ค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาว เมืองเชียงใหม่ถูกห่มคลุมด้วยอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าเหนือดอยสุเทพเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ “นที” เด็กหนุ่มปีสองคณะสถาปัตย์ กำลังนั่งกอดเข่าที่ลานกว้างของหอพัก เขาชอบแอบขึ้นมามองฟ้าคนเดียวเสมอ ความเงียบของกลางคืนทำให้เขารู้สึกปลอดภัย แม้ในใจจะมีเรื่องมากมายที่ไม่เคยบอกใคร
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง “ยังไม่นอนอีกเหรอ?”
นทีหันไปเจอ “ภูผา” รุ่นพี่ปีสี่จากคณะเดียวกัน ภูผาเป็นที่รู้จักในฐานะดาวเด่นของคณะ ทั้งฝีมือออกแบบและความเป็นผู้นำที่หลายคนชื่นชม แต่สำหรับนที เขาคือคนที่เข้าถึงยาก ราวกับภูเขาสูงที่มองเห็นได้แต่ไม่อาจปีนถึง
“ผม… แค่มาดูดาวครับ” นทีตอบสั้น ๆ พลางก้มหน้า
ภูผานั่งลงข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรสักพัก ลมหนาวพัดเบา ๆ แต่การมีใครสักคนนั่งอยู่ข้าง ๆ กลับทำให้นทีรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
“ฉันก็ชอบมองดาวนะ” ภูผาพูดขึ้น น้ำเสียงเรียบง่ายแต่จริงใจ “มันทำให้ฉันนึกได้ว่าโลกกว้างกว่าที่เรากังวลอยู่มาก”
นทีมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรุ่นพี่คนดังในมุมที่ไม่ใช่คนเก่งสมบูรณ์แบบ แต่เป็นคนธรรมดาที่มีความเหงาซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน
วันเวลาผ่านไป หลังจากคืนนั้น ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันโดยไม่รู้ตัว ภูผามักแวะมาหานทีเวลาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด คอยชวนไปกินข้าว หรือบางครั้งก็มานั่งฟังนทีบ่นเรื่องงานออกแบบโมเดลด้วยความตั้งใจ
“นายรู้ไหมว่านายขมวดคิ้วเวลาออกแบบอยู่ มันดูจริงจังมากจนฉันอดมองไม่ได้” ภูผาแกล้งพูด
นทีหน้าแดง รีบก้มลงปิดสมุดแบบร่าง “พี่นี่ก็พูดอะไรแปลก ๆ”
“ไม่ได้แปลกหรอก แค่พูดความจริง” ภูผาหัวเราะเบา ๆ
หัวใจนทีเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ยินแบบนั้น แต่เขาเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้ เพราะกลัวว่ามันอาจทำลายความสัมพันธ์ที่ดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก่อนการสอบปลายภาค นทีเครียดหนักเพราะโปรเจ็กต์ที่อาจารย์วิจารณ์อย่างหนัก เขาเดินออกมานั่งที่ลานดาดฟ้าเดิม น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ โดยไม่รู้ว่ามีใครตามมา
“ร้องไห้ทำไม?” เสียงคุ้นเคยดังขึ้น ภูผาเดินเข้ามา วางเสื้อนอกคลุมให้นที
“ผม… ผมทำไม่ได้หรอกพี่” นทีสะอื้น “ไม่เก่งเหมือนใครเขาเลย”
ภูผาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอื้อมมือมาจับไหล่ “นที นายไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าใคร นายแค่ต้องเป็นตัวเอง และเชื่อว่ามันมีค่ามากพอ”
นทีมองตารุ่นพี่ น้ำตายังริน แต่หัวใจกลับสั่นสะเทือนด้วยความอบอุ่น เขาไม่เคยรู้เลยว่าคำพูดจากใครบางคนสามารถทำให้เขารู้สึกมีค่าได้มากขนาดนี้
หลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน พวกเขาไม่ใช่แค่รุ่นพี่รุ่นน้อง แต่กลายเป็นที่พักใจของกันและกัน ในคืนหนึ่งหลังสอบเสร็จ ภูผาพานทีไปที่ลานกว้างบนดอยสูง ลมเย็นพัดแรงและท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวเหมือนคืนแรกที่เจอกัน
“นายจำได้ไหมคืนนั้นที่เรานั่งดูดาวด้วยกัน” ภูผาเอ่ยถาม
“จำได้สิครับ” นทีตอบเสียงเบา ใจเต้นแรง
ภูผาหันมาสบตา “ตอนนั้นฉันคิดอยู่ว่าถ้ามีโอกาส ฉันอยากบอกความจริงบางอย่าง…”
“อะไรเหรอครับ?”
ภูผายกมือขึ้นลูบแก้มนทีเบา ๆ ดวงตาจริงจังและอ่อนโยน “ฉันชอบนาย ตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
หัวใจของนทีแทบหยุดเต้น เขาไม่คิดว่าความรู้สึกที่เก็บเงียบไว้มาตลอด จะถูกอีกฝ่ายพูดออกมาก่อน น้ำตาเอ่อคลอ แต่ครั้งนี้เป็นเพราะความสุข
“ผมก็เหมือนกันครับ… ชอบพี่มาตลอด”
คำตอบนั้นทำให้ภูผายิ้มกว้างเป็นครั้งแรก รอยยิ้มที่ทำให้นทีรู้สึกเหมือนทั้งจักรวาลส่องสว่างอยู่ตรงหน้า
เวลาผ่านไป หลายปีหลังเรียนจบ ทั้งคู่ยังคงเคียงข้างกัน นทีทำงานเป็นสถาปนิก ส่วนภูผากลายเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย แม้ชีวิตเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ แต่ทุกคืนที่ได้กลับบ้านมาเจอกันก็ทำให้ทุกอย่างคุ้มค่า
ในคืนวันครบรอบวันแรกที่สารภาพรัก ภูผาพานทีขึ้นไปที่ดอยสูงอีกครั้ง ดาวเต็มฟ้าเหมือนเคย แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
“นที” ภูผาหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมา เปิดเผยแหวนเงินเรียบง่าย “นายจะยอมอยู่เคียงข้างฉันไปตลอดเหมือนดาวบนฟ้าที่ไม่เคยหายไปได้ไหม?”
นทีน้ำตาคลออีกครั้ง แต่ยิ้มกว้างและพยักหน้า “ครับ… ผมสัญญา”
ท่ามกลางแสงดาวและสายลมหนาว ทั้งคู่กอดกันแน่น รู้ว่าตั้งแต่นั้นไป ดวงดาวไม่ได้อยู่แค่บนท้องฟ้าอีกแล้ว แต่ส่องประกายในหัวใจของพวกเขาทั้งสอง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 14
Comments
lapilotita12
รู้สึกตื่นเต้น
2025-08-31
1