Stories 17 รับแทน

Stories 17 รับแทน

วันต่อมา

หมอนิทานเธอได้มาทำงานตามปกติ และแล้วพักกลางวันในวันนี้สามเพื่อนสนิทก็ได้มานั่งร่วมโต๊ะอาหารกัน แต่มันกลับเป็นบรรยากาศที่นิ่งเงียบและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ครุ่กรุ่นอย่างบอกไม่ถูก หมอนิทานเธอไม่อยากจะทนกับความรู้สึกแบบนี้อีกต่อแล้ว นิทานเธอจึงได้เริ่มเปิดปากถามหมอเอมไปตรง ๆ “เอม…เราจะกลับมาดีกันไม่ได้แล้วเหรอ?” หมอเอมที่ได้ยินหมอนิทานพูดออกมาแบบนั้นแล้ว หมอเอมเธอจึงเริ่มเปิดปากพูดกับหมอนิทานเช่นกัน “ฉันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร…แต่ฉันก็รักแกเหมือนกันป่ะวะนิทาน?” เมื่อหมอนิทานเธอได้ยินหมอเอมเธอพูดมาแบบนั้นแล้วเธอก็ได้แต่นิ่งเงียบและก็พูดอะไรไม่ออก “เห็นมั้ยล่ะ! แกก็ยังไม่มองฉันอยู่ดี…ฉันเจ็บนะแกรู้บ้างป่ะ?” หมอเอมเธอได้เปิดเผยความในใจของตัวเองให้กับหมอนิทานได้รับรู้ แต่สุดท้ายแล้วหมอนิทานเธอก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกของหมอเอมยังไงอยู่ดี “ถ้าแกจะไม่อะไรกับฉัน…แกก็ปล่อยฉันไว้แบบนี้ดีกว่านะนิ” หมอเอมเธอได้พูดออกมาเพราะเธอรู้ว่าหมอนิทานก็ทำอะไรไม่ได้หรอก หมอณัฐก็ได้แต่นิ่งไม่พูดอะไรและได้แต่มองทั้งสองคนอยู่แบบนั้น

เมื่อหมอเอมเธอพูดจบเธอก็ได้ลุกหนีหมอนิทานไป “มันอุตส่าห์มานั่งด้วยก็ดีแล้ว…มึงก็ไม่น่าไปจี้ต่อมมันเลยไอนิ” หมอณัฐได้พูดด้วยอารมณ์ที่หน่ายใจกับหมอนิทาน “แล้วมึงรู้บ้างมั้ยล่ะว่ากูโคตรอึดอัดเลย กูไม่โอเคเลย ที่เห็นเอมมีนเป็นแบบนี้อ่ะ” หมอนิทานได้พูดเชิงใส่อารมณ์กับหมอณัฐ “พวกมึงนี่ก็แปลกดีเนอะ…ห่วงกันไปห่วงกันมาแต่กลับไม่รักกัน” หมอณัฐได้จิกกัดเชิงประชดกับหมอนิทาน “มึงก็รู้นี่ว่าทำไมกูถึงรักไม่ได้!” หมอนิทานได้พูดเชิงสื่อเป็นนัย ๆ กับหมอณัฐ “เออ…กูรู้!” หมอณัฐตอบกลับหมอนิทาน

หลังจากที่พักกลางวันของหมอนิทานจบลงแล้ว หมอนิทานจึงกลับมาทำงานต่อ โดยที่ในใจของหมอนิทานลึก ๆ เองก็ยังคงคิดเรื่องของหมอเอมอยู่ด้วยว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี เพราะตอนนี้หมอนิทานก็ได้พยายามคิด เพราะหมอนิทานเธอไม่อยากจะต้องอยู่แบบกระอักกระอ่วนใจกับหมอเอมแบบนี้อีกแล้ว เพราะในฐานะเพื่อนแล้วหมอนิทานก็ไม่อยากที่จะเสียหมอเอมไปเช่นกัน มันเลยทำให้หมอนิทานนั้นต้องรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก

และแล้วเวลานั้นก็ได้ล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงานของหมอนิทาน หมอนิทานเธอได้เตรียมเก็บของเพื่อที่จะไปหารุ้งดาวที่บ้านเหมือนเฉกเช่นทุกวัน สิ่งนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของหมอนิทานไปแล้วนั่นเอง เมื่อนิทานเธอเก็บของเสร็จแล้วเธอก็ได้มาจนถึงที่รถของเธอ เมื่อนิทานเธอขึ้นรถมาแล้วเธอก็ได้แชทหารุ้งดาวว่าตอนนี้เธอเลิกงานแล้ว เธอกำลังจะขับรถไปหารุ้งดาวที่บ้านแล้ว เมื่อหมอนิทานพิมพ์ข้อความบอกกับรุ้งดาวเสร็จแล้ว หมอนิทานเธอก็ได้ขับรถออกไปในทันที

16.00 น.

ในขณะที่อีกด้านรุ้งดาวเองเธอก็อยากลองใช้ชีวิตในโลกภายนอกอย่างที่นิทานได้บอกกับเธอไว้ วันนี้รุ้งดาวเธอเลยขอเป็นคนไปจ่ายตลาดแทนอิงฟ้า เพราะรุ้งดาวเธอนั้นอยากให้นิทานนั้นได้มาเห็นว่าเธอก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ รุ้งดาวเธออยากได้คำชื่นชมจากนิทานผู้เป็นโลกทั้งใบของเธอ ในขณะเดียวกันกับที่นิทานนั้นก็กำลังจะไปหาเธอที่บ้าน รุ้งดาวได้เดินไปจ่ายตลาดแทนอิงฟ้าที่ตลาดซอยข้าง ๆ ซอยบ้านของเธอ และรุ้งดาวเธอก็ได้ค่อย ๆ เดินซื้อของที่อิงฟ้าจดใส่กระดาษมาให้เธอทีละชิ้นสองชิ้น ในขณะที่นิทานก็ได้มาถึงบ้านของรุ้งดาวและได้รับรู้เรื่องราวจากอิงฟ้า นิทานเธอเลยรู้สึกเป็นห่วงในตัวของรุ้งดาว นิทานเธอเลยจะขับรถไปหารุ้งดาวที่ตลาด

เมื่อนิทานได้ออกมาจากบ้านของรุ้งดาว นิทานก็ได้เห็นว่ารถของบ้านวิริยเทพานั้นจอดอยู่ และคนที่อยู่ในรถคันนั้นก็คือปกรณ์นั่นเอง แต่นิทานเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว นั่นก็เพราะเธอรู้แล้วว่าปกรณ์นั้นอยู่ฝ่ายเดียวกันกับแชมป์ผู้เป็นน้องชายที่เธอรักและห่วงที่สุด นิทานเธอได้เดินมาขึ้นรถของเธอเพื่อที่จะขับรถไปหารุ้งดาวที่ตลาด แต่ด้วยความที่นิทานเธออยากที่จะเซอร์ไพรส์รุ้งดาว นิทานเธอจึงไม่ได้บอกรุ้งดาวแต่แรก และตัวของนิทานเองก็อยากที่จะแอบดูพัฒนาการของรุ้งดาวด้วย นิทานเธออยากจะรู้ว่ารุ้งดาวจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้หรือเปล่า นั่นก็เพราะว่ารุ้งดาวนั้นไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดามาเป็นเวลา 8 ปี จึงต้องคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอด

นิทานเธอได้ขับรถมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดเธอก็ได้มาถึงตลาด เมื่อนิทานเธอจอดรถเสร็จแล้วเธอก็ได้ลงจากรถไปเดินหาตัวของรุ้งดาว แต่เมื่อนิทานเดินไปและเดินมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าหลายรอบก็กลับไม่พบแม้แต่วี่แววของรุ้งดาวเลย นั่นจึงทำให้นิทานได้คิดว่ารุ้งดาวอาจจะสวนกับเธอก็เป็นไปได้ เพราะว่าซอยบ้านของรุ้งดาวกับตลาดนั้นมันสามารถที่จะเข้าออกได้หลายทิศทาง บางทีรุ้งดาวอาจจะใช้เส้นทางที่คนเขานิยมเดินกันก็เป็นไปได้

ในขณะที่อีกด้านตัวของรุ้งดาวนั้นเธอก็ได้เดินมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะกลับไปบ้านของเธออย่างสบายใจ เพราะตัวของรุ้งดาวนั้นเธอคิดว่าในวันนี้นั้นเธอจะต้องได้รับคำชื่นชมจากนิทานผู้เป็นแฟนสาวของเธออย่างแน่นอน แต่เมื่อรุ้งดาวเธอเดินไปได้สักพักตัวเธอก็กลับมีความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่ากำลังมีใครบางคนนั้นได้เดินตามเธออยู่ข้างหลัง เมื่อรุ้งดาวเธอหันไปมองด้านหลังแล้วก็กลับไม่พบใคร

แต่เมื่อรุ้งดาวเธอหันหน้ากลับมารุ้งดาวเธอกลับได้พบชายคนหนึ่งในชุดสีดำทั้งตัวและคลุมหมวกไอ้โม่ง ชายคนนั้นได้ง้างมือตบไปที่ใบหน้าอันเนียนนุ่มของรุ้งดาว เมื่อรุ้งดาวเธอถูกชายคนนั้นตบแล้วรุ้งดาวเธอก็ได้ล้มลงไปที่พื้นพร้อมกับข้าวของในมือของเธอ จากนั้นก็ได้มีชายอีกสามคนปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของรุ้งดาว ตอนนี้รุ้งดาวเธอได้ถูกเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนยืนล้อมรุ้งดาวเอาไว้ ตอนนี้รุ้งดาวเธอกำลังตื่นตระหนกตกใจด้วยความกลัวอย่างสุดขีด รุ้งดาวเธอทั้งกลัว ทั้งสับสน รุ้งดาวเธอไม่รู้เลยว่าเหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่

แต่เมื่อชายที่อยู่ด้านหลังของรุ้งดาวที่ได้ถือไม้หน้าสามมาด้วย เขาได้ง้างมือและยกไม้หน้าสามเตรียมที่ฟาดเข้าไปที่กลางศรีษะของรุ้งดาว ก็ได้ปรากฏแขน ๆ หนึ่งที่ได้ยื่นมารับไม่หน้าสามนั้นเอาไว้แทนศรีษะของรุ้งดาว และแขน ๆ นั้นก็คือแขนของนิทานที่ตามมาช่วยรุ้งดาวเอาไว้ ร่างของนิทานได้ทรุดลงไปกับพื้นข้าง ๆ ตัวของรุ้งดาว ตอนนี้แขนของนิทานที่ได้ถูกไม้หน้าสามฟาดไปก็ได้หักไปแล้ว ตอนนี้นิทานเธอรู้สึกเจ็บที่บริเวณที่ถูกไม้หน้าสามตีอย่างมาก “นี่พวกแกเป็นใครพวกแกมาทำร้ายดาวทำไม” นิทานได้ตะคอกถามเหล่าชายฉกรรจ์เหล่านั้นด้วยความเจ็บปวด

ในขณะที่รุ้งเธอได้เห็นว่านิทานปกป้องเธอและถูกเหล่าชายฉกรรจ์เหล่านั้นทำร้าย มันจึงให้รุ้งดาวเธอสติแตกเพราะห่วงนิทานและร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาของรุ้งดาวที่ไหลลงมาราวกับเขื่อนแตก รุ้งดาวเธอได้แต่กลัวว่านิทานจะเป็นอะไรไป แต่เมื่อชายฉกรรจ์เหล่านั้นเห็นว่านิทานเข้ามาพัวพันด้วยแล้วแบบนี้ ชายฉกรรจ์เหล่านั้นจึงได้คิดที่จะทำร้ายนิทานไปด้วย

แต่และแล้วปกรณ์ก็ได้พุ่งเข้ามาต่อยตีกับชายฉกรรจ์เหล่านั้นเพื่อปกป้องนิทานและรุ้งดาว เมื่อชายฉกรรจ์ทั้งสี่ต่อสู้กับปกรณ์ไปมา เขาก็พบว่าเขาไม่สามารถที่จะสู้ปกรณ์ได้ เพราะไม่ว่าเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งสี่จะถาโถมใส่โจมตีปกรณ์ยังไง ก็ถูกปกรณ์บล็อคเอาไว้ได้และสวนกลับไปได้หมด ชายฉกรรจ์ทั้งสี่จึงได้ล่าถอยและหนีไป ตอนนี้ก็เหลือเพียงนิทานที่ถูกทำร้าย รุ้งดาวที่เอาแต่ร้องไห้สติแตกไม่หยุด และปกรณ์ที่เข้ามาช่วยทั้งสองคนเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี ปกรณ์เขาได้ยืนมองดูคนรักทั้งสองคนเป็นห่วงกันและกันอยู่เบื้องหน้า

นิทานเธอได้ใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกทำร้ายมาอุงที่แก้มของรุ้งดาวเพื่อเรียกสติของรุ้งดาวกลับมา “ดาว…เราไม่เป็นอะไร! หยุดร้องไห้ได้แล้ว” นิทานเธอได้ปลอบรุ้งดาวไปด้วยทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน “นิ…เราขอโทษ เราขอโทษ เราขอโทษ!” รุ้งดาวเธอได้แต่ฟูมฟายและร้องขอโทษนิทานซ้ำ ๆ รุ้งดาวเธอได้แต่พูดคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด นิทานเธอจึงได้ดึงรุ้งดาวเข้ามากอดด้วยแขนข้างเดียวที่มี

“คุณนิไหวมั้ยครับ” ปกรณ์เขาได้ถามนิทานที่กำลังกอดกับรุ้งดาวอยู่ “นิยังไหวอยู่ค่ะพี่ปกรณ์” นิทานเธอได้ตอบปกรณ์พร้อมกับกอดปลอบรุ้งดาวไปด้วย “ดาวหยุดร้องไห้ได้แล้วเราไม่เป็นอะไร” นิทานเธอได้ปลอบรุ้งดาว “นิ…นิอย่าเป็นอะไรนะ” รุ้งดาวเธอยังคงร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ “คุณดาวครับ! ผมว่าเรารีบพาคุณนิไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ” เมื่อปกรณ์พูดจบปกรณ์จึงได้เข้าไปประคองนิทานให้ลุกขึ้นยืนและรุ้งดาวเธอก็ได้ลุกขึ้นด้วย

ตอนนี้รุ้งดาวเธอพะว้าพะวงเพราะความที่เป็นห่วงนิทานเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้รุ้งดาวเธอจะเลิกฟูมฟายแล้วแต่เธอก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด ปกรณ์จึงได้มาปฐมพยาบาลให้กับนิทานแล้วพานิทานและรุ้งดาวไปที่รถของเขา เมื่อนิทานและรุ้งดาวได้ขึ้นนั่งที่เบาะหลังแล้ว ปกรณ์เขาก็ได้ขับรถพานิทานไปส่งโรงพยาบาลทันที ตอนนี้ทั้งสามคนก็ได้มาถึงโรงพยาบาลแล้ว นิทานก็ได้ถูกนำตัวไปยังห้องฉุกเฉินทันทีโดยมีรุ้งดาวและปกรณ์ได้รออยู่ด้านนอก “พี่คะ…นิจะเป็นอะไรมั้ยคะ” รุ้งดาวเธอได้หันไปถามกับปกรณ์ทั้งน้ำตา “คุณนิอยู่ในมือหมอแล้วนะครับ…คุณดาวไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ปกรณ์เขาได้พูดให้รุ้งดาวนั้นได้คลายกังวล

เมื่อนิทานเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว ก็ปรากฏว่าหมอณัฐเองก็อยู่ในห้องฉุกเฉินเช่นกัน หมอณัฐได้เดินมาซักถามอาการของนิทาน “คนไข้โดนอะไรมาครับ?” หมอณัฐได้เริ่มถามนิทาน “ถูกคนร้ายและตีแขนมาจนแขนหักค่ะหมอ” นิทานเธอได้บอกเรื่องราวและอาการกับหมอณัฐ หลังจากนั้นนิทานก็ได้นอนรอรับการรักษาจากหมอ แต่หมอณัฐได้ออกจากห้องฉุกเฉินมาโทรบอกเอมว่านิทานถูกทำร้ายมาจนต้องเข้าโรงพยาบาล

เมื่อเอมเธอได้ข่าวจากหมอณัฐเธอจึงได้วางสายจากหมอณัฐเพื่อที่จะมุ่งตรงมายังโรงพยาบาลเพื่อมาดูนิทานทันที ตอนนี้รุ้งดาวได้เฝ้ารอคอยนิทานอย่างใจจดใจจ่อ แต่ปกรณ์ได้แยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ และคนที่ปกรณ์กำลังโทรไปหาอยู่นั้นก็คือแชมป์ “คุณแชมป์ครับ…คุณนิถูกทำร้ายครับ” แชมป์ที่อยู่ปลายสายจึงได้พูดโต้ตอบกับปกรณ์ “เป้าหมายของพวกมันคือพี่ดาวสินะ” เมื่อปกรณ์ฟังจบปกรณ์จึงได้ตอบกลับแชมป์ “ใช่ครับคุณแชมป์” ตอนนี้แชมป์รู้สึกโมโหและโกรธแค้นแทนนิทานเป็นอย่างมาก

“พี่ปกรณ์ครับ…เจอตัวพวกมันเจอเมื่อไหร่พี่บอกผมด้วยนะครับ” แชมป์ออกคำสั่งกับปกรณ์ให้ปกรณ์นั้นตามสืบหาตัวคนที่ทำร้ายนิทานมาให้ได้ จากนั้นแชมป์จึงได้วางสายจากปกรณ์ไป และแชมป์ก็ได้กดโทรศัพท์โทรออกหาสองเพื่อนซี้ทันที “พวกมึง…เกิดเรื่องแล้ว! เจ้ถูกทำร้าย…ถึงเวลาที่พวกเราต้องรวมตัวกันละ เอาเป็นว่าเดี๋ยวได้เรื่องแล้วกูจะบอกอีกที เตรียมตัวกันเอาไว้ให้พร้อม” แชมป์ได้บอกให้สองเพื่อนซี้อย่างธีมและแดนให้รู้เรื่องของนิทาน “งานนี้คงได้ออกกำลังกายอีกแล้วล่ะสิ?” ธีมได้ตั้งคำถามกับแชมป์

“ปรึกษาผู้ใหญ่จะไม่ดีกว่าเหรอ…เรื่องนี้มันใหญ่มากเลยนะเว้ย” แดนได้ถามแชมป์และธีม “กูมั่นใจว่ากูกับไอแชมป์เอาอยู่…มึงไม่ต้องคิดมากหรอกหน่าไอแดน” ธีมได้บอกกับแดนเพื่อไม่ให้แดนฟุ้งซ่าน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล “กูไม่ได้ห่วงเรื่องฝีมือของพวกมึง…แต่กูห่วงว่าเรื่องมันจะบานปลายโว้ย” แดนได้พูดตะคอกใส่ธีม “เอาเป็นว่าถ้าได้เรื่องแล้วกูจะบอกพวกมึงก็แล้วกัน” แชมป์ได้พูดตัดบทก่อนที่จะวางสายโทรศัพท์จากทั้งสองคนไป

ในขณะที่อีกด้านตอนนี้เอมก็ได้มาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว และเมื่อเอมได้เจอกับรุ้งดาวเอมจึงรุดหน้าเข้าไปตบหน้ารุ้งดาวทันที “ที่นิมันต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะแก…แล้วถ้านิมันเป็นอะไรไป ฉันจะให้แกรับผิดชอบอย่างสาสมแน่อีดาว” เอมเธอได้พูดกับรุ้งดาวอย่างโกรธแค้น ในขณะที่รุ้งดาวเธอก็ยังคงร้องไห้เสียใจอยู่ กับการที่นิทานนั้นต้องมาเจ็บตัวเพราะเธอแบบนี้ รุ้งดาวเธอยังคงเอาแต่โทษตัวเองซ้ำ ๆ เพราะรุ้งดาวเธอได้แต่คิดเสมอว่าตัวเธอคือต้นเหตุ

ตอนนี้อาทิตย์ก็ได้ตามมาหารุ้งดาวที่โรงพยาบาล “น้องพี่เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนรึเปล่า” อาทิตย์ได้ถามรุ้งดาวด้วยท่าทีที่ห่วงน้องสาวเอามาก ๆ เอมที่ได้เห็นอาทิตย์โอ๋รุ้งดาวแบบนั้นเอมเธอจึงรู้สึกหมั่นไส้จนต้องเหน็บแนม “เป็นพี่ชายประสาห่าอะไรวะถึงได้สอนให้น้องสาวเป็นตัวซวย” เมื่ออาทิตย์ได้ยินแบบนั้นอาทิตย์ก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า อาทิตย์ได้พุ่งเข้าไปหาเอม แต่กลับชายคนหนึ่งมาห้ามอาทิตย์ไว้และชายคนนั้นคือปกรณ์ “ใจเย็น ๆ ครับคุณอาทิตย์! คุณแชมป์เขาขอไว้ครับ” ปกรณ์ได้กระซิบในขณะที่กำลังห้ามอาทิตย์ไปด้วย

อาทิตย์ที่ได้ยินปกรณ์พูดถึงขนาดนั้นจึงได้เริ่มสงบใจลง “คุณเอมครับ…ผมรู้จักคุณดี! และเพราะผมยังเห็นแก่คุณนิ…เพราะงั้นขอความกรุณาช่วยหยุดปากมากด้วยครับ ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะครับ” ปกรณ์ได้พูดกับเอมพร้อมกับแผ่จิตสังหารใส่เอมไปด้วยจนอาทิตย์ยังรู้สึกได้ “จะปล่อยผมได้ยังครับ” อาทิตย์ได้ถามกับปกรณ์ที่ยังคงล็อคตัวของเขาไว้อยู่ “ขอโทษด้วยครับคุณอาทิตย์” ปกรณ์ได้กล่าวขอโทษอาทิตย์พร้อมกับค่อย ๆ ปล่อยอาทิตย์

หมอณัฐได้เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินแล้วเดินมาหารุ้งดาว “นิไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ…เดี๋ยวพอนิฟื้นก็กลับบ้านได้เลยครับ” หมอณัฐได้บอกถึงอาการของนิทานกับรุ้งดาว “ขอบคุณนะคะหมอณัฐ” รุ้งดาวเธอได้กล่าวขอบคุณหมอณัฐพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงอาบเต็มสองแก้ม อาทิตย์ได้ดึงตัวรุ้งดาวเข้ามากอดพร้อมกับปลอบรุ้งดาว “นิไม่เป็นอะไรแล้ว…เลิกร้องไห้ได้แล้วน้องพี่” อาทิตย์ได้พยายามที่จะปลอบให้รุ้งดาวสงบจิตสงบใจขึ้น

“งั้นผมขอฝากคุณอาทิตย์ดูแลคุณนิต่อทีนะครับ…เดี๋ยวจะไปสืบหาตัวคนที่ทำร้ายคุณนิ” ปกรณ์ได้บอกกับอาทิตย์ก่อนที่ปกรณ์จะเดินจากไป เสียงแจ้งเตือนได้ดังขึ้นที่โทรศัพท์ของอาทิตย์ มือของอาทิตย์ที่ได้ล้วงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เสียงเตือนนั้นมันคือเสียงจากแชทและเมื่ออาทิตย์เปิดไปดูข้อความก็ได้ข้อความ “เดี๋ยวถึงเวลาผมฝากพี่รับเพื่อนผมอีกสองมาร่วมแก๊งด้วยนะ” เมื่ออาทิตย์อ่านข้อความของแชมป์อาทิตย์ได้ตอบกลับข้อความของแชมป์ “มึงคิดจะหาตัวมันด้วยตัวเองรึไง” ข้อความของอาทิตย์ได้ขึ้นว่าอ่านแล้ว

“ผมให้พี่ปกรณ์ไปสืบหาตัวแล้ว…พี่เองก็เตรียมตัวด้วย! งานนี้พวกเราคงต้องลุยกันเอง” แล้วนี่คือการตอบข้อความกลับไปหาอาทิตย์ของแชมป์ เมื่ออาทิตย์อ่านข้อความจากแชมป์แล้ว อาทิตย์ก็ได้แต่คิดว่า “ไอเด็กคนนี้มันน่ากลัวจริง ๆ” แต่อาทิตย์เองเขาก็โกรธแค้นที่น้องสาวคนเดียวของเขาได้ถูกทำร้ายเหมือนกัน อาทิตย์เขาจึงไม่มีความลังเลใจเลยที่จะร่วมกับแชมป์ในเรื่องนี้ เพราะตัวอาทิตย์เองเขาก็อยากเอาคืนพวกที่มาทำร้ายน้องสาวของเขาเหมือนกัน

ในตอนนี้คนทั้งบ้านวิริยเทพาก็ได้รับรู้แล้วว่านิทานนั้นถูกทำร้ายและตอนนี้ตัวของนิทานก็ได้อยู่ที่โรงพยาบาล เพราะปกรณ์นั้นได้รายงานเรื่องของนิทานให้รามได้ฟังจนหมดแล้ว รามเองก็ได้ออกคำสั่งให้ปกรณ์ออกหาตัวคนที่ทำร้ายนิทานเหมือนกัน เพราะตัวของรามเองก็ต้องหาคำตอบเอาไว้รอเรมผู้เป็นน้องชายและเป็นพ่อของนิทาน เพราะรามเขารู้ว่าเรมต้องมาเอ๊ะอ๊ะโวยวายกับเขาอย่างแน่นอน

รามได้บอกเรื่องของนิทานให้กับเรมผู้เป็นน้องชายได้รับรู้เรื่องของนิทาน แล้วก็เป็นอย่างที่รามคิดเอาไว้จริง ๆ เพราะเรมผู้เป็นน้องของเขาก็ได้ตั้งคำถามปนต่อว่ารามทันที นั่นก็เพราะว่าตอนที่นิทานเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ รามเขาได้รับปากกับเรมเอาไว้ว่าเขาจะดูแลนิทานให้เอง รามเขาเลยต้องมีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องของนิทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเรมกับวันรักแม่ของนิทานได้รับรู้ว่าลูกสาวของตัวเองถูกทำร้าย ทั้งสองคนจึงเตรียมตัวเพื่อที่จะลงมาที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะมาดูอาการของลูกสาวตัวเองทันที

ในที่สุดนิทานเธอก็ได้ฟื้นหลังจากที่เธอนั้นได้รับการรักษาจากแพทย์ นิทานเธอยังคงสลึมสลือเพราะฤทธิ์ของยาสลบ ตอนนี้นิทานเธอได้มองไปรอบ ๆ นิทานเธอพบว่าตัวเองนั้นยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน เมื่อหมอณัฐได้เห็นว่านิทานฟื้นแล้ว หมอณัฐจึงได้เดินเข้ามาดูอาการของนิทาน เมื่อหมอณัฐเดินมาจนถึงตัวของนิทานแล้วหมอณัฐจึงได้ถามนิทาน “เป็นไงบ้างเพื่อนรัก” นิทานเธอได้นอนมองหน้าหมอณัฐ “นี่ฉันหลับไปนอนเท่าไหร่วะเนี้ย!” นิทานเธอได้บ่นออกมาเบา ๆ “สองชั่วโมงครึ่งละ…แต่ฟื้นมาแล้วก็ดี! จะได้กลับบ้าน…รุ้งดาวรออยู่หน้าห้องน่ะ” หมอณัฐได้พูดคุยกับนิทานด้วยความโล่งใจ

นิทานเธอยังคงนอนมองหมอณัฐอยู่ “ขอบใจนะเพื่อน” นิทานได้พูดขอบคุณณัฐอย่างสลึมสลือ “ลุกไหวมั้ย” หมอณัฐได้ถามนิทาน “ขออีกแป๊ปนะ” นิทานได้ตอบกลับหมอณัฐ “ลืมบอกไป! เรื่องค่ารักษาพยาบาลพี่คนที่ชื่อปกรณ์จัดการให้แล้วนะ” หมอณัฐได้บอกกับนิทานก่อนที่จะเดินจากไป เพื่อที่จะไปนั่งเขียนใบสั่งยาให้กับนิทาน นิทานเธอได้นอนมองเพื่อนของเธออย่างหมอณัฐ หมอณัฐเองก็เขียนใบสั่งยาไปมองนิทานไปด้วย เมื่อหมอณัฐเขียนใบสั่งยาเสร็จหมอณัฐก็ได้เดินกลับมาหานิทาน เมื่อหมอณัฐเดินมาถึงตัวของนิทานหมอณัฐก็ได้พยุงตัวของนิทานให้ลุกขึ้นนั่ง เมื่อนิทานนั่งได้แล้วหมอณัฐจึงได้ยื่นใบสั่งยาให้กับนิทาน “ถ้ารับยาแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะเพื่อน” หมอณัฐได้บอกกับนิทาน

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!