนมองสองคนแม่ลูกที่เกะติดกันราวกับปลาท่องโก๋ก่อนที่จะตอบกลับวันรัก “พี่รามบอกว่าเขาจะหาตัวคนทำมาให้…แต่พ่ออยากจะขออะไรลูกสักเรื่องได้มั้ย?” เรมได้ตั้งคำถามกับนิทาน “ได้สิคะพ่อ” นิทานเธอตอบรับคำขอของเรมอย่างเต็มใจ “ปิดเรื่องของน้องไว้เป็นความลับ…อย่าส่งตัวน้องกลับบ้านนั้นเด็ดขาด พ่อไม่อยากเห็นแชมป์ต้องทรมานอีกแล้ว” เรมได้พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา “หนูเองก็คิดแบบเดียวกันกับพ่อนะคะ” นิทานเธอได้บอกให้เรมรู้ว่าเธอเองก็คิดเหมือนกับเรม
วันรักเธอได้มองหน้าเรมด้วยความมึนงงก่อนที่เธอจะถามเรม “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณ” เรมได้เดินมานั่งข้าง ๆ วันรักและเอามือตีมาที่ตักของวันรักเบา ๆ “พี่รามเขาต้องการเปลี่ยนให้แชมป์เป็นเพียงนกในกรง…คุณคิดว่าพวกเราควรจะปกป้องแชมป์มั้ย?” วันรักเธอได้จับที่มือของเรม “ถ้าคุณบอกว่าคุณจะปกป้องแชมป์…ฉันกับนิทานก็พร้อมจะสนับสนุนคุณค่ะ” วันรักเธอพูดด้วยความรู้สึกที่เข้าใจความรู้สึกของเรม “ขอบคุณนะคะพ่อ…ที่เข้าใจในตัวน้อง” นิทานเธอได้พูดกับเรม
เรมเขาได้มองหน้าของนิทานก่อนจะถามนิทาน “แล้วลูกกับดาวล่ะว่ายังไง?” นิทานเธอฟังคำถามของเรมแล้วเธอจึงได้ยิ้มให้กับเรม “ฉันให้ลูกแต่งนะคะ” วันรักเธอได้ชิงตอบเรมไปก่อนที่นิทานจะได้ตอบอะไรเรม “คุณให้แล้วผมก็ไม่มีปัญหาครับ” เรมได้ตอบกลับวันรัก “คุณไปอาบน้ำนอนเถอะค่ะ…คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” วันรักเธอได้บอกกับเรม และแล้วเรมเขาก็ได้เดินจากไปและปล่อยให้สองคนแม่ลูกได้อ้อนกันต่อไป
“ไปนอนได้แล้วนะลูก…เดี๋ยวแม่ไปส่งเข้านอน” วันรักเธอได้พูดไปพร้อม ๆ กับที่กำลังกอดนิทานอยู่ด้วย “ค่ะแม่” นิทานเธอได้ตอบกลับวันรัก ทั้งสองคนแม่ลูกจึงได้พากันขึ้นไปบนห้องนอนของนิทาน เมื่อวันรักเธอได้ส่งนิทานเข้านอนแล้ว วันรักเธอได้เดินกลับมาดูเรม แต่เธอกลับพบว่าเรมนั้นยังไม่หลับ “ยังไม่นอนเหรอคุณ?” วันรักเธอได้ถามเรม “ผมรอคุณอยู่น่ะครับ” เรมได้ตอบกลับวันรัก “ฉันรู้ค่ะว่าคุณอยากจะพูดอะไร…แต่ลูกของเราหนักแน่นในความรู้สึกมาก ๆ ฉันจึงยอมรับการตัดสินใจของลูก” วันรักเธอได้ตอบคำถามทั้งหมดในใจของเรมจนสิ้นสงสัย
วันต่อมา
ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้มานั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน “เดี๋ยวแม่กับพ่อต้องกลับไปเคลียร์งานต่อ…ลูกอยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย?” วันรักเธอได้ถามนิทานในขณะที่นั่งทานข้าวกันไปด้วย “ไม่เป็นไรค่ะแม่…เดี๋ยวดาวจะมาอยู่ดูแลหนูเองค่ะ! พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ” นิทานเธอได้ตอบกลับคำถามวันรักอย่างชิลล์ ๆ สบาย ๆ “อีกไม่กี่เดือนลูกพ่อก็จะเรียนจบแล้วสินะ…กลับบ้านคราวนี้พาดาวมาหาพ่อกับแม่ด้วยสิ” เรมได้บอกกับนิทาน เมื่อทั้งสามคนได้ทานข้าวกันจนเสร็จสรรพแล้ว ก็ถึงเวลาที่เรมกับวันรักต้องกลับบ้านกันแล้ว นิทานเองก็ได้เดินออกมาส่งเรมกับวันรักที่รถ
“แม่กับพ่อกลับก่อนนะคะลูกรักของแม่” วันรักเธอได้ร่ำลานิทานพร้อมกับกอดนิทานก่อนที่เรมและวันรักจะขึ้นรถและขับรถจากไป นิทานเธอได้มองดูเรมและวันรักที่ขับรถออกไป นิทานเธอรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของเธอ ที่เรมและวันรักมีแต่ความเข้าใจกับเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต จนทำให้นิทานเธอไม่เคยรู้สึกขาดอะไรในชีวิตนี้เลย นิทานเธอได้กลับเข้าบ้านเพื่อไปนั่งรออาทิตย์ที่จะรุ้งดาวและรถของเธอกลับมาส่งให้เธอที่บ้าน นิทานเธอได้แต่นั่งคิดถึงรุ้งดาวอยู่ตลอด เพราะเมื่อตอนที่แยกกันนั้นนิทานเธอสัมผัสได้ว่ารุ้งดาวนั้นยังคงโทษตัวเองอยู่ แต่นิทานเธอกลับไม่มีความคิดที่จะโกรธหรือโทษรุ้งดาวเลยแม้แต่น้อย
ในที่สุดรถของนิทานก็ได้มาจอดที่หน้าบ้านของนิทาน นิทานเธอก็ได้รู้แล้วอาทิตย์กับรุ้งดาวได้มาหาเธอแล้ว รุ้งดาวและอาทิตย์ได้เข้ามาในบ้านของนิทาน ทั้งสองพี่น้องก็ได้เห็นว่านิทานนั้นกำลังนั่งรอทั้งสองคนอยู่ “นิ” รุ้งดาวเธอได้เรียกนิทานด้วยความห่วงใย “คิดถึงจังเลย…มาให้กอดหน่อยสิที่รัก” นิทานเธอได้เชื้อเชิญให้รุ้งดาวเข้ามาในอ้อมกอดของเธอ รุ้งดาวเธอได้ยืนสะอึกสะอื้นก่อนที่จะเดินไปหานิทาน รุ้งดาวเธอได้นั่งลงข้าง ๆ นิทาน จากนั้นรุ้งดาวเธอได้กอดนิทานด้วยความรักและความห่วงใย
“พี่ฝากนิดูแลดาวด้วยนะนิ” อาทิตย์ได้ฝากฝังรุ้งดาวเอาไว้กับนิทาน ในขณะที่นิทานเธอก็ได้กอดกับรุ้งดาวพร้อมกับพยักให้กับอาทิตย์ เพื่อเป็นสัญญาณบอกกับอาทิตย์ว่าเธอเข้าใจแล้ว นิทานเธอได้กอดรุ้งดาวด้วยความคิดถึง ส่วนภายในใจของรุ้งดาวนั้น เธอยังคงรู้สึกผิดกับนิทานอยู่อย่างเต็มหัวใจ “ดาว…เรารักดาวนะ” นิทานเธอได้บอกรักรุ้งดาวอย่างอ่อนโยน “เราก็รักนินะ…รักนิที่สุดเลย” รุ้งดาวเธอได้บอกรักนิทานกลับไปพร้อมกับที่อยู่ในอ้อมกอดของนิทาน
อาทิตย์ได้ยกมือโบยเป็นสัญญาณให้กับนิทานได้รับรู้ว่าเขาจะกลับแล้ว นิทานเธอจึงได้พยักหน้ารับสัญญาณจากอาทิตย์ จากนั้นอาทิตย์จึงได้เดินจากไปเหลือไว้เพียงแค่นิทานกับรุ้งดาว “ดาว…” นิทานเธอได้เรียกรุ้งดาว “คะ” รุ้งดาวเธอได้ตอบรับพร้อมกับมองหน้าของนิทาน จากนั้นนิทานก็ได้จูบรุ้งดาวอย่างทะนุถนอมและทั้งสองคนก็จูบกันด้วยความรักอย่างอ่อนโยนและโหยหากันและกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments