.
.
.
ก็นั่นแหละคือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเมื่อคืนวาน ที่ผมยังคิดไม่ตก และยังคงต้องเฝ้าไข้เจ้าเด็กประหลาดนี่จนกว่าจะฟื้นด้วย โดยที่ผมก็ยังคงสะลึมสะลือง่วงนอนไม่หายจากเมื่อคืนเลยด้วยซ้ำ
เห้อ แล้วเมื่อไหร่จะตื่นเนี่ยไอ้หนูผมเองก็เพลียเหมือนกันนะ อยากพักผ่อนโว๊ย!!! แต่จะให้ทำไงได้ ผมจะทำใจทิ้งเด็กผู้ชายประหลาดตรงหน้านี้ไม่ได้ซะด้วย แล้วจะมาเป็นพ่อพระอะไรตอนนี้วะตัวกู เห้อ ปลง
"อือ~"
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ธัญก็ได้แต่หลับตาลงพลางนั่งคิดสัพเพเหระกับตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ก่อนจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ขยับยุกยิกซ่อกแซ่กอยู่ตรงหน้า จนคนโตกว่าต้องลืมตาตื่นขึ้นมาดูอย่างช่วยไม่ได้
'พรึ่บ'
!!!
ผลปรากฏว่าสิ่งที่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงหน้านั้น เป็นเด็กผู้ชายปริศนาที่ธัญญ์นั้นได้ช่วยเอาไว้ เขาเหมือนจะตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอิดโรย สภาพดูไม่ได้ นั่งคุดคู้ขยับถอยห่างออกจากผมไปอย่างอัตโนมัติ จนแทบจะตกเตียง ตัวสั่นหงึกด้วยความหนาวจากพิษไข้หรือว่าด้วยความกลัวคนแปลกหน้าอย่างผมก็ไม่อาจทราบได้
แต่ดูๆแล้วน่าสงสารไม่หยอกจนผมต้องขยับไปใกล้ด้วยเพราะผมจะได้ดูอาการเด็กน้อยตรงหน้าว่าปลอดภัยดีรึเปล่า ผมจะได้ยกข้าวยกยามาให้เขากินแล้วพาเขาเข้าพักผ่อนได้
แต่เอาไงดีวะ
ทั้งชีวิตนี้ผมปฏิสัมพันธ์ค่อนข้างติดลบเรียกได้ว่าถ้าไม่ใช่คนที่คุ้นเคยผมแทบไม่กล้าปริปาก แล้วยิ่งกับเด็กน้อยอีกต่างหาก ตาย ตาย ตาย เอาไงต่อดี
ผมคิดไม่ตกพลางมองเด็กน้อยบนเตียงไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่สื่อทางแววตา ทว่าภายในสายตาที่มองไปกลับหม่นแสงลงฉายชัดถึงความกังวลต่อเด็กน้อยตรงหน้าที่ยังคงมีท่าทีสั่นกลัวอยู่เนืองๆ ด้วยความจนปัญญา
และด้วยความไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ผมเลยได้แต่นั่งอยู่กับที่ มือไม้ขยับยุกยิกไปมาอย่างลนๆลาน ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือโบกออกไปยิกๆเพื่อทักทายถึงความจริงใจที่ผมมีต่อเขาและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ที่อาจจะมีหล่ะมั้ง
"ห. . .หวัดดี ว่าไงเธอชื่ออะไรหรอ? " ธัญญ์พยายามพูดด้วยอารมณ์ร่าเริง แม้ปากกับมือจะสั่นอย่างช่วยไม่ได้จากการไม่ได้พูดคุยกับใครมานาน
". . . " ไม่มีเสียงตอบกลับมา
"เอ่อ หรือว่าเธอพูดไม่ได้หรอ ไม่เป็นไรนะงั้นเธอเขียนหรือว่าพยักหน้าให้ฉันแทนได้มั้ยได้มั้ย"
". . . "
แม้ผมจะถามไปมากเท่าไหร่ แต่ทว่าสุดท้ายทุกคำถามก็มีเพียงความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น แถมไม่พอเด็กน้อยตรงหน้าก็ไม่ยอมเงยหน้าเข้ามาใกล้ผมเลย มันยิ่งเลยทำให้บรรยากาศตรงหน้าดูอึมครึมเต็มไปหมดด้วยความอึดอัด
ซึ่งผมก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้ว ถ้าไม่บังเอิญได้ยินเสียงท้องร้องโครมครามของเด็กน้อยตรงหน้าเสียก่อนหล่ะก็นะ
เด็กแปลก
"โคร๊ก~ "
"เธอหิวรึเปล่า"
ยังคงมีความเงียบตอบกลับมา แต่คราวนี้กลับต่างออกไปเมื่อจู่ๆ เด็กชายตัวเล็กตรงหน้าดันหันมาและพยักหน้าลงหงึกๆแม้จะมีผมปิดบังใบหน้าอยู่ตาม แต่นั่นกลับสร้างความน่าเอ็นดูและความฉงนใจอย่างมากให้แก่ผมในเวลาเดียวกันเมื่อได้รับปฏิกิริยานี้
อย่างไรก็ตามพอเห็นเขาพยักหน้าให้ ผมก็ไม่รอช้ารีบไปหยิบซีเรียลกล่องใหญ่หลากสีสันกับนมในตู้เย็นมาให้ขวดหนึ่งด้วยความคิดที่มันทานง่ายและติดในตู้เย็นพอดีทว่ากลับไม่มีคุณค่าทางอาหารเอาซะเลย
แต่ผมก็ต้องจำใจให้เด็กคนนี้กิน เพราะตอนนี้มันดึกเกินกว่าจะมีใครขายของอีกทั้งพวกซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือเซเว่นต่างก็อยู่ไกลเกินกว่าจะเดินทางไปได้
ทำให้ผมมีทางเลือกไม่มากนักแต่โดยรวมก็ถือว่าดีระดับหนึ่งที่เด็กน้อยตรงหน้าไม่เรื่องมาก กินง่ายแถมยังกินอย่างอร่อยอีกต่างหาก แค่นั้นผมก็ดีใจมากแล้ว
แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือเขายังคงไม่พูดกับผมอยู่ดี คงกลัวคนแปลกหน้าแหละมั้ง เรื่องปกติของเด็กๆ ที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาแหล่ะ อืม ไว้พรุ่งนี้ค่อยพาไปตรวจสุขภาพจิตดูก็แล้วกัน หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ สาธุ
เพราะดูท่าจะไม่ใช่เด็กของโลกนี้ซะด้วย ไม่รู้ว่าการรักษาจะเหมือนกันรึเปล่า
ผมคิดพลางชำเลืองตามองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงอยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากจะขัดขวางการกินของแกสักเท่าไหร่ แต่จะเรียกว่ากินก็ไม่ถูกซะทีเดียวเรียกว่ายัดเลยดีกว่า
เพราะเหมือนเด็กน้อยตรงหน้าจะหิวโซมากซะจนกินซีเรียลหมดไปทั้งกล่องตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ช้อนเชิ้นไม่สนจุ่มหน้าลงไปเลยทีเดียว ก่อนจะเหลียวหน้ามองผมด้วยความอาวรณ์อยากกินอีก
และถ้าถามว่าผมรู้ได้ไงหน่ะหรอ ก็ดูได้จากสายตาเป็นประกายด้วยความหวัง ถ้วยที่ยกขึ้นจนไม่เหลือแม้แต่หยดนมสักหยดเดียว พร้อมทั้งเศษซีเรียลก็ไม่มีเหลือเรียกความเอ็นดูจากผมไม่หยอกจนต้องหยิบมาเติมเพิ่มให้อีกกล่องหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้
โชคยังดีนะเนี่ยที่ซื้อเก็บไว้เป็นโหล ไม่งั้นล่ะก็ไม่เหลือแน่
และถึงแม้มันจะมีเยอะแค่ไหนแต่เด็กๆ แบบเขาก็ไม่ควรกินของแบบนั้นเยอะอยู่ดี ไม่งั้นเสียสุขภาพแย่ ผมจึงต้องมีมาตรการสักหน่อย
" เติมให้อีกแค่กล่องเดียวนะ หลังจากนั้นเธอต้องกินยานี่แล้วเข้านอนทันที เข้าใจมั้ยครับ "
เด็กตรงหน้าพยักตอบอย่างเข้าใจก่อนที่ผมจะเทให้อีกกล่อง และเป็นอีกครั้งที่เขาก็กินหมดเช่นเคย สร้างความประหลาดใจให้แก่ผมอย่างมาก
ซึ่งหลังกินหมดเจ้าเด็กตรงหน้าก็ทำตามที่ผมขอไว้หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เขาเก็บถ้วยเก็บช้อนทั้งหมด กินยาที่ผมเตรียมไว้ให้ด้วยความทุลักทุเลนิดหน่อยแต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี
"เก่งมาก"
"มา จับมือฉัน เดี๋ยวจะพาเธอไปนอนที่นอนนุ่มๆเอง ปะ คร่อกฟี้กัน แบบนี้ไปกัน"
ไม่วายผมพยายามหลอกล่อเด็กตรงหน้าอย่างสุดฤทธิ์พร้อมทั้งยื่นมือไปหาก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายผมก็ต้องบอกให้เขาตามมาห่างๆ
"เอ่อ ลืมไปเธอคงกลัวคนแปลกหน้าใช่มั้ย แต่ไม่เป็นไรฉันไม่บังคับเธอให้จับมือฉันหรอก ฉันแค่อยากให้เธอเดินตามฉันมาก็พอแล้ว โอเคมั้ย ถ้าโอเคให้เธอพยักหน้าลงนะ ฉันจะได้รู้ว่าเธอต้องการอะไรหรือไม่ต้องการอะไร"
ผมยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจเมื่อเขาทำตามที่ผมขอโดยไม่กลัวผมไปมากกว่านี้ ซึ่งนั่นอาจดีเกินไปเมื่อขึ้นห้องมาเขาก็เข้าไปนอนในเตียงนอนโดยทันที ห่มผ้าห่มแล้วหลับไปเมื่อหัวถึงหมอน โดยที่ผมไม่ทันได้บอกฝันดีซะด้วยซ้ำ
เห้อ~ ช่างเป็นเด็กที่แปลกโดยแท้ แต่ก็ไม่น่าอึดอัดใจเท่าเด็กที่เคยเจอมาหล่ะนะ พวกเด็กแสบพวกนั้นฝันร้ายเลยหล่ะ
"ฝันดี"
_________________________________
จบไปแล้วกับตอนที่1นะคะ มีอะไรติชมคอมเมนต์ได้นะคะ มาคุยมาอ่านเด็กน้อยกับพี่ใจดีกันเยอะๆ น้า ขอบคุณที่มาอ่านกันนะคะ ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจรีดเดอร์ทุกคนเลยนะคะ ฝากเอ็นดูเด็กแปลกคนนี้ด้วยค่า บาย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 13
Comments