หลายวันต่อมา
อากาศแจ่มใสในวันนั้นเหมาะแก่การเดินเล่นยิ่งนัก ลมอ่อนพัดกลีบดอกเหมยร่วงโรย ข้าเพียงวิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่ในสวน ท้องฟ้าสีครามสดใสแผ่คลุมไปทั่วจนข้าเผลอยิ้มออกมาอย่างร่าเริง ขณะที่กำลังวิ่งเล่นอยู่เพลิน ๆ พลันเสียงผู้เรียกดังขึ้นจากด้านหนึ่งของสวน ข้าเงยหน้ามองแล้วเดินตามเสียงนั้นไป—
และพบว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เคยช่วยเขาเมื่อวันก่อนนั่นเอง
“มาทำอะไรที่นี่” ข้าเอ่ยถาม น้ำเสียงทั้งประหลาดใจทั้งระแวดระวัง
เขาเพียงยิ้มบาง ๆ พลางแย้มเสียงเรียบ “เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ว่าจะมาเมื่อไรก็ได้... ที่แท้เจ้าก็ลืมไปแล้ว”
“ข้าไม่ได้ลืม!” ข้าแย้งทันที “เพียงแต่... ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาจริง ๆ ต่างหาก”
ข้าสบตาเขาอย่างอยากรู้ “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ”
เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “ข้าชื่อ...เยียนฉือ”
ชั่วขณะที่ได้ยินชื่อนั้น หัวใจข้าสะท้านวาบ ความรู้สึกประหลาดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง มันเป็นชื่อที่ข้าได้ยินจากบิดามารดามาก่อน—ไม่ใช่คนธรรมดาแน่!
“หะ!? เยียน... ไหนกัน? เดี๋ยว ๆ เจ้า...เจ้าเป็นคนในราชวงศ์หรือ!”
เด็กหนุ่มไม่ตอบเพียงพยักหน้าเบา ๆ เท่านั้น แต่กลับทำให้หัวใจข้ากระตุกวูบ
“ท่านแม่เคยบอก... คนในวังล้วนแต่น่ากลัว” ข้าพึมพำเสียงสั่น
เยียนฉือกลับยิ้มอย่างสงบ “สิ่งที่แม่เจ้าว่าก็จริง วังหลวงไว้ใจยาก ทว่าก็มิใช่ว่าจะไม่มีคนซื่อสัตย์เสียเลย—เช่นพ่อของเจ้า และท่านพ่อของข้า ที่ต่างคอยดูแลบ้านเมือง ถึงแม้ขุนนางไป๋จะเป็นเพียงขุนนางเล็ก ๆ แต่ก็นับเป็นขุนนางเนื้อดี เป็นที่ยกย่อง”
คำพูดนั้นทำให้หัวใจข้าอบอุ่นขึ้น ข้ายิ้มกว้าง “ข้าชอบคำพูดนี้ อย่างน้อยในวังก็ยังมีคนที่ไว้ใจได้... เยียนฉือ! ข้าชอบท่าน ตั้งแต่วันนี้ไปข้านับถือท่านเป็นพี่ชาย!”
ท้องฟ้าที่เคยสดใสเริ่มเปลี่ยนสีคล้ำ แสงยามเย็นสาดลงบนพื้นสวนเงียบสงัด เสียงฝีเท้าหนักหลายคู่ดังมาแต่ไกล ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลแผ่ซ่านอยู่รอบตัว เยียนฉือหันขวับไปทางเสียงนั้น แววตาเย็นลงทันที
“ข้าต้องไปแล้ว” เขากล่าวสั้น ๆ “เจ้ารีบกลับเรือนเถอะ ระวังตัวด้วย”
ข้าไม่ทันถามอะไรต่อ เขาก็หันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเพียงเงาหลังสูงผอมที่ค่อย ๆ จางหายไปกับแสงสนธยา
ข้าหันกลับวิ่งสุดแรงสู่จวนตระกูลไป๋ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น—ทหารในเครื่องแบบสีดำยืนล้อมจวนเราไว้แน่นหนา โลหะของหอกและดาบสะท้อนแสงเย็นเยียบ บรรยากาศราวกับกำลังรอคอยคำสั่งลงทัณฑ์
บิดาและมารดารีบพาข้าเข้าไปในห้อง สั่งเสียงเข้มให้อยู่แต่ภายในและห้ามออกมาโดยเด็ดขาด พี่ชายของข้ายืนเฝ้าประตูห้อง สีหน้าตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่นาน เสียงโต้เถียงดังก้องจากลานหน้าเรือน เสียงบิดาของข้าหนักแน่นแฝงความกร้าว
“พวกท่านมีเจตนาอันใด! เหตุใดจึงนำทหารมาล้อมจวนตระกูลไป๋! หากมีเรื่องใดก็พูดกันตรง ๆ เหตุใดต้องใช้กำลัง!”
เสียงฝีเท้าหนักกระทบพื้นหิน ก่อนเสียงบุรุษอีกผู้หนึ่งดังกังวานขึ้นเย็นเยียบ
"จวนตระกูลไป๋คิดกบฏลอบทำร้ายว่าที่รัชทายาทและยังเอาตัวเขาไปซ่อนฝ่าบาทรับสั่งประหารทันที!!"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments