นิทานก่อนนอน
🌙 นิทานก่อนนอน : "แสงดาวกลางทะเล"
ยามเย็นคล้อยฟ้าเปลี่ยนสี ทะเลกว้างสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายสีส้มทอง คลื่นเบา ๆ ซัดเข้าฝั่งอย่างอ่อนโยน ที่หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ริมอ่าว มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ “ดาวเหนือ” เธอเติบโตมากับเสียงคลื่นและกลิ่นเค็มของทะเล
ดาวเหนือชอบนั่งที่ท่าเรือไม้เก่าในทุก ๆ เย็น มองเรือประมงกลับเข้าฝั่งทีละลำ บางวันเธอก็ช่วยชาวบ้านเก็บอวน บางวันก็นั่งฟังตาของเธอเล่านิทานเก่าแก่เรื่อง “ดาวที่ตกลงมาในทะเล”
ตาเล่าว่า เมื่อดวงดาวหล่นลงทะเล มันจะกลายเป็นหอยมุกที่ส่องแสงอบอุ่น ใครได้พบจะมีความสุขในใจตลอดไป ดาวเหนือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เธอแอบหวังว่าจะได้พบมุกแห่งแสงดาวนั้นสักวัน
คืนนั้น หลังจากช่วยแม่ตากปลาเสร็จ ดาวเหนือก็ไปนั่งที่หาดทราย เธอมองท้องฟ้า เห็นดาวระยิบระยับเต็มฟ้า เสียงคลื่นดังประหนึ่งบทเพลงกล่อมใจ อยู่ ๆ เธอก็เห็นแสงหนึ่งพุ่งวาบจากฟากฟ้า ร่วงลงกลางทะเลไกลโพ้น
หัวใจเธอเต้นแรง... “หรือว่าจะเป็นดาวที่ตกลงมาจริง ๆ?”
รุ่งเช้า ดาวเหนือจึงพายเรือเล็กออกไปกลางอ่าว แม้ลมจะพัดแรงแต่เธอก็กล้า เธอเชื่อว่าหากพบหอยมุกแห่งแสงดาว จะสามารถแบ่งความสุขให้ชาวบ้านทุกคนได้
เรือโยกไปตามคลื่น เด็กหญิงไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนคอยเฝ้ามองเธออยู่ใต้ทะเล…
นั่นคือ “ลูน่า” โลมาน้อยแสนซนที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ อ่าวแห่งนี้ ลูน่าเห็นดาวเหนือมาตั้งแต่เล็ก ๆ คอยเล่นกับคลื่นริมฝั่งทุกวัน คราวนี้พอเห็นเธอพายเรือออกมาไกลเกินไป ลูน่าจึงว่ายตามเพื่อช่วยเธอไม่ให้หลงทาง
ดาวเหนือมองลงไปในน้ำแล้วเห็นเงาอะไรบางอย่างว่ายตาม เธอตกใจนิดหน่อย แต่เมื่อหัวโลมาน้อยโผล่พ้นน้ำแล้วส่งเสียง “คลิ๊ก คลิ๊ก” เหมือนหัวเราะ ดาวเหนือก็หัวเราะตาม เธอตั้งชื่อให้มันว่า “เพื่อนคลื่น”
ทั้งสองเดินทางด้วยกัน ดาวเหนือพายเรือ ส่วนลูน่าว่ายอยู่ข้าง ๆ เมื่อถึงจุดที่เธอเห็นดาวตกเมื่อคืน เธอก็หยุดเรือแล้วก้มมองลงไปในน้ำ…
ใต้ทะเลสีน้ำเงินลึกนั้น มีประกายเล็ก ๆ ส่องแสงออกมาเหมือนจุดไฟในความมืด ดาวเหนือร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความดีใจ เธอรู้ทันทีว่า… นั่นคือหอยมุกแห่งแสงดาว!
แต่ปัญหาคือมันอยู่ลึกเกินไป เธอไม่สามารถดำน้ำลงไปถึงได้ ลูน่ามองหน้าดาวเหนือ แล้วเหมือนเข้าใจความในใจ มันดำหายลงไปใต้น้ำ ใช้จมูกคีบหอยมุกกลมงดงามขึ้นมาให้เธอ
ดาวเหนือรับไว้ในมือ หอยมุกนั้นส่องประกายอุ่น ๆ เหมือนกอดจากท้องฟ้า แสงมันไม่จ้าเกินไป แต่ทอออกมาเป็นแสงนุ่มนวล ทำให้หัวใจเธออบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
เธออุ้มมันไว้แนบอกแล้วพูดกับลูน่าว่า
“ขอบใจนะเพื่อนคลื่น ถ้าไม่มีเธอ ฉันคงไม่มีวันได้เจอแสงดาวนี้เลย”
ลูน่ากระโดดขึ้นจากน้ำ หมุนตัวกลางอากาศแล้วลงน้ำเสียงดังตูม คลื่นกระเซ็นใส่เรือจนดาวเหนือหัวเราะลั่น
เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน เธอวางหอยมุกไว้ในลานกลางหมู่บ้าน ทุกคนต่างแปลกใจเพราะมันส่องแสงนวล ๆ เหมือนพระจันทร์ย่อส่วน พอใครเดินเข้าไปใกล้ก็จะรู้สึกใจสงบ มีรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ก็ไม่เคยมีคืนที่มืดมิดอีกต่อไป ทุกครั้งที่คลื่นกระทบฝั่ง แสงของหอยมุกดาวก็จะส่องให้หมู่บ้านอุ่นใจ
และทุกเย็น ดาวเหนือก็ยังนั่งที่ท่าเรือ เฝ้ามองคลื่นกับเพื่อนใหม่ของเธอ—โลมาน้อยเพื่อนคลื่น—พร้อมยิ้มและคิดในใจว่า
“บางครั้ง ดวงดาวไม่ได้อยู่บนฟ้าเสมอไป… มันอาจอยู่ในหัวใจเรากับเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกันก็ได้”
- THE END -
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments