น้ำมนต์เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ไกร ซึ่งไกรเป็นนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งในกรุงเทพฯ และมีคนนับหน้าถือตาอยู่มากพอสมควร คงอาจจะเป็นเหตุผลนี้จึงทำให้เธอเป็นคนที่เอาแต่ใจนิดหนึ่ง เพราะโดนพ่อกับแม่ของเธอตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ตกเย็นของวันนั้น
"แกกลับยังไง?"
หมัดหมี่เอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน เพราะขณะนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว
"ยังไม่รู้เลยอะ วันนี้พ่อฉันบอกว่ามีประชุมด้วยอะดิ"
น้ำมนต์ตอบกลับด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ
"กลับพร้อมฉันไหมล่ะ ฉันเอารถมา"
มัดหมี่ชวนให้น้ำมนต์ไปด้วยกันกับเธอ เพราะถ้าหากรอพ่อของน้ำมนต์มารับก็คงจะอีกนานและอีกอย่างบ้านของน้ำมนต์ก็เป็นทางผ่านของมัดหมี่ด้วย เลยสามารถแวะส่งได้โดยไม่ต้องย้อนไปย้อนมาให้เปลืองน้ำมัน
น้ำมนต์ไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่พยักหน้าตอบรับไป
"งั้นแกเดินไปรอฉันที่ศาลาหน้าวิลัยเลย เดี๋ยวฉันขับรถไป"
"โอเค"
มัดหมี่บอกให้น้ำมนต์เดินไปรอเธอที่ศาลาหน้าวิทยาลัยก่อน เพราะเธอจะต้องเดินไปอีกทางเพื่อไปเอารถ น้ำมนต์ก็ยกนิ้วอันเรียวยาวของเธอขึ้นมาทำท่าโอเค พร้อมกับเดินแยกไปอีกทาง
น้ำมนต์กับมัดหมี่เป็นนักศึกษาปีสองที่กำลังจะขึ้นปีสาม คณะบัญชีทั้งคู่เธอทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทที่สนิทกันมาก ๆ เพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ และคนที่รู้ใจน้ำมนต์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตามแต่ ก็คงจะมีแค่มัดหมี่นี่แหละที่ดูออกและอยู่เคียงข้างน้ำมนต์มาโดยตลอด ไม่เคยทิ้งไปไหน
"ยังไม่กลับอีกหรอคะน้องน้ำมนต์?"
หลังจากที่น้ำมนต์เดินใกล้จะถึงศาลารอรถหน้ามหาวิทยาลัยก็ได้มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาจากทางด้านหลัง
"อ๋อ ยังค่ะ"
น้ำมนต์หันไปมองตามที่มาของเสียงเรียกนั้น เมื่อรู้แล้วว่าคือใครเธอก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพ พร้อมกับยิ้มให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
"กลับกับพี่ไหมคะ?"
ผู้ชายคนนั้นถามขึ้นอีกครั้ง
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ซัน เดี๋ยวกลับกับมัดหมี่ก็ได้ค่ะ บอกกับมัดหมี่ไว้แล้ว"
เธอตอบปฏิเสธผู้ชายคนนั้นพร้อมกับยิ้มให้อีกครั้งด้วยความลำบากใจ เพราะผู้ชายที่ชื่อ ซัน คนนี้ยังตามตื๊อเธอไม่เลิกสักที
"น้ำมนต์ขึ้นรถเร็วฉันมาแล้ว"
เวลาผ่านไปไม่นานนักก็มีรถเก๋งสีชมพูคันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าศาลา พร้อมกับลดกระจกลงปากก็ตะโกนเรียกน้ำมนต์ที่กำลังโดนผู้ชายที่ชื่อ ซัน ตามตื๊ออยู่ให้ขึ้นรถ
"เอ่อ...หนูไปก่อนนะคะ พี่ซัน มัดหมี่มาแล้ว"
น้ำมนต์ไม่รอให้ผู้ชายตรงหน้าตอบกลับ เธอก็รีบเดินขึ้นรถไปหามัดหมี่ทันที ส่วนมัดหมี่ก็รีบปิดกระจกและรีบขับออกไปโดยไม่สนใจผู้ชายคนนั้นเลยสักนิดเดียว
บรรยากาศภายในรถ
"อีตา พี่ซัน อะไรเนี่ยยังตามตอแยแกไม่เลิกอีกหรอว่ะ?"
จู่ ๆ มัดหมี่ก็ถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบสงบก่อนหน้านี้
"อือ ตามตื๊อไม่เลิกเลยตั้งแต่โดนจับให้หมั้นกันอะ ฉันนี่โคตรจะรำคาญเลย"
น้ำมนต์ตอบกลับพร้อมกับกอดอก และถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจเพราะว่าผู้ชายที่ชื่อ ซัน คนเมื่อครู่นี้เป็นคู่หมั้นของเธอเอง แถมยังเป็นการหมั้นที่เธอไม่เต็มใจอีกตั้งหาก เพราะเธอโดนพ่อกับแม่ของเธอบังคับ
เพื่อให้ธุรกิจของพ่อเธอได้ไปต่อ แล้วอีกอย่างซันก็เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทพ่อเธออีกตั้งหาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าเธอจะปฏิเสธยังไง จะดื้อดึงเอาแต่ใจแค่ไหน พ่อของเธอก็ไม่ยอมแถมก่อนหน้านี้เธอยังโดนพ่อเธอตี และจับขังไว้ในห้องไม่ให้ไปไหนอีกตั้งหาก
"แล้วแกจะเอาไงต่อ"
มัดหมี่ถามขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมองหน้าเพื่อนสาวที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าไม่พูดอะไร
"ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมนั่นแหละ เพราะยังไงฉันก็เกิดมาเป็นแค่หุ่นเชิดของพวกเขาอยู่แล้ว"
น้ำมนต์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจ พร้อมกับน้ำตาคลอเธอรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย สังคมที่ดี แต่ทำไมเธอกับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันเธอนั้นมีแต่ความทุกข์ เพราะพ่อของเธอที่เห็นแก่อำนาจ จึงใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อยอดเพื่อยกตัวเองให้สูงขึ้น
โดยไม่คำนึงถึงจิตใจของเธอเลยสักนิดเดียว จนเธอต้องเสียคนที่เธอรักมากที่สุดไป ต้องยอมให้คนที่เธอรักที่สุดเกลียดเธอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพราะว่าพ่อของเธอที่เห็นแก่ตัว และบ้าอำนาจเกินไป
น้ำมนต์จากเด็กที่ร่าเริงในตอนแรก ก็เริ่มซึมมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นคนที่เงียบและไม่พูดอีกเลย ก็มีแต่มัดหมี่นี่แหละที่เป็นความสบายใจ ในเวลาที่เธออยู่ด้วยก็พอได้คลายเครียดอยู่บ้าง
เอาง่าย ๆ มัดหมี่คือคนเดียวที่เข้าใจ และเป็นเซฟโซนที่ดีของน้ำมนต์มากกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ซะอีก
"แล้วแกลืมพี่เขาได้แล้วหรอ?"
มัดหมี่ถามขึ้น เพราะเธอรู้ดีว่าคนที่น้ำมนต์รักนั้นเป็นใคร
"หึ ยังหรอกแต่เพื่อความปลอดภัยของเขาฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้"
น้ำมนต์พูดขึ้นพร้อมกับก้มหน้าดูรูปของใครบางคนที่อยู่ในมือถือไปด้วย ก่อนที่น้ำตาของเธอจะค่อย ๆ ไหลออกมาและหยดลงบนหน้าจอโทรศัพท์
เธอกดปิดหน้าจอมือถือและรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาด้วยมือทั้งสองข้าง ทำให้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะว่าตอนนี้ใกล้จะถึงบ้านของเธอเต็มทีแล้ว
ส่วนมัดหมี่เธอก็ขับรถไปและไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะกลัวว่าจะทำให้เพื่อนไม่สบายใจ จนในที่สุดก็ถึงบ้านของน้ำมนต์
"ขอบใจมากนะแก"
"อือ ฉันไปแล้วนะ"
"โอเค ขับรถดี ๆ นะ"
"จ้า"
หลังจากที่เธอร่ำลากันเสร็จเธอก็เดินเข้าไปในบ้าน บ้านของน้ำมนต์จะเป็นบ้านทรงโมเดิร์นสองชั้น ด้านล่างเดินเข้าไปจะเป็นห้องโถง เดินเข้าไปอีกหน่อยทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องของน้ำมนต์เดินไปอีกนิดก็จะเป็นบันได,กระไดขึ้นชั้นสองของบ้าน เดินไปอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นห้องน้ำของชั้นล่าง
"น้ำมนต์มานั่งตรงนี้สิลูก"
หลังจากที่น้ำมนต์ลามัดหมี่เสร็จแล้วเธอก็เดินเข้าบ้านและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่พอเธอกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถงอยู่ก่อนแล้วเรียกขึ้น
อาจเป็นเพราะเธอเดินก้มหน้าเข้ามา และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจึงทำให้เธอมองไม่เห็นหญิงวัยกลางคนคนนี้ เธอจึงเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ด้วยความสงสัย
"มีอะไรหรอคะ?"
"แม่เรื่องจะบอกลูก เอ่อ...คือ...ว่า..."
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments