บทที่3

เข็มขาสั้นจนสุดลงกับพื้น จังหวะนั้นโทรศัพท์ก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที จึงหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงมากดรับสาย ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ

[เขมมึงวาด..]

"เจต ช่วยเราด้วย!"

[เฮ้ยทำไม เกิดอะไรขึ้น]

"มะ มาหาเราหน่อยเจต ฮึก ฮือ"

เจตที่กำลังเช็ดผมอยู่ในขณะนั้นเบิกตาโพลง รีบทิ้งผ้าขนหนูแล้วคว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออกจากห้องไปทันที

"กูกำลังออก มึงตั้งสติไว้ไม่ ต้องวางสายนะ!"

"เขม กูเจตนะมึงได้ยิน!" กูไหมจากเคาะก็เริ่มกลายเป็นทุบ พร้อมกับใช้มืออีกข้างบิดลูกบิดประตูไปมาอย่างบ้าคลั่ง

แกรก

จู่ๆ ประตูที่ล็อคจากด้านในก็สามารถเปิดออกได้ เจตไม่รอช้ารีบเปิดเข้าไปในทันที

"ไอ้เขม เจต พบว่าเพื่อนตัวน้อยสลบอยู่บนพื้นตรงข้ามกันมีแท่นรองกระดาษวาดรูปตั้งอยู่

"เหี้ย..."ภาพใบหน้าที่ดูน่ากลัวของผู้หญิงคนหนึ่งทำเอาเจ็บขนลุก รีบเดินไปฉีกมันออกมาขยำทิ้งทันที

เจตพยายามปลุกเขมิยู่สองสามครั้ง แต่เจ้าตัวไม่ยอมตื่นจึงจำต้องแบกมันออกมาจาก ห้องตั้งใจจะพาไปค้างที่ห้องของตัวเองก่อน

เจตพักอยู่คอนโดมิเนียมที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญฐานะทางบ้านเจต ค่อนข้างร่ำรวย พ่อและแม่ล้วนเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งใหญ่โต

สรุปคืนนั้นเข็มถึงกับไข้ขึ้นจนไปเรียนไม่ไหว เจตเลยต้องไปเรียนคนเดียวเพื่อจดเลคเชอร์มาให้เขมพอพักเที่ยงก็เข้ามาดูแลให้เขมกินข้าวกินยา ก่อนจะกลับเข้าไปเรียนคาบบ่ายต่อ

"เขม เย็นนี้กูจะกลับบ้าน มึงอยู่นี่ไปก่อนนะ" เจตกล่าวกับเขมที่นอนแปะแผ่นเจลลดไข้อยู่บนเตียงความจริงก็อยากพามันไปด้วย แต่กลัวมันจะช็อคตายระหว่างทางเสียก่อน

"เจตกลับวันไหน" เข็มถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"กูกลับวันอาทิตย์" เจตตอบกลับ

"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเจ๊ดูแลให้"เจ๊'เจน'หรือก็คือพี่สาวแท้ๆ ของเจตกล่าวด้วยรอยยิ้มหวานหยดขณะยืนกอดอกพิงขอบประตูมองพวกเขาอยู่

เจ๊เจนเป็นสาวออฟฟิศวัยทำงาน อายุห่างกับเจตห้าปีนานๆ ทีอีกฝ่ายจะเข้ามานอนค้างที่นี่ ครั้งนี้เจตโทรเรียกเธอให้มาอยู่ดูแลเขมแทนในช่วงเสาร์อาทิตย์ระหว่างที่เจตกับบ้านที่ต่างจังหวัด แน่นอนว่าของฟรีไม่มีในโลก เจตต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าลิปสติกออกใหม่ราคาหลายพันบาทเป็นค่าจ้าง

"ฝากด้วยนะเจ๊" เจนที่เงินเดือนเดือนนี้ยังอยู่ครบยิ้มหวานตอบกลับ

"ได้จ้า"

......

เจตนั่งเครื่องบินกลับบ้านต่างจังหวัดที่อุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมงกว่าๆช่วงสายของวันรุ่งขึ้น เจตเดินทางมาหาพ่อครู 'ภรัณ' หมอผีที่ตนนับถือเป็นอาจารย์ พ่อครูอาศัยอยู่ที่บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกับชาวบ้าน คนอื่นๆมากพอสมควรอีกนิดก็จะเข้าไปอยู่ในป่าแล้ว

เป็นที่รู้กันดีภายในหมู่บ้านว่าพ่อครูภรัณเก่งเรื่องการถอนของ รักษาโรคลมเพลมพัด มีลูกศิษย์ติดตามอยู่หลายคน ปัจจุบันนั่งๆ นอนๆ รอให้คนมาหา ส่วนใหญ่จะเป็นคนดวงตก โดนของ ไม่ก็ถูกผีตามรังควานชีวิตจนอยู่ไม่ได้ เวลาว่างก็ปลุกเสก

ของขลังขายเพื่อเลี้ยงชีพ

มีสองอย่างที่พ่อครูไม่ทำคือทำคุณไสยเสกของใส่คนอื่น กับยุ่งเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร

ชายหนุ่มอายุสามสิบต้นๆ เดินออกมาจากที่ไหนสักที่ ก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งประจำที่ครูด้วยพรมสีทุกด้านหลังเป็นโต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูปมี บายศรี

ฉัตรเงิน ฉัตรทอง ของประดับเหมือนกับสำนักร่างทรงหมอผีทั่วๆ ไป แต่ก็พ่อครูเป็นไสยขาวบนแท่นบูชาเลยมีแต่พระ ไม่มีผี

เจตยิ้มประจบ รีบยกมือไหว้ท่วมหัว เพราะว่ายังไม่ทันได้อ้าปากพูด พ่อครูก็แทรกขึ้นมาเสียงแข็ง

"ไอ้เจต มึงเอาอะไรเข้ามาในบ้านกูอีกแล้ว" เจตที่ประนมมืออยู่ถึงกับขนลุกไปทั้งร่าง ก่อนจะยิ้มแหย

"แหะๆ" สมกับเป็นพ่อครูที่ผมเคารพนับถือ นี่ครับ"รีบเอาผ้าเช็ดหน้าของเขมออกมาจากกระเป๋าวางลงบนพานทองด้านข้าง พร้อมกับแนบกระดาษชื่อจริงนามสกุลกับวันเดือนปีเกิดของไอ้เขมติดไปด้วยก่อนจะยกมาวางตรงหน้าพ่อครู

"พ่อครูช่วยดูให้หน่อยสิครับว่าพอจะช่วยอะไรได้ไหม"หลังจากนั้นเจตจึงเล่าเรื่องของเขมให้พ่อครูฟัง

ภรัณนึกอยากจะยกขาถีบไอ้ตัวชอบแต่หาเรื่องมาให้ให้มันกลิ้งตกจากเรือนไป แต่พอกินหอมอ่อนๆผ้าเช็ดหน้าดึงดูดให้ก้มลงหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ

เป็นกลิ่นหอมก็ดี แต่บางทีกลับมีกลิ่นสาบของผีสางปะปนอยู่ด้วย ซึ่งมีมากกว่าหนึ่ง ตนและหนึ่งในนั้นเป็นผีที่มีฤทธิ์มากทีเดียว

ภรัณวางมันลงที่เดิมก่อนจะดึงกระดาษที่เขียนชื่อวันเดือนปีเกิดของใครบางคนออกมาอ่าน

'เขมจิรา จันทราพิสุทธิ์' ชายหนุ่มขมวดคิ้ม

เขมจิรา?

แปลก เขารู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยากบอกไม่ถูกแต่เมื่อนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหนก็เลิกนึก อ่านวันเดือนปีเกิดของเจ้าของชื่อ แล้วหยิบสมุดกับปากกาตัวเองออกมา เขียนตัวเลขวันเดือนปีเกิดแล้วทำการคำนวณ

ผ่านไปหลายนาทีจึงเสร็จ พบว่าตัวเลขที่ได้มานั้นน่าตกใจอยู่ไม่น้อย

"มันเป็นใคร" ภรัณเอ่ยถามขณะที่ตายังมองทบทวนกับผลของตัวเลขในสมุด

เพื่อนของผมเองครับ พ่อครูเป็นยังไงบ้างครับ?

"ไปบอกเพื่อนมึง ว่าอยากทำอะไรให้รีบทำ ปไม่เกินปีนี้มันตายแน่นอน" เจตหน้าซีดกล่าวอย่างร้อนรน

"พะ พ่อครูช่วยไม่ได้หรอครับ?"

"กูเคยบอกแล้วไงว่าเรื่องเจ้ากรรมนายเวรกูไม่ยุ่ง"

เจตเม้มปากมองพ่อครูอย่างไม่ยินยอม เพราะหากพ่อครูพูดแบบนี้ก็แปลว่าช่วยได้ แต่ไม่ช่วย

"โธ่ สักนิดก็ยังดีครับพ่อครูเห็นใจมันเถอะ ไอ้เขมมันเป็นคนดีนะครับ ยุงซักตัวมันก็ยังไม่กล้าตบ มดมันก็ยังไม่กล้าเหยียบเลยครับ นะครับ..."พูดไม่ทันขาดคำก็ถูกพ่อครูยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้า เลยต้องหดคอกลับด้วยความกลัว

"ไอ้เจต เรื่องเวรกรรมของคนอื่น ใครก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ชาตินี้เป็นคนดี ใช่ว่าชาติก่อนๆจะดีด้วย มึงเองก็ระวังตัวให้ดี อย่าคิดว่าตัวเองด้วยแข็งแล้วจะไม่เป็นอะไรนะ"

เจตหน้าจ่อยลงทันที รู้ดีว่าพ่อครูเป็นคนเด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้นตลอด อย่าได้คิดเปลี่ยนใจพ่อครูง่ายๆ แต่ก็อดตัดพ้อออกมาไม่ได้

"เขมมันน่าสงสารนี่ครับพ่อครู แม่ก็ตายพ่อก็ออกบวชตลอดชีวิตตั้งแต่มันเด็กๆ ญาติแม่ก็ไม่รับเลี้ยง ญาติพ่อเขาก็ทิ้งมันแถมยังหอบเงินมันหนีไปอีก ตอนเรียนมัธยมเพื่อนก็ไม่กล้าเล่นด้วยเพราะกลัวคำสาป มีแต่ผมนี่แหละที่กล้าคบมันเป็นเพื่อน..."

เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาบ่นเจ็บถึงไม่เห็นเมื่อพ่อกูเขียนยันต์ลงบนผ้าเช็ดหน้าของไอ้เขม กระทั่งอีกฝ่ายโยนมันมาตรงหน้า

"เอาไป กูช่วยได้แค่นี้"

ยันต์กันผีของพ่อครูปกติราคาตั้งห้าหกพันบาทเชียวนะ แถมยังได้ใช้ได้ผลดีมากด้วย ยืนยันจากผู้ใช้จริงอย่างเจต ห้องของเจตน่ะผีตนไหนก็เข้าไม่ได้ทั้งนั้น

ไม่รู้ว่าเขียนให้เพราะรำคาญเขาหรือสงสารไอ้เขม แต่เจตดีใจจนแทบกระโดดไปกอดพ่อครู ทว่าก็ทำได้เพียงแค่คิด เพราะหากทำจริงผีบ้านผีเรือนคงออกมาค่ะพอมันตายเสียก่อน

"ขอบคุณมากครับพ่อครู!"

.....

เจตนั่งเครื่องบินกลับจากอุบลราชธานีตอนเช้าวันอาทิตย์ มาถึงกรุงเทพฯ ก็รีบนั่งแท็กซี่กลับมาที่คอนโด พบว่าไอ้เขมหายดีจากอาการป่วยแล้ว

"เจ๊ไปก่อนนะ" เจ๊เจนบอกก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นสะพาย ก่อนไปไม่ลืมที่จะกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้

"เจต ระวังตัวนะ ของเขาแรงจริง เมื่อคืนยืนอัดกันเต็มระเบียงเลย กล่าวด้วยสีหน้าหวาดๆ ก่อนจะรีบร้อนออกจากห้องไป

ไม่นานไอ้เข็มออกมาจาก

ห้องน้ำ

"อ้าว เจ๊เจนไปแล้วเหรอ?" เขมกระพริบตาถาม

"เออ แฟนมันมารอรับอยู่ข้างล่าง เลยรีบออกไป"เขมได้ฟังก็ทำหน้าเสียดาย

"ยังไม่ได้ขอบคุณเจ๊เจนดีๆ เลย"สองคืนที่ผ่านมาเจ๊เจมส์อยู่เฝ้าเขาตลอด ไม่ยอมรับยอมนอน เขมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเจ๊เจนถึงดูมุ่งมั่นขนาดนั้น แต่อีกฝ่ายบอกกับเขามาคำนึงว่า 'เจ๊ไม่กล้านอนหรอกเขม' ตอนนั้นเขมปวดหัวมากเลยไม่เซ้าซี้เธอให้นอนอีก

เจตยีผมเขมอย่างเอ็นดู ไม่คิดจะเล่าเรื่องที่เจ๊บอกให้เจ้าตัวฟัง เดี๋ยวมันจะคิดมากเสียเปล่าๆ

"เออ เดี๋ยวเจ๊เจนก็มาอีก จะขอบคุณไว้คราวหน้าแล้วกัน"พอเห็นเขมพยักหน้า เจตเลยลากมันมานั่งที่โซฟาแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าคืนให้มัน บนผ้าเช็ดหน้าสีขาวมีอักขระสีขาวประดับอยู่

"ขอบใจนะ อ้าว มียันต์ด้วย" เจตพยักหน้า

"เออ มึงพกติดตัวไว้ยันต์ของพ่อครูช่วยกันผีได้ แต่อาจจะกันได้แค่ระยะหนึ่งนะ" เขมได้ยินแบบนั้นก็รีบเก็บมันมาใส่กระเป๋าเสื้อ รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด

"แล้วเรื่องของเราพ่อครูของเจตว่ายังไงบ้าง" เขาเงยหน้าถามด้วยความอยากรู้

สองวันที่ผ่านมาถ้าไม่ได้เจ๊เจนคอยอยู่เป็นเพื่อนเขมคงประสาทหลอนกับเรื่องที่เพิ่งเจอจนช็อคตายไปแล้วแน่ๆ อยากรู้ใจแทบขาดว่าพ่อครูของเจตจะยอมช่วยไหม แต่เพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือเลยไม่ได้ติดต่อกันเ

เขมไม่อยากเจอเรื่องแบบวันก่อนอีกแล้ว

"ขอโทษว่ะ กูพยายามช่วยพูดแล้วแต่ เรื่องเจ้ากรรมนายเวรพ่อครูไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่"

เจ้ากรรมนายเวรงั้นเหรอ...ก็คือหนักกว่าสัมภเวสีทั่วไปใช่ไหม?

เขมเม้งปากแน่น จิตใจห่อเหี่ยวลงทันที

"อืม ไม่เป็นไร เราเข้าใจ" เจตยิ่งเห็นท่าทางเศร้าสลดของเพื่อนก็บังเกิดความรู้สึกไม่ยินยอมขึ้นมา

"มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ปล่อยให้มึงตายง่ายๆ แน่เดี๋ยวกูจะหาทางอื่นเอง" เขมได้ยินแบบนั้นก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง

"มีทางอื่นด้วยเหรอ?เจตหยักไหล่"

"เปล่า ก็ทางเดิม แต่คราวนี้กูจะเอามึงไปด้วย"

"ฮ่ะ?"

"ขนาดกูเห็นหน้ามึงกูยังใจอ่อนเลย พ่อครูจะใจแข็งก็ให้มันรู้ไปดิ"

เขมอ้าปากค้าง กับตรรกะไรของมัน

ฮอต

Comments

pizza

pizza

รอบอกต่อว่าเรื่องต่อไปของแอดจะเป็นอะไร 🤔

2025-09-03

0

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 4

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!